Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความรู้พื้นฐานและหลักทั่วไปทางเภสัชวิทยา - Coggle Diagram
ความรู้พื้นฐานและหลักทั่วไปทางเภสัชวิทยา
ความรู้ทั่วไปทางเภสัชวิทยา
ประกอบด้วยความหมายของยา ประเภทของยา การเรียกชื่อยา แหล่งกำเนิดยา รูปแบบยาเตรียม ตลอดจนข้อดีข้อเสียการให้ยาวิถีต่างๆ
ความหมายของยาตามพระราชบัญญัติ พ.ศ. 2510
วัตถุที่รองรับไว้ในตำราที่รัฐมนตรีประกาศ
วัตถุที่มุ่งหมายสำหรับใช้ในการวินิจฉัย บำบัด บรรเทา
วัตถุที่เป็นเคมีภัณฑ์ หรือกึ่งสำเร็จรูป
วัตถุมุ่งหมายสำหรับให้เกิดผลแก่สุขภาพ
ประเภทของยา แบ่งได้ 2 แบบ
1.ยารักษาโรคปัจจุบัน แบ่งตามพระราชบัญญัติ พ.ศ.2510
มี 9 ประเภทดังนี้
ยาแผนปัจจุบัน
ยาแผนโบราณ
ยาอันตราย
ยาควบคุมพิเศษ
ยาใช้ภายนอก
ยาใช้เฉพาะที่
ยาสามัญประจำบ้าน
ยาบรรจุเสร็จ
ยาสุนไพร
2.แบ่งตามเภสัชตำรับ
1.ตำแหน่งการออกฤทธิ์ทางกายวิภาค เช่น ระบบประสาท ระบบทางเดินปัสสาวะ
2.ประโยชน์ในการรักษา เป็นวิธีแบ่งประเภทของยาที่นิยมที่สุด
3.กลไกการออกฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา
4.แหล่งที่มาของยา
แหล่งกำเนิดยา
1.จากธรรมชาติ
จากพืช
เป็นยาที่ได้จากส่วนต่างๆของพืชโดยตรง
จากสัตว์
สกัดจากอวัยวะบางส่วนของสัตว์
ตับ
ตับอ่อน
ดีหมู
จากแร่ธาตุ
ยาใส่แผลสด
ผงน้ำตาลเกลือแร่
2.จากการสังเคราะห์
โดยอาศัยปฏิกิริยาทางห้องเคมีในห้องปฏิบัติการ
เกลือของเหล็ก
การเรียกชื่อยา
1.เรียกชื่อตามสูตรเคมี
2.เรียกชื่อสามัญทางยาหรือชื่อยา
3.เรียกชื่อตามการค้า
เภสัชภัณฑ์หรือยาเตรียม
คือ ยารักษาโรคซึ่งถุกปรุงแต่งเป็นรูปแบบต่างๆ เพื่อความเหมาะสมในการใช้ยาได้สะดวก
แบ่งได้ 4 รูปแบบ
1.รูปแบบของแข็ง
ยาแคปซูล
ยาเม็ด
ยาอมใต้ลิ้น
ยาเม็ดสำหรับเคี้ยว
ยาอม
ยาผงเดือดฟู่
ยาผง
ยาเหน็บ
2.ประเภทของเหลว
ยาน้ำสารละลาย
ยาน้ำสารละลายที่ตัวทำละลายเป็นน้ำ
น้ำปรุง
ยาน้ำใส
ยาน้ำเชื่อม
ยาจิบ
ยาน้ำสารละลายที่ตัวทำละลายไม่ใช้น้ำ
ยาอิลิกเซอร์
ยาสปิริต
ยาโคโลเดียน
ยาถูนวด
ยาน้ำกระจายตัว
เจล
โลชั่น
แมกมาและมิลค์
มิกซ์เจอร์
3.รูปแบบประเภทกึ่งแข็ง
ขี้ผึ้ง
ครีม
4.ประเภทอื่นๆ
ยาฉีด
ยาทาผิวหนัง
ยาพ่นฝอย
ยาดม
หลักทั่วไปทางเภสัชวิทยา
การออกฤทธิ์ของยาทางเภสัชจลนศาสตร์
เภสัชจลนศาสตร์ การเป็นไปของยาเมื่อยาเข้าสู่ร่างกาย
กากดูดซึมยาเข้าสู่ร่างกาย
คือ อัตรา และ ปริมาณ ยาที่ถูกนำเข้าสู้กระแสโลหิต
ปัจจัยที่มีผลต่อการดูดซึมยา
เกี่ยวกับผู้ป่วย
1.วิธีการบริหารยา
การให้ยาผ่านทางเดินอาหาร
คุณสมบัติเป็นกรดอ่อน
คุณสมบัติที่เป็นด่างอ่อน
การให้ยาดูดซึมผ่านหลอดเลือดฝอยบริเวณใต้ลิ้น
การให้ยาดูดซึมผ่านทางระบบทางเดินหายใจ
การให้ยาโดยการฉีดใต้ผิวหนัง
การให้ยายดูดซึมผ่านทางผิวหนัง
การให้ยาแบบเหน็บทวารหนักหรือช่องคลอด
2.พยาธิสภาพของร่ายกาย
ท้องผูก
ท้องเสีย
อาเจียร
สภาวะทางสรีรวิทยาและอารมณ์ของผู้รับยา
การนอนหลับทำให้การเคลื่อนที่ของยาไปยังกระเพาะอาหารลดลง
การได้รับอาหารหรือยาบางชนิดอื่นร่วมด้วย
เกี่ยวกับตัวยา
ขนามโมเลกุลของยา
วิธีการผลิตยา
ขนายาที่ให้
คุณสมบัติในการละลายในไขมัน
การกระจายของตัวยา ขึ้นอยู่กับ
ปริมาณการไกลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะนั้นๆ
คุณสมบัติทางเคมีและฟิสิกส์ของยาแต่ละชนิด
การจับตัวของยากับโปรตีนในพลาสม่า
ความสามารถในการผ่านเข้าสมองและรก
การสะสมของยาส่วนอื่น
การแปรสภาพยาหรือการเปลี่ยนแปลงยา
กระตุ้นการออกฤทธิ์ของยา
สิ้นสุดการออกฤทธิ์ของยา
เอนไซม์ที่ทำหน้าที่ในการเปลี่ยนแปลงของยา
อาจอยู่ที่ไซโตพลาสซึม
ในร่างกายมี enzyme หลายชนิดที่เกี่ยวข้องกับการแปรสภาพ
ปฏิกิริยาการเปลี่ยนแปลง
phase I reaction
enzyme จะเปลี่ยนโครงสร้าฃทางเคมีของยา
Phase II reaction
ยาหรือmetaboliteจาก phase I ที่ไม่มีความเป็น polar มากพอที่ถูกขับออกทางไตจะต้องถูกทำให้ละลายน้ำได้ดีโดยการรวมตัว
ปัจจัยที่มีผลต่อ drug metabolism
พันธุกรรม
สิ่งแวดล้อม
อายุ
ปฏิกิริยาระหว่างยาในระหว่างการเกิด metabolism
ยาบางชนิดมีคุณสมบัติการเหนี่ยวนำเอนไซม์
ยาบางชนิดสามารถเพิ่มการสังเคราห์ในตับได้
ในขณะที่่ยาบางชนิดมีคุณสมบัติยับยั้งเอนไซม์
ยาที่สามารถลดหรือยับยั้งการทำงานในตับ
การขับถ่ายยา
ร่างกายสามารำกำจัดออกได้ทาง
ไต
ตับ
น้ำดี
ปอด
เหงื่อ
ปริมาณที่น้อย
น้ำนม
ปริมาณที่น้อย
คำสำคัญทางเภสัชจลนศาสตร์
ค่าครึ่งชีวิต
เวลาที่ใช้ในการทำให้ยาหรือความเข้มของยาลดลงเหลือ 50%
Loading dose
ขนาดยาที่ให้ครั้งแรกเพื่อให้ถึงระดับยาที่ต้องการในพลาสมา
Onset
ระยะเวลาที่เริ่มให้ยาจนถึงยาเริ่มออกฤทธิ์ที่ต้องการ
Duration of acton
ระยะเวลาที่ยาเริ่มออกฤทธิ์ที่ต้องการจนถึงหมดฤทธิ์ที่ต้องการ
การออกฤทธิ์ของยาทางเภสัชพลศาสตร์
เภสัชพลศาสตร์
เกี่ยวข้องกับการออกฤทธิ์ของยาต่อร่างกาย มีแนวความคิเกี่ยวกับ
การจับของยากับ receptor
การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างขนาดยาที่ใช้กับการตอบสนองที่เกิดขึ้นในร่างกาย
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
ไม่จับกับ receptor
Chemical action
ยาลดกรดในกระเพาะอาการ
Physical action
ยาระบาย
ยาลดการดูดซึม
ออกฤทธิ์โดยจับกับ receptor
ตัวรับ receptor
เป็นองค์ประกอบของเซลล์ซึ่งอาจพบได้ที่ผนังเซลล์
ส่วนใหญ่อยู่ที่ผนังเซลล์โดยเฉพาะ receptor สื่อประสาท
Agonist
ทำให้เกิดฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา
Antagonist
ยาที่จับกับ receptor แล้วสามารถลดเหลือหรือบังฤทธิ์ของ agonist กับ receptor
Partial agonist
ยาที่จับกับ receptor แล้วออกฤทธิ์เพียงบางส่วน
คำสำคัญทางเภสัชพลศาสตร์
Affinty
ความสามารถของยาในการจับกับ receptor
Efficacy
ความสามารถของยาที่ทำให้เกิดฤทธิ์สูงสุด
Potency
ความแรงของฤทธิ์ยา
ระดับความปลอดภัยของยา
การหาระดับความปลอดภัยของยามักจะทำการทดลองผ่านสัตว์ทดลอง
หนูแรท
หนูเมาส์
ยาที่มีค่า therapeutic index ต่ำจะมีความปลอดภัยต่ำ
litium
digoxin
ยาที่มีค่า therapeutic index สูงจะมีความปลอดภัยสูง
การแปรผันของการตอบสนองยา
ในแต่ละคนจะมีการตอบสนองต่อยาได้ต่างกัน
มีหลายแบบ
Idiosyncrasy
ไม่พบเกิดในคนส่วนใหญ่
Hyporeactivity
ตอบสนองยาน้อยกว่าปกติ ทำให้ไม่เกิดฤทธิ์ยา
Hypereactivity
ตอบสนองยาที่มากกว่าปกติ
การให้ยานอนหลับในผู้ป่วยบางคนจะไม่หลับขณะที่ผู้ป่วยบางคนหลับได้นานกว่าปกติ
Hypersensitivity
การแพ้ยาจากร่างกายที่มี antibody ที่ต่อต้านต่อโครงสร้างทางโมเลกุล
Tolerance
เป็นการดื้อยาหรือทนฤทธิ์ของยา
Tachyphylaxis
เป็นการดื้อยาที่เกิดขึ้นเร็วเมื่อรับยาเพียง 2-3 ครั้ง
Placebo effect
ฤทธิ์หลอก
สาเหตุการตอบสนองต่อยาที่แตกต่างกัน
มีการเปลี่ยนแปลงของปริมาณยาที่ไปถึง receptor
มีความแตกต่างกันในความเข้มข้น
มีการเปลี่ยนแปลงจำนวนหรือการทำงานของ receptor
มีการเปลี่ยนแปลงส่วนประกอบของอวัยวะที่เกิดการตอบสนองจากการกระตุ้น receptor