Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การดำเนินชีวิตและการดูแลสุขภาพตามความเชื่อของศาสนาพุทธ (พุทธศาสนิกชน) -…
การดำเนินชีวิตและการดูแลสุขภาพตามความเชื่อของศาสนาพุทธ (พุทธศาสนิกชน)
หลักคำสอน
พุทธศาสนา กับความจริงสูงสุด 4 ประการ
1.กฏไตรลักษณ์ (The Three Characteristics of Existence)
ทุกขัง คือ ความทุกข์ ถูกบีบคั้น ไม่สมอยาก ตั้งอยู่ไม่ได้
อนัตตา คือ ความไม่มีตัวตนที่แท้จริง
อนิจจัง คือ ความไม่เที่ยง ไม่คงตัว เสื่อมสลาย
อริยสัจ (The Four Noble Truths)
2.สมุทัย คือ เหตุเกิดแห่งความทุกข์ เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง
3.นิโรธ คือ ความดับทุกข์ ดับความอยาก สิ้นราคะตันหา สิ้นโทสะ สิ้นโมหะ
1.ทุกข์ คือ สภาพที่ทนได้ยาก ภาวะบีบคั้น กดดัน ขัดแย้ง มีความบกพร่อง
4.มรรค คือ ปางปฏิบัติในการออกจากทุกข์ 8 ประการ
สัมมากัมมันตะ(การปฏิบัติที่ถูกต้อง)
หมายถึง เจตนาละเว้นจากการฆ่า โจรกรรม และการประพฤติผิดในกาม
สัมมาอาชีวะ(การหาเลี้ยงชีพที่ถูกต้อง)
หมายถึง การเว้นจากมิจฉาชีพ การละเว้นจากอาชีพฆ่าสัตว์ อาชีพที่เบียดเบียนผู้อื่น
สัมมาวาจา(วาจาที่ถูกต้อง)
หมายถึง การเว้นจากการพูดเท็จ หยาบคาย ส่อเสียด และเพ้อเจ้อ
สัมมาวายามะ(ความเพียรที่ถูกต้อง)
หมายถึง สัมมัปปธาน 4 คือ ความพยายามป้องกันอกุศลที่ยังไม่เกิด ละอกุศลที่เกิดขึ้นแล้ว ทำกุศลที่ยังไม่เกิด และดำรงรักษากุศลที่เกิดขึ้นแล้ว
สัมมาสังกัปปะ(ความคิดที่ถูกต้อง)
หมายถึง ความคิดในการออกจากกาม ความไม่พยาบาท และการไม่เบียดเบียน
สัมมาสติ(การมีสติที่ถูกต้อง)
หมายถึง สติปัฏฐาน 4
สัมมาทิฏฐิ(ความเห็นที่ถูกต้อง)
หมายถึง ความรู้ในอริยสัจ 4
สัมมาสมาธิ(การมีสมาธิที่ถูกต้อง)
หมายถึง ฌาน 4
ปฏิจจสมุปบาท (The Law of Cause and Effect)
กระบวนธรรมของจิต ในการเกิดขึ้นและดับไปแห่งทุกข์ ใช้ในการปฏิบัติเพื่อการดับไปแห่งทุกข์ หรือจางคลายจากทุกข์
นิพพาน (Nirvana)
เป็นความดับสนิทของตัณหา ปล่อยวาง สลัดทิ้งโดยสิ้นเชิงซึ่งตัณหา
ศีล5
3.ไม่ประพฤติผิดในกาม
4.ไม่โกหก
2.ไม่ขโมย
5.ไม่ดื่มสาราเมรัย
1.ไม่ฆ่าสัตว์
พุทธศาสนากับการปฏิบัติการพยาบาล และการดูแลสุขภาพ
พุทธศาสนากับการปฏิบัติการพยาบาล
ทุกข์ จาก อาการของโรค
ทุกข์ จาก ความวิตกกังวล
เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นทุกข์ของมนุษย์ เมื่อมนุษย์อยู่ในภาวะเจ็บป่วย มนุษย์ประสบความทุกข์ ผู้ให้การ ดูแล/พยาบาล/รักษา เข้าใจผู้ป่วยอยู่ในความทุกข์
ทุกข์ จาก ภาวะเศรษฐกิจ
การดูแลสุขภาพแบบองค์รวมของพุทธศาสนิกชน
2.การดูแลจิตใจ
พระพุทธเจ้าทรงฟังพระมหาจุนทะสาธยาย โพชณงค์ที่เวฬุวัน แล้วหายจากอาการประชวร
3.การดูแลจิตวิญญาณ
ในพรรษาสุดท้ายของพระพุทธเจ้าทรงประชวรหนักที่เวฬุคาม เมืองเวสาลี เมื่อใกล้นิพพาน ทรงมีพระสติสัมปชัญญะ ไม่พรั่นพรึง
1.การดูแลร่างกาย
หมอชีวกโดมารภัจจ์ ดูแลให้พระพุทธเจ้าเสวยยาคูปรุง งา ข้าวสาร ถั่วเขียว และให้ทรงสรงน้ำร้อนละลายด้วยน้ำอ้อย
4.การดูแลด้านสังคม
อัครสาวกของพระพุทธเจ้า คือพระโมกคัลลานะ ดูแลรักษาพระสารีบุตร
การนำผลการปฏิบัติศีล 5 มาเป็นเครื่องมือในการดูแลสุขภาพ
ศีลข้อ 3 กาเมสุ มิจฉาจารา เวรมณี งดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม
เป็นกลยุทธ์ของการรณรงค์ผู้ติดเชื้อรายใหม่ใชวิธีการประชาสัมพันธ์ “รักเดียวใจเดียว ไม่เกี่ยวข้องเอดส์”
ที่ประพฤติผิดศีลธรรมในกาม หมายถึง ผู้ที่รักร่วมเพศ รักเพศเดียวกัน มันเป็นเรื่องผิดธรรมชาติ ก็ส่งผลให้เกิดโรคติดต่อต่าง ๆ ได้
ศีลข้อ 4 มุสาวาทา เวรมณี งดเว้นจากการกล่าวเท็จ
ตัวอย่าง ตนเป็นผู้ติดเชื้อแล้วไม่แจ้งความจริงกับ ภรรยาของตนเอง ทำให้ภรรยานนั้นไม่ได้ป้องกัน โอกาสที่ทำให้ติดเชื้อมีความเสี่ยงสูงมาก
ศีลข้อ 2 อทินนาทานา เวรมณี งดเว้นจากการถือเอาของที่เจ้าของมิได้ให้
การไม่ต้องการอยากได้ของคนอื่นมาเป็นของตน ส่งผลให้เกิด ความเครียด ความอิจฉาริษยา
ศีลข้อ 5 สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐานา เวรมณี งดเว้นจากการดื่มสุราและเมรัย
เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอออล์ นอกจากมีผลร้ายต่อสุขภาพของตนเองแล้ว เช่น อาจเกิดโรคมะเร็งตับ มะเร็งของท่อน้ำดี มะเร็งปอด เป็นต้น การเกิดโรคมะเร็งปอดที่มีสาเหตุมาจากการเป็นผู้ สูบบุหรี่มือสอง คือ การได้รับจากผู้สูบมือหนึ่งที่เป็นคนใกล้เคียง และสิ่งแวดล้อมที่เป็นมลภาวะ
ศีลข้อ 1 ปาณาติปาตา เวรมณี งดเว้นจากการทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วงไป
“กินผักกินไม้หยุดทำลายชีวิตสัตว์” ก็ควรต้องเลือกผักอินทรีย์ หรือผักปลอดสาร
การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายแบบประคับประคองแนวทางพุทธศาสน์
การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายแบบประคับประคองแนวทางพุทธศาสน์
เป็นวิกฤตทางกาย และเป็นโอกาสทางจิต วิญญาณ พระพุทธศาสนาเชื่อว่าแม้ในภาวะที่ใกล้ตาย ยังมีโอกาสที่จะไปสู่ความหลุดพ้นหรือนิพพานได้ หรือแม้จะ ไปไม่ถึง แต่อาจยกระดับจิตวิญญาณให้สูงขึ้นได้ เช่น ได้ค้นพบชีวิต ค้นพบตัวเอง ได้สัมพันธภาพที่ดีกับ ครอบครัวคืนมา ได้ให้อภัยและคืนดีกับที่ที่เคยขัดแย้ง
การตายที่ดีทางพระพุทธศาสนาไม่ใช่ตายอย่างไร สภาพแบบไหน แต่อยู่ที่สภาพจิตก่อนตาย ว่าเป็นอย่างไร ให้ระลึกถึงสิ่งที่ดี
3.เซลล์ในร่างกายตายวันละ ห้า หมื่นล้านเซลล์ ความตายจึงมีอยู่ตลอดเวลาในระดับเซลล์และเนื้อเยื่อ
ความตายมีทั้งมิติทางกายภาพและทางจิตวิญญาณ ในทางพุทธศาสนา ถือว่าการหมดลม หายใจเป็นเพียงการตายทางกายภาพ แต่ยังไม่นับว่ากระบวนการตายสิ้นสุดลง เพราะจิตยังทำงานอยู่ ดังนั้น หลัง หมดลมยังต้องรอให้การแตกดับทางจิตสิ้นสุดลงด้วย จึงจะถือว่าการตายนั้นสิ้นสุดลงอย่างสมบูรณ์ซึ่งผู้ที่ปฏิบัติ ธรรมในขั้นสูงจะสามารถประคองจิตอยู่ในภาวะนี้จนสามารถนิพพานได้
2.มีสิ่งหนึ่งที่สืบเนื่องต่อไปจาก ความตาย อาจเป็นชีวิตใหม่ ภพใหม่
การประคองรักษาจิตให้สงบเป็นปกติท่ามกลางสภาพความเจ็บป่วยทุกข์ทรมานนั้นเป็นไปได้ โดยผู้ป่วยสามารถฝึกจิตเองหรืออาจอาศัยสภาพแวดล้อมช่วย
1.สิ่งที่แน่นอนคือ ทุกคนต้อง ตาย แต่ที่ไม่แน่นอน คือ ไม่ทราบว่าจะตายเมื่อไร ที่ไหน ด้วยโรคอะไร
หลัก 7 ประการของการให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยระยะท้าย
ช่วยให้เขาปลดเปลื้องสิ่งค้างคาใจ อาจหมายถึง การแบ่งมรดก ความน้อยเนื้อต่ำใจคนใกล้ตัว ความ โกรธแค้น ความรู้สึกถูกผิด ฯลฯ
ช่วยปล่อยว่างสิ่งต่าง ๆ แม้บางคนอาจไม่มีสิ่งค้างคาใจที่เป็นกุศล แต่ก็ต้องปล่อยวางทุกสิ่งเช่นกัน ทั้ง รูปธรรม นามธรรม แม้แต่ความรักก็ต้องปล่อยวาง
ช่วยให้เขาจดจ่อในสิ่งที่ดีงาม
สร้างบรรยากาศที่เอื้อให้ใจสงบ เช่น การนำพระพุทธรูปที่เขานับถือมาให้บูชา หรือบรรยากาศที่ญาติมิตรพร้อมเพรียงกันช่วยกันสวดมนต์ ทำสมาธิ หรือถ้าเขาไม่สนใจธรรมะ อาจเปิดเพลงที่เขาชอบเบา ๆ ก็ได้
ช่วยให้เขายอมรับความตายที่จะมาถึงการพูดให้เขายอมรับความตายที่จะมาถึงการพูดจา ให้เขายอมรับ ความตายเป็นศิลปะ
กล่าวคำอำลา หากเขาคิดว่าจะอยู่กับเราได้ไม่นาน ก็ควรกล่าวคำอำลา อาจพูดขอบคุณสิ่งดี ๆ ที่เขาทำ ให้กับทุกคน หรือแนะนำให้เขาปล่อยวาง เตรียมตัวเตรียมใจ ระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์และขอขมา เจ้ากรรมนายเวร
การให้ความรัก ความเข้าใจ ผู้ป่วยใกล้ตายมักจะมีความกลัวหลายอย่าง เช่น กลัวถูกทอดทิ้ง กลัวเป็น ภาระ กลัวตายคนเดียว
การพยาบาลผู้ป่วยในวาระสุดท้ายของชีวิต
1.การพยาบาลด้านร่างกาย
เมื่อคนใกล้ตายความอ่อนเพลียเป็นสิ่งที่ต้องยอมรับ แต่ไม่จำเป็นต้องให้ การรักษาใด ๆ ควรให้ผู้ป่วยในระยะนี้พักผ่อนให้เต็มที่
2.การพยาบาลด้านจิตใจและจิตวิญญาณ
สิ่งที่ต้องการ คือมีความต้องการใครสักคนอยู่เป็นเพื่อนข้าง ๆ แต่ความต้องการของคนจริง ๆ แล้ว ต้องการจากไปท่ามกลางคนที่รัก ญาติพี่น้อง เพื่อนพ้องน้องพี่ เพื่อให้มีเวลาสำหรับการกล่าวอำลาและทำการ อโหสิกรรมต่อกันและกัน
แต่มันอาจจะทำไม่ได้หรือเกิดขึ้นไม่ได้ก็ตาม ดังนั้นผู้ที่อยู่ใกล้ชิด (พยาบาล) ควรให้โอกาส คนใกล้ตายได้แสดงความรู้สึกและความต้องการโดยพูดแต่สิ่งดีงามเพื่อการระลึกถึงคุณงามความดี บุญบารมีที่ได้ กระทำมาในอดีต อ่านหนังสือธรรมะให้ฟัง ท่องบทสวดมนต์หรือเปิดเทปบทสวดมนต์เบา ๆ ให้ฟัง เพื่อส่งให้ตายดี เตือนสติให้มีสติไม่หลงตาย