Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความรู้พื้นฐานและหลักการทั่วไปทางเภสัชวิทยา - Coggle Diagram
ความรู้พื้นฐานและหลักการทั่วไปทางเภสัชวิทยา
ความหมายของยา
บำบัด บรรเทา รักษา ป้องกันโรค ความเจ็บป่วยมนุษย์และสัตว์
ประเภทของยาแบ่งออกเป็น2ชนิด
ยารักษาโรคปัจจุบัน
4.ยาควบคุมพิเศษหมายถึง ยาแผนปัจจุบันหรือยาแผนโบราณรัฐมนตรีประกาศเป็นยาแผนควบคุม
5.ยาใช้ภายนอกหมายถึง สำหรับใช้ภายนอก
6.ยาใช้เฉพาะที่หมายถึงใช้เฉพาะที่ผิวหนัง หู จมูก
3.ยาอันตราย หมายถึง ยาแผนปัจจุบันหรือแผนโบราณที่รัฐมนตรีประกาศเป็นยาอันตราย
7.ยาสามัญประจำบ้านหมายถึง เป็นยาสามัญประจำบ้าน
2.ยาแผนโบราณ หมายถึง ใช้ในการประกอบโรคศิลปะแผนโบราณบำบัดโรคสัตว์
8.ยาบรรจุเสร็จหมายถึง ผลิตขึ้นเสร็จในรูปต่างๆบรรจุหีบห่อผลึกไว้มีฉลากครบถ้วน
1.ยาแผนปัจจุบัน หมายถึงใช้สำหรับประกอบวิชาชีพเวชกรรม
9.ยาสมุนไพรหมายถึงยาที่ได้จากพฤกษชาติสัตว์ หรือแร่ มิได้ปรุงหรือแปรสภาพ
แบ่งตามเภสัชตำรับ
2.ประโยชน์ในการรักษา เช่นยาแก้ปวดลดไข้
3.กลไกการออกฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา เช่นยาระบายหรือยาถ่ายทำให้ลำใส้บีบรัดตัวเพิ่มขึ้น
1.ตำแหน่งออกฤทธิ์ทางกายวิภาคเช่นยาออกฤทธิ์ต่อระบบไหลเวียนเลือด
4.แหล่งที่มาของยา เช่น ไอโอดีนจากแร่ธาตุ
แหล่งกำเนิดยา
1.จากธรรมชาติ
จากพืชเช่น รากใบลำต้น
จากสัตว์เช่น เช่น ตับ ตับอ่อน ดีหมู
จากแร่ธาตุ เช่น ไอโอดีน ทองแดง น้ำมันเกลือแร่
ตัวอย่างที่ใช้จากแร่ธาตุ
ผงน้ำตาลเกลือแร่
ยา Lithium carbonate
ยาใส่แผลสด
ยาลดกรดประเภทอะลูมิเนียมไฮดรอกไซด์
2.จากสังเคราะห์
อะลูมิเนียมไฮดรอกไซด์
ยาลดกรดกระเพาะอาหาร
เกลือของเหล็กใช้บำรุงโลหิต
การเรียกชื่อยา
2.เรียกชื่อสามัญทางยาหรือชื่อตัวยา(generic name)
เช่นยานอนหลับ ยาแก้ปวด
3.เรียกชื่อตามการค้า(trade name)
1.เรียกชื่อตามสูตรเคมี (chemical name)
เภสัชภัณฑ์หรือการเตรียมยา
2.ยาน้ำกระจายตัว
แมกมาและมิลค์
มิกซ์เจอร์
โลชั่น
อิมัลชั่น
เจล
3.รูปแบบประเภมกึ่งแข็ง
ครีม
ขี้ผึ้ง
1.รูปแบบที่เป็นของแข็ง
ยาเม็ดสำหรับเคี้ยว
ยาอม
ยาอมใต้ลิ้น
ยาผงเดือดฟู่
ยาเม็ด
ยาผง
ยาแคปซูล
ยาเหน็บ
4.ประเภทอื่นๆ
ยาทาผิวหนัง
ยาพ่นฝอย
ยาฉีด
ยาดม
การออกฤทธิ์ยาทางเภสัชจลนศาสตร์
1.การดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย
การดูดซึมยาหมายถึงอัตราและปริมาณยาเข้ากระแสเลือด
Bioavailability หมายถึงสัดส่วนยาไม่ถูกเปลี่ยนแปลงเข้าสู่กระแสเลือด
ปัจจัยที่มีผลต่อการดูดยา
ปัจจัยเกี่ยวกับตัวยา
1.ขนาด โมเลกุลของยา
2.วิธีการผลิตยา
3.ขนาดยาที่ใช้
ปัจจัยเกี่ยวกับผู้ป่วย
วิธีการบริหารยา
การให้ดูดซึมผ่านหลอดเลือดฝอยบริเวณใต้ลิ้น(ยาอมใต้ลิ้น)
การให้ยาดูดึมผ่านทางระบบทางเดินหายใจ(ยาแบบสูดดม)
การให้ยาผ่านทางเดินอาหาร
การให้โดยการฉีดใต้ผิวหนัง
2.การกระจายตัวของยา
3.การจับตัวยาในโปรตีนและพลาสม่า
4.ความสามารถในการผ่านเข้าสมองและรก
2.คุณสมบัติทางเคมีและฟิสิกส์ของยาแต่ละชนิด
5.การสะสมของยาที่ส่วนอื่น
1.ปริมาณการไหลเวียนไปยังอวัยวะนั้นๆ
3.การแปรสภาพยาการเปลี่ยนแปลงยา
1.กระตุ้นการออกฤทธิ์ของยา
2.สิ้นสุดการออกฤทธิ์ของยา
เอนไซม์ที่ทำหน้าที่ในการเปลี่ยนแปลงยา
เอนไซม์อาจอยู่ที่ไซโตพลาสซึมเช่นไต ปอด ทางเดินอาหาร พลาสม่า
ในร่างกายมีเอนไซม์หลายชนิดที่เกี่ยวข้องกับการแปรสภาพยา
ปัจจัยที่มีผลต่อการ drug metabolism
2.สิ่วงแวดล้อม
3.อายุ
1.พันธุกรรม
ปฎิกิริยาระหว่างยาระหว่างการเกิดmetabolism
1.ยาบางขนิดมีคุณสมบัติเหนี่ยวนำเอนไซม์
2.ยาบางชนิดมีคุณสมบัติยับยั้งเอนไซม์
4.การขับถ่ายยา
ความสำคัญทางเภสัชจลนศาสตร์
ค่าครึ่งชีวิต
ระยะเวลาที่ใช้ในการทำให้ยาหรือความเข้มข้นของยาลดเหลือ50%
Loading dose
ยาให้ครั้งแรกขนาดสูงอย่างรวดเร็ว
Onset
เวลาที่เริ่มให้ยาจนถึงยาเริ่มออกฤทธิ์ตามต้องการ
Duration of action
ระยะเวลายาออกฤทธิ์จนถึงหมดฤทธิ์
การออกฤทธิ์ของยาทางเภสัชพลศาสตร์
เภสัชพลศาสตร์
การจับตัวของยาreceptor
การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างขนาดยาที่ใช้กับการตอบสนองที่เกิดขึ้นกับร่างกาย
กลไกการออกฤทธิ์ของยาทางเภสัชพลศาสตร์
1.ออกฤทธิ์โดยไม่จับreceptor
เช่นยาลดกรดในกระเพาะอาหาร
เช่นยาระบาย
2.ออกฤทธิ์โดยจับกับตัวรับ
ความสำคัญของพลศาสตร์
Efficacy
ความสามารถของยาที่ทำให้ฤทธิ์สูงสุด
Potency
ความแรงของฤทธิ์ยา
Affinity
ความสามารถของยาในการจับกับตัวรับ
ระดับความปลอดภัย
ค่าTIต่ำระดับความปลอดภัยต่ำ
ค่าTIสูงระดับความปลอดภัยสูง
การแปรผันของการตอบสนองของยา
การตอบสนองต่อยาน้อยกว่าปกติ
การตอบสนองของยามากกว่าปกติ
การตอบสนองต่างจากปกติ
การดื้อหรือทนฤทธิ์ของยา
การดื้อยาเกิดขึ้นรวดเร็ว
ฤทธิ์หลอก
สาเหตุการตอบสนองต่อยาที่แตกต่างกัน
2.มีความแตกต่างในความเข้มข้นของendogenous receptor ligands
3.มีการเปลี่ยนแปลงจำนวนการทำงานของตัวรับ
1.,มีการเปลี่ยนแปลงของปริมาณยาอายุ เพศ น้ำหนัก
4.มีการเปลี่ยนแปลงส่วนประกอบของอวัยวะเกิดการตอบสนองกระตุ้นของตัวรับ