Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่8, การแจ้งข่าวร้าย (Breaking a bad news), ประเด็นทางจริยธรรมในการดูแล…
บทที่8
การแจ้งข่าวร้าย (Breaking a bad news)
การแจ้งข่าวร้ายคือข้อมูลที่ทำให้เกิดความรู้สึกหมดความหวัง มีผลกระทบต่อความรู้สึก การดำเนินชีวิตและอนาคตของบุคคลนั้น
ผู้แจ้งข่าวร้าย
ต้องได้รับการฝึกฝนและมีประสบการณ์วิธีการแจ้งข่าวร้าย มีข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับแผนการรักษา ผลการรักษาและการดำเนินโรค รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ปฏิกิริยาจากการรับรู้ข่าวร้าย
ระยะโกรธ (Anger)
โกรธทุกอย่าง ต่อต้าน ก้าวร้าว
ระยะต่อรอง (Bargaining)
การต่อรองมักจะแฝงด้วยความรู้สึกผิดไว้ด้วย
ระยะปฏิเสธ (Denial)
จะรู้สึกตกใจ ช็อคและปฏิเสธสิ่งที่ได้รับรู้ ไม่เชื่อ ไม่
ยอมรับความจริง
ระยะซึมเศร้า (Depression)
ออกห่างจากสังคมรอบข้าง
เบื่อหน่าย เก็บตัว ไม่ค่อยพูดคุย ถามคำตอบคำ ไม่สนใจสิ่งแวดล้อม หรืออาจร้องไห้ หงุดหงิดง่าย
5.ระยะยอมรับ (Acceptance)
มองเป้าหมายในอนาคตมากขึ้น ปรับตัว และเรียนรู้เพื่อให้ด าเนินชีวิตต่อไปได้
บทบาทพยาบาล
ให้ผู้ป่วยและญาติมีส่วนร่วมในการตัดสินใจการรักษา
จัดการกับอาการที่รบกวนผู้ป่วยเพื่อให้ได้รับความสุขสบาย
สะท้อนคิดให้ครอบครัวค้นหาเป้าหมายใหม่ในชีวิตอย่างมีความหมาย
ช่วยเหลือในการปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนาตามความเชื่อ
อธิบายให้ทราบถึงสิ่งที่ก าลังจะเกิดขึ้นกับผู้ป่วย
ให้การช่วยเหลือในการจัดการสิ่งที่ค้างคาในใจ
ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับข้อมูล การด าเนินโรค แนวทางการรักษา
ระยะโกรธปล่อยให้ได้ระบายไม่ควรขัดหรือด่า
รับฟังเห็นอกเห้นใจ
สร้างสัมพันธภาพที่ดีกับผู้ป่วยและครอบครัว
การวินิจฉัย
มีความเครียดสูงเนื่องจากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคร้ายแรง
ไม่สามารถยอมรับสภาพความเป็นจริงเมื่อถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
มีภาวะซึมเศร้าเนื่องจากไม่สามารถแสดงบทบาทหัวหน้าครอบครัวได้จากการเจ็บป่วยรุนแรง
หมดกำลังใจในการต่อสู้กับโรคที่เป็นเนื่องจากไม่มีความหวังในการรักษา
ประเด็นทางจริยธรรมในการดูแลผู;ป<วยวิกฤต และการดูแลระยะท;ายของชีวิต
หลักการดูแลผู้ป่วยระยะท้ายในหออภิบาลผู้ป่วยวิกฤต
ทีมสุขภาพที่ทำงานในไอซียูเป็นผู้เริ่มลงมือด้วยตนเอง
การสื่อสาร
การประเมินความต้องการของผู้ป่วยและครอบครัว
การจัดการอาการไม่สุขสบายต่าง ๆ
การปรึกษาทีม palliative care ของโรงพยาบาลนั้น ๆ มาร่วมดูแลในผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์
ชำนาญมีความรู้
ลดอัตราการครองเตียงในไอซียูได
ลดการรักษาที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์
ลดการเกิด “ICU strain”
แบบผสมผสาน
แพทย์เวชบำบัดวิกฤตมีความรู้ความสามารถในการดูแลแบบ palliative care ให้กับผู้ป่วยทุกคน
ข้อสังเกตpalliative care
มีการสื่อสารในหัวข้อแผนการรักษาน้อยกว่าผู้ป่วยอื่น
ผู้ป่วยที่มีอาการไม่สุขสบายและไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม
มีการดูแลในหอผู้ปMวยวิกฤตน้อยกว่าหอผู้ป่วยอื่นๆ
(End of life care in ICU)
“วิธีการดูแลที่มุ่งเน้น
เป้าหมายเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ผู้ป่วยที่มีโรคหรือภาวะคุกคามต่อชีวิต
องค์ประกอบของการดูแลผู้ป่วยระยะท้ายในหออภิบาลผู้ป่วยวิกฤต
การจัดการอาการไมMสุขสบายต่าง ๆ
การใส่ใจประเมินอาการและจัดการอาการไม่สุขสบายอย่างเต็มที่
สาเหตุที่ควรใช้หัตถการต่าง ๆ มาเป็นขอบ่งชี้ในการเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับเป้าหมายการรักษา
ผลการรักษาที่อาจจะ
ไม่ได้ผลดี
การสื่อสาร
ให้เกียรติครอบครัวโดยการฟังอย่างตั้งใจและให้เสนอความคิดเห็น
บทสนทนาควรเน้นที่ตัวตนของผู้ป่วยมากกว่าโรค
การวางแผนหรือการตั้งเปtาหมายการรักษา
วางแผนและการคุย
เปvาหมายการรักษา
การดูแลผู้ป่วยที่กำลังจะเสียชีวิต
ควรให้ครอบครัวคนใกล้ชิดอยู่ด้วยเท่านั้น เพื่อให้ผู้ป่วยไม่ถูกรบกวน
การดูแลจิตใจครอบครัวผู้ป่วยต่อเนื่อง
การสื่อสารที่ดี และดูแลช่วงใกล้เสียชีวิตอย่างใกล้ชิด สามารถช่วยลดการเกิดความเครียดจากการสูญเสียคนรักได
ความแตกต่างระหว่างการดูแลผู้ป่วยระยะท้ายในหออภิบาลผู้ป่วยวิกฤตและทั่วไป
Multidisciplinary team
แพทย์แต่ละสาขา
มุ่งเน้นในการรักษาอวัยวะที่ตนรับผิดชอบ
ผู้ป่วยในหอผู้ป่วยวิกฤติมีอาการไม่สุขสบายหลายอย่างและมีแนวโน้มถูกละเลย
ความไม่แน่นอนของอาการ
อาจส่งผลให้ผู้ป่วย
ครอบครัว และทีมสุขภาพอาจเข้าใจว่าเมื่อแย่ลงก็จะสามารถกลับมาดีขึ้นเหมือนเดิมได้
ทรัพยากรมีจำกัด
ความคาดหวังของผู้ป่วยและครอบครัว
มีความคาดหวังสูงที่จะดีขึ้นจากภาวการณ์เจ็บป่วยที่รุนแรง
สิ่งแวดล้อมในหออภิบาลผู้ป่ายวิกฤต
พลุกพล่าน วุ่นวาย
Professional culture
อาจเกิดภาวะหมดไฟ (burn out) หรือเกิดความกังวลจากหน้าที่การงานได้ง่าย
นางสาวกฤตยา โทนสังข์อินทร์ รหัส6001211160 Sec.A_55