Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การประเมินสัญญาณชีพ - Coggle Diagram
การประเมินสัญญาณชีพ
อุณหภูมิของร่างกาย
อุณหภูมิส่วนแกนกลาง (Core temperature)
อุณหภูมิของเนื้อเยื่อชั้นลึก (Deeptissue) ของร่างกาย
ศีรษะ (Cranium)
ทรวงอก (Thoracic)
ช่องท้อง (Abdominal cavity)
อุณหภูมิผิวนอก (Surface temperature)
อุณหภูมิเนื้อเยื่อชั้นผิว (Skinsubcutaneous tissue fat)
อุณหภูมิผิวนอกนี้จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงตามสิ่งแวดล้อม
ปัจจัยที่มีผลต่อการสร้างความร้อน และการระบายความร้อน
ออกจากร่างกาย
กลไกของร่างกาย (Physiological mechanisms)
การนำความร้อน (Conduction)
การพาความร้อน (Convection)
การแผ่รังสี (Radiation)
การระเหยเป็นไอ (Evaporation)
กลไกของการเกิดพฤติกรรม (Behavioral mechanism)
การถอดเสื้อผ้า
สิ่งตกแต่งที่ทำให้อุ่น
เคลื่อนย้ายไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เย็น
ปัจจัยที่มีผลต่ออุณหภูมิของร่างกาย
ความผันแปรในรอบวัน
อายุุ
การออกกำลังกาย
อารมณ์
ฮอร์โมน
สิ่งแวดล้อม
ภาวะโภชนาการและชนิดของอาหารที่รับประทาน
การติดเชื้อในร่างกาย
การประเมินอุณหภูมิของร่างกาย
การวัดอุณหภูมิทางปาก (Oral temperature)
การวัดอุณหภูมิทางรักแร้(Axillary temperature)
การวัดอุณหภูมิทางทวารหนัก (Rectaltemperature)
การวัดอุณหภูมิโดยใช้เทอร์โมมิเตอร์แบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic temperature)
การวัดทางหู
การวัดทางผิวหนัง
ภาวะอุณหภูมิร่างกายผิดปกติและการพยาบาลผู้ป่วยที่มีอุณหภูมิของร่างกาย
อุณหภูมิร่างกายสูงกว่าปกติ(Hyperthermia)
ระยะเริ่มต้น หรือระยะหนาวสั่น
ระยะไข้
ระยะสิ้นสุดไข้
การลูบตัวลดไข้
การลูบตัวด้วยน้ำธรรมดา (Tepidsponge)
การลูบตัวด้วยน้ำเย็นจัด (Cold sponge)
การลูบตัวด้วยน้ำอุ่น (Warmsponge)
การเช็ดตัวด้วยแอลกอฮอล์ (Alcohol sponge)
อุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติ(Hypothermia)
ร่างกายสูญเสียความร้อนมากไป
การผลิตความร้อนไม่สมดุลกับการสูญเสียความร้อน
ผู้ป่วยอาจมีอาการหนาวสั่นร่วม
กระบวนการพยาบาลในการประเมินสัญญาณชีพ
การประเมินสภาพ
ซักประวัติการสัมผัสเชื้อ ระยะเวลา การรักษาก่อนมาโรงพยาบาล
ตรวจร่างกาย
จากผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
ไม่สุขสบายเนื่องจากอุณหภูมิร่างกายสูง
มีภาวะติดเชื้อในร่างกาย
การวางแผนการพยาบาล
เพื่อให้ผู้ป่วยมีอุณหภูมิร่างกายปกติ
ป้องกันอาการชักจากภาวะไข้สูงและให้ผู้ป่วยสุขสบายขึ้น
การปฏิบัติการพยาบาล
ประเมินสัญญาณชีพ
เช็ดตัวลดไข้โดยใช้น้ำธรรมดาหรือน้ำอุ่น
ดูแลให้ได้รับน้ำอย่างเพียงพอเพื่อชดเชยปริมาณสารน้ำที่สูญเสีย
จัดสิ่งแวดล้อมให้เงียบสงบ
ให้ยา Paracetmol ลดไข้/ดูแลให้ได้รับยาปฏิชีวนะ
ติดตามผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
การประเมินผลสัญญาณชีพ
ผู้ป่วยมีสีหน้าสดชื่น
สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติ
ไม่มีภาวะแทรกซ้อน
ให้ความร่วมมือในการรักษาพยาบาล
สัญญาณชีพ
ความหมายของสัญญาณชีพ
สิ่งที่แสดงให้ทราบถึงการมีชีวิต
สามารถสังเกตและตรวจพบได้จาก อุณหภูมิชีพจร การหายใจ และความดันโลหิต
สิ่งเหล่านี้เกิดจากการทำงานของอวัยวะของร่างกาย
ข้อบ่งชี้ในการวัดสัญญาณชีพ
เมื่อแรกรับผู้ป่วยไว้ในโรงพยาบาล
วัดตามระเบียบแบบแผนที่ปฏิบัติของโรงพยาบาล
ก่อนและหลังการผ่าตัด
ก่อนและหลังการตรวจวินิจฉัยโรคที่ต้องใส่เครื่องมือตรวจเข้าไปภายในร่างกาย
ก่อนและหลังให้ยาบางชนิดที่มีผลต่อหัวใจและหลอดเลือด
เมื่อสภาวะทั่วไปของร่างกายผู้ป่วยมีการเปลี่ยนแปลง
ก่อนและหลังการให้การพยาบาลที่มีผลต่อสัญญาณชีพ
ค่าปกติของสัญญาณชีพ
ขึ้นอยู่กับอายุเพศ
ขึ้นอยู่กับตรวจในขณะพัก
ค่าสัญญาณชีพปกติในผู้ใหญ่ ที่มักใช้เป็นเกณฑ์ในการประเมินความผิดปกติของสัญญาณชีพ
ชีพจร
ความหมายและปัจจัยที่มีผลต่อการเต้นของชีพจร
การหดและขยายตัวของผนังหลอดเลือด
เกิดจากการบีบตัวของหัวใจห้องล่างซ้าย
ปัจจัยที่มีผลต่อการเต้นของชีพจร
อายุ
เพศ
การออกกำลังกาย
ภาวะไข้
ยา
อารมณ์
ท่าทาง
ภาวะเสียเลือด
การประเมินชีพจร
Temporal pulse จับที่เหนือและข้าง ๆ ตา
Carotid pulse อยู่ด้านข้างของคอ
Brachial pulse อยู่ด้านในของกล้ามเนื้อ
Radial pulse อยู่ที่ข้อมือ
Femoral pulse อยู่บริเวณขาหนีบตรงกลาง ๆ
Popliteal pulse อยู่บริเวณตรงกลางข้อพับเข่า
Dorsalis pedis pulse อยู่บริเวณกลางหลังเท้า
Apical pulse อยู่ที่ยอดของหัวใจ
Posterior tibial pulse อยู่บริเวณหลังปุ่มกระดูกข้อเท้าด้านใน
การวัดสัญญาณชีพเบื้องต้น
วัตถุประสงค์
ประเมินอัตรา จังหวะ และความแรงในการเต้นของชีพจรใน 1 นาที
ตรวจสอบการทำงานของหัวใจเบื้องต้น
อุปกรณ์
นาฬิกาที่มีเข็มวินาที
ปากกาน้ำเงินและแดง
กระดาษและแบบฟอร์มบันทึก
วิธีการปฏิบัติ
ล้างมือให้สะอาด
บอกให้ผู้ป่วยทราบและขออนุญาตจับต้องตัวผู้ป่วย
พยาบาลวางปลายนิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง กดลงเบา ๆ
ประเมินชีพจรใช้เวลา 1 นาที สิ่งที่ต้องสังเกต
การนับอัตราการเต้นของหัวใจในเด็กอาจต้องใช้วิธีฟังอัตราการเต้นของหัวใจแทนการคลำชีพจร
บันทึกลงกระดาษที่เตรียมไว้และบันทึกในแบบฟอร์มต่อไป
ล้างมือให้สะอาด
ข้อควรจำในการวัดชีพจร
พยาบาลไม่ควรใช่นิ้วหัวแม่มือในการคลำชีพจร
วัดชีพจรผู้ป่วยหลังทำกิจกรรม 5-10 นาที
อธิบายแนะนำให้ผู้ป่วยไม่ควรพูดขณะวัดชีพจร
ลักษณะชีพจรที่ผิดปกติ
อัตรา (Rate) การเต้นของชีพจร
ภาวะที่อัตราการเต้นของหัวใจในผู้ใหญ่มากกว่า 100 ครั้ง/นาที
ภาวะที่อัตราการเต้นของหัวใจในผู้ใหญ่น้อยกว่า 60 ครั้ง/นาที
จังหวะ (Rhythm) การเต้นชีพจร
จังหวะของชีพจรปกติ
จังหวะของชีพจรผิดปกติ
ชีพจรที่เต้นไม่เป็นจังหวะแต่ละช่วงพักไม่สม่ำเสมอ
อาจจะมีจังหวะการเต้นสม่ำเสมอสลับกับไม่สม่ำเสมอ
ปริมาตรความแรง (Volume)
ความแรงของชีพจรขึ้นอยู่กับปริมาตรของเลือดในการ
กระทบผนังของหลอดเลือดแดง
การจับชีพจรได้ด้วยการกดนิ้วลงตรงบริเวณหลอดเลือดแดง
การหายใจ
ความหมายและปัจจัยที่มีผลต่อการหายใจ
การหายใจเพื่อแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์
การสูดเอาอากาศเข้าไปในถุงลมของปอด
การไล่อากาศออกจากปอด เ
การแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งอยู่ในเลือด
ปัจจัยที่มีผลต่อการหายใจ
จังหวะและความลึกของการหายใจ
การเปลี่ยนแปลงของอารมณ์สภาวะแวดล้อม
อิทธิพลจากความเจ็บป่วย
การประเมินการหายใจ
เป็นการนับอัตราการหายใจเข้าและออก
เพื่อตรวจสอบการทำงานของปอด
เพื่อตรวจสอบทางเดินของลมหายใจ
ลักษณะการหายใจที่ผิดปกติ
ความลึกของการหายใจ
อัตราเร็วของการหายใจ
จังหวะของการหายใจ
ลักษณะของการหายใจปกติ (Eupnea)
ลักษณะเสียงหายใจที่ผิดปกติ
สีของผิวหนังที่ผิดปกติ
ความดันโลหิต
ความหมายและปัจจัยที่มีผลต่อความดันโลหิต
แรงดันของเลือดที่ไปกระทบกับผนังเส้นเลือดแดง
ความดันที่เกิดจากการหดรัดตัวของหัวใจห้องล่างซ้าย
ความดันที่วัดเมื่อหัวใจห้องล่างซ้ายคลายตัวจึงเป็นความดันที่ต่ำสุด
Systolic pressure 120 มิลลิเมตรปรอท
Diastolic pressure 80 มิลลิเมตรปรอท
การประเมินความดันโลหิต
การวัดความดันโลหิตโดยทางตรง
การวัดความดันโลหิตโดยทางอ้อม
ข้อควรระวังในการวัดความดันโลหิต
การรัดผ้าพันแขนต้องให้แนวของสายยางทั้งสองของผ้าพันแขนอยู่ระหว่างตำแหน่งของเส้นเลือดแดงพอด
ขณะปล่อยลมออก
ผ้าพันแขนต้องเลือกใช้ให้ถูกขนาดกับผู้ป่วย
ลำของปรอทที่วัดต้องตั้งฉากในขณะอ่านค่าความดันโลหิต
ขณะวัดความดันโลหิตแขนของผู้ป่วยควรวางในระดับเดียวกันกับหัวใจ
ก่อนพันผ้าเพื่อวัดความดันโลหิตทุกครั้ง
การเก็บเครื่องวัดความดันโลหิต
ลักษณะความดันโลหิตที่ผิดปกติ
Hypertension ความดันโลหิตสูง
การป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้น
จำกัดเกลือ หรืออาหารเค็ม
จำกัดอาหารพวกแป้ง ไขมัน น้ำตาล
พักผ่อนให้เพียงพอ
ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
Hypotension ความดันโลหิตต่ำโดย
อาการหน้ามืดเหมือนจะเป็นลม
เกิดการเสียเลือดมาก ๆหรือโลหิตจางเรื้อรัง
Orthostatic hypotension ความดันโลหิตตกในท่ายืน
ให้คำแนะนำดูแลแก่ผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตต่ำ
จัดให้ผู้ป่วยนอนพัก
ควรมีการตรวจสัญญาณชีพ
ในผู้ที่ต้องนอนนาน ๆ ควรป้องกันภาวะวิงเวียนขณะลุก
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ