Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความสัมพันธ์ระหว่างกฎหมายและการประกอบวิชาชีพพยาบาล - Coggle Diagram
ความสัมพันธ์ระหว่างกฎหมายและการประกอบวิชาชีพพยาบาล
พฤติกรรมของพยาบาลที่มีความเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมาย
พฤติกรรมทางวิชาชีพ
ความพยายามสร้างความ เจริญก้าวหน้าให้แก่วิชาชีพ
เป็นผู้นำทางการพยาบาล
ส่งเสริม การศึกษาและการปฏิบัติการพยาบาล
ร่วมกิจกรรมองค์กรวิชาชีพและให้ความร่วมมือในระดับสถาบัน
พฤติกรรมทางสังคม
การทำให้สังคมไว้วางใจในพยาบาลและวิชาชีพการพยาบาล
การยึดหลักความเสมอภาคในสังคม ประกอบวิชาชีพบนพื้นฐาน
มีการพัฒนาการ พยาบาลอย่างต่อเนื่องและมีความปลอดภัยเสมอ
พฤติกรรมบริการ
แสดงให้เห็นถึงคุณค่าที่มีต่อผู้รับบริการในด้าน การเคารพในสิทธิมนุษยชนและสิทธิผู้ป่วย
รับผิดชอบต่อการบริการที่มีคุณภาพสูง
มีน้ำใจสนใจเอาใจใส่ รับฟังและ ช่วยแก้ปัญหา รักษาความลับ
กล้ารับผิดชอบหากเกิดความผิดพลาดและรีบแก้ไข
พฤติกรรมส่วนตัว
ความรับผิดชอบต่อตนเอง ต่อ ผู้อื่นและต่อวิชาชีพ
ไม่แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ
ปฏิบัติตนอยู่ในวัฒนธรรมขององค์กร
ยกย่องให้เกียรติผู้อื่น
ปรับตัวเข้ากับผู้อื่นได้ดี สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ
กระตือรือร้นในการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
วางตัว เหมาะสมตามกาลเทศะ
มีบุคลิกภาพที่น่าเชื่อถือและเป็นแบบอย่างที่ดี
วิธีปฏิบัติตัวของพยาบาลวิชาชีพเมื่อกระทำผิดกฎหมาย
การมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี ต่อผู้ป่วยและญาติ มีความเห็นอกเห็นใจและเห็นคุณค่าศักดิ์ศรีความเป็น มนุษย์ อย่าเอาแต่ใจตนเอง
การให้ความรู้และข้อมูลที่เป็นจริงในการรักษาพยาบาลที่เกิดขึ้น รวมทั้งข้อจำกัดในการรักษาและ การพยาบาลโดยยึดถือค าประกาศสิทธิผู้ป่วยและกฎระเบียบของโรงพยาบาล
การให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เสียหายมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยพิจารณาตามความจำเป็นและ ความพร้อมของหน่วยงาน
การจัดเตรียมบันทึกและเอกสารสำคัญที่เกี่ยวข้องให้มีความสมบูรณ์ครบถ้วน เพื่อใช้เป็นหลักฐาน ในการต่อสู้คดีทุกชนิด
การศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการร้องเรียนหรือการฟ้องร้องในคดีต่างๆ ที่มีความเกี่ยวพันกัน เช่น กฎหมายที่เกี่ยวข้องคดีจริยธรรมและโทษทางการประกอบวิชาชีพ กฎหมายแพ่งโทษทางละเมิด กฎหมาย อาญาโทษจำคุก หรือกฎหมายระเบียบข้าราชการพลเรือนโทษทางวินัย
การสังเกตสัญญาณอันตรายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น เช่น ผู้ป่วยอาการทรุดลงหรืออาจนำไปสู่การ เสียชีวิต ความวิตกกังวลที่อาจนำไปสู่ความไม่พอใจที่รุนแรงและการฟ้องร้องด าเนินคดีที่ไม่อาจสร้างความเข้าใจที่ดี ต่อกันได้
เตรียมตัวต่อสู้คดี เตรียมทนายความและเตรียมเงินค่าใช้จ่าย ซึ่งอาจมีการเจรจายอมความ เจรจา รอมชอมโดยคนกลาง หรือด้วยวิธีการอื่นๆ ซึ่งล้วนต้องใช้เงินจำนวนมากทั้งนั้น
วิธีปฏิบัติตัวเมื่อพยาบาลวิชาชีพต้องขึ้นศาลในฐานะจำเลย
การเจรจาและการต่อสู้คดีของพยาบาล กรณีการฟ้องคดีแพ่ง : ความรับผิดในทางแพ่ง การฟ้องคดีอาญา: ความรับผิดในทางอาญา การต่อสู้คดี
การเตรียมแฟ้มเอกสารทุกประเภทที่เกี่ยวข้องกับคดีและมาตรฐานการรักษาพยาบาลเพื่อ ประกอบคำชี้แจงให้ศาลเข้าใจตามคดีที่เกิดขึ้น
การให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ป่วยให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
การให้ปากคำแก่ศาลอย่างตรงไปตรงมาและกระชับตรงประเด็น
วิธีปฏิบัติตัวเมื่อพยาบาลวิชาชีพต้องขึ้นศาลในฐานะพยานบุคคล
การรับหมายศาลที่โจทก์หรือจ าเลยก็ตามที่อ้างให้พยาบาลเป็นพยานในคดี ถือเป็นความ รับผิดชอบที่พยาบาลจะต้องให้ความร่วมมืออย่างเคร่งครัด โดยให้ถือว่าเป็นการไปปฏิบัติงานตามหน้าที่ไม่ต้องลา งาน แต่ต้องแจ้งหัวหน้างานรับทราบเพื่อจัดผู้ปฏิบัติงานแทน
การสาบานตนตามความเชื่อในศาสนาหรือหลักการที่ตนยึดถือต่อหน้าศาลก่อนที่จะเริ่มให้ปากคำ
การให้ปากคำตามคำซักถามของทนายและตามคำอนุญาตของศาล พยาบาลจะต้องเรียบเรียงเหตุการณ์และถ้อยคำที่สั้นกระชับ พูดให้เสียงดังชัดเจนและไม่ควรกลัว
การให้ความเคารพแก่ศาลอย่างเหมาะสม เมื่อไปศาลพยาบาลต้องแต่งกายสุภาพเรียบร้อย ตั้งแต่ ศีรษะจรดเท้า ระวังกิริยามารยาท และทำความเคารพแก่ศาลเช่นเดียวกับผู้อื่น
ห้ามนำหมายศาลไปเผยแพร่ไม่ว่าด้วยวิธีการใดๆ เช่น ในสังคมออนไลน์หรือช่องทางอื่นใด โดย ศาลจะถือว่าเป็นการไม่ให้ความเคารพแก่ศาลด้วย
ตัวอย่างคดีที่พยาบาลประกอบวิชาชีพที่ผิดกฎหมาย
ศาลให้พยาบาลและแพทย์ร่วมกันชดใช้สามล้านเศษแก่ผู้ป่วยที่คลอดลูกตาย
21.45น. โจทก์พาภรรยาที่ตั้งครรภ์ 8 เดือนมาคลอดบุตรที่รพ. พยาบาลพบความดัน 180/100 จึงรายงานแพทย์แต่ไม่มี order 22.30 Pt ปวกหัว ตามัว หายใจขัดจึงตามแพทย์มาแต่แพทย์ไม่มาดูจน 23.45 PT หยุดหายใจ แพทย์เวรส่ง OR ช่วยทารกได้แต่แม่ตาย โจทก์ยื่นฟ้องทางแพ่งว่า แพทย์เวร และพยาบาลทำละเมิดให้ภรรยาเสียชีวิตจากการกระทำโดยประมาทมิได้ใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ตามที่พึงมีเรียกค่าเสียหายเป็นค่าปลงศพ 81270 บาทและค่าขาดผู้อุปการะเลี้ยงดูบุตร 4 ล้านบาท รวมเป็น เงิน 4081270 บาท ต่อมาวันที่ 6 กันยายน ศาลจังหวัดมีนบุรีพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ค่า เลี้ยงดูบุตร 3 ล้านบาทและค่าปลงศพ 4 หมื่นบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3040000 บาท
สาเหตุการเกิดคดี จากการขาดความเอาใจใส่ในการดูแลผู้ป่วยอย่างจริงจัง ปล่อยให้เวลาล่วงเลย ไปเรื่อยๆ โดยมิได้ให้การรักษาผู้ป่วยแต่อย่างใด เป็นความ ประมาทร่วมกันทั้งแพทย์เวรและพยาบาลห้องคลอด
ข้อเสนอแนะเพื่อมิให้เกิดคดีเข่นนี้อีก การช่วยชีวิตผู้ป่วยสำคัญที่สุด พยาบาลห้องคลอดที่รับ ผู้ป่วยใหม่ต้องมีความรอบคอบในการตรวจอาการ
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากคดีนี้
ความรับผิดชอบในการประสานงานระหว่างแพทย์และพยาบาลในการดูแลรักษาผู้ป่วย มีผลกับผู้ป่วย
การตรวจประเมินอาการของผู้ป่วยโดยพยาบาลมีความส าคัญอย่างมาก พยาบาลจึงต้อง มีความรอบคอบและรายงานข้อเท็จจริงให้แพทย์เข้าใจชัดเจนทันที
ผู้ป่วยที่มีอาการในภาวะวิกฤติอาการจะเปลี่ยนแปลงเร็วมาก จนกระทั่งไม่สามารถช่วยเหลือได้ทันท่วงที
เมื่อเกิดการตายของผู้ป่วยท าให้ญาติไม่ยอมความง่ายๆ แต่จะมีการฟ้องร้องดำเนินคดีแก่ แพทย์และพยาบาลอย่างแน่นอน
ประชาชนจะเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ชัดเจน
การป้องกันการเกิดปัญหาทางกฎหมาย
ใช้ความรู้และทักษะในการทำงานเมื่อสามารถพิสูจน์ได้ หากเกิดความผิดพลาดก็อาจเนื่องด้วย เหตุสุดวิสัย ซึ่งพอจะหาทางแก้ปัญหาได้ง่ายขึ้น
สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ป่วยและญาติ รวมทั้งผู้ร่วมงานทุกคนที่เกี่ยวข้อง เมื่อเกิดปัญหาทุกคน จะได้ร่วมมือกันหาทางแก้ไขให้เกิดผลดีที่สุดแก่ผู้ป่วย
มีคุณธรรมและจริยธรรม ซึ่งถือได้ว่าเป็นแกนกลางที่ส าคัญในการประกอบวิชาชีพ หากยังเกิด ข้อผิดพลาดขึ้นได้อีก สิ่งเหล่านั้นอาจเกิดขึ้นด้วยความไม่เจตนาที่จะละเลยคุณธรรม
การให้ข้อมูลแก่ผู้ป่วยและญาติ ต้องเป็นจริงไม่ลำเอียงด้านใดด้านหนึ่ง และเป็นเฉพาะข้อมูลที่ สำคัญเกี่ยวข้องโดยตรงเท่านั้น และให้ข้อมูลโดยเคารพในความสูญเสียของผู้ป่วยและครอบครัวเป็นสำคัญ
การรายงานข้อมูลที่สำคัญแก่แพทย์ ทั้งที่เกี่ยวกับอาการของผู้ป่วยและข้อมูลอื่นๆ ความรอบคอบ ในการรายงานแพทย์เป็นสิ่งส าคัญที่จะป้องกันความผิดพลาดที่อาจจะเกิดแก่ผู้ป่วย
การไม่ประมาทและทำตามมาตรฐานวิชาชีพ การปฏิบัติการพยาบาลต่อผู้ป่วยต้องใช้ความเอาใจ ใส่และความรับผิดชอบตลอดเวลา ความบกพร่องของงานจะเกิดขึ้นได้ยาก
การทำงานเกินขอบเขตของพยาบาลเป็นสิ่งที่อาจก่ออันตรายแก่ผู้ป่วย ดังนั้นจึงต้องเข้าใจ ความสามารถและหน้าที่ความรับผิดชอบของตนเอง รวมทั้งความรับผิดชอบของแพทย์ด้วย โดยยึดความปลอดภัย ของผู้ป่วยเป็นหลัก