Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่1 ความรู้พื้นฐานและหลักทั่วไปทางเภสัชวิทยา - Coggle Diagram
บทที่1 ความรู้พื้นฐานและหลักทั่วไปทางเภสัชวิทยา
ความรู้พื้นฐานทางเภสัชวิทยา
เภสัชวิทยาและเภสัชกรรม
เภสัชวิทยา(Pharmacology)
วิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับคุณสมบัติของยา ฤทธิ์และผลที่เกิดจากยาที่กระทำต่อร่างกาย
เภสัชกรรม(Pharmacy)
วิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับการเตรียมยา การผสมยาและการจ่ายยา
ประเภทของยา
ยารักษาโรตปัจจุบัน
ยาใช้ภายนอก
ไม่รวมถึงยาที่ใช้เฉพาะที่
เช่น ยานวด
ยาใช้เฉพาะที่
ยาควบคุมพิษ
ยาสามัญประจำบ้าน
ยาแผลแดง
แอลกอฮอล์
ยาอันตราย
ยาบรรจุเสร็จ
ยาแผนโบราณ
ยาสมุนไพร
ยาแผนปัจจุบัน
แบ่งตามเภสัชตำหรับ
ประโยชน์ในการรักษา
นิยมวิธีนี้
กลไกการออกฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา
ตำแหน่งการออกฤทธิ์ทางกายวิภาค
แหล่งที่มาของยา คุณสมบัติทางเคมี เภสัชวิทยาของยา
ความหมายของยา
วัตถุที่รับรองไว้ในตำรายาที่รัฐมนตรีประกาศ
วัตถุที่มุ่งหมายสำหรับการทำวิจับย บำบัด รักษา บรรเทา ป้องกันโรคหรือความเจ็บปวดของสัตว์และมนุษย์
วัตถุที่เป็นเภสัชเคมีภัณฑ์ หรือกึ่งสำเร็จรูป
แหล่งกำเนิดยา
จากธรรมชาติ
พืช
นำมาปรุงเป็นยาโดยไม่เปลี่ยนรูป เรียกว่า ยาสมุนไพร
แร่ธาตุ
ไอโอดีน
ทองแดง
น้ำมันเกลือแร่
สัตว์
สกัดจากอวัยวะบางส่วนของสัตว์
เช่น อินซูอิน สกัดมาจากตับอ่อนของวัว
จากการสังเคราะห์
อาศัยปฏิกิริยาเคมีในห้องปฏิบัติการ
เกลือของเหล็กใช้บำรุงโลหิต
อะลูมิเนียมไฮดอกไซด์ใช้เป็นยาลดกรดในกระเพาะอาหาร
เภสัชภัณฑ์หรือยาเตรียม
รูปแบบที่่เป็นของแข็ง(Solid form)
ยาแคปซูล
มีเจลตินเป็นปลอกหุ้ม
ยาเม็ด
เคลือบ
ออกฤทธิ์ที่ลำไส้
ไม่เคลือบ
Aspirin
Paracetamol
ยาอมใต้ลิ้น
เข้าสู่กระแสโลหิตโดยตรง
ออกฤทธิ์เร็ว
ยาเม็ดสำหรับเคี้ยว
ยาอมและโทรเซ
ยาเหน็บ
ใช้สอดเข้าไปในช่องเปิด
อกฤทธิ์บริเวณที่เหน็บ
ยาผงเดือดฟู่
ละลายน้ำได้ง่าย
ยาผง
รูปแบบที่เป็นของเหลว
ยาน้ำสารละลาย
ตัวทำละลายเป็นน้ำ
เป็นเป็นเนื้อเดียวกันกับน้ำไม่มีตะกอน
ยาน้ำชนิดนี้ได้แก่
ยาน้ำเชื่อม(Syrups)
ยาจิบ(Linctuses)
ยาน้ำใส(Solutions)
ยากลั้วคอ(Gargale)
ยาอมบ้วนปาก(Mouthwash)
ยาหยอดจมูก(Nasal preparations)
น้ำปรุง(Aromatic water)
ยาหยอดหู(Otic preparations)
ยาสวนล่าง(Irrigation)
ยาน้ำสวานทวารหนัก(Enemas)
ตัวทำละลายไม่ใช้น้ำ
ยาโคโลเดียน
มีฤทธิ์ลอกผิวหนัง เนื้อเยื่อที่ตายแล้ว
ตาปลาหรือหูด
ยากลีเซอริน
ยาสปริริต
แอลกอฮอล์60%
ยาถูนวด
ยาอิลิกเซอร์
แอลกอฮอล์3-44%
ยาป้าย
ยาน้ำกระจายตัว
หมายถึง ยาน้ำแขวนตะกอน เวลาใช้ต้องเขย่าขวด
รูปแบบ
แมกมาและมิลล์
คล้ายเจลแต่มีขนาดใหญ่กว่า
มิกซ์เจอร์
ยาน้ำผสม
โลชั่น
ชนิดทาภายนอก
อิมัลชั่น
มีส่วนผสมของน้ำมัน
เจล
ขนาดเล็กแต่ไม่ละลายน้ำ
รูปแบบประเภทกึ่งแข็ง
ขี้ผึ้ง(Oiltment)
ลักษณะเป็นน้ำมัน
ครีม(Passte)
เป็นยาแขวนตะกอนที่มีความเข้มข้นมาก
ประเภทอื่นๆ
ยาทาผิวหนัง(Applications)
ยาพ่นฝอย(Spray)
ยาฉีด(Injections)
คุณสมบัติทางกายภาพเป็นยาน้ำใส
ยาดม(Inhalant)
ข้อดีข้อเสีย
ยาชนิดรับประทาน
ข้อดี
สะดวก ปลอดภัย ราคาถูก
กรณีเกิดพิษจากยาสามารถ อาเจียนและใช้ผงถาสยดูดซับได้
ข้อเสีย
ระคายเคืองกระเพาะอาหาร
ยาอาจถูกทำลายจากกรดและน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร
ห้ามใช้ในผู้ป่วยหมดสติ อาเจียน
ยาชนิดฉีดเข้าหลอดเลือดดำ
ข้อดี
ใช้ในรายที่หมดสติ อาเจียนได้
ออกฤทธิ์เร็ว
ข้อเสีย
เกิดพิษง่าย รวดเร็ว รุงแรง ราคาแพง
เกิดembolism จาการไม่ไล่อากาศออกจากกระบอกฉีดยยา
ยาชนิดฉีดใต้ผิวหนัง
ข้อดี
การดูดซึมเป็นไปอย่างช้าๆให้ยาออกฤทธิ์นาน
ข้อเสีย
ให้ยาไม่ได้2ml ราคาแพง
บริเวณที่ฉีดเกิดแผลหรือฝี
ยาฉีดเข้าชั้นกล้ามเนื้อ
ข้อดี
ดูดซึมยาได้เร็วแล้วเกิดการระคายเคืองน้อย
สามารถใช้ยาฉีดที่ละลายได้ในน้ำมัน
ข้อเสีย
ให้ยาได้ไม่เกิน5ml
สะสมยาไว้ที่เนื้อเยื่อทำให้ดูดซึมช้าลง
ยาพ่น ยาแอโรซอล สูดดม และหยอดหูหยอดจมูก
ข้อดี
ออกฤทธิ์เฉพาะที่
ออกฤทธิ์เร็ว
ข้อเสีย
ให้ยาไม่สะดวก ปริมาณยาที่ให้ไม่แน่นอน
ระคายเคืองเยื่อบุทางเดินหายใจ
ติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ
ยาอมใต้ลิ้น
ข้อดี
ดูดซึมและออกฤทธิ์เร็วโดยไม่ผ่านตับ
ไม่ถูกทำลายโดยกรดหรือน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร
ข้อเสีย
รสชาติไม่ดี ระคายเคืองเยื่อบุ
ใช้เวลานาน ไม่สะดวกในการพูด
ยาเหน็บ
ข้อดี
เหมาะสำหรับเด็กที่รับประทานยายาก
ออกฤทธิ์เฉพาะที่และทั่วร่างกาย
ข้อเสีย
ไม่สะดวกต่อการใช้ ราคาแพง
อาจมีการติดเชื้อภายในอวัยวะสืบพันธุ์ได้
การเรียกชื่อยา
เรียกชื่อสามัญทางยาหรือชื่อตัวยา(generic name)
เรียกชื่อตามการค้า(trade name)
มีหลายชื่อ
เรียกตามสูตรเคมี(chemical name)
หลักทั่วไปทางเภสัชวิทยา
1.การออกฤทธิ์ของยาทางเภสัชจลนศาสตร์
เภสัชจลนศาสตร์
(Pharmacokinetic)
2.การกระจายตัวของยา (Drugs distribution)
ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง
คุณสมบัติเคมีและฟิสิกส์ของยาแต่ละชนิด
การจับตัวของยากับโปรตีนในพลาสมา
ยาจับกับโปรตีนพลาสมามาก
กระจายตัวของยาได้น้อย
ปริมาณการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะนั้นๆ
ยาจะไปสู่อวัยวะที่มีปริมาณเลือดสูงอย่างรวดเร็ว
ตับ
ไต
หัวใจ
สมอง
ความสามารถในการผ่านเข้าสมองและรก
การสะสมของยาที่ส่วนอื่น
ที่เซลล์ไขมัน
กระดูกและฟัน
ฟันเหลือง
3.การแปลงสภาพ/การเปลี่ยนแปลงของยา (Drug metabolism , Drug biotrans)
เอนไซม์ที่ทำหน้าที่ในการเปลี่ยนแปลงยา
เอนไซม์อยู่ที่ไซโตพลาสซึมของอวัยวะต่างๆ
ถูกเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ยาถูกดูดซึมผ่านทางเดินอาหาร และ ตับ
ในร่างกายมีเอนไซม์
ปฏิกิริยาการเปลี่ยนแปลงยาโดยปกติ
Phase I reaction
เอนไซม์จะเปลี่ยนโครงสร้างทางเคมี
อาศัยกระบวนการ
reduction
hydrolysis
oxidation
แปรสภาพยาโดยอาศัยเอนไซม์ cytochrom P450 ให้เป็น polar metabolite
ขับออกจากร่างกายเข้าสู่ phase II rection
Phase II rection
จะต้องถูกทำให้ละลายน้ำได้ดีขึ้นโดยการรวมตัว endogenous compound ในตับ
เพื่อให้ละลายน้ำได้ดีขึ้นและขับออกทางไต
การแปลสภาพยา
กระตุ้นการออกฤทธิ์ของยา
จำเป็นต้องเปลี่ยนโครงสร้างทางเคมีจึงจะสามารถออกฤทธิ์ในร่างกายได้
สิ้นสุดการออกฤทธิ์ของยา
ช่วยทำให้ยาละลายในน้ำได้ดีขึ้น ง่ายต่อการขับออกทางไต
ปัจจัยที่มีผลต่อ Drug metabolism
สิ่งแวดล้อม
คนสุบบุหรี่จะมีการmetabolizedยาได้เร็วกว่าคนที่ไม่สูบ
อายุ
เด็กและผู้สูงอายุจะไวต่อพิษและฤทธิ์ของยา
พันธุ์กรรม
ปฎิกิริยาระหว่างยาในระหว่างการเกิดmetabolism
ยาบางชนิดมีคุณสมบัติเหนี่ยวนำเอนไซม์ (enzyme inducer)
เพิ่มการทำงาน cytochrom P450
หากให้ยาชนิดนี้ร่วมกับยาชนิดอื่น
ยาจะมีประสิทธิภาพที่ลดลง
ยาบางขนิดมีคุณสมบัติยับยั้งเอนไซม์(enzyme inhibitor)
ยับยั้ง cytochrom P450
หากให้ยาชนิดนี้ร่วมกับชนิดอื่น
ยามีการออกฤทธิ์ที่นานขึ้น
ระดับยาให้ร่างกายเพิ่มขึ้น
1.การดูดซึมยาเข้าสู่ร่างกาย (Drug absorption)
ความหมาย
การดูดซึม
อัตรา,ปริมาณของยาที่เข้าสู่กระแสโลหิต
Bioavailability
สัดส่วนของยาที่ไม่เปลี่ยนแปลงถูกนำเข้าสู่กระแสโลหิต
ปัจจัยเกี่ยวกับตัวยา
การผลิตยาและรูปแบบยา
ยาน้ำใส ยาแขวนตะกอน
ขนาดยาที่ให้(Dosage)
ขนาดโมเลกุลของยา
ต่ำจะซึ่มผ่านได้ดีกว่า
คุณสมบัติในการละลายในไขมัน
ละลายในไขมันได้ดีทำให้ดูดซึมได้ดี
ปัจจัยเกี่ยวกับผู้ป่วย
1.การบริหารยา
ให้ยาผ่านทางเดินอาหาร
ยาที่มีคุณสมบัติเป็นกรดอ่อน
ดูดซึมได้ดีที่
กระเพาะอาหาร
เช่น แอสไพริน
ยาที่มีคุณสมบัติด่างอ่อน
ดูดซึมได้ดีที่
ลำไส้เล็ก
เช่น มอร์ฟิน
ข้อเสีย
เกิด fist pass effect
3 more items...
ให้ยาดูดซึม
ผ่านหลอดเลือดฝอยบริเวณใต้ลิ้น
ยาที่ละลายไขมันได้ดี
ตุณสมบัติเป็นด่าง
ดูดซึมได้ดีเพราะใต้ลิ้นมีร่างแหหลอดเลือดฝอยหนาแน่น
ให้ยาดูดซึมผ่านทาง
ระบบทางเดินหายใจ
ยาที่อยู่ในรูปแก๊ส ของเหลวระเหยได้ดี
ดูดซึมเข้าสู่ระบบไหลเวียนเลือดง่ายและเร็ว
ปอดมีพื้นที่ผิวการดูดซึมสูง เลือดมาเลี้ยงมาก
ให้ยาโดยการ
ฉีดใต้กล้ามเนื้อ
จะดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้100%
ความเร็วในการดูดซึม
หลอดเลือดดำ(IV) > กล้ามเนื้อ(IM) > ใต้ผิวหนัง(SC)
ให้ยาโุดย
ดูดซึมผ่านทางผิวหนัง
ปัจจัยสำคัญ
คุณสมบัติในการละลายในไขมัน
ความหนาบางของผิวหนัง
ขนาดโมเลกุลของยา
การให้
ยาเหน็บทวารหนักหรือช่องคลอด
ออกฤทธิ์เฉพาะที่
ออกฤทธิ์ทั่วร่างกาย
4.การได้รับอาหารหรือยาชนิดอื่นร่วมด้วย
3.สภาวะทางสรีรวิทยาและอารมณ์ของผู้รับยา
2.พยาธิสภาพของร่างกาย
4.การขับถ่ายยา(Drug excretion)
กำจัดออกทาง
น้ำดี
ปอด
ไต
น้ำนม
ตับ
เหงื่อ
คำสำคัญ
Loading dose
การให้ยาครั้งแรกให้ถึงระดับยาที่ต้องการรักษา
Onset
ระยะเวลาที่เริ่มให้ยาและยาเริ่มออกฤทธิ์
ค่าครึ่งชีวิต
เวลาที่ใช้ในการทำให้ยาหรือความเข้มข้นลดลงครึ่งนึงจากความเข้มข้นแรก
Duration of action
ระยะเวลาที่ยาเริ่มออกฤทธิ์จนถึงยาหมดฤทธิ์
2.การออกฤทธิ์ของยาทางเภสัชพลศาสตร์
เภสัชพลศาสตร์(Pharmacodynamic)
คือ การออกฤทธิ์ของยาต่อร่างกาย
การจับของยากับreceptor
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
ออกฤทธิ์โดย
ไม่จับreceptor
Chemical action
ยาลดกรดในกระเพาะ
Physical action
ยาระบาย
ยาลดการดูดซึมในกระเพาะอาหาร
ออกฤทธิ์โดย
จับกับ receptor
2.Agonist
ยาที่จับการreceptor
เกิดฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา
3.Antagonist
ยาที่จับการreceptor
ลดการจับagonistที่จับreceptor
ยาไม่ออกฤทธิ์
1.ตัวรับ (Receptor)
4.Partail agonist
ยาที่จับการreceptor
ออกฤทธิ์เป็นผ่านส่วน
คำสำคัญ
Efficacy
ความสามารถที่ยาออกฤทธิ์สูงสุด
Potency
ความแรงของฤทธิ์ยา
Affinity
ความสามารถของยาในการจับreceptor
3.ระดับความปลอดภัยของยา(Therapeutic index: TI)
ค่าTI ต่ำ มีความปลอดภยต่ำ
ค่าTI สุง มีความปลอดภัยสูง
4.การแปรผันของการตอบสนองต่อยา
Hypereactivity
ตอบสนองต่อยามากผิดปกติ
Hypersensitivity / Allergic reaction
แพ้ยา
Hyporeactivity
ตอบสนองต่อยาน้อยผิดปกติ
Tolerance
ดื้อยา เมื่อได้รับยาหลายครั้ง
Idiosyncrasy
ตอบสนองที่แตกต่างจากปกติ
Tachyphylaxis
ดื้อยา เมื่อได้รับยา2-3ครั้ง
Placebo effect
ฤทธิ์หลอก