Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความรู้พื้นฐานแลหลักทั่วไปทางเภสัชวิทยา :red_flag: - Coggle Diagram
ความรู้พื้นฐานแลหลักทั่วไปทางเภสัชวิทยา :red_flag:
ความรู้พื้นฐานทางเภสัชวิทยา :check:
ความสำคัญของเภสัชวิทยาต่อวิชาชีพพยาบาล
เพราะถ้าเกิดจากความประมาททำให้ผุ้ป่วยได้รับผลที่ไม่พึงประสงค์ต่อยา พยาบาลจะมีความผิด จากการปฎิบัติวิชาชีพพยาบาล
ข้อบังคับที่กฏหมายกำหนดเกี่ยวกับการให้ยา
พยาบาลจะให้ยาผู้ป่วยได้เมื่อแพทย์สั่งเท่านั้น
นักศึกษาพยาบาลจะให้ยาแก่ผู้ป่วยได้ต้อง
อยู่ภายใต้การควบคุมของพยาบาลวิชาชีพ
ความหมายของยา
มุ่งหมายสำหรับใช้ บำบัด บรรเทา รักษา
ป้องกันโรคของมนุษย์หรือสัตว์เป็นต้น
วัตถุที่เป็นเภสัชเคมีภัณฑ์ หรือ เคมีภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูป
วัตถุที่รับรองไว้ในตำรายาที่รัฐมนตรีประกาศ
วัตถุมุ่งหมายให้เกิดผลแก่สุขภาพ โครงสร้าง
การกระทำหน้าที่ใดๆ ของร่างกายมนุษย์และสัตว์
เภสัชภัณฑ์หรือยาเตรียม :package:
รูปแบบที่เป็นชองแข็ง(solid from)
ยาแคปซูล(capsule)
tetracyclin
ampicillin
amoxycillin
ยาเม็ด(tablet)
ยาเม็ดที่ไม่ได้เคลือบ เช่น aspirin
ยาเม็ดเคลือบ เพื่อให้ออกฤทธิ์ที่ลำไส้ เช่น tetracyclin
ยาเม็ดสำหรับเคี้ยว
ยาลดกรดในกระเพราะอาหาร
ยาอม(lozenge),โทรเช(troche)
สเตร็ปซิล
ดีกีวดิน
ยาเหน็บ(suppositories)
คือ ยาที่เตรียมขึ้นเพื่อ
สอดเข้าไปในช่องเปิด
ช่องคลอด,ทวารหนัก
protosedyl
ยาผงเดือดฟู่(effervescent powder)
คือ ยาที่ละลายน้ำได้ง่าย
sodium bicarbonate
acetic acid
ยาอมใต้ลิ้น(sublingual)
testosterone
nitroglycerine
ประเภทของเหลว
ยาน้ำสารละลาย
ยาน้ำสารละลายที่ตัวทำละลายเป็นน้ำ
ยาอมบ้วนปาก (Mouthwash
ใช้ทำความสะอาดดับกลิ่นปาก
ยากลั้วคอ (Gargale)
ตัวยามีฤทธิ์ต้านการฆ่าเชื้อ ใช้ป้องกันการติดเชื้อในลำคอ
ยาหยอดจมูก (Nasal preparations)
ประกอบด้วยยาละลายในน้ำใช้พ่นหรือหยอดเข้าทางจมูก บรรเทาอาการคัดจมูก
ยาจิบ (Linctuses)
ประกอบด้วยยาที่ใช้ระงับการไอ ขับเสมหะ เช่น codeine linctus
ยาหยอดหู (Otic preparations)
ส่วนมากเป็นยาน้ำใส บางครั้งเป็นยาแขวนตะกอน
ยาน้ำเชื่อม (Syrups)
เป็นสารละลายเข้มข้นของน้ำตาล เช่นน้ำผึ้ง มีลักษณะสารใส มีกลิ่มหอม รสดี มีความหนืดเหมาะสำหรับเด็ก เช่น paracetamol syrup
ยาน้ำสวนทวารหนัก (Enemas)
ปราศจากเชื้อสำหรับล้างบาดแผล มักนิยมเรียกว่า douches
ยาน้ำใส (Solutions)
ละลายในน้ำบริสุทธิ์หรือของเหลวชนิดอื่นที่เหมาะสม เช่น แอลลกอฮอล์
ยาสวนล้าง (rrigation)
ประกอบด้วย กลีเซอลีน สารละลายน้ำเกลือ สารละลายโซเดียมคาร์บอเนต
น้ำปรุง(Aromatic water)
เป็นสารละลายใสและอิ่มตัวง่าย เช่น การบูร
ยาน้ำสารละลายที่ตัวทำละลายไม่ใช่น้ำ
ยาสปริริต (Spirits)
เป็นสารละลายใสของสารหอมระเหย
ง่ายมีแอลกอฮอล์มากกว่า 60%
ยาโคโลเดียน (Collodians)
มีลักษณะข้น เหนียว มีส่วนประกอบของยาที่
มีฤทธิ์ลอกผิวหนัง salicylic acid 10-12%
ยาอิลิกเซอร์ (Elixir)
เป็นแอลกอฮอล์ 3-44% มีกลิ่นหอมและ
รสหวานเป็นยารัปทานเท่านั้น
ยากลีเซอริน (Glycerines)
มีลักษณะข้น เหนียว กึ่งแข็ง ประกอบด้วยกลีเซอรีน 50%
ยาถูนวด (Liniments)
ยาน้ำใช้ทาภายนอก อาจเป็นสารละลายใส หรือข้นเหนียว
ยาป้าย (Paints)
กระกอบด้วยยาที่มีฤทธิ์ต้านการติดเชื้อสมานแผล ระงบปวด
ยาน้ำกระจายตัว
แมกมาและมิลค์
(Magmas and Milk)
เป็นยาแขวนตะกอนคล้ายเจล มีลักษณะหนืด
เช่น ยาระบายแมคนีเซี่ยม
มิกข์เจอร์ (Mixtures)
เป็นยาน้ำผสม ใส่หรือไม่ใส่ยาแขวนตะกอนก็ได้
โลชั่น (Lotions)
เป็นยาน้ำแขวนตะกอนชนิดใช้ภายนอก เช่น คาลาไมน์
อิมัลชั่น (emulsion)
มีทั้งแบบกินและทาเฉพาะที่ มีส่วนผสมของน้ำมันลักษณะขุ่นเหนียว เช่น น้ำมันละหุ่ง
เจล (Gels)
มีขนาดเล็กไม่ละลายน้ำ มีลักษณะ
เป็นกาว เช่น alum milk
รูปแบบประเภทกึ่งแข็ง
ขี้ผึ้ง(oiltment)
มีลักษณะเป็นน้ำมัน ใช้ทาผิวหนังลดการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย หรือบรรเทาอาการต่างๆ
ครีม(paste)
ใช้สำหรับป้องกันการติดเชื้อ ทำให้รู้สึกเย็น บรรเทาอาการต่างๆ
ประเภทอื่นๆ
ยาทาผิวหนัง(applications)
ใช้ทาเฉพาะที่ อาจเป็นยาน้ำใส อิมัลชั่น ยาน้ำแขวนตะกอนก็ได้
ยาพ่นฝอย(spray)
เป็นยาที่เตรียมขึ้นเพื่อหวังผลเฉพาะที่และป้องกันฤทธิ์ที่ไม่ดีต่อร่างกายส่วนอื่น
ยาฉีด(injections)
คือ การให้โดยไม่ผ่านทางเดินอาหารไม่มีสารพิษหรือดูดซึมไม่ได้ปราศจากเชื้อจุลชีพเพื่อความปลอดภัย
ยาดม(inhalant)
เป็นยาที่มีกลิ่นหอมระเหย สามารถสูดดมได้ง่ายใช้บรรเทาอาการวิงเวียนต่างๆ
แหล่งกำเนิดยา
จากธรรมชาติ
จากสัตว์ เช่น ตับ ตับอ่อน ดีหมู ดีวัว
แร่ธาตุ เช่น ไอโอดีน ทองแดง เกลือแร่
ยาที่ได้จากแร่ เช่น tincture iodin,lithium cardonate
จากพืช เช่น ราก ใบ ผล ลำต้น เมล็ด เปือก
จากการสังเคราะห์
เรียกชื่อยา
เรียกชื่อสามัญทางยาหรือชื่อตัวยา(generic name)
เรียกชื่อตามการค้า(trade name)
เรียกชื่อตามสูครเคมี(chemical name)
เภสัชวิทยาและเภสัชกรรม
เภสัชวิทยา(pharmacology)
หมายถึง การศึกษาเกี่ยวกับ คุณสมบัติ ฤทธิ์ หรือผลต่างๆของยา รวมทั้งผลที่ร่างกายกระทำต่อยาด้วย
เภสัชกรรม(pharmacy)
หมายถึง การศึกษาเกี่ยวกับ การเตรียมยา ผสมยาและจ่ายยา
ข้อดีข้อเสียในการให้เภสัชภัณฑ์ในวิถีต่างๆ :!?:
ยาชนิดรัปทาน
ข้อดี
สะดวก ปลอดภัย
หากเกิดอันตรายจากการทานยา
อาการจะไม่เร็ว และรุนแรงเท่ายาฉีด
ถ้าเกิดพิษจากยาสามารถทำให้อาเจียนได้
ข้อเสีย
ยาอาจจะระคายเคืองกระเพาะอาหาร
ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่อาเจียน หมดสติ
กลิ่น สีไม่ชวนรัปทาน
ไม่เหมาะกับยาที่ดูดซึมผ่านทางเดินอาหารช้า
ยาอมใต้ลิ้น
ข้อเสีย
บางชนิดรสชาติไม่ดี
อาจระคายเคืองเยื้อบุในปาก
ใช้เวลานานไม่สะดวกในการพูด
ข้อดี
ไม่ถูกทำลายโดยกรด
ดูดซึม และ ออกฤทธิ์เร็วไม่ท่านตับ
ยาชนิดฉีดเข้าหลอดเลือดดำ
ข้อเสีย
เกิดพิษเร็วและแรงถึงชีวิต
ในกรณีที่เกิดพิษจากยาไม่สามารถแก้ไขได้
ยาที่ไม่ละลายในตัวทำละลายไม่สามารถให้ได้โดยวิธีนี้
เกิด embolism จากการไม่ไล่อากาศออกจากกระบอกฉีดยา
ข้อดี
ใช้ในรายที่หมดสติ หรืออาเจียนได้
ถ้ายามีปริมาณมากสามารถให้โดยการหยดช้าๆ
ออฤทธิ์เร็ว ไม่ระคายเคืองทางเดินอาหาร ไม่ถูกทำลายโดยกรด
เหมาะสำหรับการให้สารอาหารบางชนิดที่ให้ทางหลอดเลือดดำ
ยาเหน็บ
ข้อดี
ออกฤทธิ์เฉพาะที่และทั่วร่างกาย
รักษาอาการติดเชื้อ บรรเทาอาการคัด ทำให้มดลูกหดรัดตัว
เหมาะกับเด็กหรือผู้ที่ทานยายาก
ข้อเสีย
ไม่สะดวกต่อการใช้ ราคาแพง
อาจเกิดการติดเชื้อภายในของอวัยวะสืบพันธุ์ได้
ยาชนิดฉีดเข้ากล้ามเนื้อ
ข้อเสีย
สามารถให้ยาได้ไม่เกิน 5 มล.
การสะสสมที่เนื้อเยื้ออาจทำให้ดูดซึมช้าลง
ในกรณีที่เกิดพิษจากยาไม่สามารถแก้ไขได้
เกิด embolism จากการไม่ไล่อากาศออกจากกระบอกฉีดยา
ยาที่ไม่ละลายในตัวทำละลายไม่สามารถให้ได้โดยวิธีนี้
ข้อดี
ดูดซึมเร็ว เกิดการระคายเคืองน้อย
สามารถใช้ยาฉีดที่ละลายได้ในน้ำมัน
ยาพ่นฝอย ยาแอโรซอล สูดดม ยาหยอดจมูก หยอดหู
ข้อเสีย
ปริมาณที่ได้ไม่แน่นอน
ระคายเคืองเยื้อบุทางเดินอาหารและหลอดลม
วิธีการให้ยาไม่สะดวก
อาจเกิดการติดเชื้อในระบบทางเดิินหายใจ
ข้อดี
ออกฤทธิ์เฉพาะที่
ออกฤทธิ์เร็ว สามารถให้ยาได้ด้วยตัวเอง
ยาชนิดฉีดเข้าใต้ผิวหนัง
ข้อเสีย
ยาที่ไม่ละลายในตัวทำละลายไม่สามารถให้ได้โดยวิธีนี้
เกิด embolism จากการไม่ไล่อากาศออกจากกระบอกฉีดยา
บริเวณที่ฉีดทำให้เกิดแผลหรือฝีได้
ในกรณีที่เกิดพิษจากยาไม่สามารถแก้ไขได้
มีโอกาศติดเชื้อได้ง่าย
ข้อดี
ดูดซึมช้า ทำให้ยาออกฤทธิ์พอควร
หากเกิดอาการแพ้เฉียบพลันสามารถใช้tourni quest
รัดเหนือบริเวณที่ฉีดบางแห่งได้
ประเภทของยา
ยารักษาโรคปัจจุบัน
ยาอันตราย
คือ ยาที่รัฐมนตรีประกาศว่าอันตราย
ยาควบคุมพิเศษ
คือ ยาที่รัฐมนตรีประกาศว่าเป็นยาควบคุมพิเศษ
ยาแผนโบราณ
คือ ยาที่ใช้ประกอบโรคศิลปะแผนโบราณหรือบำบัดโรคสัตย์ ซึ่งเป็นยาที่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นทะเบียนแล้ว
ยาใช้ภายนอก
คือ ยาที่มุ่งหมายสำหรับ
ใช้ภายนอก ทั้งนี้ไม่รวมยาใช้เฉพาะที่
ยาแผนปัจจุบัน
คือ ยาประกอบวิชาชีพเวชกรรม
โรคศิลปะแผนปัจจุบัน หรือบำบัดโรคสัตว์
ยาใช้เฉพาะที่
คือ ยาที่ใช้เฉพาะ ผิวหนัง หู ตา
จมูก ปาก ช่องคลอด ท่อปัสสาวะ และทวารหนัก
ยาสามัญประจำบ้าน
คือ ยาที่รัฐมนตรี
ประกาศว่าเป็นยาสามัญประจำบ้าน
ยาบรรจุเสร็จ
คือ ยาที่ได้ผลิตขึ้นเสร็จในรูป
text
แบบต่างๆ ทางเภสัชกรรม และมีฉลากครบถ้วน
ยาสมุนไพร
คือ ยาที่ได้จากพฤกษชาติ สัตว์
หรือแร่ ซึ่งไม่ได้แปรสภาพหรือปรุง
แบ่งตามเภสัชตำรา
ประโยชน์ในการรักษา
เช่น ยาแก้ปวดลดไข้ ยารักษามะเร็ง
กลไกการออกฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา
เช่น ยากระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง
ตำแหน่งการออกฤทธิ์ทางกายวิภาค
เช่น ยาออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท
แหล่งที่มาของยา
เช่น ไอโอดีนจากแร่ธาตุ
หลักทั่วไปทางเภสัชวิทยา :sparkles:
การออกฤทธิ์ของยาทางเภสัชจลนศาสตร์ :fire:
เภสัชจลนศาสตร์(pharmacokinetic)
การดูดซึมยาเข้าสู่ร่างกาย
(drug absorption)
ปัจจัยที่มีผลต่อการดูดซึมยา
เกี่ยวกับผู้ป่วย
วิธีการบริหารยา
(routes of administration)
การใช้ยาดูดซึมผ่านทางระบบหายใจ
(ยาแบบสูดดม inhalation)
เพราะยาที่อยู่ในรูปแก๊สและของเหลวจะระเหยได้ดีเนื้องจากปอดมีพื้นผิวในการดูดซึมสูงและมีเลือดมาเลี้ยงมาก
การให้ยาโดยการฉีดใต้ผิวหนัง
กล้ามเนื้อ หลอดเลือดดำ
วิธีนี้ยาจะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือด100%พบว่ายาที่อยู่ในรูปแขวนตะกอนจะถูกดูดซ฿มได้ช้า และการที่มีเลือดไหลบริเวณที่ให้ยา การบีบ นวด จะทำให้ดูดซึมได้เร็วขึ้น
การใช้ยาดูดซึมผ่านหลอดเลือดฝอยบริเวณใต้ลิ้น
(ยาอมใต้ลิ้น sublingual,ยาอมในกระพุ้งแก้ม buccal)
เพราะใต้ลิ้นจะมีร่างแหหลอดเลือดฝอยหนาแน่น
การให้ยาดูดซึมทางผิวหนัง
ขนาดของโมเลกุลและการละลายได้ใน
ไขมันและความหนาบางบริเวณผิวหนังที่ทา
การให้ยาผ่านทางเดินอาหาร
(alimentary route,oral route)
ยาที่มีคุณสมบัติเป็นกรดอ่อน(acidic drugs)เช่น aspirin
ยาที่มีคุณสมบัติเป็นด่างอ่อน(basic drugs)เช่น morphine
ข้อเสีย การเกิด first pass effect
การให้ยาแบบเหน็บทวารหนัก
ยาเหน็บชนิดออกฤทธิ์เฉพาะที่ ตัวยาจะซึมผ่านเยื่อเมือกและออกฤทธิ์เฉพาะที่บริเวณนั้นๆ เช่น ยาชา
ยาเหน็บชนิดออกฤทธิ์ทั่วร่างกาย ยาจะซึมผ่านเยื่อเมือกเข้าสู่ระบบไหลเวียนเลือดทั่วร่างกาย
การได้รับอาหารหรือยาชนิดอื่นร่วมด้วย
อาหารอาจมีผลลดการดูดซึมยาบางชนิดได้
พยาธิสภาพของร่างกาย
โรคหัวใจล้มเหลว เลือดไปเลี้ยงส่วน
ต่างๆลดลงทำให้การดูดซึมลดลงตาม
ท้องเสีย ท้องผูก คลื่นไส้อาเจียน
สภาวะทางสรีรวิทยาและ
อารมณ์ของผู้รับยา
การนอนทำให้ยาไปที่กระเพาะช้าลง
การนั่งทำให้ยาไปที่กระเพาะเร็วขึ้น
ปัจจัยที่มีผลต่อการดูดซึมยา
เกี่ยวกับตัวยา
วิธีการผลิตยาและรูปแบบยา
ขนาดยาที่ให้(dosage)
ขนาดโมเลกุลของยา ถ้ามีขนาดโมเลกุลต่ำจะซึมได้เร็วกว่า
คุณสมบัติในการละลายในไขมัน(lipophilic) เนื่องจาก cell membrane ประกอบด้วยไขมันเป็นส่วนใหญ่
การดูดซึม หมายถึง อัตรา(rate) และ
ปริมาณ(extent) ยาที่นำเข้าสู่กระแสเลือด
Bioavailability หมายถึง สัดส่วนของ
ยาที่ไม่ถูกเปลี่ยนแปลงที่ถูกนำเข้าสู่กระแสเลือด
การกระจายตัวของยา
(drugs distribution)ขึ้นอยู่กับ
ความสามาถในการผ่านเข้าสมองและรก(capillary permeability)
คุณสมบัติทางเคมีและฟิสิกส์ของยาแต่ละ
ชนิด เช่น คุณสมบัติการละลายในไขมัน
การสะสมของยาที่ส่วนอื่น
(accumulation at other site)
การจับตัวของยากับโปรตีนพลาสม่า
ปริมาณการไหลเวียนของเลือดไปยัง
อวัยวะนั้นๆ เช่น หัวใจ ตับ ไต สมอง
การแปรสภาพยาหรือการเปลี่ยนแปลงยา(Drug metabolism,Drug biotransformation)
คือ การเปลี่ยนโครงสร้างทางเคมีของยา มีตับเป็นอวัยวะสำคัญในการแปรสภาพ การแปลสภาพมีความสำคัญ 2 อย่าง
1.กระตุ้นการออกฤทธิ์ของยา
(mechanism of drug activation)
levodopa ยารักษาโรคพาร์กินสัน
2.การสิ้นสุดการออกฤทธิ์ของยา
(termination of drug activation)
ทำให้ยาละลายน้ำได้ดี มีความเป็นประจุ
มากขึ้นเพื่อง่ายต่อการขับออกทางไต
เอนไซม์ที่ทำหน้าที่
ในการเปลี่ยนแปลงยา
เอนไซม์ที่อาจอยู่ที่ไซโตพลาสซึมของ
อวัยวะต่างๆ เช่น ตับ ไต ปอด
เอนไซม์ในร่างกายที่เกี่ยวข้อง เช่น flavoprotein
ปฏิกิริยาการเปลื่ยนแปลงยา
I.Phase I reaction
enzyme จะ drug chemical โดยอาศัยกระบวนการ oxidation,reduction,hydolysiscเป็นการแปรสภาพ ทำให้ยาเป็น polar metabolite มากขึ้นแล้วขับออกหรือเข้สู่ Phase II
II.Phase II reaction
metabolite จาก phase II ที่ไม่มีความเป็น polar มากจะต้องถูกทำให้ละลายน้ำได้ดีขึ้น โดยการรวมตัวกับ endogenous compound ในตับ
ปัจจัยที่มีผลต่อ drug metabolism
สิ่งแวดล้อม
คนที่สูบบุหรี่จะมีการ metabolized ยาได้เร็วกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่
อายุ
เด็กและผู้สูงอายุจะไวต่อฤทธิ์และพิษของยามากคว่ผู้ใหญ่
พันธุกรรม
ในคนที่มีความบกพร่องของเอนไซม์(pseudocholinesterase) พบว่าการ metabolized สาร succinylcholine จะมีอัตราเร็วเพียงครึ่งเดียวของคนที่มีเอนไซม์นี้ปกติ
ปฏิกิริยาระหว่างยาในระหว่าง
การเกิด metabolism
ยาบางชนิดมีคุณสมบัติเหนี่ยวนำเอนไซม์ (enzyme inducer) คือ ยาบางชนิด สามารถเพิ่มการสังเคราะห์ enzyme cytochrome P450-dependent drugs-oxidizingในตับได้
ในขณะที่ยาบางชนิดมีคุณสมบัติยับยั้งเอนไซม์ (enzyme inhibitor) คือ ยาที่สามารถลดหรือยับยั้งการทำงานของ enzyme cytochrome P450 ในตับ
คำสำคัญทางเภสัชจลนศาสตร์
คำครึ่งชีวิต (Hatf life; typ) คือ เวลาที่ใช้ในการทำให้ยาหรือความเข้มข้นของยาลดลงเหลือ 50%โดย half life จะเป็นตัวกำหนด
Loading dose ขนาดยาที่ให้ครั้งแรกเพื่อให้ถึงระดับยาที่ต้องการในพลาสมา
Onset ระยะเวลาที่เริ่มให้ยาจน
ถึงยาเริ่มออกฤทธิ์ที่ต้องการ
Duration of action ระยะเวลาที่ยาเริ่มออกฤทธิ์ที่ต้องการจนถึงหมดฤทธิ์ที่ต้องการ
การแปลผันของการตอบสนองต่อยา :recycle:
6 Tachyphylaxis การตี้อยาที่เกิดขึ้นได้รวดเร็วเมื่อได้รับยาเพียง 2:3 ครั้ง
1 idiosyncrasy ไม่พบเกิดในคนส่วนใหญ่ มักจะเกิดจากความแตกต่างทางพันธุกรรมในการเปลี่ยนแปลงยา
2 Hyporeactivity การตอบสนองต่อยาที่น้อย
กว่าปกติ ทำให้ไม่เกิดฤทธิ์รักษา
7 Placebo effect ฤทธิ์หลอก
สาเหตุการตอบสนองต่อยาที่แตกต่งกัน
5 Tolerance เป็นการดื้อหรือทนฤทธิ์ของยา ซึ่งเกิดจากการได้รับยาชนิดนั้นหลายครั้ง
3 Hyperactivity การตอบสนองต่อยาที่มากกว่าปกติ
4 Hypersensitivity การแพ้ยาจากที่ร่งกายมี antibody (Ab) ที่ต่อต้านต่อโครงสร้างทางโมเลกุลของส่วนประกอบของยา ทำให้เกิดอาการจากปฏิกิริยาภูมิแพ้ เช่น ผื่นคัน
ระดับความปลอดภัยของยา(therapeutic index TI) :warning:
กรหาระดับความปลอดภัยของยมักจะทำการทดลองผ่นสัตว์ทดลอง ช่น หนูแรท หรือหนูเมาส์
ยาที่มีค่า therapeutic index ต่ำจะมีความปลอดภัยต่ำ เช่น ltium, digoxin
ยาที่มีค่า therapeutic index สูงจะมีความปลอดภัยในการใช้สูง
การออกฤทธิ์ของยาทางเภสัชพลศาสตร์ :explode:
เภสัชพลศาสตร์
(Pharmacodynamic)
กลไกการออกฤทธิ์ของ
ยาทางเภสัชพลศาสตร์
ออกฤทธิ์โดยไม่จับกับ receptor
Physical action เช่น ยาระบาย
Chemical action เช่น ยาลดกรดในกระเพาะอาหาร
ออกฤทธิ์โดยจับกับ receptor
2 Agonist หมายถึง ยาที่จับกับ receptor แล้วสามารถทำให้เกิดฤทธิ์ทางกสัชวิทยา
Antagonist หมายถึง ยาที่ไปยับยั้งการทำงานตามปกติของ
endogenous substances ในร่งกาย และขัดขวางการทำงานของ agonist
ตัวรับ (Receptor)มีคุณสมบัติที่จะจดจำ (recognize) และจับกับสารที่มีลักษณะโครงสร้งจำเพาะเจาะจงแล้วทำให้การทำงานของเชลนั้นๆ เปลี่ยนแปลง
4 Partial agonist หมายถึง ยาที่จับกับ receptor แล้วออกฤทธิ์เพียงบางส่วน
คำสำคัญทางเภสัชพลศาสตร์
Affinity หมายถึง ความสามารถของยาในการเข้าจับกับ receptor
Efficacy หมายถึงความสามารถของยาที่ทำให้เกิดถุทธิ์สูงสุด ซึ่ง Moximum effect ของยา
(Emax)
Potency หมายถึง ความแรงของฤทธิ์ยาโดยปกติแล้ว efficacy จะสำคัญกว่า potency ในการเลือกใช้ยาเหมาะสมกับภาวะของโรค