Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การบริหารยาฉีด - Coggle Diagram
การบริหารยาฉีด
กระบวนการพยาบาลในการบริหารยาฉีด
การประเมินสภาพ
การบริหารยาฉีดให้กับผู้ป่วยพยาบาลควรมีการประเมินผู้ป่วยก่อนให้ยา
การวินิจฉัยทางการพยาบาล
เมื่อรวบรวมข้อมูลที่ได้จากการประเมินสภาพทั้งหมดแล้ว
นำมาจัดหมวดหมู่ข้อมูล ให้การวินิจฉัยทางการพยาบาล
มีโอกาสเกิดภาวะเลือดออกง่าย/หยุดยาก เนื่องจากมีประวัติ/รอยโรค
มีโอกาสเกิดการแพ้ยาจากอาการข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์
วางแผนการพยาบาล
บริหารยาตามแผนการรักษาของแพทย์การให้ยาต้องคำนึงถึงหลัก
6Rs (10 Rs)
ปฏิบัติการพยาบาล
ขั้นการเตรียมอุปกรณ์ การเตรียมยาฉีด และการฉีดยาตามวิถีทาง
ต่างๆ ตามแผนการพยาบาลที่วางไว้
การประเมินผล
ควรมีการประเมินผู้ป่วยภายหลังจากได้รับยาทุกครั้ง เพื่อป้องกัน
ภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้
ตำแหน่งและวิธีการฉีดยาบริเวณต่างๆ
การฉีดยาเข้าชั้นผิวหนัง (Intradermal injection)
1.ไล่อากาศออกจากกระบอกฉีดยาจนหมดก่อนฉีดยา
2.ผิวหนังให้ตึง
3.แทงเข็มทำมุม 5-15 องศา กับผิวหนัง โดยหงายปลายตัดเข็มขึ้น และแทงเข้าไปเพียงให้ปลายตัดเข็มเลยเข้าไปในผิวหนังเล็กน้อย
4.ไม่ต้องทดสอบว่าปลายตัดเข็มอยู่ในหลอดเลือดหรือไม่
5.สังเกตบริเวณที่ฉีดจะมีตุ่มนูนขึ้นมา ถ้าไม่มีตุ่มนูน แสดงว่าฉีดลึกเข้าไปในชั้นใต้ผิวหนัง
6.ไม่ต้องคลึงบริเวณที่ฉีดยา
7.ใช้ปากกาลูกลื่นหมึกสีน้ำเงินหรือดำ เขียนรอบรอยนูนที่เกิดจากการฉีดยาและบอกผู้ป่วยไม่ให้ลบรอยหมึกที่เขียนไว้ จนกว่าจะอ่านผลเรียบร้อยแล้ว
การฉีดยาเข้าชั้นใต้ผิวหนัง (Subcutaneous injection)
1.ตำแหน่งสำหรับฉีดยาเข้าชั้นใต้ผิวหนัง
บริเวณต้นแขนส่วนกลางด้านนอก
บริเวณส่วนกลางของหน้าขา
บริเวณหน้าท้องที่อยู่ระหว่างแนวใต้ชายโครงกับแนวของ anterior
superior iliac spine ยกเว้นบริเวณรอบสะดือ 1 นิ้ว เพราะมี pain receptor มาก
บริเวณสะบัก
2.ทำผิวหนังให้ตึงก่อนแทงเข็ม หรือการใช้นิ้วมือจับรวบเนื้อเยื่อบริเวณที่จะฉีดเข้าหากัน แต่วิธีหลังนี้จะไม่ใช้ในการฉีด heparin
3.การแทงเข็มถ้าใช้เข็มยาว 5/8 นิ้ว ให้แทงเข็มทำมุม 45 องศำ ถ้าใช้เข็มยาว ½ นิ้ว ให้แทงเข็มทำมุม 90 องศา
4.การฉีด heparin ไม่ต้องทดสอบว่าปลายเข็มอยู่ในหลอดเลือดหรือไม่
5.การฉีด heparin และ insulin ห้ามคลึงบริเวณที่ฉีดยาแล้ว
การฉีดยาเข้าชั้นกล้ามเนื้อ
การหาตำแหน่งฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อ
วิธีหาตำแหน่งฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อต้นแขน (Deltoid muscle)
เป็นบริเวณที่อยู่ต่ำกว่าขอบล่างของ acromion process 2 นิ้ว เป็นบริเวณที่มีกล้ามเนื้อมาก
ควรฉีดบริเวณส่วนกลางของกล้ามเนื้อ ซึ่งมีขอบเขตเป็นรูปสามเหลี่ยม
วิธีหาตำแหน่งฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อสะโพก (Glutens muscle)
แบ่งสะโพกออกเป็น 3 ส่วนใช้ landmark 2 แห่ง
anterior superior iliac spine และ coccyx ลากเส้นสมมุติระหว่าง 2 จุด แบ่งเส้นสมมุติออกเป็น 3 ส่วนเท่าๆ กัน ตำแหน่งที่ฉีดยาได้คือส่วนแรกนับจาก anterior superior iliac spine โดยฉีดต่ำกว่าระดับของ iliac crestประมาณ 2-3 นิ้วมือ
แบ่งสะโพกออกเป็น 4 ส่วน
ด้านบน มีขอบเขตตามแนวของ iliac crest
ด้านล่าง มีขอบเขตตามแนวของก้นย้อย (glutealfold)
ด้านใน (medial) มีขอบเขตตามแนวแบ่งครึ่งจากกระดูก Coccyx ขึ้นไปตามแนวแบ่งครึ่งของกระดูก sacrum
ด้านนอก (lateral) มีขอบเขตตามแนวด้านข้างของต้นขาและสะโพก
ลากเส้นจาก posterior superior iliac spine ไปยังปุ่มกระดูกต้นขา(greater trochanter of the femur) เส้นนี้จะขนานกับ sciatic never ตำแหน่งที่ฉีด คือ ส่วนบนด้านนอกของเส้น ต่ำจากกขอบกระดูกเชิงกราน 2-3 นิ้วฟุต
วิธีหาตำแหน่งฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อ Vastus lateralis (กล้ามเนื้อหน้าขา)
แบ่งหน้าขาตามความยาว (จาก greater trochanter ไปยัง lateral femoral condyle) ออกเป็น 3ส่วน ส่วนกลางเป็นส่วนที่เหมาะสมสำหรับฉีดยา
วิธีการฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อ
1.ทำความสะอาดผิวหนังบริเวณที่จะฉีดยาด้วยสำลีชุบ alcohol70% โดยหมุนออกจากจุดที่จะแทงเข็มให้เป็นวงกว้างประมาณ 2-3 นิ้ว ปล่อยให้ alcoholแห้ง
2.ถอดปลายเข็มออก จับกระบอกฉีดยาตั้งขึ้น ไล่อากาศ
3.ถือกระบอกฉีดยาด้วยมือข้างถนัด ส่วนมือข้างไม่ถนัดทำผิวหนังบริเวณฉีดยาให้ตึง โดยใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้กางออกขณะกดลงบนผิวหนัง
4.แทงเข็มด้วยความเร็วและมั่นคง แทงเข็มทำมุม 90 องศา
5.ยึดหัวเข็มและกระบอกฉีดยาให้มั่นคง (ไม่โยกไปมาและไม่เลื่อนขึ้นลง) ด้วยมือข้างที่ไม่ถนัด และใช้มือข้างถนัดดึงลูกสูบขึ้นเล็กน้อย เพื่อทดสอบว่าปลายเข็มอยู่ในหลอดเลือดหรือไม่ ถ้าไม่มีเลือดเข้ามาในกระบอกฉีดยา ให้ใช้นิ้วหัวแม่มือข้างถนัดดันลูกสูบเดินยาช้า ๆ (ถ้ามีเลือดเข้ามาในกระบอกฉีดให้ยกเลิกการฉีดยานั้น และเตรียมยาฉีดใหม่)
6.เมื่อยาหมดให้ใช้สำลีกดตำแหน่งแทงเข็ม ขณะที่ถอนเข็มออกด้วยความรวดเร็ว
7.คลึงบริเวณฉีดยาเบา ๆ เพื่อช่วยให้ยาดูดซึมได้เร็วขึ้นและลดอาการเจ็บปวดได้ด้วย (ยกเว้นยาที่มีส่วนประกอบของโลหะหนัก)
8.ปลดเข็มออกจากกระบอกฉีดยา แยกเข็มฉีดยาทิ้งในชามรูปไต หรือภาชนะสำหรับทิ้งเข็มโดยเฉพาะเพื่อนำเข็มไปทำลายต่อไป
9.จัดเสื้อผ้าผู้ป่วยให้เรียบร้อย และจัดให้อยู่ในท่าที่สบาย
10.ล้างมือให้สะอาด
การบรรเทาความเจ็บปวดจากการฉีดยาเข้าชั้นกล้ามเนื้อ
1.เลือกเข็มเบอร์เล็กที่สุดที่เหมาะสมกับชนิดของยาและตำแหน่งที่จะฉีดยา
2.เข็มที่ใช้ฉีดยาจะต้องไม่มียาเคลือบอยู่ภายนอก เพราะยาจะระคายเคืองเนื้อเยื่อที่เข็มแทงผ่าน ทำให้ผู้ป่วยปวดและมีอันตรายต่อเนื้อเยื่อได้
3.ใช้ Z-track technique ในการฉีดยาเข้าชั้นกล้ามเนื้อ จะทำให้ผู้ป่วยเจ็บปวดน้อยลงกว่าวิธีฉีดเข้ากล้ามเนื้อแบบดั้งเดิม
4.จัดท่าให้ผู้ป่วยผ่อนคลายที่สุด จะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดและไม่สุขสบายลงได้
5.อย่าฉีดยาบริเวณที่เนื้อเยื่อแข็งตัวหรือกดเจ็บ
6.แทงเข็มและดึงเข็มออกจากเนื้อเยื่ออย่างรวดเร็ว ในทิศทางเดียวกัน
7.จับกระบอกฉีดยาให้อยู่กับที่ขณะฉีด
8.เดินยาช้าๆ เพื่อให้ยากระจายไปรอบๆ เนื้อเยื่อได้ดีกดบริเวณที่ฉีดเบาๆ หลังฉีดยา ยกเว้นมีข้อห้าม
ขั้นเตรียมการก่อนฉีดยา
ตรวจความพร้อมของเครื่องใช้
ถามชื่อ – สกุลของผู้ป่วย รวมถึงประวัติการแพ้ยา
อธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจ
จัดท่าและเสื้อผ้าผู้ป่วย เปิดบริเวณที่จะฉีดยาให้กว้างพอ หากเป็นบริเวณที่ไม่ควรเปิดเผยควรปิดประตูหรือกั้นม่าน
ล้างมือให้สะอาด สวมถุงมือ
เลือกบริเวณสำหรับฉีดยา ควรหลีกเลี่ยงการฉีดยาในบริเวณที่มีการอักเสบ ช้ำบวม เป็นแผลมีก้อนแข็ง หรือเป็นอัมพาต
วิธีการเตรียมยาฉีดชนิดต่างๆ
อุปกรณ์สำหรับการเตรียมยาฉีดชนิดต่างๆ
ยาฉีด (Medication)
ยาที่บรรจุในหลอดจะเป็นยาน้ำซึ่งใช้ฉีดครั้งเดียว (single dose)
ยาที่บรรจุในขวดจะมีทั้งชนิดที่เป็นผงและยาน้ำ มีทั้งแบบ single dose และmultiple dose
กระบอกฉีดยา (Syringe)
ประกอบด้วย2 ส่วน
กระบอก (barrel)
ซึ่งมีปลาย (tip)
ลูกสูบ (plunger)
เข็มฉีดยา
ส่วนมากทำจาก stainless steel และเป็นชนิดใช้ครั้งเดียว
ประกอบด้วย 3 ส่วน
หัวเข็ม (hub)
สามารถจับต้องได้ขณะทำให้หัวเข็มและปลายหลอดฉีดยายึดติดกัน
ตัวเข็ม (shaft)
จับต้องไม่ได้ต้องรักษาสภาวะปราศจากเชื้อจะมีปลอกพลาสติกครอบไว้
ปลายเข็ม (bevel or slanted tip)
จับต้องไม่ได้ต้องรักษาสภาวะปราศจากเชื้อจะมีปลอกพลาสติกครอบไว้
การเลือกเข็มฉีดยา
พิจารณาจากความลาดเอียงหรือความยาวของปลายปาด
ความยาวของตัวเข็มฉีดยา
เบอร์เข็ม
ถ้าเบอร์เข็มใหญ่ ขนาดของเส้นผ่าศูนย์กลางของตัวเข็มจะเล็กแต่ถ้าเบอร์เข็มเล็กขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางจะใหญ่
การเลือกเข็มและกระบอกฉีดยาเพื่อใช้ในการฉีดยา
ขึ้นอยู่กับเกณฑ์ดังต่อไปนี้
ชนิดของยา
ฉีดยาอินซูลิน
ใช้กระบอกฉีดยาสำหรับฉีดอินซูลินโดยเฉพาะ
ปริมาณของยาที่จะฉีด
ทางที่ให้ยาเข้าสู่ร่างกาย (route of administration)
ความหนืดของยา (viscosity of the solution)
ขนาดรูปร่างของผู้ป่วย
วิธีการเตรียมยาฉีดชนิดต่างๆ
ก่อนการลงมือผสมยาฉีดตามแผนการรักษาผู้เตรียมควรปฏิบัติดังนี้
ซักถามประวัติการแพ้ยาของผู้ป่วย
อ่านและตรวจสอบรายละเอียดบนขวดยาหรือหลอดยาเกี่ยวกับชื่อยา วิถีทางการให้ยา วันหมดอายุของยา (Exp.date)
ศึกษาเกี่ยวกับขนาด ฤทธิ์ข้างเคียง วิธีละลายยาในกรณีเป็นยาผง
คำนวณปริมาณยาฉีดที่ผู้ป่วยควรได้รับอย่างถูกต้อง
ดูแลบริเวณสำหรับเตรียมยาให้สะอาด แห้ง มีแสงสว่างเพียงพอ
ตรวจดูความพร้อมของเครื่องมือเครื่องใช้
ล้างมือให้สะอาด เช็ดมือ
วิธีเตรียมยาฉีดจากยาน้ำบรรจุหลอด (Ampule)
1.ทำความสะอาดรอบคอหลอดยา และใบเลื่อยด้วยสำลีชุบalcohol70%
2.เลื่อยรอบคอหลอดยาพอเป็นรอย โดยคลี่สำลีชุบ alcohol รองหลังคอหลอดยา ถ้ำมียาค้างอยู่เหนือคอหลอดยาต้องไล่ยาลงไปอยู่ส่วนใต้คอหลอดยา
3.เช็ดรอบคอหลอดยาด้วยสำลีชุบ alcohol
4.คลี่สำลีชุบ alcoholหรือ gauze ที่ผ่านการฆ่าเชื้อโรคแล้วหุ้มรอบบริเวณคอหลอดยาเพื่อป้องกันหลอดยาที่หักปลายแล้วบาดนิ้วมือ แล้วทำการหักหลอดยา วางหลอดยาที่หักปลายแล้วในบริเวณที่ไม่ถูกปนเปื้อน
5.ฉีกซองกระบอกฉีดยาโดยระวังมิให้เกิดกำรปนเปื้อน
6.สวมหัวเข็มสำหรับดูดยาเข้ากับปลายกระบอกฉีดยา บิดหัวเข็มให้แน่น
พอประมาณ
7.ถอดปลอกเข็มออก จับหลอดยาด้วยมือข้างที่ไม่ถนัด ถือกระบอกฉีดยาด้วยมือข้างที่ถนัด สอดเข็มเข้าหลอดยา ระวังมิให้เข็มสัมผัสกับด้านนอกและปากหลอดยา
8.เอียงหลอดยาให้ปลายตัดเข็มจุ่มในน้ำยา ดูดยาตามจำนวนที่ต้องการ
9.ตรวจสอบชื่อยาบนหลอดยาอีกครั้งหนึ่งก่อนทิ้งหลอดยา
10.เปลี่ยนเข็มใหม่ เลือกขนาด และความยาวที่เหมาะสมสำหรับการฉีดยานั้น ๆ
11.ถ้าเตรียมยาสำหรับฉีดผู้ป่วยหลายคนหรือหลายชนิดพร้อมกัน ควรวางกระบอกฉีดยาที่เตรียมยาแล้วบนถาดที่มีผ้าสะอาดปูรอง และมีการ์ดยาแนบกระบอกฉีดยาไว้เพื่อป้องกันการนำยาผิดชนิดไปฉีดให้ผู้ป่วย
วิธีเตรียมยาฉีดจากยาน้ำบรรจุขวด (Vial)
1.เขย่าขวดยาเบา ๆ ให้ยาเข้ากัน
3.ฉีกซองห่อกระบอกฉีดยาโดยระวังมิให้เกิดการปนเปื้อน
2.ทำความสะอาดจุกขวดยาด้วยสำลีชุบ alcohol70% โดยวิธีหมุนจากจุดที่
แทงเข็มวนออกด้านนอกจนถึงคอขวดยา
4.สวมหัวเข็มสำหรับดูดยาเข้ากับปลายกระบอกฉีดยา บิดหัวเข็มให้แน่น
พอประมาณ
5.ถอดปลอกเข็มออก ดูดอากาศเข้ำกระบอกฉีดยาเท่าปริมาณยาที่ต้องการ
6.แทงเข็มเข้าจุกยางใช้นิ้วหัวแม่มือดันลูกสูบให้อากาศเข้าขวดยาจนหมด
7.คว่ำขวดยาลง โดยให้นิ้วดันลูกสูบอยู่ ปรับให้ปลายตัดเข็มอยู่ในน้ำยา
8.ค่อย ๆ ปล่อยนิ้วที่ดันลูกสูบออก น้ำยาจากขวดจะไหลเข้ามาในกระบอกฉีดยา เมื่อได้ยาครบตามปริมาณที่ต้องการ ถอนเข็มและกระบอกฉีดยาออกจากจุกขวดยา
9.ตรวจสอบชื่อยาบนขวดยาอีกครั้งหนึ่ง
10.เปลี่ยนเข็มใหม่ เลือกขนาด และความยาวที่เหมาะสมสำหรับการฉีดยานั้น ๆ
11.หากเตรียมยาสำหรับฉีดผู้ป่วยหลายคน หรือหลายชนิดพร้อมกัน ควรวางกระบอกฉีดยา ที่เตรียมยาแล้วบนถาดที่มีผ้าสะอาดปูรอง และแนบการ์ดยาไว้เพื่อป้องกันการนำยาผิดชนิดไปฉีดให้ผู้ป่วย
วิธีเตรียมยาฉีดจากยาผงบรรจุขวด (วิธีละลายยา)
1.ตรวจดูตัวทำละลาย (น้ำกลั่นหรือน้ำเกลือ) ว่ามีฝุ่นผงหรือไม่ โดยคว่ำขวดยกส่องดู หากมีฝุ่นผง ไม่ควรนำมาใช้
2.ทำความสะอาดจุกขวดตัวทำละลาย และจุกขวดยาด้วยสำลีชุบ
alcohol70% จนถึงคอขวด ปล่อยให้ alcohol แห้ง
3.ดูดตัวทำละลายตามปริมาณที่ต้องการ ด้วยวิธีเดียวกับการเตรียมยาฉีดจากยาน้ำบรรจุขวด เมื่อได้ตัวทำละลายแล้วให้ฉีดตัวทำละลายเข้าในขวดยาผง โดยแทงเข็มเข้าจุกขวดยาแล้วดันลูกสูบ ให้ตัวทำละลายเข้ำไปในขวดยาจนหมด หลังจากนั้นปล่อยนิ้วที่ดันลูกสูบออก อากาศที่ถูกแทนที่ด้วยตัวทำละลายจะเข้ามาในกระบอกฉีดยาจนหมด ความดันในขวดยาจะเท่ากับความดันในบรรยากาศ
4.ถอนเข็ม และกระบอกฉีดยาออกจากขวดยา นำปลอกเข็มที่ถอดออกมาสวมครอบเข็มไว้
5.เขย่าขวดให้ตัวทำละลาย ละลายผงจนหมดเป็นเนื้อเดียวกัน
6.ทำความสะอาดจุกขวดยาอีกครั้งด้วยสำลีชุบ alcoholปล่อยให้ alcohol แห้ง
7.ใช้กระบอกฉีดยาพร้อมเข็มชุดเดิม ดูดยาออกจากขวดตามปริมาณที่ต้องการ
8.หากยาที่ละลายแล้วใช้ไม่หมด และมีอายุที่จะเก็บไว้ใช้ได้ให้เขียนฉลากติดขวดไว้เกี่ยวกับความเข้มข้นของยา วัน เดือน ปีที่ละลาย ผู้ละลาย และเก็บยาไว้ในที่ที่เหมาะสมตามสลากยาที่แนบมากับยา
การคำนวณขนาดยา
ต้องฝึกการนวณยาให้ได้เพื่อจะได้ทำการเตรียมยาฉีด
ชนิดต่างๆ ได้อย่างถูกต้องครบตามขนาดที่แพทย์สั่ง