Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่3 การส่งเสริมสุขอนามัยและการพักผ่อนนอนหลับ (1.การดูแลสุขภาพอนามัยส…
บทที่3
การส่งเสริมสุขอนามัยและการพักผ่อนนอนหลับ
(1.การดูแลสุขภาพอนามัยส่วนบุคคล)
1 ความหมายและความสำคัญของการดูแลสุขภาพอนามัยส่วนบุคคล
ความหมาย
การอาบน้ำ
ชำระสิ่งสกปรกออกจากร่างกาย โดยใช้น้ำเป็นตัวช่วยกิจกรรมที่ ทำร่วมกับการอาบน้ำ
ความสำคัญ
การอาบน้ำสุขอนามัย (Hygiene)
ชำระสิ่งสกปรกออกจากร่างกาย โดยใช้น้ำเป็นตัวช่วยกิจกรรมที่ ทำร่วมกับการอาบน้ำ
สุขอนามัยส่วนบุคคล
การดูแลตนเอง
การดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล
การดูแลความสะอาดและสุขภาพของ ผิวหนัง ผม เล็บ ปาก ฟัน ตา หู จมูก และอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกของตนเอง
2 ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อสุขอนามัยส่วนบุคคล
อายุ
ความแตกต่างของอายุจะมีความต้องการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลที่แตกต่าง กัน
อาชีพ
บุคคลที่มีอาชีพเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพจะมีความรู้ ความเข้าใจและให้ ความสำคัญของการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล
ถิ่นที่อยู่
การดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลลดลง
เศรษฐกิจ
บุคคลที่มีฐานะะให้เวลากับดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลมากขึ้น หากเศรษฐกิจไม่พอเพียง ผู้ปุวยอาจต้องทำงานเพื่อ หารายได้จนไม่มีเวลาดูแลตนเอง
การศึกษา
บุคคลที่มีการศึกษา ทราบถึงประโยชน์ และโทษของการดูแลสุขอนามัย ส่วนบุคคล
ภาวะเจ็บป่วย
อากาศร้อนทำให้คนเรามีเหงื่อไคลและกลิ่นตัวที่ต้องได้รับ การดูแลเอาใจใส่เรื่องสุขอนามัยเพิ่มมากขึ้น
ภาวะสุขภาพ
มีการเจ็บป่วยที่รุนแรงหรือเรื้อรัง หรือเจ็บปวดหรือมีการเจ็บป่วย ทางสุขภาพจิต ทำให้ขาดความสนใจ หรือละเลยการดูแลสุขวิทยาส่วนบุคคล
สิ่งแวดล้อม
อากาศร้อนทำให้คนเรามีเหงื่อไคลและกลิ่นตัวที่ต้องได้รับ การดูแลเอาใจใส่เรื่องสุขอนามัยเพิ่มมากขึ้น
เพศ
เพศหญิงเป็นเพศที่อ่อนแอ และไวต่อความรู้สึกกว่าเพศชาย
ขนบธรรมเนียมประเพณีและความเชื่อ และวัฒนธรรมของแต่ละบุคคล
ห้ามสระผมขณะมีไข้ เพราะจะทำให้เจ็บปุวย มากขึ้น หรือหลังคลอดบุตรห้ามสระ หรือตัดผม เป็นประเพณีความเชื่อที่สืบทอดกันมาของชนเผ่าม้ง ที่สืบทอดกันมา
ความชอบ
เป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละบุคคลที่ได้รับการฝึกอบรมด้านการดูแล สุขวิทยาส่วนบุคคลมาจากครอบครัว โรงเรียน และปลูกฝังจนเป็นอุปนิสัยในการดูแลตนเองด้าน ความสะอาดร่างกาย
3 การดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล
การพยาบาลตอนบ่ายหรอืตอนเย็น (Afternoon care/ P.M care)
ดูแลทำความสะอาดปากและฟัน การล้างมือ ล้างหน้า หวีผม สระผม การ ให้บริการหม้อนอน หรือกระบอกปัสสาวะ ตลอดจนการรักษาพยาบาลอื่น ที่มีในเวรบ่าย
การพยาบาลตอนก่อนนอน (Evening care/ HS care)
ดูแลเรื่องการให้หม้อนอนหรือกระบอก ปัสสาวะ การล้างมือ ล้างหน้าทำความสะอาดปากฟัน การนวดหลัง การจัดท่าให้ผู้ป่วยได้พักผ่อน อย่างสุขสบาย เพื่อให้ผู้ปุวยรู้สึกผ่อนคลายและเตรียมตัวเข้านอน ช่วยให้พักผ่อนนอนหลับได้ดีขึ้น
การพยาบาลตอนเช้า (Morning care/A.M care)
ช่วยเหลือ ในการอาบน้ำผู้ปุวยบนเตียง ให้บริการหม้อนอนในผู้ป่วยหญิง หรือกระบอกปัสสาวะในผู้ป่วยชาย การทำความสะอาดปากฟัน การนวดหลัง การดูแลเล็บมือและเล็บเท้า เส้นผมและทรงผม อวัยวะ สืบพันธุ์ภายนอก
การพยาบาลเมื่อผู้ป่วยต้องการ (As-needed/ prn care)
ให้การพยาบาลตามความต้องการของผู้ป่วยตลอด 24 ชั่วโมง เช่น ถ้าผู้ปุวยปัสสาวะรดที่ นอนเปียกทั้งตัว พยาบาลจะช่วยเช็ดตัว
การพยาบาลตอนเช้าตรู่ (Early morning care)
พยาบาลจะดูแลผู้ปุวย ช่วยเหลือเรื่องการขับถ่ายปัสสาวะ อุจจาระ การให้กระบอกปัสสาวะ หรือหม้อ นอน การทำความสะอาดร่างกาย
4.การดูแลความสะอาดร่างกาย
การดูแลความสะอาดของผิวหนัง/ การอาบน้ำ (Bathing)
การอาบน้ำที่ห้องน้ำ
การช่วยเหลือพาผู้ป่วยไปทำความสะอาดร่างกายในห้องน้ำพยาบาลช่วยพยุงเดินไปห้องน้ำ ช่วยเตรียมของใช้ ให้พร้อม
การอาบน้ำผู้ป่วยบนเตียงเฉพาะบางส่วน
พยาบาลต้องช่วยเช็ดบางส่วนที่ผู้ป่วยไม่สามารถเช็ดเองได้ เช่น บริเวณหลัง โดยอาจใช้การนั่งข้างเตียง หรือบนเตียง ในกรณีที่ผู้ป่วย เช่น หลังการผ่าตัดไส้ติ่ง
การอาบน้ำผู้ป่วยบนเตียงชนิดสมบูรณ์
จุดประสงค์
กำจัดสิ่งสกปรก ที่สะสมบนผิวหนังและส่งเสริมความมั่นใจในตนเอง
ให้ผู้ป่วยรู้สึกสบาย สดชื่นและผ่อนคลาย
ประเมินการเคลื่อนไหวของร่างกายและส่งเสริมการออกกำลังกายของ ข้อต่าง ๆ
สังเกตความผิดปกติของผวิหนัง
กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตและป้องกันแผลกดทับ
การนวดหลัง
หลักการนวดหลัง
ใช้เวลานวดประมาณ 5-10 นาที
จัดท่าให้ผู้ป่วยสุขสบาย
ไม่นวดบริเวณที่มีการอักเสบ มีแผล กระดูกหัก ผู้ป่วยโรคหัวใจ ภาวะมีไข้ โรคผิวหนัง โรคมะเร็งระยะลกุลามแพรก่ระจาย
ไม่นวดแรงเกินไปจนผู้ป่วยเจ็บ
นวดเป็นจังหวะสม่ำเสมอ
เลือกใช้แป้งหรือโลชันหรือครีม เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง
ลำดับตามขั้นตอนดังนี้
1 Stroking
เป็นการลูบตามแนวยาวใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างวางที่บริเวณ ก้นกบ ค่อยๆ ลูบขึ้นตามแนวกระดูกสันหลังจนถึงต้นคอ ให้น้ าหนัก กดลงที่ปลายนิ้วแล้วอ้อมมาที่ไหล่ สีข้าง และตะโพกทำช้าๆ เป็น จังหวะประมาณ 3-5 ครั้ง
2 Friction
เป็นการใช้ฝ่ามือลูบแบบถูไปมาตามแนวยาวของกล้ามเนื้อ ไหล่ (trapezins) กล้ามเนื้อสีข้าง (latissimus dorsi) ทั้งสองข้างนิ้ว ชิดกัน วางฝ่ามือทั้งสองข้างลงบนกล้ามเนื้อแล้วถูขึ้นลงสลับกันตาม กล้ามเนื้อ ทำอย่างน้อย 12 ครั้ง
3 Kneading
เป็นการบีบนวดกล้ามเนื้อ
4 Beating
เป็นการกำมือหลวมๆ ทุบเบาๆ บริเวณกล้ามเนื้อแก้มก้น (Gluteal muscle) ใช้กำมือหลวมๆทั้งสองข้างทุบเบาๆ และเร็วๆ สลับขึ้นลง บริเวณกล้ามเนื้อแก้มก้น ทำอย่างน้อย 12 ครั้ง
5 Hacking
เป็นการใช้สันมือสับเบาๆ ใช้สันมือด้านนิ้วก้อยสับสลับกันเร็วๆ โดยการกระดกข้อมือสับขวางตามใยกล้ามเนื้อบริเวณตะโพก ก้นและต้นขาทำซ้ า ประมาณ 10 ครั้ง
6 Clapping
เป็นการใช้อุ้งมือตบเบาๆ โดยห่อมือให้ปลายนิ้วชิดกันทั้งสอง ข้าง ให้เกิดช่องว่างตรงกลางฝ่ามือตบเบาๆ สลับมือกัน โดยกระดกข้อมือขึ้นลง ทั่วบริเวณหลัง ทำซ้ำประมาณ 10 ครั้ง
7 Stroking
ทำเหมือนข้อ 1 ทำซ้ำประมาณ 5-6 ครั้ง
เครื่องใช้
ครีมหรือโลชั่นทาตัวหรือแป้ง
ผ้าห่ม 1 ผืน และผ้าเช็ดตัว 1ผืน
การดูแลความสะอาดปากและฟัน
หลักการ
แปรงฟันทุกซี่ ทุกด้าน นาน 5 นาที เวลาเช้า หลังอาหารทุกมื้อและก่อนนอน
ผู้ป่วยที่มีปัญหาในช่องปาก มีแผล ปากแห้ง ไม่สามารถรับประทานอาหาร และน้ำทางปากได้ ต้องทำความสะอาดปากและฟันให้ทุก 2 ชั่วโมง
ผู้ป่วยที่ไม่รู้สึกตัว พยาบาลต้องทำความสะอาดปากและฟันให้เป็นพิเศษ สำลี ที่ใช้เช็ดทำความสะอาดต้องเปลี่ยนบ่อย
การทำความสะอาดปากฟันในผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตนเองได้น้อย
วิธีการ
ใช้ลูกสูบยางดูดน้ำฉีดล้างช่องปากและในซอกระหว่างกระพุ้งแก้มและฟัน ปล่อยให้น้ำไหลลงชามรูปไตที่รองไว้ และใช้เครื่องดูดหรือลูกสูบยางอีกอันหนึ่งช่วยดูดน้ำออก
ตรวจดูสภาพของปากและฟัน
ใช้ไม้พันสำลีชุบน้ำยาบ้วนปาก
ทำความสะอาดเหมือนการแปรงฟันด้านนอก และเหงือกให้ทั่วอย่างถูกวิธี
ใช้ไม้กดลิ้น พันด้วยผ้าก๊อซเพื่อช่วยอ้าปาก เพื่อความสะดวกในการทำความสะอาดปาก ฟันด้านใน ด้านบดเคี้ยว และลิ้น
ตรวจดูสภาพของเยื่อบุปาก เหงือก ฟัน และลิ้น ถ้าหาเยื่อบุช่องปากแห้ง มีคราบสกปรกในช่องปาก ควรใช้ไม้พันสำลีชุบ 3% hydrogen peroxide ผสมน้ำ1 เท่าตัวทำความ สะอาดให้ทั่วปาก แล้วล้างออกให้หมดด้วยน้ำสะอาด
ทำความสะอาดเหมือนการแปรงฟันด้านใน ด้านบดเคี้ยวให้ทั่ว
สูบฉีดล้างช่องปากให้ทั่ว ดูดน้ำออกให้หมด หากมีน้ำเหลือค้างอยู่อาจทำให้สำลักได้ ปลดเครื่องถ่างปากออก
เช็ดปากให้ผู้ป่วย ถ้าริมฝีปากแห้งทาด้วยวาสลิน
เก็บของใช้ไปทำความสะอาดและเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย
ลงบันทึกทางการพยาบาล
วัตถุประสงค์
กำจัดกลิ่นปาก ลมหายใจสดชื่น ป้องกันฟันผุ
ลดการอักเสบของเหงือก กระพุ้งแก้ม
ปากและฟันสะอาด มีความชุ่มชื่น
สังเกตฟัน เหงือก กระพุ้งแก้ม ลิ้น มีแผล หรือการติดเชื้อ หรือ เลือดออกหรือฝ้าในช่องปาก
การดูแลความสะอาดของเล็บ
จุดประสงค์
ให้เล็บสะอาด และสุขสบาย
ป้องกันการเกิดเล็บขบ
วิธีการปฏิบัติ
ปูกระดาษรอง ตัดเล็บให้ปลายเล็บตรงและข้างไม่โค้งไม่ตามซอกเล็บ ปลายเล็บควรปล่อยให้ยาวกว่าปลายนิ้ว การตัดเล็บด้านข้างให้โค้งไปตามซอกเล็บ จะทำให้เล็บ ด้านข้างงอกออกไปกดเนื้อบริเวณนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเล็บหัวแม่เท้า
ใช้ตะไบถูเล็บให้ขอบเล็บเรียบ เพื่อป้องกันผิวหนังเกิดแผลถลอกจากการขีด ข่วนของเล็บ
เปลี่ยนน้ำ ล้างมือหรือล้างเท้าอีกครั้งหนึ่ง เช็ดให้แห้ง
เก็บของใช้ไปทำความสะอาดและเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย เก็บเศษเล็บทิ้งใน ถังขยะติดเชื้อ กรรไกรตัดเล็บและตะไบเล็บ ทำความสะอาดด้วยสำลีชุบ แอลกอฮอล์70%
ลงบันทึกทางการพยาบาล
ยกอ่างน้ำออก เช็ดมือหรือเท้าให้แห้ง
ใช้ผ้าเช็ดตัวถูสบู่พอกขัดตามซอกเล็บ ง่ามนิ้ว ถ้าเล็บสกปรกมากอาจใช้ปลาย ตะไบแคะสิ่งสกปรกออก
คลี่ผ้าเช็ดตัวรองอ่างน้ำ แช่มือ หรือเท้าสักครู่ เพื่อให้เล็บและขี้เล็บอ่อนตัว ช่วยให้ตัดเล็บและแคะสิ่งสกปรกที่เล็บออกได้ง่ายขึ้น
ยกเครื่องใช้ไปที่เตียงผู้ป่วย จัดวางให้เรียบร้อยเพื่อสะดวกในการใช้
แนะนำตัวและอธิบายให้ผู้ป่วยทราบวัตถุประสงค์
เครื่องใช้
ถาดใส่สบู่ ผ้าถูตัว ผ้าเช็ดตัว กรรไกรตัดเล็บ ตะไบเล็บ กระดาษรอง
อ่างใส่น้ำอุ่น
ถุงมือสะอาด และmask
การดูแลความสะอาดของตา
จุดประสงค์
ความสุขสบายของผู้ป่วย
ส่งเสริมภาพลักษณ์ของผู้ป่วย
กำจัดขี้ตาทำให้ดวงตาสะอาด
เครื่องใช้
ถาดใส่อับสำลีชุบ 0.9% NSS
และชามรูปไต
ถุงมือสะอาด
และmask
วิธีการปฏิบัติ
ใช้สำลีชุบ 0.9% NSS พอหมาด เช็ดจากหัวตาไปหางตา ถ้าขี้ตาแห้งติด หนังตาหรือขนตา ควรวางสำลีชุบ 0.9% NSS ไว้บนหนังตาให้ขี้ตาอ่อนตัวก่อน สำลี 1 ก้อนใชครั้ง เดียวแล้วทิ้งไป และการใช้สำลีก้อนใหม่เช็ดตาด้วยวิธีดังกล่าวจนสะอาด เพราะ 0.9% NSS ไม่ทำให้ ระคายเคืองต่อเยื่อบุตา การเช็ดจากหัวตาไปหางตา เป็นการป้องกันมิให้สิ่งสกปรกถูกดันไป ใน nasolacrimal duct และสำลี 1 ก้อนใช้ครั้งเดียวเพื่อป้องกันสิ่งสกปรกกลับมาปนเปื้อนตาอีก
เก็บของใช้ทำความสะอาดและเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย สำลีทิ้งลงถังขยะติดเชื้อ
ใส่ถุงมือสะอาด เพื่อปูองกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค
สังเกตลักษณะและจำนวนของขี้ตา รวมทั้งสภาพของตาว่าบวม แดง หรือไม่ เพื่อประเมินสภาพของตา ถ้าพบสิ่งผิดปกติจะได้แก้ไขต่อไป
จัดให้ผู้ป่วยนอนนอนตะแคงด้านที่ต้องการทำความสะอาด เพื่อป้องกันมิให้ น้ำยาและสิ่งสกปรกจากตาข้างที่ต้องการทำความสะอาดไปปนเปื้อนตาอีกข้างหนึ่ง
ลงบันทึกทางการพยาบาล
ยกของใช้ไปที่เตียงผู้ป่วย จัดวางให้สะดวกในการใช้
พลิกตัวผู้ป่วยตะแคงด้านตรงข้าม และทำความสะอาดตาอีกข้างหนึ่งด้วย วิธีเดียวกัน
แนะนำตัวและอธิบายให้ผู้ป่วยทราบ
การดูแลทำความสะอาดของหู
จุดประสงค์
ทำความสะอาดใบหูและหลังใบหู
กำจัดสิ่งสกปรกภายในช่องหู
วิธีปฏิบัติ
สวมถุงมือ และmask
ใช้สำลีชุบ 0.9% NSS หรือน้ำสะอาด เช็ดทำความสะอาดในช่องหู ใบหู และ หลังใบหู แล้วเช็ดด้วยผ้าสะอาดจนแห้ง
จัดผู้ป่วยให้อยู่ในท่านอนหงาย เอียงศีรษะไปด้านใดด้านหนึ่งเพื่อจัดท่าที่ เหมาะสม
เก็บของใช้ไปทำความสะอาดและเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย
ยกเครื่องใช้ไปที่เตียงของผู้ป่วยจัดวางให้สะดวกในการใช้
ลงบันทึกทางการพยาบาล
แนะนำตัวและอธิบายให้ผู้ป่วยทราบวัตถุประสงค์
เครื่องใช้
0.9% NSS หรือน้ำสะอาด
สำลีสะอาด หรือไม้พันสำลี 4 อัน
ผ้าสะอาด
ชามรูปไต
กระดาษเช็ดปาก
การดูแลทำความสะอาดของจมูก
จุดประสงค์
ป้องกันสารคัดหลั่งแห้งยึดขนจมูกกับสายที่คาไว้
ป้องกันการเกิดแผลกดทับที่ด้านในรูจมูกจากสายที่คาไว้
กำจัดสิ่งขับถ่ายและสิ่งสกปรกภายในจมูก
เครื่องใช้
ชามรูปไต
ผ้าก๊อซ
ไม้พันสำลีขนาดเล็ก 4-8 อัน
ถาดใส่แก้วใส่น้ำสะอาดหรือ 0.9% NSS
กระดาษเช็ดปาก
อับสำลีชุบแอลกอฮอล์ 70% สำลีชุบเบนซิน และสำลีชุบน้ำเกลือใช้ภายนอก
พลาสเตอร์ ถุงมือสะอาด
และmask
วิธีปฏิบัติ
แนะนำตัวและอธิบายให้ผู้ป่วยทราบวัตถุประสงค์
ยกเครื่องใช้ไปที่เตียงของผู้ป่วยจัดวางให้สะดวกในการใช้
จัดผู้ป่วยให้อยู่ในท่านอนหงาย ศีรษะสูง (ถ้าไม่มีข้อห้าม)เพื่อจัดท่าที่ เหมาะสม
สวมถุงมือ และmask
ใช้สำลีชุบเบนซินเช็ดคราบพลาสเตอร์ออก และเช็ดส่วนที่เป็นยางเหนียว ของพลาสเตอร์บนผิวหนังออกให้หมด เช็ดด้วยสำลีชุบน้ำเกลือ และเช็ดตามด้วยสำลีชุบ แอลกอฮอล์ เพราะเบนซินช่วยละลายส่วนที่เป็นยางเหนียวของพลาสเตอร์ ทำให้ไม่เจ็บขณะเช็ดคราบพลาสเตอร์ ออก แต่จะมีคราบของเบนซินทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง และมีกลิ่นรบกวนผู้ป่วยสำหรับ การใช้สำลีชุบน้ำเกลือ และแอลกอฮอล์เช็ดผิวหนัง หลังจากใช้เบนซินเช็ดคราบลาสเตอร์เพื่อช่วย กำจัดเบนซินออก
ลงบันทึกทางการพยาบาล
ถ้ามีสายที่คาในรูจมูก ใช้ผ้าก๊อซเช็ดสายที่คาในจมูกส่วนที่อยู่นอกจมูก รวมทั้งบริเวณจมูกให้สะอาดและแห้ง ติดพลาสเตอร์ ยึดสายคาจมูกเปลี่ยนตำแหน่งของรอย การ ติดพลาสเตอร์กับผิวหนังระวังการตึงรั้ง หรือแน่นเกินไป
ใช้ไม้พันสำลีชุบน้ำ หรือ 0.9% NSS บีบพอหมาด เช็ดในรูจมูกเบา โดยรอบ ถ้ามีสายคาที่จมูกอยู่ให้เช็ดรอบสายที่คาอยู่ในจมูก เพื่อกำจัดสารคัดหลั่งและสิ่งสกปรกในรู จมูกถ้าไม่เช็ดออกจะทำให้สกปรก และถ้าปล่อยให้แห้งจะยึดขนจมูกให้ติดกับที่สายคาในจมูก ทำให้ เจ็บขณะดึงสายออก อาจมีเลือดออกได้
เก็บของใช้ไปทำความสะอาดและเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย
การดูแลความสะอาดของเส้นผมและหนังศีรษะ
วัตถุประสงค์
ความสุขสบายและสดชื่นของผู้ป่วย
ส่งเสริมภาพลักษณ์ของผู้ปุวยและรู้สึกมีความมั่นใจ
ขจัดความสกปรกและสารที่ใส่บนผม และหนังศีรษะเพื่อการตรวจรักษา
วิธีปฏิบัติ
ใช้หวีหรือแปรงสางผมให้ทั่ว สำหรับผู้ป่วยที่ผมสกปรกมากและยุ่งเป็นสังกะตังให้ใช้น้ำมันมะกอกชโลมก่อนสระถ้าแก้ไขไม่ได้ควรตัดผมส่วนที่เป็นสังกะตังออก และตัด ส่วนอื่นให้ดูรับกับใบหน้า เพื่อดูให้ไม่น่าเกลียด แต่ผมเป็นสิทธิโดยชอบธรรมของผู้ป่วย ดังนั้นการตัด ผม ต้องได้รับความยินยอมอนุญาตจากผู้ป่วยหรือญาติ (ถ้าผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว)
รวบปลายผมบิดให้หมาด เอาสำลีออกจากหู และคลี่ผ้าปิดตาทำเป็น สามเหลี่ยมโดยเอาสายผ้าแต่ละข้างเช็ดใบหู รูหูและหน้าหูและหลังหู จนสะอาดทั่ว
เลื่อนรถสระผม เทียบกับขอบเตียงวางศีรษะผู้ป่วยบนผ้าผืนที่ม้วนรองใต้คอ จัดชายผ้ายางให้ลงในอ่างล้างผม ใช้ไม้หนีบผ้าหนีบผ้ายางให้ติดกัน
ใช้สำลีชุบน้ำบีบให้หมาดใส่หูข้างละก้อน ป้องกันน้ำเข้าหู และใช้ผ้าเช็ดหน้า ผืนเล็กชุบน้ำบิดให้หมาด พับเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าปิดตาผู้ป่วย
ใช้แก้วน้ำตักน้ำราดผมพอเปียก เทแชมพูใส่มือถูกัน ชโลมแชมพูให้ทั่วศีรษะ ใช้มือทั้งสองข้างเกาหนังศีรษะบริเวณ frontal จนทั่วบริเวณหน้าผาก บอกให้ผู้ปุวยเอียงศีรษะไป ทางซ้ายพยาบาลใช้มือซ้ายประคองศีรษะ ใช้มือขวาเกาหนังศีรษะบริเวณ parietal, temporal และ subocciput ของศีรษะด้านขวา จากนั้นบอกให้ผู้ปุวยเอียงศีรษะไปทางขวาพยาบาลใช้มือขวา ประคองศีรษะ ใช้มือซ้ายเกาหนังศีรษะบริเวณ parietal, temporal และsubocciput ของศีรษะ ด้านซ้าย บอกให้ผู้ป่วยหันศีรษะตรง พยาบาลใช้มือขวายกศีรษะผู้ป่วยขึ้นแล้วใช้มือซ้ายเกาหนังศีรษะ บริเวณท้ายทอย subocciput แล้วสลับเปลี่ยนมือท าเช่นเดิม เสร็จแล้ววางศีรษะผู้ป่วยลง ใช้มือซ้าย คว่ำมือจับกลางศีรษะส่วน Parietal โดยคว่ำมือลงและใช้มือขวาเกาหนังศีรษะส่วน occiput โดยเกา ขึ้น จากนั้นสระผมส่วนปลาย หากผมผู้ป่วยยาวใช้การขยี้ปลายผมระวังอย่ากระชากผมเด็ดขาด
ใช้แก้วน้ำตักน้ำราดผมให้ทั่ว โดยราดน้ำที่ละครึ่งศีรษะ ใช้มือลูบฟองยาสระผมจนหมด ทำการสระผมอีกครั้ง ทำเหมือนข้อ 8 และ 9
รองผ้าเช็ดตัววางบนผ้าม้วนกลม แล้วรองผ้ายางบนผ้าเช็ดตัวผืนนั้น เพื่อช่วยซับน้ำหากหกไหลเลยผ้ายางออกไป และใช้เช็ดผมเมื่อสระเสร็จแล้ว
จัดผู้ป่วยนอนหงายทแยงมุมกับเตียง ให้ศีรษะอยู่ริมเตียง นำผ้าเช็ดตัวม้วน กลมรองไว้ใต้คอผู้ป่วย
ปลดผ้ายางออกจากคอผู้ป่วย รวบลงอ่างสระผม ใช้ผ้าเช็ดตัวผืนที่รองใต้ ผ้ายางสระผม เช็ดผมให้หมาดพันรวบผม และบอกให้ผู้ป่วยลงนั่งหรือย้ายศีรษะผู้ป่วยวางบนหมอน
ใช้เครื่องเป่าผม เป่าผมให้แห้ง หวีผมให้ได้ทรง ถ้าผมยาวควรรวบผมมัดให้ เรียบร้อย
วางของใช้บนรถเข็นสระผมเคลื่อนที่ นำไปที่เตียง จัดวางเครื่องใช้ให้สะดวก แก่การหยิบใช้
เก็บของใช้ไปทำความสะอาดและเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย เศษผมและสำลีห้าม ทิ้งลงอ่างล้างมือเด็ดขาด เพราะจะทำให้ท่อระบายน้ำตัน ให้ทิ้งลงถังขยะติดเชื้อเท่านั้น
แนะนำตัวและอธิบายให้ผู้ป่วยทราบวัตถุประสงค์
ลงบันทึกทางการพยาบาล
การทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกของชายและหญิง
เพศชาย
วิธีปฏิบัติ
เก็บของใช้ไปทำความสะอาดและเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย
วางภาชนะใส่ขยะหรือกระโถนไว้ใกล้หม้อนอน และชุดชำระไว้ด้านปลายเท้า
เอาผ้าปิดตาออก จัดใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยและจัดให้นอนในท่าที่สุขสบาย
เตรียมเครื่องมือเครื่องใช้ต่าง มาที่เตียงให้ครบถ้วน วางไว้ในที่เหมาะสม หยิบใช้สะดวก เปิด P-care set
ให้ผู้ป่วยยกก้น สอดหม้อนอนด้านแบบเข้าใต้ตะโพก และจัดหม้อนอนตรง พอดีกับก้น การสอดหม้อนอนให้ผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ อาจทำได้โดยการพลิกตะแคงตัวผู้ป่วย และวางหม้อนอนตะแคงแนบกระชับกับก้นของผู้ป่วย จับหม้อนอนให้อยู่กับที่ แล้วพลิกตัวให้ผู้ป่วย นอนหงายบนหม้อนอน
ใช้ forceps ใน set หยิบสำลีออกจากชามกลมวางบนผ้าห่อ 4 ก้อน วาง forceps บนผ้าห่อ
จัดผู้ป่วยให้นอนหงาย (dorsal position) เปิดเฉพาะส่วนอวัยวะสืบพันธุ
เทน้ำสบู่ หรือสบู่เหลว บนสำลีในชามกลมพอประมาณ
ล้างมือให้สะอาด สวมถุงมือและmask และใช้ผ้าปิดตาผู้ป่วย
ใช้มือข้างซ้ายจับองคชาต (penis ) แล้วค่อย รูดหนังหุ้มปลาย (foreskin) หรือ (prepuce) ก้อนที่ 1 เช็ดบริเวณ glans penis รูเปิดท่อปัสสาะ (meatus) ก้อนที่ 2 เช็ดรอบ องคชาติ ก้อนที่ 3 เช็ดลูกอัณทะ (scrotum) ถึง รูทวาร (anus)
ยกเครื่องใช้ไปที่เตียง ปิดประตูหรือกั้นม่านให้มิดชิด เพื่อความเป็นส่วนตัว และลดความเขินอาย
ลงบันทึกทางการพยาบาล
เท 0.9% NSS หรือน้ าอุ่น บนสำลีในชามพอประมาณ เช็ดก้อนที่ 4, 5 และ 6 เช็ดเหมือน ก้อนที่ 1-3 ด้วย ส่วนก้อนที่ 7 ใช้เช็ดสะอาดให้เรียบร้อย
เลื่อน bed pan ออก คลุมด้วย bed pad และเลื่อนผ้ายางผืนเล็กออก
แนะนำตัวและอธิบายให้ผู้ป่วยทราบวัตถุประสงค์
เครื่องใช้
ถาดใส่ของ
น้ำเกลือ (0.9% NSS) ใช้ภายนอกหรือน้ำสะอาด
น้ำสบู่ หรือสบู่เหลว
ชุดชำระ (P-care set) ประกอบด้วย ชามกลม (bowl) สำลีก้อนใหญ่ สำหรับชำระ 7 ก้อนและปากคีบ (forceps) 1 ตัว
ภาชนะใส่ขยะ หรือกระโถน
กระดาษชำระ 2-3 ชิ้น
หม้อนอน (bed pan) พร้อมผ้าคลุมหม้อนอน (bed pad) ผ้ายางผืนเล็ก
ถุงมือสะอาด
ผ้าปิดตา
เพศหญิง
วิธีปฏิบัติ
ให้ผู้ป่วยวางขาลง เอาผ้าปิดตาออก จัดใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยและจัดให้นอน ในท่านอนหงายราบ
ลงบันทึกทางการพยาบาล
เท 0.9% NSS หรือน้ำสะอาดบนสำลีในชามกลมพอประมาณเช็ดอวัยวะ สืบพันธุ์ด้วยวิธีเดียวกันก้อนที่ 4, 5 และ 6 ส่วนสำลีก้อนที่ 7 ใช้เช็ดสะอาดให้เรียบร้อย
วางภาชนะใส่ขยะหรือกระโถนไว้ใกล้หม้อนอน และชุดชำระไว้ด้านปลายเท้า
เก็บของใช้ไปทำความสะอาดและเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย
เตรียมเครื่องมือเครื่องใช้ต่าง มาที่เตียงให้ครบถ้วน วางไว้ในที่เหมาะสม หยิบใช้สะดวก เปิด P-care set
ให้ผู้ป่วยยกก้น สอดหม้อนอนด้านแบบเข้าใต้ตะโพก และจัดหม้อนอนพอดี ตรงก้น การสอดหม้อนอนให้ผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ อาจทำได้โดยการพลิกตะแคงตัวผู้ป่วย และวางหม้อนอนตะแคงแนบกระชับกับก้นของผู้ป่วย จับหม้อนอนให้อยู่กับที่ แล้วพลิกตัวให้ผู้ป่วย นอนหงายบนหม้อนอน
ใช้ forceps ใน set หยิบส าลี 4 ก้อนออกจากชามกลมสำลีวางบนผ้าห่อของแล้ววาง forceps บนผ้าห่อของด้วย
จัดผู้ป่วยให้นอนหงาย คลุมผ้าห่มตามแนวขวาง เลื่อนผ้านุ่งขึ้นไปถึงเอว ให้ ผู้ป่วยนอนหงายชันเข่าขึ้น (dorsal recumbent position) เหน็บผ้าห่มคลุมขา (drape) ให้เรียบร้อย
เลื่อน bed pan ออก คลุมด้วย bed pad ปิด และเลื่อนผ้ายางผืนเล็กออก
ล้างมือให้สะอาด สวมถุงมือและmask และใช้ผ้าปิดตาผู้ป่วย
เทน้ำสบู่ หรือสบู่เหลว บนสำลีในชามกลมพอประมาณ
ยกเครื่องใช้ไปที่เตียง ปิดประตูหรือกั้นม่านให้มิดชิด เพื่อความเป็นส่วนตัว และลดความเขินอาย
ใช้หัวแม่มือและนิ้วชี้ของมือข้างซ้ายแหวก labia ออก และใช้มือขวาอีกข้าง หนึ่งหยิบ forceps คีบสำลีในชาม ก้อนที่ 1 เช็ดระหว่าง labia majora และ labia minora ไกลตัว ก้อนที่ 2 เช็ดระหว่าง labia majora และ labia minora ใกล้ตัว ก้อนที่ 3 เช็ดตรงกลางผ่าน urethra meatus และ vaginal orifice จนถึง anus วาง forcepsลง เทน้ำสบู่ที่เหลือลงบริเวณ vulva
แนะนำตัวและอธิบายให้ผู้ป่วยทราบ
จุดประสงค์
ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะในผู้ป่วยที่ได้รับการสวนปัสสาวะคาไว้
เสริมสร้างความสุขบายให้กับผู้ป่วย
กำจัดสิ่งขับถ่าย สิ่งสกปรก และกลิ่นไม่พึงประสงค์
5.กระบวนการพยาบาลในการส่งเสริมสุขอนามัยส่วนบุคคลของผู้ป่วย
การประเมินผู้ปjวย (Health assessment)
ประเมินผิวหนัง ช่องปาก เส้นผมและหนังศรีษะ ตา หู จมูก
ประเมินปัญหาและความเสี่ยงของการรักษาและอาการผิดปกติที่อาจ เกิดขึ้นระหว่างการดูแล
ประเมินความชอบ ความเชื่อและวัฒนธรรมของผู้ป่วย
ประเมินระดับความสารถในการดูแลตนเอง
การวินิจฉัยทางการพยาบาล (Nursing diagnosis)
การเคลื่อนไหวร่างกายบกพร่องงเนื่องจากเป็นอัมพาต...
พร่องความสามารถในการดูแลความสะอาดร่างกายเนื่องจาก....
มีความทนในการทำกิจกรรมลดลงเนื่องจากเหนื่อยง่ายจากการเป็นโรค…..
ไม่สนใจดูแลความสะอาดร่างกายด้วยตนเองเนื่องจากมีความเครียด เกี่ยวกับ......
การวางแผนการพยาบาล (Planning)
พยาบาลวางแผบการดูแลความสะอาดร่างกายโดยใช้ข้อมูลจากการ ประเมินผู้ป่วย แล้วทำการ
กำหนดวัตถุประสงค์ และเกณฑ์การประเมิน
เลือกกิจกรรมการดูแล เพื่อแก้ไขปัญหาให้ตรงตามข้อวินิจฉัยทางการ พยาบาล ซึ่งขึ้นอยู่กับปัญหาความต้องการของผู้ปุวย
การปฏิบัติการพยาบาล (Implementation)
ปฏิบัติการดูแลความสะอาดร่างกาย การอาบน้ำ การนวดหลัง การทำความ ปากและฟัน เส้นผมและหนังศรีษะ และอวัยวะสืบพันธุ์
การประเมินผลการพยาบาล (Evaluation)
ประเมินผลลัพธ์การพยาบาล
ประเมินผลคุณภาพการบริการ