Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลทารกที่มีภาวะเสี่ยง, นางสาวณัฐนรี ธีรวันอุชุกร รุ่น 36/1…
การพยาบาลทารกที่มีภาวะเสี่ยง
ทารกคลอดก่อนกำหนด
สาเหตุ
มารดามีภาวะแทรกซ้อน เช่น ความดันโลหิตสูง รกลอกตัวก่อนกำหนด
มารดาป่วยเป็นโรคหัวใจ เบาหวาน ไต ติดเชื้อ
ครรภ์แฝด มารดาติดยาเสพติด
เศรษฐานะไม่ดี
อายุน้อยกว่า 16 ปี หรือมากกว่า 35 ปี
ลักษณะของทารกเกิดก่อนกำหนด
ผิวหนังบางสีแดงและเหี่ยวย่น
มีกล้ามเนื้อและไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous fat) น้อย
น้ำหนักน้อย
ความตึงตัวของกล้ามเนื้อไม่ดี
ลายฝ่ามือฝ่าเท้ามีน้อยและเรียบเล็บมือเล็บเท้าอ่อนนิ่มและสั้น
เสียงร้องเบาและร้องน้อยกว่าทารกแรกเกิดครบกำหนด Reflex ต่างๆมีน้อยหรือไม่มี
หายใจไม่สม่ำเสมอ มีการกลั้นหายใจเป็นระยะ (Periodic breathing) เขียวและหยุดหายใจได้ง่าย (Apnea)
หัวนมมีขนาดเล็กหรือมองไม่เห็นหัวนม
การจำแนกประเภทของทารกแรกเกิด
ตามน้ำหนัก
Low birth weight infant (LBW infant) คือทารกที่มีน้ำหนักแรกเกิดต่ำกว่า 2,500 กรัม
Very low birth weight คือ น้ำหนักต่ำกว่า 1,500 กรัม
Extremely low birth weight (ELBW) คือ น้ำหนักต่ำกว่า 1,000 กรัม
Normal birth weight infant (NBW infant) คือทารกที่มีน้ำหนักแรกเกิด 2,500 กรัม ถึงประมาณ 3,800-4,000 กรัม
ตามอายุครรภ์
ทารกแรกเกิดครบกำหนด (Term or mature infant)cคือ ทารกแรกเกิดที่มีอายุครรภ์มากกว่า 37-41 สัปดาห์
ทารกแรกเกิดหลังกำหนด (Posterm infant) ทารกแรกเกิดที่มีอายุครรภ์มากกว่า 41 สัปดาห์
ทารกเกิดก่อนกำหนด (Preterm infant) คือทารกแรกเกิดที่มีอายุครรภ์น้อยกว่า 37 สัปดาห์
MAS
การดูแลที่จำเป็นสำหรับทารก
ประเมินการขับถ่ายอุจจาระและปัสสาวะ
ประเมินการแหวะนมและการอาเจียน
ดูแลภาวะน้ำหนักตัวแรกเกิดลด
เฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อน เช่น ภาวะตัวเหลือง
การช่วยการดูแลทางเดินหายใจและการรักษาระบบทางเดินหายใจอย่างเหมาะสม
การดูแลทางโภชนาการ
การควบคุมอุณหภูมิอย่างเหมาะสม
การติดตามภาวะความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นทั้งระยะสั้นและระยะยาว
การควบคุมและการป้องกันการติดเชื้อ
ความรุนแรง
อาการรุนแรงปานกลาง อาการหายใจเร็วมีความรุนแรงมากขึ้น มีการดึงรั้งของช่องซี่โครงและมีความรุนแรงสูงสุดเมื่ออายุ 24 ชั่วโมง
อาการรุนแรงน้อย ทารกมีอาการหายใจเร็วระยะสั้นๆเพียง 24-72 ชั่วโมง ทำให้แรงดันลดลงและมีค่าความเป็นกรด-ด่างปกติ อาการมักหายไปใน 24-72 ชั่วโมง
อาการรุ่นแรงมาก ทารกจะมีระบบหายใจล้มเหลวทันทีหรือภายใน 2-3 ชั่วโมงหลังเกิด
การพยาบาล
เป้าหมายที่สำคัญเพื่อให้ทารกได้รับออกซิเจนเพียงพอ เฝ้าระวังการติดเชื้อ
ภาวะตื่นตัวของทารกเมื่อแรกเกิดเรียกว่า vigorous ได้จากการประเมินทารกโดยทีมบุคลากรทางการแพทย์ที่ดูแลทารกแรกเกิดเมื่อ 10-15 นาทีหลังเกิด
มีกำลังกล้ามเนื้อดี
อัตราการเต้นของหัวใจมากกว่า 100 ครั้งต่อนาที
มีแรงหายใจด้วยตนเองได้ดี
ปัญหาน้ำตาลในเลือดต่ำ
อาการแสดง
ซึม ไม่ดูดนม มีสะดุ้งผวา อาการสั่น ซีดหรือเขียว หยุดหายใจ ตัวอ่อนปวกเปียก อุณหภูมิกายต่ำ ชักกระตุก
การรักษา
ทารกครบกำหนดที่มีอาการร่วมกับระดับน้ำตาลน้อยกว่า 40 มก./ดล. ให้สารละลายกลูโคสทางหลอดเลือด
ทารกไม่มีอาการ
แรกเกิดอายุ 4 ชั่วโมง ให้นมภายใน 1 ชั่วโมงแรก ติดตามระดับน้ำตาลในเลือด 30 นาทีหลังให้นมมือแรก ถ้าระดับน้ำตาลน้อยกว่า 25 มก./ดล. ให้นมและติดตามระดับน้ำตาลในเลือด 1 ชั่วโมง
อายุ 4-4 ชั่วโมง ให้นมทุก 2-3 ชั่วโมง ติดตามระดับน้ำตาลในเลือดก่อนมื้อนม ถ้าระดับน้ำตาลน้อยกว่า 35 มก./ดล. ให้นมและติดตามระดับน้ำตาลในเลือด 1 ชั่วโมง
น้ำตาลในพลาสมาต่ำกว่า 40 mg%
การดูแล
ควบคุมอุณหภูมิห้องและดูแลให้ความอบอุ่นแก่ทารก
สังเกตอาการเปลี่ยนแปลง
กรณีที่มีน้ำตาลในเลือดต่ำตรวจติดตามทุก 30 นาที ในรายที่ไม่แสดงอาการ ให้กินนม
กรณีทารกเสี่ยงต่อระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ จะต้องตรวจหาระดับน้ำตาล ภายใน 1-2 ชม. หลังคลอดและติดตามทุก 1-2 ชม. ใน 6-8 ชม.แรก รีบให้ 5,10%D/W ทางปากหรือ NG tube ใน 1-2 มื้อแรกแล้วให้นม
ปัญหาที่พบได้ในทารกคลอดก่อนกำหนด
ปัญหาเลือดออกในช่องสมอง
IVH (Intraventricular Hemorrhage)
Hydrocephalus
ปัญหาเกี่ยวกับการควบคุมอุณหภูมิ
การดูแล
วัดอุณหภูมิเด็ก Body temperature เด็ก 36.8-37.2 องศาเซลเซียส
จัดให้อยู่ในที่อุณหภูมิเหมาะสม (NTE) 32-34 องศาเซลเซียส
ใช้ warmer , incubator หรือผ้าห่มห่อตัว
หลีกเลี่ยงอยู่ใกล้แอร์ พัดลม ระวัง "Cold stress"
การพยาบาลทารกที่ได้รับการรักษาในตู้อบ
ตรวจสอบอุณหภูมิร่างกายทุก 4 ชม. และปรับให้เหมาะสมกับสภาพของทารก
ป้องกันการสูญเสียความร้อนของร่างกายทารก 4 ทาง
เช็ดทำความสะอาดตู้ทุกวัน
ไม่เปิดตู้อบโดยไม่จำเป็นให้การพยาบาลโดยสอดมือเข้าทางหน้าต่างตู้อบ
การวัดอุณหภูมิทารก
ทางทวารหนัก
ทารกเกิดก่อนกำหนด วัดนาน 3 นาที ลึก 2.5 ซม.
ทารกครบกำหนด วัดนาน 3 นาที ลึก 3.0 ซม.
ทางรักแร้
ทารกเกิดก่อนกำหนด วัดนาน 5 นาที
ทารกครบกำหนด วัดนาน 8 นาที
ผลกระทบ
การเพิ่มการเผาผลาญและภาวะกรด น้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia) ภาวะขาดน้ำ (Dehydration) น้ำหนักลด (Poor Weight Gain) ภาวะลำไส้เน่า (NEC) ภาวะหยุดหายใจ (Apnea) ภาวะเลือดออก (Bleeding Disorder) อัตราการเพิ่มขึ้น
ปัญหาทางโภชนาการและการดูดกลืน
GER (Gastroesophageal Reflux)
Hypoglycemia
การพยาบาล
ให้อาหารอย่างเหมาะสมกับสภาพของทารก
gavage feeding (OG tube) ในเด็กเหนื่อยง่าย ดูดกลืนไม่ดี
IVF ให้ได้ตามแผนการรักษา
ระวังภาวะ NEC : observe อาการท้องอืด content ที่เหลือ
ประเมินการเจริญเติบโตชั่งน้ำหนักทุกวัน (เพิ่มวันละ 15-30 กรัม)
NEC (Necrotizing Enterocolitis)
ปัญหาทางระบบทางเดินหายใจและพิษออกซิเจน
Perinatal asphy
Respiratory Distress Syndrome (RDS)
การป้องกัน
มารดาที่มีความเสี่ยงจะคลอดก่อนกำหนด แต่ถุงน้ำคร่ำยังไม่แตก ควรได้ antenatal corticosteroids อย่างน้อย 24 ชั่วฌมงก่อนคลอด
การป้องกันไม่ให้ทารกขาดออกซิเจนในระยะแรกเกิด
การรักษา
ป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนจากการได้รับออกซิเจน โดยการปรับลดความเข้มข้นและอัตราไหลของออกซิเจน
ให้สารลดแรงตึงผิวเพื่อทำให้ความยืดหยุ่นของปอดดีขึ้น
การให้ออกซิเจน ตามความต้องการของทารก
รักษาแบบประคับประคองตามอาการ
รักษาสมดุลน้ำอิเลคโตรไลท์สมดุลกรด-ด่างในเลือด
รักษาระดับฮีโมโกลบินในเลือดและความเข้มข้นของเม็ดเลือดแดงให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
ให้ได้รับสารน้ำอย่างเพียงพอ
ทารกบางรายอาจจำเป็นต้องปิด PDA ด้วย indomethacin / ibuprofen
ให้ยาปฎิชีวนะในรายที่สงสัยว่ามีการติดเชื้อร่วมด้วย
apnea of prematurity
หยุดหายใจนานกว่า 20 วินาที มี cyanosis
การดูแล
สังเกตอาการขาดออกซิเจน หายใจเร็ว เขียว ปีกจมูกบาน อกบุ๋ม (chest wall retraction) , ABG
ระวังการสำลัก suction เมื่อจำเป็น
จัดท่านอนที่เหมาะสม ศีรษะสู. เงยคอเล็กน้อย
APGAR Score
Mild asphyxia คะแนน แอพการ์ 5-7
Moderate asphyxis คะแนน แอพการ์ 3-4
No asphyxia คะแนน แอพการ์ 8-10
Severe asphyxia คะแนน แอพการ์ 0-2
Retinopathy of PrematurityRetinopathy (ROP)
ปัญหาการติดเชื้อ
Necrotizing Enterocolitis
การได้รับอาหารไม่เหมาะสม เร็วเกินไป
ลำไส้ขาดเลือดมาเลี้ยง
เป็นผลมาจากภาวะพร่องออกซิเจน
การย่อยและการดูดซึมไม่ดี
การพยาบาล
ตามวัดปรอททางทวารหนัก
ดูแลให้ยาปฎิชีวนะตามแผนการรักษา
NPO
ให้การพยาบาลโดยยึดหลัก aseptic technique
แยกจากเด็กติดเชื้อ / แยกผู้ดูแล
เฝ้าระวัง สังเกตภาวะติดเชื้อ เผ้าระวังภาวะลำไส้ทะลุ
การงอกผืดปกติของเส้นเลือด (neovascularization) บริเวณรอยต่อระหว่างจอประสาทตาที่มีเลือดไปเลี้ยงและจอประสาทตาที่ขาดเลือด
ปัญหาพัฒนาการล้าช้า
ส่งเสริมสายสัมพันธ์พ่อแม่ลูก
Eye to eye contact
Skin to skin contact
ปัญหาระบบหัวใจ , เลือด
PDA (Patent Ductus Ateriosus) , Neonatal Jaundice / Hyperbilirubinemia , Anemia
รักษา PDA โดยใช้ยา Indomethacin
รักษา PDA โดยใช้ยา ibuprofen
ภาวะตัวเหลืองในทารกแรกเกิด (Hyperbilirubinemia)
ภาวะตัวเหลืองจากพยาธิภาวะ (Pathological jaundice) เป็นภาวะที่ทารกมีบิลลิรูบินในเลือดสูงมากผิดปกติและเหลืองเร็ว ภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังเกิด
สาเหตุ
มีการดูดซึมของบิลลิรูบินจากลำไส้มากขึ้น
มีการกำจัดบิลลินูบินได้น้อยลง
มีการสร้างบิลลิรูบินเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติจากภาวะต่างๆที่มีการทำลายเม็ดเลือดแดง
ภาวะตัวเหลืองจากสรีรภาวะ (Physiological jaundice) หายไปเองใน 1-2 สัปดาห์
การรักษา
การส่องไฟ (Phototherapy)
ภาวะแทรกซ้อน
Increased water loss / dehydration
Diarrhea
Increases metabolic rate
Disturb of mother-infant interaction
Retinal damage
Thermodynamic unstable
Bronze baby / tanning
การพยาบาล
บันทึกและรายงานการเปลี่ยนแปลงของสัญญาณชีพทุก 2-4 ชม.
สังเกดลักษณะอุจจาระ
ดูแลให้ทารกได้นอนอยู่บริเวณตรงกลางของแผงหลอดไฟ
ดูแลให้ทารกได้รับการตรวจเลือดหาระดับบิลลิรูบินในเลือดอย่างน้อยทุก 12 ชม.
ถอดเสื้อผ้าทารกออกและจัดให้ทารกอยู่ในท่านอนหงาย
สังเกตภาวะแทรกซ้อนจากการได้รับการส่องไฟรักษา ได้แก่ ภาวะขาดน้ำ ถ่ายเหลว ดูดนมไม่ดี มีผื่นที่ผิวหนังหรือภาวะแทรกซ้อนที่ตา
ปิดตาทารกด้วยผ้าปิดตา (eyes patches) เพื่อป้องกันการระคายเคืองของแสงต่อตา
การเปลี่ยนถ่ายเลือด (Exchange transfusion)
การพยาบาล
ดูแลให้ร่างกายทารกอบอุ่น
ในขณะเปลี่ยนถ่ายเลือดต้องบันทึกปริมาณเลือดเข้า-ออก ตรวจวัดสัญญาณชีพ
เตรียมอุปกรณ์ช่วยฟื้นคืนชีพให้พร้อม
สังเกตภาวะแทรกซ้อน เช่น หัวใจวาย แคลเซียมในเลือดต่ำ น้ำตาลในเลือดต่ำ ตัวเย็น ติดเชื้อ
อธิบายให้บิดามารดาทราบ
ภายหลังการเปลี่ยนถ่ายเลือดตรวจวัดสัญญาณชีพ ทุก 15-30 นาที จนกระทั่งคงที่
นางสาวณัฐนรี ธีรวันอุชุกร รุ่น 36/1 รหัสนักศึกษา 612001039 เลขที่ 38