Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การบริหารยาฉีด - Coggle Diagram
การบริหารยาฉีด
กระบวนการพยาบาลในการบริหารยาฉีด
วางแผนการพยาบาล
บริหารยาตามแผนการรักษาของแพทย์ การให้ยาต้องคำนึงถึงหลัก 6Rs (10 Rs)
ปฏิบัติการพยาบาล
ในขั้นการเตรียมอุปกรณ์ การเตรียมยาฉีด และการฉีดยาตามวิถีทาง ต่างๆ ตามแผนการพยาบาลที่วางไว้
การวินิจฉัยทางการพยาบาล
เมื่อรวบรวมข้อมูลที่ได้จากการประเมินสภาพทั้งหมดแล้ว นำมาจัดหมวดหมู่ข้อมูล ให้การวินิจฉัยทางการพยาบาล
มีโอกาสเกิดภาวะเลือดออกง่าย/หยุดยาก เนื่องจากมีประวัติ/รอยโรค
มีโอกาศเกิดการแพ้ยาจาอาการข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์
การประเมินผล
ควรมีการประเมินผู้ป่วยภายหลังจากได้รับยาทุกครั้ง เพื่อป้องกัน ภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้
การประเมินสภาพ
การบริหารยาฉีดให้กับผู้ป่วยพยาบาลควรมีการประเมินผู้ป่วยก่อนให้ยา เช่น การซักประวัติการได้รับยา การแพ้ยา โรคประจำตัว เป็นต้น รวมทั้งก่อนให้ยาควรประเมินตำแหน่งที่ สามารถฉีดยาได้ รวมทั้งการประเมินอาการก่อนและหลังการได้รับยา อีกทั้งควรมีการประเมินปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย
ตำแหน่งและวิธีการฉีดยาบริเวณต่างๆ
การฉีดยาเข้าชั้นผิวหนัง (Intradermal injection)
ไม่ต้องทดสอบว่าปลายตัดเข็มอยู่ในหลอดเลือดหรือไม่
สังเกตบริเวณที่ฉีดจะมีตุ่มนูนขึ้นมา ถ้าไม่มีตุ่มนูน แสดงว่าฉีดลึกเข้าไปในชั้นใต้
ผิวหนัง
แทงเข็มทำมุม 5-15 องศา กับผิวหนัง โดยหงายปลายตัดเข็มขึ้น และแทงเข้าไป เพียงให้ปลายตัดเข็มเลยเข้าไปในผิวหนังเล็กน้อย หมายเหตุ : การแทงเข็มมุมกว้าง และแทงลึก จะทำให้ปลายเข็มเข้าไปในชั้นใต้ผิวหนัง
ไม่ต้องคลึงบริเวณที่ฉีดยา
ผิวหนังให้ตึง
ใช้ปำกกาลูกลื่นหมึกสีน้ำเงินหรือดำ เขียนรอบรอยนูนที่เกิดจำกการฉีดยาและ บอกผู้ป่วยไม่ให้ลบรอยหมึกที่เขียนไว้ จนกว่าจะอ่านผลเรียบร้อยแล้ว
ไล่อากาศออกจากกระบอกฉีดยาจนหมดก่อนฉีดยา
การฉีดยาเข้าชั้นใต้ผิวหนัง (Subcutaneous injection)
การแทงเข็มถ้าใช้เข็มยาว 5/8 นิ้ว ให้แทงเข็มทำมุม 45 องศา ถ้าใช้เข็มยาว ½ นิ้ว ให้แทงเข็มทำมุม 90 องศา
การฉีด heparin ไม่ต้องทดสอบว่าปลายเข็มอยู่ในหลอดเลือดหรือไม่
ท ำผิวหนังให้ตึงก่อนแทงเข็ม หรือการใช้นิ้วมือจับรวบเนื้อเยื่อบริเวณที่จะฉีดเข้า หากัน แต่วิธีหลังนี้จะไม่ใช้ในการฉีด heparin
การฉีด heparin และ insulin ห้ามคลึงบริเวณที่ฉีดยาแล้ว
ต ำแหน่งส ำหรับฉีดยำเข้ำชั้นใต้ผิวหนัง
บริเวณส่วนกลางของหน้าขา
บริเวณหน้าท้องที่อยู่ระหว่างแนวใต้ชายโครงกับแนวของ anterior superior iliac spine ยกเว้นบริเวณรอบสะดือ 1 นิ้ว เพราะมี pain receptor มาก
บริเวณต้นแขนส่วนกลางด้านนอก
บริเวณสะบัก
ขั้นเตรียมการก่อนฉีดยา
อธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจ
เลือกบริเวณสำหรับฉีดยา ควรหลีกเลี่ยงการฉีดยาในบริเวณที่มีการอักเสบ ช้ำบวม เป็นแผล มีก้อนแข็ง หรือเป็นอัมพาต
ถามชื่อ – สกุลของผู้ป่วย รวมถึงประวัติการแพ้ยา
จัดท่าและเสื้อผ้าผู้ป่วย เปิดบริเวณที่จะฉีดยาให้กว้างพอ หากเป็นบริเวณที่ไม่ควรเปิดเผยควร ปิดประตูหรือกั้นม่าน
ตรวจความพร้อมของเครื่องใช้
ล้างมือให้สะอาด สวมถุงมือ
การฉีดยาเข้าชั้นกล้ามเนื้อ
การหาตำแหน่งฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อ
วิธีหาตำแหน่งฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อต้นแขน (Deltoid muscle) เป็นบริเวณที่ อยู่ต่ำกว่าขอบล่างของ acromion process 2 นิ้ว เป็นบริเวณที่มีกล้ามเนื้อมาก ควรฉีดบริเวณส่วนกลาง ของกล้ามเนื้อ ซึ่งมีขอบเขตเป็นรูปสามเหลี่ยม
วิธีหาตำแหน่งฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อสะโพก (Glutens muscle) มี 3 วิธี
วิธีที่ 2 แบ่งสะโพกออกเป็น 4 ส่วน โดยมีขอบเขตดังนี้
ด้านบน มีขอบเขตตามแนวของ iliac crest
ด้านล่าง มีขอบเขตตามแนวของก้นย้อย (glutealfold)
ด้านใน (medial) มีขอบเขตตามแนวแบ่งครึ่งจากกระดูก Coccyx ขึ้นไปตาม แนวแบ่งครึ่งของกระดูก sacrum
ด้านนอก (lateral) มีขอบเขตตามแนวด้านข้างของต้นขาและสะโพก
วิธีที่ 3 ลากเส้นจาก posterior superior iliac spine ไปยังปุ่มกระดูกต้นขา (greater trochanter of the femur) เส้นนี้จะขนานกับ sciatic never ตำแหน่งที่ฉีด คือ ส่วนบนด้าน นอกของเส้น ต่ำจากขอบกระดูกเชิงกรำน 2-3 นิ้วฟุต
แบ่งสะโพกออกเป็น 3 ส่วนใช้ landmark 2 แห่ง คือ anterior superior iliac spine และ coccyx ลากเส้นสมมุติระหว่าง 2 จุด แบ่งเส้นสมมุติออกเป็น 3 ส่วนเท่าๆ กัน ตำแหน่ง ที่ฉีดยาได้คือส่วนแรกนับจาก anterior superior iliac spine โดยฉีดต่ำกว่าระดับของ iliac crest ประมาณ 2-3 นิ้วมือ
วิธีหำต ำแหน่งฉีดยำเข้ำกล้ำมเนื้อ Vastus lateralis (กล้ำมเนื้อหน้ำขำ) ให้ แบ่งหน้ำขำตำมควำมยำว (จำก greater trochanter ไปยัง lateral femoral condyle) ออกเป็น 3 ส่วน ส่วนกลำงเป็นส่วนที่เหมำะสมส ำหรับฉีดยำ
วิธีการฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อ
ถือกระบอกฉีดยาด้วยมือข้างถนัด ส่วนมือข้างไม่ถนัดทำผิวหนังบริเวณฉีดยาให้ ตึง โดยใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้กางออกขณะกดลงบนผิวหนัง
แทงเข็มด้วยความเร็วและมั่นคง แทงเข็มทำมุม 90 องศา
ถอดปลายเข็มออก จับกระบอกฉีดยาตั้งขึ้น ไล่อากาศ
ยึดหัวเข็มและกระบอกฉีดยาให้มั่นคง (ไม่โยกไปมา และไม่เลื่อนขึ้นลง) ด้วยมือ ข้างที่ไม่ถนัด และใช้มือข้างถนัดดึงลูกสูบขึ้นเล็กน้อย เพื่อทดสอบว่าปลายเข็มอยู่ในหลอดเลือดหรือไม่ ถ้า ไม่มีเลือดเข้ามาในกระบอกฉีดยา ให้ใช้นิ้วหัวแม่มือข้างถนัดดันลูกสูบเดินยาช้า ๆ (ถ้ามีเลือดเข้ามาใน กระบอกฉีดให้ยกเลิกกำรฉีดยานั้น และเตรียมยาฉีดใหม่)
ทำความสะอาดผิวหนังบริเวณที่จะฉีดยำด้วยสำลีชุบ alcohol70% โดยหมุนออก จากจุดที่จะแทงเข็มให้เป็นวงกว้างประมาณ 2-3 นิ้ว ปล่อยให้ alcoholแห้ง
เมื่อยาหมดให้ใช้สำลีกดตำแหน่งแทงเข็ม ขณะที่ถอนเข็มออกด้วยความรวดเร็ว
คลึงบริเวณฉีดยาเบำ ๆ เพื่อช่วยให้ยาดูดซึมได้เร็วขึ้นและลดอาการเจ็บปวดได้ ด้วย (ยกเว้นยาที่มีส่วนประกอบของโลหะหนัก)
ปลดเข็มออกจากกระบอกฉีดยา แยกเข็มฉีดยาทิ้งในชามรูปไต หรือภาชนะ สำหรับทิ้งเข็มโดยเฉพาะเพื่อนำเข็มไปทำลายต่อไป
จัดเสื้อผ้าผู้ป่วยให้เรียบร้อย และจัดให้อยู่ในท่าที่สบาย (ถ้าเป็นผู้ป่วยนอก ควรให้ ผู้ป่วยพักเพื่อสังเกตอาการประมาณ 15 นาที)
ล้างมือให้สะอาด
การบรรเทาความเจ็บปวดจากการฉีดยาเข้าชั้นกล้ามเนื้อ
จัดท่าให้ผู้ป่วยผ่อนคลายที่สุด จะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดและไม่สุขสบายลงได้
อย่าฉีดยาบริเวณที่เนื้อเยื่อแข็งตัวหรือกดเจ็บ
ใช้ Z-track technique ในการฉีดยาเข้าชั้นกล้ามเนื้อ จะทำให้ผู้ป่วยเจ็บปวดน้อยลง กว่าวิธีฉีดเข้ากล้ามเนื้อแบบดั้งเดิม
แทงเข็มและดึงเข็มออกจากเนื้อเยื่ออย่างรวดเร็ว ในทิศทางเดียวกัน
เข็มที่ใช้ฉีดยาจะต้องไม่มียาเคลือบอยู่ภายนอก เพราะยาจะระคายเคืองเนื้อเยื่อที่เข็มแทง ผ่าน ทำให้ผู้ป่วยปวดและมีอันตรายต่อเนื้อเยื่อได้
จับกระบอกฉีดยาให้อยู่กับที่ขณะฉีด
เลือกเข็มเบอร์เล็กที่สุดที่เหมาะสมกับชนิดของยาและตำแหน่งที่จะฉีดยา
เดินยาช้าๆ เพื่อให้ยากระจายไปรอบๆ เนื้อเยื่อได้ดี กดบริเวณที่ฉีดเบาๆ หลังฉีดยา ยกเว้นมีข้อห้าม
วิธีการเตรียมยาชนิดต่างๆ
อุปกรณ์สำหรับการเตรียมยาฉีดชนิดต่างๆ
กระบอกฉีดยา (Syringe)
ส่วนที่1
กระบอก (barrel)
มีปลาย (tip) ที่มีขนาดสวมได้พอดีกับหัวเข็มฉีดยา
ส่วนที่ 2
ลูกสูบ (plunger)
ทำด้วยพลาสติกซึ่งใช้แล้วทิ้ง
ทำด้วยแก้ว
เมื่อล้างสะอาดแล้วและทำให้แห้งจะห่อด้วยผ้า 2 ชั้น แยกลูกสูบและกระบอกออกจากกัน
ห่อส่วนที่เป็นกระบอกไว้นอกสุด เพรำะเป็นส่วนที่จับต้องได้
เปิดห่อกระบอกฉีดยาต้องระวังไม่ให้ ปนเปื้อน
ให้รักษาด้านในผ้าขาวเพื่อใช้ปูรองกระบอกฉีดยาที่จัดเตรียมยาเสร็จแล้ว
กระบอกฉีดยามีหลำยขนาดตั้งแต่ 0.5-50 ml
เข็มฉีดยา
ส่วนบริเวณหัวเข็มสามารถจับต้องได้ขณะทำให้หัวเข็มและปลายหลอดฉีดยายึดติดกัน แต่ส่วนของตัวเข็มและปลายเข็มจับต้องไม่ได้ต้องรักษาสภาวะปราศจากเชื้อไว้
การเลือกเข็มฉีดยา
เบอร์เข็ม มีตั้งแต่เบอร์ 18 ถึง 28 ถ้าเบอร์เข็มใหญ่ ขนาดของเส้นผ่าศูนย์กลาง ของตัวเข็มจะเล็ก แต่ถ้าเบอร์เข็มเล็กขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางจะใหญ่ขึ้น
การเลือกเข็มและกระบอกฉีดยาเพื่อใช้ในการฉีดยา ขึ้นอยู่กับเกณฑ์ดังต่อไปนี้
ทางที่ให้ยาเข้าสู่ร่างกาย (route of administration) เช่น ฉีดยาเข้าชั้นกล้ามเนื้อใช้ เข็มยาวกว่าฉีดเข้าชั้นใต้ผิวหนัง และชั้นผิวหนัง
ความหนืดของยา (viscosity of the solution)
ปริมาณของยาที่จะฉีด
ขนาดรูปร่างของผู้ป่วย
ชนิดของยา เช่น ฉีดยาอินซูลิน ต้องใช้กระบอกฉีดยาสำหรับฉีดอินซูลินโดยเฉพาะ การฉีดยาเข้าชั้นกล้ามเนื้อจะต้องเลือกใช้เข็มที่ยาวกว่าการฉีดยาเข้าชั้นใต้ผิวหนัง เป็นต้น
พิจารณาจากความลาดเอียงหรือความยาวของปลายปาด ความ ยาวของตัวเข็มฉีดยา
ส่วนมากทำจาก stainless steel และเป็นชนิดใช้ครั้งเดียว (disposable)
ตัวเข็ม (shaft)
เป็นส่วนที่ต่อจากหัวเข็ม
ปลายเข็ม (bevel or slanted tip)
หัวเข็ม (hub)
ีขนาดพอดีกับปลาย กระบอกฉีดยา
ยาฉีด (Medication)
ยาที่บรรจุในหลอดจะเป็นยาน้ำซึ่งใช้ฉีดครั้งเดียว (single dose) ถ้าใช้ไม่หมดต้องทิ้ง ไป เพราะเมื่อหลอดยาถูกหักแล้วจะไม่สามารถรักษาให้อยู่ในสภาพปราศจากเชื้อได้
ยาที่บรรจุในขวดจะมีทั้งชนิดที่เป็นผงและยาน้ำ มีทั้งแบบ single dose และ multiple dose ยาที่เป็นผงจะมีความคงตัวต่ำ จุกขวดจะเป็นยางและมีแผ่นโลหะยึดรอบริมของขอบจุก ยางไว้กันปากขวดส่วนกลางของจุกยางจะบางเพื่อให้ง่ายต่อการแทงเข็มตรงส่วนกลางของจุกยางจะมีแผ่น โลหะหรือฝำพลาสติกปิดไว้อีกครั้งหนึ่งก่อนดูดยาออกจากขวดต้องเปิดแผ่นโลหะหรือฝำพลาสติกออก บน หลอดยาหรือขวดยาจะมีชื่อยา ปริมาณยา วิถีทางให้ยา วันหมดอายุของยาอยู่ ยาฉีดบางชนิดที่เป็นผงจะบอกชื่อ และปริมาณของตัวทำละลายยาไว้ด้วย
วิธีการเตรียมยาฉีดชนิดต่างๆ
ควรเตรียมอุปกรณ์เพิ่มเติม สำหรับการผสมยาฉีด ได้แก่ ถาด ผ้ารองถาดยา อับสำลี กระปุก forceps card ยา (หรือใบบันทึกการให้ยา)
เมื่อเตรียมอุปกรณ์พร้อมแล้วก่อนการลงมือผสมยาฉีดตามแผนการรักษาผู้เตรียมควรปฏิบัติดังนี้
ซักถามประวัติการแพ้ยาของผู้ป่วย
อ่านและตรวจสอบรายละเอียดบนขวดยาหรือหลอดยาเกี่ยวกับชื่อยา วิถีทางการให้ยา วันหมดอายุของยา (Exp.date)
ศึกษาเกี่ยวกับขนาด ฤทธิ์ข้างเคียง วิธีละลายยาในกรณีเป็นยาผง
คำนวณปริมาณยาฉีดที่ผู้ป่วยควรได้รับอย่างถูกต้อง
ดูแลบริเวณสำหรับเตรียมยาให้สะอาด แห้ง มีแสงสว่างเพียงพอ
ตรวจดูความพร้อมของเครื่องมือเครื่องใช้
ล้างมือให้สะอาดเช็ดมือ
วิธีเตรียมยาฉีดจากยาน้ าบรรจุหลอด (Ampule)
เลื่อยรอบคอหลอดยาพอเป็นรอย โดยคลี่สำลีชุบ alcohol รองหลังคอหลอดยา ถ้ามียาค้างอยู่เหนือคอหลอดยาต้องไล่ยาลงไปอยู่ส่วนใต้คอหลอดยา ถ้าหลอดยามีแถบสีที่คอหลอดยาไม่ จำเป็นต้องเลื่อยคอหลอดยา
เช็ดรอบคอหลอดยาด้วยสำลีชุบ alcohol
ทำความสะอาดรอบคอหลอดยา และใบเลื่อยด้วยสำลีชุบalcohol70%
คลี่สำลีชุบalcoholหรือ gauze ที่ผ่านการฆ่าเชื้อโรคแล้วหุ้มรอบบริเวณคอหลอด ยาเพื่อป้องกันหลอดยาที่หักปลายแล้วบาดนิ้วมือ แล้วทำการหักหลอดยา วางหลอดยาที่หักปลายแล้วใน บริเวณที่ไม่ถูกปนเปื้อน
ฉีกซองกระบอกฉีดยาโดยระวังมิให้เกิดการปนเปื้อน
สวมหัวเข็มสำหรับดูดยาเข้ากับปลายกระบอกฉีดยา บิดหัวเข็มให้แน่น
พอประมาณ
สวมหัวเข็มสำหรับดูดยาเข้ากับปลายกระบอกฉีดยา บิดหัวเข็มให้แน่น
พอประมาณ
เอียงหลอดยาให้ปลายตัดเข็มจุ่มในน้ำยา ดูดยาตามจำนวนที่ต้องการ
ตรวจสอบชื่อยาบนหลอดยาอีกครั้งหนึ่งก่อนทิ้งหลอดยา
เปลี่ยนเข็มใหม่ เลือกขนาด และความยาวที่เหมาะสมสำหรับการฉีดยานั้น ๆ
ถ้าเตรียมยาสำหรับฉีดผู้ป่วยหลายคนหรือหลายชนิดพร้อมกัน ควรวาง กระบอกฉีดยาที่เตรียมยาแล้วบนถาดที่มีผ้าสะอาดปูรอง และมีการ์ดยาแนบกระบอกฉีดยาไว้เพื่อป้องกัน การนำยาผิดชนิดไปฉีดให้ผู้ป่วย
วิธีเตรียมยาฉีดจากยาน้ าบรรจุขวด (Vial)
แทงเข็มเข้าจุกยางใช้นิ้วหัวแม่มือดันลูกสูบให้อากาศเข้าขวดยาจนหมด
คว่ำขวดยาลง โดยให้นิ้วดันลูกสูบอยู่ ปรับให้ปลายตัดเข็มอยู่ในน้ำยา
ถอดปลอกเข็มออก ดูดอากาศเข้ากระบอกฉีดยาเท่าปริมาณยาที่ต้องการ
ค่อย ๆ ปล่อยนิ้วที่ดันลูกสูบออก น้ำยาจากขวดจะไหลเข้ามาในกระบอกฉีดยา เมื่อได้ยาครบตามปริมาณที่ต้องการ ถอนเข็มและกระบอกฉีดยาออกจำกจุกขวดยา
สวมหัวเข็มสำหรับดูดยาเข้ากับปลายกระบอกฉีดยา บิดหัวเข็มให้แน่น
พอประมาณ
ตรวจสอบชื่อยาบนขวดยาอีกครั้งหนึ่ง
ฉีกซองห่อกระบอกฉีดยาโดยระวังมิให้เกิดการปนเปื้อน
เปลี่ยนเข็มใหม่ เลือกขนาด และความยาวที่เหมาะสมสำหรับการฉีดยานั้น ๆ
ทำความสะอาดจุกขวดยาด้วยสำลีชุบ alcohol70% โดยวิธีหมุนจากจุดที่ แทงเข็มวนออกด้านนอกจนถึงคอขวดยา (ถ้ามีแผ่นโลหะปิดอยู่บนจุกยางให้ดึงออกแล้วทำความสะอาดอีกครั้งหนึ่ง) ปล่อยให้ alcohol แห้ง
หากเตรียมยำสำหรับฉีดผู้ป่วยหลายคน หรือหลายชนิดพร้อมกัน ควรวาง กระบอกฉีดยา (ที่เตรียมยาแล้ว) บนถาดที่มีผ้าสะอาดปูรอง และแนบกำร์ดยาไว้เพื่อป้องกันกำรนำยาผิด ชนิดไปฉีดให้ผู้ป่วย
เขย่าขวดยาเบา ๆ ให้ยาเข้ากัน
วิธีเตรียมยาฉีดจากยาผงบรรจุขวด (วิธีละลายยา)
ถอนเข็ม และกระบอกฉีดยาออกจากขวดยา นำปลอกเข็มที่ถอดออกมาสวม
ครอบเข็มไว้
เขย่าขวดให้ตัวทำละลายละลายผงจนหมดเป็นเนื้อเดียวกัน
ดูดตัวทำละลายตามปริมาณที่ต้องการ ด้วยวิธีเดียวกับการเตรียมยาฉีดจากย น้ำบรรจุขวด เมื่อได้ตัวทำละลายแล้วให้ฉีดตัวทำละลายเข้าในขวดยาผง โดยแทงเข็มเข้าจุกขวดยาแล้วดัน ลูกสูบ ให้ตัวทำละลายเข้าไปในขวดยาจนหมด หลังจากนั้นปล่อยนิ้วที่ดันลูกสูบออก อากาศที่ถูกแทนที่ ด้วยตัวทำละลายจะเข้ามาในกระบอกฉีดยาจนหมด ความดันในขวดยาจะเท่ากับความดันในบรรยากาศ
ทำความสะอาดจุกขวดยาอีกครั้งด้วยสำลีชุบalcoholปล่อยให้ alcohol แห้ง
ทำความสะอาดจุกขวดตัวทำละลาย และจุกขวดยาด้วยสำลีชุบ alcohol70% จนถึงคอขวด ปล่อยให้ alcohol แห้ง
ใช้กระบอกฉีดยาพร้อมเข็มชุดเดิม ดูดยาออกจากขวดตามปริมาณที่ต้องการ ด้วยวิธีเดียวกับการเตรียมยาฉีดจากยำน้ำบรรจุขวด
ตรวจดูตัวทำละลาย (น้ำกลั่นหรือน้ำเกลือ) ว่ามีฝุ่นผงหรือไม่ โดยคว่ำขวดยก ส่องดู หากมีฝุ่นผง ไม่ควรนำมาใช้
หากยาที่ละลายแล้วใช้ไม่หมด และมีอายุที่จะเก็บไว้ใช้ได้ให้เขียนฉลากติดขวดไว้ เกี่ยวกับความเข้มข้นของยา วัน เดือน ปีที่ละลาย ผู้ละลาย และเก็บยาไว้ในที่ที่เหมาะสมตามสลากยาที่ แนบมากับยา
การคำนวณขนาดยา
ตัวอย่างการคำนวณ
ตอบ 3 ml
ตอบ 2.5 ml