Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ประเภทของการวิจัย, นางสาวณัฐชา เต็มนอง รุ่น 36/1 เลขที่35 612001036 -…
ประเภทของการวิจัย
6เเบ่งตามวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล
การวิจัยจากเอกสาร
ไปอ่าน ไปดูเอกสารงาวิจัยทีกําหนดไว้ ซึงจะดูเปนจุดๆ
เเล้วนํามาเขียนรายงานวิจัย
การวิจัยจากการสังเกตุ
ต้องกําหนดเเนวการสังเกตว่าจะสังเกตอะไรบ้าง
ทําเเบบสํามะโน
เปนการเก็บของมูลจาก ทุกๆหน่วยของประชากร
การวิจัยเเบบการสํารวจตัวอย่าง
เปนการวิจัยทีเก็บรวบรวมข้อมูลกลุ่มตัวอย่าง
ไม่ได้เคร่งครัด
การศึกษากรณีศึกษา
เปนการศึกษาเฉพาะกรณี ซึงเปยงานวิจัยทีสังคมนิยมมาก
ซึงเปนเรืองทีสนใจในขอบเขตจํากัดหรือแคบๆ
เเต่จะศึกษาลึกซึงในเรืองนันๆ
การศึกษาเเบบต่อเนือง
เปนการศึกษาทีมีการเก็บข้อมูลเปนระยะๆ
เปนการดูการเปลียนแปลง
ซึงจะทําให้เราทราบถึงการเปลียนเเปลงได้เปนอย่างดี
กาวิจัยเชิงทดลอง
เปนการเก็บข้อมูลจากการทดลอง
2แบ่งตามวัตถุประสงค์เเละวิธีการเสนอข้อมูล
วิจัยขันสํารวจ
การหาคําตอบเกียวกับทีเราศึกษา ว่าตัวเเปรเปนอย่างไร
ซึงไม่หาความสัมพันธ์ว่าตัวแปรสัมพันธ์กันอย่างไร
ไม่มีการทดลองใช้วิธีการบางอย่างเเล้วตัวเเปรเปนอย่างไร
การวิจัยเชิงบรรยาย
ไม่มีการทดลอง
เเต่สามารถทําตัวเเปรสองตัวเปรียบเทียบตัวแปรได้
การวิจัยเชิงอรรถาธิบาย
ไม่มีการทดลอง
เเต่หาปจจัยทีมีความสัมพันธ์ หรือหาปจจัยทีมีผลต่อตัวแปร
เพศ
อายุ
การศึกษา
อาชีพ
รายได้
การวิจัยเชิงคาดคะเน
เป็นวิจัยทีบอกสิ่งทียังไม่เกิด
เเต่คาดไว้ว่าจะเกิดอย่างไร
การวิจัยเชิงวินิจฉัย
เป็นการวิจัยเพื่อค้นหาปัญหาหรือสาเหตุของปัญหา
คําตอบของงานวิจัยนีจะเปนประโยชน์ในการเเก้ปญหา
4เเบ่งตามระเบียบวิธีกาวิจัย
การวิจัยเชิงประวัติศาสตร์
ปัจจุบันเปนอย่างไร
เปนการดูว่าในอดีตเกิดอะไรขึน
หาความสัมพันธ์ตัวเเปรบางตัวในอดีตกับปจจุบัน
นํามาทํานายอนาคตว่าจะเปนอย่างไร
เช่นการศึกษาบุคคลสําคัญ
การวิจัยเชิงบรรยาย
ไม่มีการทดลองใดๆ
เกิดขึนในปจจุบัน
การวิจัยแบบย้อนรอย
เปนการศึกษาจาผลไปหาเหตุ
ซึงผลในปจจุบันเกิดจากเหตุในอดีตและนําเหตุ ต่างๆมาเรียงเเล้วจัดคําตอบเปนกอบ
เอาเหตุมาเชือมกับผลเพือหาความสัมพันธ์กัน
เเล้วค่อยมาสรุปผลเปนลําดับจากมากไปน้อย
การวิจัยเชิงสํารวจ
ซึงส่วนมากจะเปนการสํารวจเเต่การสํารวจจะต้องถามทุกคนเเต่บางครัง ประชากร
มากเกินไปเราจึงต้องสุ่มกลุ่มตัวอย่างเลยทําให้การวิจัยนีไม่ค่อยเคร่งครัด หาคําตอบเกียวกับตัวแปร
การวิจัยเชิงประเมินผล
ซึงอาจใช้ CIPP แบบทีนักวิจัยไทยนิยม
รูปแบบการประเมินผลเชิงโครงการ
เปนตัวทีบอกบริบทคืออะไร imputคืออะไร
1แบ่งตามประโยชน์ของการนําผลการวิจัยไปใช้
การวิจัยพืนฐานหรือการวิจัยบริสุทธิ
เป็นวิจัยทีมุ่งสร้างทฤษฎี
เป็นกฏ ทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์
เป็นสูตร
เพือเป็นพืนฐานของการศึกษา
สิงที่ทํานี้จะทําให้เกิดประโยชนะกับคนที่จะมาศึกษางานวิจัยของเรา
การวิจัยประยุกต์
ความรู้ที่เกิดขึ้นนั้นสามารถนําไปใช้ได้เลย
ซึ้งได้ผลอย่างไรจะนําไปสู่การตัดสินใจครั้งต่อไป
การวิจัยเชิงปฏิบัติการ
เป็นงานวิจัยทีมุ่งให้เกิดผลทีจะนําไปพัฒนางานหรือเเก้ไขข้อบกพร่อง
ผลทีได้จากงานวิจัยเเบบนีมีความเฉพาะเจาะจง
ซึ้งถ้านําวิธีการของงานวิจัยนี้ไปใช้กับงานอื่นจะได้ผลหรือไม่
เเบ่งตามความสามารถในการควบคุม ตัวแปร
การวิจัยเชิงทดลอง
เป็นการวิจัยทีเเม่นยําทีสุด
ซึ้งเป็นการควบคุมตัวเเปรเเทรกซ้อนได้เต็มที
การวิจัยเชิงกึ่งทดลอง
เป็นการวิจัยทีควบคุมตัวเเปรเเทรกซ้อนได้บางส่วน
ตัวอย่าง สอนสุขศึกษากับครูทีสอนล้างมือ
ซึงการวิจัยทีทํากับคนทีไม่สามารถควบคุมความ รู้สึกได้ก็จัดอยู่ในงานวิจัยประเภทนี
การวิจัยเชิงธรรมชาติ
ไม่ต้องควบคุมตัวเเปรเเทรกซ้อน
ปล่อยให้ตัวเเปรเกิดขึนเองตามธรรมชาติ
เเล้วค่อยมาอภิปรายทีหลังเกียวกับผลทีเกิดขึน
5แบ่งตามลักษณะของข้อมูล
การวิจัยเชิงประมาณ
เปนการวิจัยทีอาศัยข้อมูลเชิงปริมาณ
มีการวิเคราะห์โดยใช้วิธีกาทางสถิติในการวิเคราะห์
การวิจัยเชิงคุณภาพ
เปนการสังเกตุ
บันทึก
วิพากษ์วิจารณ์
เเสดงความคิดเห็นเเล้วสรุปอภิปราย
การวิจัยเเบบผสม
เปนการวิจัยทีมีทังข้อมูลเชิงปริมาณเเละข้อมูลเชิงคุณภาพ
นํามาวิเคราะห์ซึงนํามาวิเคราะห์แยกกัน
เเบบคําตอบก่อนหลัง
แบบคู่ขนาน
นางสาวณัฐชา เต็มนอง รุ่น 36/1 เลขที่35 612001036