Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 3เภสัชจลนศาสตร์ (Pharmacokinetics) - Coggle Diagram
บทที่ 3เภสัชจลนศาสตร์ (Pharmacokinetics)
Pharmacokinetics
การเป็นไปของยาเมื่อยาเข้าสู่ร่างกายหรือหมายถึงการที่ร่างกายจัดการกับยาที่ได้รับ (what the body does to the drug)
การดูดซึมของยาเข้าสู่ร่างกาย (absorption)
การกระจายตัวของยา (distribution)
การเปลี่ยนแปลงยา (metabolism)
การขับถ่ายยาออกจากร่างกาย (excretion)
ADME รวมกับ ขนาดยา เป็นสิ่งที่กำหนดถึงความเข้มข้นของยาในบริเวณที่ยาไปออกฤทธิ์และเป็นผลต่อเนื่องไปถึงความแรงของฤทธิ์ยาที่เกิดขึ้น เวลาที่ยาเริ่มออกฤทธิ์ (onset) และระยะเวลาการออกฤทธิ์ของยาในร่างกาย (duration of action)
Pharmacokinetic processes
2.1. Absorption การดูดซึม
ความสำคัญของการดูดซึม
-Onset = ระยะเวลาตั้งแต่เริ่มให้ยาจนถึงเวลาที่ยาเริ่มออกฤทธิ์
-Cmax = ระดับยาในพลาสมาสูงสุด
-Tmax = ระยะเวลาตั้งแต่เริ่มให้ยาจนถึงเวลาที่ระดับยาในพลาสมาสูงสุด
-ผลของการรักษา Therapeutic effect
2.2 Distribution
Blood circulation to site of action
การกระจายของยานั้นขึ้นกับ physiological factors และ physicochemical properties ของยา
ในช่วงแรกของการกระจายจะขึ้นกับ cardiac output และ blood flow โดยที่อวัยวะที่มีเลือดไปเลี้ยงมาก (well perfused organ)
2.3 Metabolism or Biotransformation
เกี่ยวข้องกับปฏิกิริยาทางชีวเคมี 2 ปฏิกิริยาได้แก่
Phase I reaction: ปฏิกิริยา oxidation, reduction, และ hydrolysis ซึ่งมักเป็นการเติมreactive group เข้าไปในโมเลกุล ซึ่งผลที่เกิดขึ้นมักจะมี chemically reactive มากขึ้นและอาจมี toxicityมากขึ้น
Phase II reaction: ปฏิกิริยา conjugation ซึ่งเป็นการเติม substituent group เข้าไปยังโมเลกุลของยา โดยผลที่เกิดขึ้นมักจะเป็น pharmacologically inactive และมี lipid soluble น้อยลงและทำให้ถูกขับออกทางน้ำดีหรือทางปัสสาวะได้ดีขึ้น
2.4 Excretion
-Routes: urine, feces, bile, milk, breath,sweat
ยาอาจถูกกำจัดออกจากร่างกายทั้งในรูปที่ไม่ถูกเปลี่ยนแปลง หรือ ถูกเปลี่ยนแปลงก็ได้
site of administration
1 การให้ยาทางปาก (Oral administration)
เป็นวิธีการให้ยาที่ใช้มากที่สุด ยาจะถูกดูดซึมมากที่สุดที่ “ลำไส้เล็ก”
-
Gastrointestinal motility
: การทำงานของระบบทางเดินอาหาร หากยาเดินทางจากกระเพาะอาหารมายังลำไส้ได้เร็ว การดูดซึมยาจะเกิดขึ้นได้เร็ว
-
Splanchnic blood flow
: การไหลเวียนของเลือดในระบบทางเดินอาหาร หากมีการไหลเวียนดียาจะถูกดูดซึมได้ดี เช่น การให้ยาบางชนิดหลังรับประทานอาหารการดูดซึมยาจะดีขึ้น เนื่องจากการรับประทานอาหารจะเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในระบบทางเดินอาหาร
-
Particle size and formulation
: Particle size และสูตรการตั้งตำรับยามีความสำคัญต่อ การดูดซึมยา แม้ว่าจะเป็นยาชนิดเดียวกัน และขนาดยา (dose) ที่เท่ากัน เมื่อให้ในผู้ป่วยคนเดียวกันแต่เป็นยาที่มี particle size และสูตรตำรับที่แตกต่างก็อาจทำให้การดูดซึมมีความแตกต่างได้
-
Physiochemical factor
: อาหารหรือยาบางชนิดมีคุณสมบัติที่อาจรบกวนต่อการดูดซึมยาชนิดอื่น เช่น Tetracycline จะจับกับแคลเซียมมาก หากให้ยานี้ร่วมกับอาหารที่มีแคลเซียมสูง จะทำให้การดูดซึมยาลดลง
2 การให้ยาโดยการอมใต้ลิ้น (Sublingual administration)เป็นการดูดซึมยาโดยตรง ยาจะถูกดูดซึมข้าสู่ systemic circulation ได้โดยตรงโดยไม่ผ่าน portal circulation จึงไม่มีการผ่านขั้นตอน first pass metabolism
3 การให้ยาทางทวารหนัก (Rectal Administration) โดยมากใช้ในกรณีที่ต้องการให้ออกฤทธิ์เฉพาะที่ ณ บริเวณนั้นๆ แต่การดูดซึมยาผ่านวิธีการนี้จะไม่แน่นอน
4 การให้ยาโดยการทาภายนอก (Application to epithelial surfaces)
-ใช้กับยาที่ต้องการให้ออกฤทธิ์เฉพาะที่ในบริเวณที่ทา
-เข้าสู่ systemic circulation เกิดขึ้นได้น้อยมาก แต่ก็มียาบางชนิดที่มี lipid solubility สูงๆ จะสามารถดูดซึมเข้าสู่ systemic circulation ผ่านผิวหนังได้
5 การให้ยาโดยการสูดดม (Inhalation)วิธีการนี้ทำให้ได้ plasma concentration ที่รวดเร็ว เพราะปอดมีพื้นที่ผิวมากและมีการไหลเวียนของเลือดมาก
6 การฉีดยาเข้าทางเส้นเลือดดำ (Intravenous (IV) injection)เป็นวิธีการให้ยาที่ได้ผลรวดเร็วและแน่นอนที่สุด เมื่อยาเข้าสู่เส้นเลือดดำแล้วจะเข้าสู่หัวใจห้องขวาบน-ล่าง ผ่านไปยังปอด และกลับ
7 Bioavailability คือ สัดส่วนของยาที่เข้าสู่ systemic circulation ซึ่งเป็นตัวพาเอายาไปสู่บริเวณที่ยาออกฤทธิ์
ขนาดยามาตรฐาน (standard dose)
ได้จากการทดลองในอาสาสมัครที่ร่างกายสมบูรณ์ และผู้ป่วยจำนวนหนึ่ง ซึ่งขนาดยาดังกล่าวอาจไม่ใช่ขนาดยาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยทุกคน ปัจจัยทางสรีรวิทยาและพยาธิสรีรวิทยาของผู้ป่วยแต่ละคนจะเป็นปัจจัยที่มีผลต่อ Pharmacokinetics และส่งผลต่อขนาดยาที่ใช้
Pharmacokinetic parameter ที่สำคัญในการปรับขนาดยาให้แก่ผู้ป่วยได้แก่
1.Clearance (CL)
2.Volume of distribution (Vd)
3.Bioavailability