Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การบาดเจ็บจากการคลอด (Birth Injury), นางสาวอริญา ไชยสัจ เลขที่ 124 รหัส…
การบาดเจ็บจากการคลอด (Birth Injury)
ความหมาย
การบาดเจ็บที่เกิดกับทารกระหว่างคลอดจากแรงที่
กระทำกับทารกโดยตรง และไม่เกี่ยวกับโรคที่มารดาเป็นระหว่างการตั้งครรภ์
สาเหตุ
ปัจจัยเสี่ยงจากมารดา
ความผิดปกติที่มีมาก่อนการตั้งครรภ์ เช่น มารดามีภาวะเบาหวาน เชิงกรานแคบไม่ได้สัดส่วนกับทารก (cephalopelvic disproportion: CPD)
ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นจากการตั้งครรภ์ เช่น ความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ รกลอกตัวก่อนกำหนด ภาวะน้ำคร่ำน้อย
ระยะเวลาของการคลอด เช่น การคลอดเฉียบพลัน
ปัจจัยเสี่ยงจากทารก
ทารกมีส่วนนำผิดปกติ เช่น หน้า ไหล่ ก้น
ทารกมีขนาดตัวโตมากทำให้เกิดการคลอดยาก
อายุครรภ์ของทารกไม่ครบกำหนด หรือเกินกำหนด
การคลอดไหล่ยาก
ทารกมีความพิการแต่กำเนิด
ปัจจัยเสี่ยงจากการคลอด
การคลอดด้วยคีม หรือเครื่องดูดสุญญากาศ
การใช้แรงดึงมากเกินไปในการช่วยคลอดทารก
ปัจจัยเสี่ยงจากผู้ทำคลอด
ขาดความชำนาญหรือขาดการเอาใจใส่อย่างเพียงพอ
การบาดเจ็บที่ศีรษะทารก (Skull injuries)
ภาวะก้อนบวมน้ำใต้หนังศีรษะ (caput succedaneum)
เกิดจากการคั่งของของเหลวในระหว่างชั้นของหนังศีรษะกับชั้นเยื่อหุ้มกระดูกกะโหลกศีรษะ ก้อนบวมโนนี้จะข้ามรอยต่อ(suture) ของกระดูกกะโหลกศีรษะ มีขอบเขตไม่แน่นอน
สาเหตุ
เกิดจากแรงดันที่กดลงบนศีรษะทารกระหว่างการคลอดท่าศีรษะ ทำให้มีของเหลวไหลซึมออกมา นอกหลอดเลือดในชั้นใต้เยื่อหุ้มหนังศีรษะ หรือมีสาเหตุมาจากการใช้ vacuum extraction
การวินิจฉัย
การคลำศีรษะทารก จะพบก้อนบวมโน มีลักษณะนุ่ม กดบุ๋ม ขอบเขตไม่ชัดเจน ข้ามแนวรอยต่อของกระดูกกะโหลกศีรษะและพบทันทีภายหลังคลอด
อาการและอาการแสดง
พบได้ด้านข้างของศีรษะ การบวมของก้อนโนนี้จะมีความกว้างและมีขนาดโตประมาณไข่ห่าน ทำให้ศีรษะมีความยาวมากกว่าปกติ
แนวทางการรักษา
▪หายไปได้เอง ประมาณ 2 -3 วันหลังคลอด
▪ถ้าเกิดจาก V/E จะหายได้ช้ากว่า
บทบาทการพยาบาล
สังเกตลักษณะ ขนาด การเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ของก้อนบวมโนที่ศีรษะ
สังเกตอาการเปลี่ยนแปลงทางระบบประสาทของทารก
อธิบายให้มารดาและบิดาเข้าใจถึงอาการที่เกิดขึ้นเพื่อคลายความวิตกกังวล
บันทึกอาการและการพยาบาล
ภาวะเลือดออกใต้เยื่อหุ้มกะโหลกศีรษะ (cephalhematoma)
เป็นการคั่งของเลือดบริเวณใต้เยื่อหุ้มกระดูกกะโหลกศีรษะ มีขอบเขตชัดเจน และไม่ข้ามรอยต่อของกระดูกกะโหลกศีรษะ พบมากที่กระดูก parietal
สาเหตุ
ระยะเวลาการคลอดยาวนาน,ศีรษะทารกถูกกดจากช่องทางคลอด,การใช้ V/E
ภาวะแทรกซ้อน
อาการรุนแรงก้อนโนเลือดมีขนาดใหญ่ จะเกิด hyperbilirubinemia อาจเกิดการติดเชื้อจากการดูดเลือดออกจากก้อนโนเลือดใน
การวินิจฉัย
ประวัติเบ่งคลอดนาน ช่วยคลอดโดยใช้ V/E การตรวจพบบริเวณศีรษะมีก้อนบวมโนบนกระดูกกะโหลกศีรษะชิ้นใดชิ้นหนึ่ง มีลักษณะแข็งหรือค่อนข้างตึง คลำขอบเขตได้ชัดเจน กดไม่เป็นรอยบุ๋ม
อาการและอาการแสดง
อาการปรากฏให้เห็นชัดเจนหลัง 24 ชม.ไปแล้ว เนื่องจากเลือดจะค่อย ๆ ซึมออกมานอกหลอดเลือด
ในรายที่เป็นรุนแรงอาจพบอาการแสดงทันทีหลังเกิดและพบว่าก้อนโนเลือดมีสีผิดปกติ คือ เป็นสีดำหรือน้ำเงินคล้ำ เนื่องจากการแข็งตัวของเลือด และอาจพบว่าทารกมีภาวะซีดได้จากการสูญเสียเลือดมาก
แนวทางการรักษา
▪ ถ้าไม่มีภาวะแทรกซ้อน จะค่อยๆหายไปเองภายใน 2 เดือน
▪ ถ้ามีภาวะตัวเหลืองร่วมด้วยและมีระดับบิลลิรูบินในเลือดสูงจำเป็นต้องได้รับการส่องไฟ
ในรายที่ก้อนเลือดขนาดใหญ่อาจรักษาโดยการดูดเลือดออก
บทบาทพยาบาล
สังเกต ลักษณะ ขนาด และการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ
2.ให้ทารกนอนตะแคงด้านตรงข้ามกับก้อนโนเลือด
สังเกตอาการซีด เจาะ Hct และให้เลือดตามแผนการรักษา
ตรวจ MB ถ้าตัวเหลืองรายงานแพทย์เพื่อส่องไฟ
5.อธิบายมารดาและบิดาให้เข้าใจถึงอาการของทารก
6.แนะนำไม่ใช้ใช้ยาทา ยานวด ประคบหรือเจาะเอาเลือดออกเอง
Subgaleal hematoma
ภาวะที่มีเลือดสะสมภายใต้ช่องว่างของเนื้อเยื่อที่อยู่ระหว่างพังพืดของกะโหลกและเยื่อหุ้มกะโหลก
สาเหตุ
มักพบในการคลอดโดยใช้ V/E
อาการและอาการแสดง
มีขอบเขตจากหน้าไปหลังเริ่มจากขอบเบ้าตาไปยังท้ายทอยและด้านข้างจากหูไปยังหูอีกข้าง
ก้อนมีลักษณะน่วม และข้ามแนวประสานกระดูก ก้อนมีขนาดเพิ่มขึ้นช้าๆในหลายชม.หรือหลายวันหรือเพิ่มขึ้นรวดเร็ว อาจทำให้ทารกช็อกจากการเสียเลือดได้
Subgaleal hematoma อันตรายมากกว่า Cephalhematoma
Intracranial hemorrhage
เป็นภาวะที่เลือดออกภายในกะโหลกศีรษะ
epidural,subdural ,subarachnoid ,intracerebral,subependymal , intraventricular
สาเหตุ
Preterm
ภาวะขาดออกซิเจนเป็นเวลานานในขณะคลอดหรือเกิดภายหลังคลอด
การได้รับอันตรายรุนแรงจากการคลอด
การคลอดท่าก้น
✓ ภาวะ CPD
✓ การคลอดยาก
✓ การให้ยาช่วยเร่งคลอดไม่เหมาะสม
✓ การคลอดเฉียบพลัน
การใช้เครื่องมือช่วยคลอด
ภาวะแทรกซ้อน
เลือดออกกดศูนย์หายใจทำให้ทารกหายใจลำบาก
ทารกอาจเกิดปัญญาอ่อน (mental retardation)
อาการและอาการแสดง
• Reflex ลดน้อยลงหรือไม่มี โดยเฉพาะ moro reflex จะเสียไป
• กำลังกล้ามเนื้อไม่ดี มีอาการอ่อนแรง
• มีภาวะซีด หรือมีอาการเขียว (cyanosis)
• ซึม ดูดนมไม่ดี หรือไม่ยอมดูดนม
• ร้องเสียงแหลม
• การหายใจผิดปกติมีหายใจเร็วตื้นช้า ไม่สม่ำเสมอหรือหยุดหายใจ
• กระหม่อมโป่งตึง
• ชัก (Convulsion)
บทบทาการพยาบาล
ดูแลให้ทารกหายใจสะดวกและได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ
กรณีที่ให้ออกซิเจน ควรสำรวจปริมาณออกซิเจนที่ทารกได้รับความไม่ควรเกิน 40% หรือตามแผนการรักษา และให้ออกซิเจนที่มีความชื้นปนเพื่อช่วยละลายเสมหะ
ดูแลให้ได้รับนมและน้ำที่เพียงพอ
ให้ทารกอยู่ในตู้อบ incubator
เตรียมเครื่องมือในการให้ความช่วยเหลือทารกไว้ให้พร้อม
ตรวจสอบสัญญาณชีพ และบันทึกไว้ทุก 2- 4 ชั่วโมง ตามระดับความรุนแรงของอาการ
ป้องกันและไม่ให้ทารกได้รับอันตรายจากการชัก
ดูแลให้ทารกได้พักผ่อน รบกวนทารกให้น้อยที่สุด
ดูแลฉีดวิตามินเค จำนวน 1 มิลลิกรัม เข้ากล้ามเนื้อ
10.ประคับประคองจิตใจมารดาและบิดา
11.ให้การดูแลอย่างต่อเนื่อง
การบาดเจ็บของกระดูก (Bone injuries)
Fracture femur
สาเหตุ
การคลอดท่าก้น ผู้ทำคลอดดึงขาทารกขณะที่ติดอยู่ที่ทางเข้าเชิงกราน
การตรวจร่างกาย
moro reflex ทารกไม่ยกขาข้างที่หัก และสังเกตว่าไม่เคลื่อนไหวขาที่หัก
อาการและอาการแสดง
ได้ยินเสียงกระดูกหักขณะทารกคลอด ขาทารกมีอาการบวม เมื่อจับเคลื่อนไหวทารกจะร้องไห้
แนวทางการรักษา
ถ้ากระดูกไม่หักแยกจากกัน (incomplete) รักษาโดยใส่เฝือกขายาว ประมาณ 3 -4 wk.
ถ้ากระดูกหักแยกจากกัน (complete) ดึงขาไว้นาน 2-3 wk.
Fracture clavicle
การตรวจร่างกาย
moro reflex แขนทั้งสองข้างไม่เคลื่อนไหว และได้ยินเสียงกรอบแกรบ
อาการและอาการแสดง
ทารกเคลื่อนไหวแขนน้อยหรือไม่เคลื่อนไหวเลย หงุดหงิดหรือร้องไห้เมื่อขยับแขน
มีอาการบวมห้อเลือด (ecchymosis)
ปมประสาทใต้ไหปลาร้า (brachial plexus)
สาเหตุ
คลอดทารกท่าศีรษะที่ไหล่คลอดยาก,ทารกตัวโตหรือคลอดท่าก้นที่เเขนเหยียด
แนวทางการรักษา
ส่วนใหญ่หายได้เองค่อนข้างเร็ว ภายใน 1 wk.
ให้แขนและไหล่ด้านที่หักอยู่นิ่งๆ โดยการกลัดแขนเสื้อติดกับเสื้อประมาณ 10-14 วัน
Fracture humurus
สาเหตุ
การคลอดท่าก้นผู้ทำคลอดดึงทารกออกมาแขนเหยียด
การคลอดท่าศีรษะที่ไหล่คลอดยาก
ตรวจร่างกาย
moro reflex ทารกจะไม่งอแขน
เมื่อขยับแขนทารกจะร้องไห้
อาการและอาการแสดง
กระดูกหักสมบูรณ์ อาจได้ยินเสียงกระดูกหักขณะคลอด
แขนที่หักจะบวมและไม่เคลื่อนไหว
การรักษา
กระดูกแขนเดาะ รักษาโดยตรึงแขนให้แนบกับลำตัวเพื่อไม่ให้แขนเคลื่อนไหว 1-2 wks.
กระดูกแขนหักสมบูรณ์ รักษาโดยจับแขนตรึงกับผนังทรวงอก ศอกงอ 90 องศา แขนส่วนล่างและมือทาบขวางลำตัวใช้ผ้าพันรอบแขนและลำตัว
บทบาทการพยาบาล
ดูแลไม่ให้กระดูกส่วนที่หักเคลื่อนไหว และจัดให้บริเวณที่หักอยู่ในท่าที่ถูกต้องตามแผนการรักษา
จัดกิจกรรมการพยาบาลไม่ให้เคลื่อนไหวร่างกายทารกบ่อย ๆ
ดูแลให้ได้รับความสุขสบาย และป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นเพิ่ม
ดูแลให้ทารกได้รับอาหารและน้ำอย่างเพียงพอ
ดูแลการขับถ่าย ป้องกันการระคายเคืองจากอุจจาระและปัสสาวะ
ดูแลให้ความอบอุ่นทางด้านจิตใจแก่ทารก
7.ดูแลบรรเทาความวิตกกังวลของมารดาและบิดา
การบาดเจ็บของเส้นประสาท
Facial nerve injury
สาเหตุ
การคลอดยาก
การใช้คีมช่วยคลอดทำให้กดเส้นประสาทคู่ที่ 7
การตรวจร่างกาย : สังเกตสีหน้าของทารกเวลานอน เวลาร้องไห้หรือแสดงสีหน้าท่าทาง
อาการและอาการแสดง
มีอาการอัมพาตชั่วคราวของกล้ามเนื้อใบหน้า มักเป็นด้านเดียว กล้ามเนื้อใบหน้าเป็นอัมพาตไม่เคลื่อนไหว ทำให้หน้าเบี้ยวไปข้างที่ดี รูปหน้า 2 ข้างไม่เท่ากัน เห็นได้ชัดเจนเมื่อร้องไห้ ลืมตาเพียวข้างเดียว ตาปิดไม่สนิท ไม่มีรอยย่นที่หน้าผาก
แนวทางการรักษา
ถ้าประสาทที่เลี้ยงใบหน้าเพียงถูกกดอาจหายไปได้เองภายใน 2-3 วัน ถึง สัปดาห์ แต่ถ้าเส้นประสาทขาดต้องได้รับการทำศัลยกรรมซ่อมประสาท
การพยาบาล
ดูแลไม่ให้ดวงตาของทารกได้รับอันตราย
2.ดูแลให้ทารกได้รับอาหารเหมาะสมตามความต้องการของทารก
3.ดูแลให้ทารกได้รับการตอบสนองด้านจิตใจ
4.ดูแลบรรเทาความวิตกกังวลของมารดาและบิดา
กรณีให้นมมารดา : มารดาควรอุ้มทารกให้ศีรษะสูงตลอดเวลาขณะให้นมและเมื่อทารกมีอาการสำลักให้รีบจับทารกตะแคงหน้าหนีทันทีเพื่อให้นมไหลออกจากปาก และรีบทำทางเดินหายใจให้โล่โดยใช้ลูกสูบยางแดงดูดออก แต่ถ้าทารกไม่สามารถดูดนมมารดาจากเต้าได้โดยตรง มารดาควรบีบนมใส่ขวดให้กับทารก
กรณีให้นมผสม
แนะนำให้ใช้หัวนมยางนุ่มขนาดพอเหมาะ
อุ้มทารกให้นมท่าศีรษะสูง ถ้าสำลักจับตะแคงหน้าทันที และทำทางเดินหายใจให้โล่ง
เตรียมอุปกรณ์ช่วยดูดเสมหะให้พร้อมใช้เสมอ จะได้ช่วยเหลือได้ทันเมื่อสำลัก
ถ้าทารกไม่สามารถดูดนมจากขวดได้เอง อาจใช้วิธีหยอดนม/ใช้ syringe หยอดเข้าปากบริเวณกระพุ้งแก้มข้างที่ไม่มีอาการ
สอนวิธีการให้นมทารกกับมารดาหรือผู้เลี้ยงดู รวมทั้งวิธีการช่วยเหลือเมื่อทารกมีอาการสำลัก
การบาดเจ็บของเส้นประสาท Brachial
เกิดจากข่ายประสาท Brachial ถูกดึงหรือกด จะพบในทารกที่คลอดโดยมีส่วนนำเป็นก้น
หรือคลอดยากบริเวณแขนหรือไหล่จากการที่ดึงไหล่ออกไปจากศีรษะในระหว่างการคลอด
:
Erb-Duchenne paralysis
แขนข้างนั้นส่วนบนไม่ขยับ
แขนจะอยู่ในท่าชิดตัวและหมุนเข้าข้างในบริเวณข้อมือยังขยับ
กำมือได้ตามปกติ
เป็นการบาดเจ็บที่เส้นประสาทจากกระดูกสันหลังc5-c6
การตรวจร่างกาย
moro reflex แขนยกขึ้นไม่ได้หรือได้น้อย
การเคลื่อนไหวและงอแขนลดลง
grasp reflex
ปกติ
Klumpke’ s paralysis
การบาดเจ็บที่เส้นประสาท c7-c8 และ T1
แขนข้างนั้นส่วนล่างไม่ขยับ
แขนอยู่ในท่าชิดตัวและหมุนเข้าข้างใน
บริเวณข้อมือไม่ขยับ
กำมือไม่ได้
การตรวจร่างกาย
moro reflex ไหล่และแขนส่วนบนเหยียดกาง
ออกเป็นปกติ แต่ข้อมือ นิ้วมือตกไม่มีแรง
grasp reflex
ผิดปกติ
แนวทางการรักษา
ให้แขนไม่เคลื่อนไหว ในท่ากางหมุนแขนออก ข้อศอกตั้งฉากกับลำตัว
ทำกายภาพบำบัด
ถ้าไม่หายอาจต้องทำศัลยกรรมซ่อมประสาท
การพยาบาล
ดูแลให้ส่วนที่ได้รับอันตรายไม่เคลื่อนไหว
ดูแลให้แขนที่ได้รับอันตรายได้ออกกำลัง
ดูแลความสุขสบายและการผ่อนคลายให้ทารกที่ต้องตรึงแขน
ทำความสะอาดร่างกายด้วยความนุ่มนวล ถอดเสื้อจากแขนด้านดีก่อนและสวมด้านที่เจ็บ
ตอบสนองความต้องการทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ควรเพิ่มความรัก แตะต้องสัมผัสมากกว่าทารกปกติ
ช่วยให้มารดาและบิดามั่นใจในการดูแลทารก
นางสาวอริญา ไชยสัจ เลขที่ 124 รหัส 602701125