Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

การบริหารยาฉีด - Coggle Diagram

- - - - กระบอกฉีดยามีหลายขนาดตั้งแต่ 0.5-50 ml
      - กระบอกฉีดยาจะมีทั้งชนิดทที่ทำด้วยพลาสติกซึ่งใช้แล้วทิ้ง
        และชนิดทําด้วยแก้ว
      - การเปิดห่อกระบอกฉีดยาต้องระวังไม่ให้ ปนเปื้อน
      - รักษาด้านในผ้าขาวเพื่อใช้ปูรองกระบอกฉีดยาที่จัดเตรียมยาเสร็จแล้ว
      - ประกอบด้วย 2 ส่วน
        
        กระบอก (barrel)
        
        ลูกสูบ (plunger)
    - - ส่วนมากทำมาจาก stainless steel
        และเป็นชนิดใช้ครั้งเดียว (disposable)
      - บริเวณหัวเข็มสามารถจับต้องได้ขณะทําให้หัวเข็ม
        และปลายหลอดฉีดยายึดติดกัน
      - เข็มฉีดยา ประกอบด้วย 3 ส่วน
        
        หัวเข็ม (hub) มีขนาดพอดีกับปลาย กระบอกฉีดยา
        
        ตัวเข็ม (shaft) เป็นส่วนที่ต่อจากหัวเข็ม
        
        ปลายเข็ม (bevel or slanted tip)
      - ส่วนของตัวเข็มและปลายเข็มจับต้องไม่ได้ต้องรักษา
        สภาวะปราศจากเชื้อไว้
      - การฉีดยา ขึ้นอยู่กับเกณฑ์
    - - ยาฉีดบรรจุอยู่ในภาชนะบรรจุที่เป็นหลอด (ampule)
        
        ยาท่ีบรรจุในหลอดจะเป็นยาน้ําซึ่งใช้ฉีดคร้ังเดียว (single dose)
        
        หลอดยาถูกหักแล้วจะไม่สามารถรักษาให้อยู่ในสภาพปราศจากเชื้อได้
        
        หลอดยาที่มีวงสีรอบ คอหลอดยา หลอดยานั้นจะหักได้ง่ายไม่ต้องใช้เลื่อย
      - ยาฉีดบรรจุอยู่ในภาชนะบรรจุที่เป็นขวด (vial)
        
        ยาที่เป็นผงจะมีความคงตัวต่ำ
        
        ยาที่บรรจุในขวดจะมีทั้งชนิดที่เป็นผงและยําน้ํา มีทั้งแบบ single dose และ multiple dose
- - - - ทําผิวหนังให้ตึงก่อนแทงเข็มหรือการใช้นิ้วมือจับรวบเนื้อเยื่อบริเวณ
        ที่จะฉีดเข้าหากัน แต่วิธีหลังนี้จะไม่ใช้ในการฉีด heparin
      - การแทงเข็มถ้รใช้เข็มยาว 5/8 นิ้ว ให้แทงเข็มทํามุม45องศา
        ถ้าใช้เข็มยาว 1⁄2 นิ้ว ให้แทงเข็มทํามุม 90 องศา
      - ตําแหน่งสําหรับฉีดยรเข้าชั้นใต้ผิวหนัง
      - การฉีดheparinไม่ต้องทดสอบว่าปลายเข็มอยู่ในหลอดเลือดหรือไม่
      - การฉีดheparinและinsulinห้ามคลึงบริเวณที่ฉีดยาแล้ว
  - - - ไล่อากาศออกจากกระบอกฉีดยาจนหมดก่อนฉีดยา
      - ผิวหนังให้ตึง
      - แทงเข็มทํามุม5-15องศํากับผิวหนังโดยหงายปลายตัดเข็มขึ้น
        และแทงเข้าไปเพียงให้ปลายตัดเข็มเลยเข้าไปในผิวหนังเล็กน้อย
      - ไม่ต้องทดสอบว่าปลายตัดเข็มอยู่ในหลอดเลือดหรือไม่
      - สังเกตบริเวณที่ฉีดจะมีตุ่มนูนขึ้นมาถ้าไม่มีตุ่มนูน
        แสดงว่าฉีดลึกเข้าไปในชั้นใต้ผิวหนัง
      - ไม่ต้องคลึงบริเวณที่ฉีดยา
      - ใช้ปากกาลูกลื่นหมึกสีน้ําเงินหรือดํา เขียนรอบรอยนูนที่เกิดจากการฉีดยาและบอกผู้ป่วยไม่ให้ลบรอยหมึกที่เขียนไว้ จนกว่าจะอ่านผลเรียบร้อยแล้ว