Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 3 ยารักษาโรคมะเร็งและยากดภูมิคุ้มกัน - Coggle Diagram
บทที่ 3
ยารักษาโรคมะเร็งและยากดภูมิคุ้มกัน
ยาต้านโรคมะเร็ง (Antineoplastic drugs)
Cancer (มะเร็ง)
ความผิดปกติของรหัสสารพันธุกรรม
Cancer cell ขาดกลไกการหยุดแบ่งตัว
วัฏจักรเซลล์ (Cell cycle)
G1 phase
ระยะการแบ่งตัว cell เริ่มสร้าง โปรตีน + เอนไซม์เพื่อใช้สร้างDNA และ RNA
S phase
Cell สร้างและสังเคราะห์ DNA ที่เหมือนกัน อีก 1 ชุด
G2 phase
Cell สร้างองค์ประกอบต่างๆ และแบ่งเป็น 2 เซลล์
M phase
แยกโครโมโซมออกเป็น 2 Cell (มีองค์ประกอบเหมือนกัน+ขนาดเท่ากัน)
Cell แบ่งตัวแบบ mitosis
G0 phase
ระยะพัก cell แบ่งตัวสมบูรณ์แล้ว หากได้สัญญาณการแบ่งตัว ก็จะเปลี่ยนเข้าสู่ G1 phase
การออกฤทธิ์ใน cell cycle
Cell cycle-specific drugs (CCS)
ออกฤทธิ์ต่อ cancer cell ในระยะใดระยะหนึ่ง
ไม่มีผลต่อ cancer cell ระยะอื่น
ได้ผลดีในมะเร็งท่ีแบ่งตัวรวดเร็ว+ตรอเนื่อง
Cell cycle-nonspecific drugs (CCNS)
ออกฤทธิ์ได้กับ cancer cell ทุกระยะ
ได้ผลดีในมะเร็งที่มีอัตราการโตของ
ก่อนมะเร็งทั้งในระดับต่ำและสูง
ยากลุ่ม Alkylating agents
Cyclophosphamide
ยาถูกเปลี่ยนโดยCYP450กลายเป็น Phosphoramide mustard
Clinical use
รักษากลุ่มมะเร็ง:รังไข่,เต้านม,เม็ดเลือดขาวทุกชนิด,ต่อมน้ำเหลือง (ชนิด Hodgkin’s, Non-Hodgkin lymphoma) และมะเร็งในเด็ก
กดภูมิคุ้มกัน:ผู้ป่วยปลูกถ่ายอวัยวะหรือautoimmune diseases
Ifosfamide
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
คล้ายกับ Cyclophosphamide
Clinical use
รักษากลุ่มมะเร็ง : ต่อมน้ําเหลือง, อัณฑะ, มะเร็ง,เนื้อเยื่ออ่อน
Chlorambucil
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
แทรกการเชื่อมจับสายDNAของcancercellแบบcross-linking
Clinical use
เป็นยามาตรฐานในการรักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด CLLและมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด follicular
Carmustine
กลไกการออกฤทธ์ิของยา
เกิดหมู่ alkyl ไปจับกับสายของ DNA ของ cancer cell — DNA (cancer cell) : Strand break
Clinical use
มะเร็งสมอง
Dacarbazine
ยาถูกเปลี่ยนโดย CYP450—เป็นสารที่มีพิษต่อการสร้าง DNA, RNA ของ cancer cell
Clinical use
รักษากลุ่มมะเร็ง
ต่อมน้ําเหลืองชนิด Hodgkin’s lymphoma
มะเร็งผิวหนัง ใช้ร่วมกับยา Adriamycin, Bleomycin, Vinblastine,
Cisplatin, Carboplatin
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
แทรกการเชื่อมจับสาย DNA ของ cancer cell
ยับยั้ง DNA replication และ DNA transcription ของ cancer cell
Clinical use
รักษากลุ่มมะเร็ง : อัณฑะ, รังไข่, กระเพาะปัสสาวะ, ปอด,ทางเดินอาหาร
Busulfan
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
คล้ายกับ Cisplatin
Clinical use
มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด CML
ให้ก่อนการปลูกถ่ายไขกระดูก
Mechlorethamine
กลไกการออกฤทธ์ิของยา
คล้ายกับ Cisplatin
Clinicaluse
เดิม—รักษารักษามะเร็งต่อมน้ําเหลืองชนิดHodgkin’slymphoma
ปัจจุบัน—ใช้น้อยลง, เปลี่ยนไปใช้ cyclophosphamide และยาอื่นๆ แทน
ยากลุ่ม Antimetabolites / Antineoplastic agents
2.1 Antifolate/Folate antagonist : Methotrexate, Pemetrexed
Methotrexate
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
Dihydro -folate (DHFR)—tetrahydro-folate—cancer cell สังเคราะห์+สร้าง DNA,RNAโปรตีน—cancer cell ไม่สามารถสร้าง/แบ่งตัวได้
Clinical use
รักษากลุ่มมะเร็ง : มะเร็งรก, ศีรษะและคอ, ปอด, เม็ดเลือดขาวชนิด ALL,
Pemetrexed
กลไกการออกฤทธ์ิของยา
ยาถูกmetabolite—สารออกฤทธิ์ยับยั้งการสังเคราะห์+สร้างสารตั้งต้นของDNA,RNA โปรตีน
Clinical use
รักษามะเร็ง: ปอดและตับอ่อน
ผลข้างเคียง
ตั้งครรภ์ อาจทำให้แท้ง
ผิวหนังไวต่อแสง
เบื่ออาหาร อาเจียน
2.2 Purine analogs : 6-mercaptopurine (6-MP), 6-thioguanine (6-TG), Fludarabine
6-mercaptopurine (6-MP)
ยาเข้าสู่กระแสเลือด จะเปลี่ยนเป็น Ribonuclleotide Purine(สังเคราะห์)—Nucleic acid—สังเคราะห์+สร้างDNA,RNAของcancer cell—Cancer cell สร้าง/แบ่งตัวได้
Clinical use
รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด ALL, AML, ANLL
6-thioguanine (6-TG)
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
คล้ายกับ 6-MP
Clinical use
รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด ANLL, AML (ใช้ร่วมกับยา Daunorubicin และ Cytarabine)
Fludarabine
กลไกการออกฤทธ์ิของยา
แทรกการเช่ือมจับสาย DNA— ยับยั้งการสร้าง DNA ของ Cancer cell
Clinical use
รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด CLL, มะเร็งต่อมน้ําเหลืองที่ไม่รุนแรง
ผลข้างเคียง
มีแผลในปาก หรือริมฝีปาก
อาเจียน คลื่นไส้
พิษต่อตับ
2.3 Pyrimidine analogs: 5-fluorouracil (5-FU), Capectibine, Cytarabine, Gemcitabine
5-fluorouracil (5-FU)
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
ยับยั้งการทํางานของ thymidylate synthase— Cancer cell ไม่สามารถสังเคราะห์ + สร้าง DNA, RNA— Cancer cell ไม่สามารถสร้าง/แบ่งตัวได้
Clinical use
ฉีดทาง IV ใช้รักษากลุ่มมะเร็ง : เต้านม, กระเพาะอาหาร, ตับอ่อน, ลําไส้ใหญ่
Capectibine
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
คล้ายกับ 5-FU
Clinical use
ใช้รักษามะเร็งเต้านมที่แพร่กระจาย (แบบ palliative treatment)
Cytarabine
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
ยาไปเติม phosphate— เข้าแทรกกระบวนการเชื่อมต่อสาย DNA ของ cancer cell— ยับยั้งการสร้าง DNA ของ cancer cell— Cancer cell ไม่สามารถสร้าง/แบ่งตัวได้
Clinical use
มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด AML
Gemcitabine
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
คล้ายกับ Cytarabine
Clinical use
รักษากลุ่มมะเร็ง : ตับอ่อนที่แพร่กระจาย, ปอด, รังไข่, กระเพาะปัสสาวะ
ยากลุ่ม Anticancer antibiotics
Dactinomycin
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
แทรกเข้าไปในสาย DNA ของ cancer cell— สาย single-strand ของ DNA ของ cancer cell แตกหัก— Cancer cell ไม่สามารถสร้าง/แบ่งตัวได้
Clinical use
Wilms’ tumor และมะเร็งเน้ือเยื่อเกี่ยวพันในเด็ก ใช้ร่วมกับยา Vincristine
มะเร็งเยื่อรก (choriocarcinama) ใช้ร่วมกับยา Methotrexate
Mitomycin C
กลไกการออกฤทธ์ิของยา
ยาเปลี่ยนแปลงใน cell—เป็น Alkylating agents— ยับยั้งการสังเคราะห์+ สร้าง DNA ของ Cancer cell— Cancer cell ไม่สามารถสร้าง/แบ่งตัวได้
Clinical use
ใช้รักษา:มะเร็งปากมดลูก มะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
Doxorubicin
Clinical use
รักษากลุ่มมะเร็ง:เม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน,ต่อน้ำเหลือง,พลาสมาเซลล์ ,เต้านม,เยื่อบุโพรงมดลูก,รังไข่
Bleomycin
กลไกการออกฤทธ์ิของยา
ยาจับกับธาตุ Fe2+(ได้สารประกอบเชิงซ้อนไปทำปฏิกิริยากับ)—O2(เป็น)— Free radical— แทรกในสาย DNA ของ cancer cell— DNA (cancer cell) : Strand break—Cancer cellไม่สามารถสังเคราะห์+สร้างDNA,RNA(ในระยะG2)ได้—Cancer cell ไม่สามารถสร้าง/แบ่งตัวได้
Clinicaluse
รักษากลุ่มมะเร็ง:อัณฑะ,ผิวหนัง,ตรอมน้ําเหลือง ชนิด Hodgkin’s และ Non-hodgkin lymphoma
ผลข้างเคียง
เบื่ออาหาร เยื่อบุในช่องปากอักเสบ
ผิวไวต่อการฉายแสง ผมร่วง
หากยารั่วออกนอกหลอดเลือด จะทําให้ผิวหนังบริเวณรอบ ๆ ตาย
ยากลุ่มสารสกัดจากพืชธรรมชาติ (Natural and semi-synthetic products)
4.1 ยากลุ่ม vinca alkaloids สกัดจากพืช
กลไกการออกฤทธ์ิของยา
ยาจับกับโปรตีน Tubulin
ยับยั้งการประกอบตัวของ microtubules, mitotic spindle
Cancer cell หยุดเจริญเติบโต ในระยะ M phase
Vincristine
Clinical use
รักษากลุ่มมะเร็ง : เม็ดเลือดขาวชนิด ALL, ต่อมน้ําเหลืองชนิดHodgkin’sและ Non-hodgkin lymphoma
รักษามะเร็งในเด็ก : Wilms’ tumor และ Ewing’s sarcoma
Vinblastine
Clinical use
รักษากลุ่มมะเร็ง : ต่อมน้ําเหลืองชนิด Hodgkin’s
และ non-Hodgkin lymphoma, อัณฑะ, เต้านม
Vinorelbine
Clinical use
Non-small cell lung cancer และ มะเร็งเต้านม
4.2 ยากลุ่ม taxanes
กลไกการออกฤทธิ์ของยา : คล้ายกับยากลุ่ม vinca alkaloids
: Paclitaxel (Taxol®), Docetaxel (Taxotere®), Cabazitaxel
Clinical use
รักษากลุ่มมะเร็ง : เต้านม, ปอด, รังไข่, ศีรษะและคอ
ผลข้างเคียง
“Vinca alkaloids”
มีพิษต่อระบบประสาทกล้ามเนื้อ เช่น ชาตามปลายมือปลายเท้า เดินเซและกล้ามเนื้อฝ่อลีบ
“Taxanes”
อวัยวะส่วนปลายบวม พบมากในยาDocetaxel
ยากลุ่มฮอร์โมน (Hormone and hormone antagonists)
Glucocorticoids
Clinical use
รักษากลุ่มมะเร็ง:ต่อมน้ําเหลืองชนิดHodgkin’sและ Non-hodgkin lymphoma, เม็ดเลือดขาวชนิด ALL
ผลข้างเคียง
มีโอกาสติดเชื้อง่าย
กระดูกพรุน
กลูโคสในเลือดสูง (hyperglycemia)
Antiestrogens
Clinical use
Tamoxifen:ตัวเลือกแรกใช้รักษามะเร็งเต้านม
Raloxifene:ป้องกันการเกิดมะเร็งกระดูกพรุน
Toremifene:มะเร็งเต้านม
ผลข้างเคียง
ร้อนวูบวาบ, คลื่นไส้, อาเจียน
มีเลือดประจําเดือนผิดปกติ
Androgen (anti androgens)
Clinical use
Goserelin , Leuprolide : มะเร็งต่อมลูกหมาก, มะเร็งเต้านมที่แพร่กระจาย, Endometriosis
Abarelix : บรรเทาอาการผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมากระยะสุดท้าย
ผลข้างเคียง
ร้อนวูบวาบ, เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
ระยะแรก cancer cell จะเติบโตไวมาก
Progestins
Clinical use
ใช้รักษา Endometrialcarcinoma,มะเร็งเต้านม,มะเร็งไต
ผลข้างเคียง
Progestins เพิ่มอุบัติการณ์ การเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน
ยามะเร็งมุ่งเป้า (Targeted gene therapy)
6.1ยาโมโนโคลนอลแอนติบอดี(Monoclonalantibodies)
Transtuzumab : Herceptin®
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
ยาจับกับ HER-2 receptor— HER-2 receptor ส่งสัญญาณไปกระตุ้น การเจริญเติบโตของ cancer cell ไม่ได้— Cancer cell ไม่สามารถสร้าง/แบ่งตัวได้
Clinical use : มะเร็งเต้านมที่แพร่กระจาย
ผลข้างเคียง : อาจเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว (CHF), คลื่นไส้, อาเจียน, ปวดท้อง
Rituximab : Rituxan®
กลไกการออกฤทธ์ิของยา
ยาจับกับ CD20 ที่ผิว B cell— กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน มากําจัด cancer cell— Cancer cell ตาย
Clinical use : มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด B-cell lymphoma
ผลข้างเคียง : - Infusion reaction (เป็นอันตรายถึงชีวิต) เช่น BP drop, หลอดลมบีบเกร็ง, angioedema
Cetuximab : Erbitux®
กลไกการออกฤทธ์ิของยา
ยาจับ EGFR—ไม่สามารถรับสัญญาณที่กระตุ้นการเจริญเติบโตของ cancer cell ได้— Cancer cell ไม่สามารถ สร้าง/แบ่งตัวได้
Clinical use : มะเร็งศีรษะ, ลําคอ, มะเร็งลําไสRส่วนล่าง
ผลข้างเคียง : ในระยะแรก อาจพบ BP drop และหายใจลําบาก
Alemtuzumab : Campath®
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
ยาจับกับ CD52— กระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันมากําจัด cancer cell— Cancer cell ตาย
Clinical use : มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด BCLL
ผลข้างเคียง : คล้ายกับ Rituximab
6.2ยาโมเลกุลขนาดเล็ก(Smallmolecules
Imatinib : Gleevec®
Clinical use : Gastrointestinal stromal tumor,
มะเร็งเม็ดเลือดขาว
Dasatinib : Sprycel®
Clinical use : มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด CML และ ALL, มะเร็งที่ดื้อต่อยา Imatinib
Nilotinib : Tasigna®
Clinical use :มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด CML และ
ALL, มะเร็งที่ดื้อต่อยา Imatinib
ปฏิกิริยาระหว่างยา
ยาไปยับยั้งเอนไซม์ CYP450 [CYP3A4, CYP2C9, CYP2D6]
หากให้ร่วมกับ Warfarin, Theophylline จะทําให้ระดับยาเหล่านี้ในกระแสเลือดสูงข้ึน เกิดพิษได้
ผลข้างเคียง
ของเหลวคั่ง เช่น บวมน้ํา, มีน้ําใน ---> ช่องท้อง, เยื่อหุ้มหัวใจ, เยื่อมปอด, ปอด
พิษต่อตับ,เกล็ดเลือดต่ำเลือดออกได้ง่าย
กดไขกระดูกทําให้neutrophilต่ำเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย
ยากลุ่มอื่น ๆ (Other anticancer agents)
Asparaginase
กลไกการออกฤทธ์ิของยา
ยาเรรงปฏิกิริยา hydrolysis— Cancer cell ขาดสารท่ีใช้แบ่งตัวและเติบโต— Cancer cell ไม่สามารถสร้าง/แบ่งตัวได้
Clinical use
มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด ALL ในเด็ก (ใช้ร่วมกับ Vincristine และ Prednisone)
ผลข้างเคียง
ปฏิกิริยาแพ้รุนแรงจนเสียชีวิตได้ มีอาการ เช่น ตับอ่อนอักเสบ, เกิดพิษต่อตับ, ชัก และ โคม่า
Mitotane
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
ทําให้ไมโตครอนเดรียในเซลลVต่อมหมวกไตช้ันนอกฝ่อลง
ลดการสร้าง cortisol
Clinical use : มะเร็งต่อมหมวกไตชั้นนอก (Adrenocortical carcinoma)
ผลข้างเคียง
Depression, Dizziness, Skin rash
คลื่นไส้, อาเจียน, เบื่ออาหาร, อุจจาระร่วง, กล้ามเนื้ออ่อนแรง
ยากดภูมิคุ้มกัน (Immunosuppressive agents)
ทางการแพทย์
ป้องกันและรักษา การเกิดภูมิคุ้มกันจากเนื้อเยื่อที่ปลูกถ่าย
รักษาโรคภูมิคุ้มกันต้านตัวเอง (autoimmune diseases)
ป้องกันและรักษา โรคที่ภูมิคุ้มกันร่างกายทํางานมากผิดปกติ
กดภูมิคุ้มกันที่เฉพาะเจาะจง
กลุ่มยับยั้งเอนไซม์แคลซินิวริน (Calcineurin inhibitors)
Cyclosporin A (CsA)
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
ยายับยั้งเอนไซม์calcineurin ยับยั้งการสร้างและหลั่ง IL-2จาก T cell ยับยั้งการะตุ้นการแบ่งตัว/สร้างcancer cell
Clinical use : ใช้ป้องกันและรักษา
Acute graft rejection : ปลูกถ่ายไต หัวใจ ปอดและตับ
GVHD : ปลูกถ่ายไขกระดูก (ใช0รQวมกับ Corticosteroids)
โรคภูมิคุ้มกันต้านตัวเอง : RA, psoriasi, ม่านตาอักเสบ (uveitis)
ผลข้างเคียง
พิษต่อไต, ต่อระบบประสาท เช่น แขนขา ชา ส่ัน
กดไขกระดูกน้อย เสี่ยงต่อการติดเชื้อน้อย เมื่อใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน
Tacrolimus (FK506®)
กลไกการออกฤทธิ์ของยา : คล้ายกับ Cyclosporin (แต่เป็นยาใหม่กว่า และฤทธิ์แรงกว่า Cyclosporin 100 เท่า)
Clinical use
ใช้แทน Cyclosporin ในการรักษาผู้ป่วยที่ได้รับ organ transplantation
เนื่องจากมีผลข้างเคียงน้อย และลดขนาดของยา corticosteroids ที่ใช้ร่วมด้วยได้
ผลข้างเคียง
คล้ายกับCyclosporinแต่ไม่ทำให้เหงือกบวมและขนดก
อาจพบผมร่วงได้
กลุ่มยาที่มีพิษต่อเซลล์ (Cytotoxic agents)
Azathioprine (Imuran®)
กลไกการออกฤทธิ์ของยา:ยับยั้งการสร้างDNA,RNAและโปรตีน
clinical use
โรคภูมิคุ้มกันต้านตัวเอง : RA ที่ไมรตอบสนองต่อยาอื่น, SLE, AIHA และ ITP
ผลข้างเคียง
กดไขกระดูก ทําให้เม็ดเลือดขาวหรือเกร็ดเลือดต่ำ
ตัวเหลือง, ตาเหลือง, ผมร่วง, กล้ามเน้ืออ่อนแรง, เพลีย, ผื่น
Mycophenolate mofetil (MMF) : Cellcept®
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
ยับยั้งการแบ่งตัวของ B และ T lymphocytes
Clinical use
Acute graft rejection จากการปลูกถรายอวัยวะ (ใช้ร่วมกับยาตัวอื่นแทน Azathioprine)
ผลข้างเคียง
พบบ่อย: กดไขกระดูก, เม็ดเลือดขาวต่ำ, เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
พบน้อย: ความผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลาง, ตับอ่อนอักเสบ, พิษต่อตา,
Sirolimus หรือ Everolimus
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
ยับยั้ง mTOR (เอนไซม์สําคัญต่อการออกฤทธิ์ของ IL-2)
ยับยั้งการเจริญและแบ่งตัวของ T cell
Clinical use
ใช้กดระบบภูมิคุ้มกัน
Acute graft rejection
(ใช้ร่วมกับ corticosteroids และ cyclosporin)
ผลข้างเคียง
หากใช้ยา Sirolimus ร่วมกับ Cyclosporine จะเป็นพิษต่อไตและมีภาวะไขมันในเลือดสูง
ภาวะโพแทสเซียมต่ำในเลือด
Leflunomide
Clinical use : รักษา RA
ผลข้างเคียง
พิษต่อตับ พิษต่อไต ต่อทารกในครรภ์
กลุ่มอดรีโนคอร์ติคอยด์ (Adrenocorticoids)
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
กดการทํางานของเซลล์ macrophage, T และ B lymphocyte
ยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์ lymphocyte
Clinical use
ใช้กดอาการแสดงของโรคภูมิคุ้มกัน เช่น SLE
ป้องกันและรักษา Transplant rejection, GVHD ในการปลูกถ่ายไขกระดูก
ผลข้างเคียง
ขึ้นกับขนาดและระยะเวลาในการใช้ยา
เพื่อลดผลข้างเคียง ควรใช้ร่วมกับยาอื่น เช่น cyclosporine
เป็นยากดภูมิคุ้มกันที่ใช้ในระยะยาว
• Prednisolone(เพรดนิโซโลน)
• Dexamethasone(เดกซาเมทาโซน)
• Prednisone(เพรดนิโซน)
• Methyprednisolone(เมทิลเพรดนิโซโลน)
• Betamethasone(เบต้าเมทาโซน)
กลุ่มสารยับยั้ง Cytokines (Cytokines inhibitors)
Anti-IL-2 receptor antibody : Daclizumab, Basiliximab
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
ยับยั้งIL-2 ทำให้lymphocyte ไม่กระตุ้น— ภูมิคุ้มกันร่างกาย ไม่ถูกกระตุ้น— ร่างกายไม่ปฏิเสธ อวัยวะที่ปลูกถ่าย
Clinical use : ป้องกัน Acute graft rejection จากการปลูกถ่ายไต (ใช้ร่วมกับยา cyclosporine และ corticosteroids)
ผลข้างเคียง:อาจพบ hypersensitivity reaction
Anti-CD2 : Alefacept
Clinical use : รักษา Psoriasis, ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วย HIV
ผลข้างเคียง : Cytokine release syndrome : ไข้, หนาวสั่น, ปวดกล้ามเนื้อ, ติดเชื้อได้ง่าย
Anti-IgE mAbs : Omalizumab
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
ปิดกั้นการจับของ IgE กับ Fc receptor— ลดการหลั่ง IgE-mediated hypersensitivity reaction type I— ลดการเกิดการอักเสบ— การแบ่งตัว/สร้าง cancer cell ลดลง
Clinical use : รักษา Allergic asthma ในผู้ที่ไม่ตอบสนองต่อ steroids ชนิดสูดพ่น
ผลข้างเคียง:อาจเกิดAnaphylacticreaction,เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น,อาจเหนี่ยวนําทําให้เกิดมะเร็งได้, ปวดศีรษะ หรือบริเวณท่ีฉีดยา
Anti-TNF-α antibody :
Adalimumab, Infliximab, Golimumab, Certolizumab pegol
Clinical use
รักษา RA ร่วมกับยา Methothexate (ในผู้ท่ีไม่ตอบสนองต่อกลุ่มยา DMARDs)
รักษา Crohn’s disease ที่ไม่ตอบสนองต่อยาอื่น
ผลข้างเคียง
กดไขกระดูก,เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย เช่น วัณโรคหรือติดเชื้อทางเดินหายใจ
อาจพบ : ปวดศีรษะ ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน
ATG และ ALG : Lymphoglobulin, Thymoglobulin
Clinical use
รักษา Acute transplant rejection จากการปลูกถ่ายไต (ใช้ร่วมกับยากดภูมิคุ้มกันอื่น ๆ)
รักษาโรคไขกระดูกฝ่อ
ผลข้างเคียง
ไข้ หนาวสั่น
ปวดข้อ
ภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ เกล็ดเลือดต่ำ
เสี่ยงติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย