Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การดูแลสุขภาพแบบข้ามวัฒนธรรม - Coggle Diagram
การดูแลสุขภาพแบบข้ามวัฒนธรรม
1.1 ความหมายของวัฒนธรรม(Culture)
วัฒนธรรมคือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมา เป็นเครื่องมือที่มนุษย์คิดค้นเพื่อช่วยให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ต่อไปได้ในสังคมของตน ภาษาอังกฤษ คำว่า "culture" วัฒนธรรมคือสิ่งที่แสดงถึงความเจริญงอกงามของสังคมทั้งทางด้านจิตใจและวัตถุ เช่น ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ศีลธรรม วัฒนธรรมในการแต่งกาย เป็นต้น นักมนุษย์วิยาได้สรุปลักษณะพื้นฐานที่สำคัญของวัฒนธรรมไว้ 6 ประการ คือ
วัฒนธรรมเป็นความคิดร่วม และค่านิยมทางสังคมเป็นตัวกำหนดมาตรฐานพฤติกรรม
วัฒนธรมมเป็นสิ่งที่มนุษย์เรียนรู้ ซึ่งจะเรียนรู้ทีละเล็กละน้อยในสังคมจนกลายเป็น มรดกสังคม
วัฒนธรรมมีพื้นฐานมาจากการใช้สัญลักษณ์ ซึ่งกว่าว่าพฤติกรรมของมนุษย์มีต้นกำเนิดมาจากการใช้สัญลักษณ์ เช่น เงินตรา สัญญาณจราจร
วัฒนธรรมเป็นองค์รวมของความรู้และภูมิปัญญา ทำหน้าที่ตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์
วัฒนธรรมคือกระบวนการที่มนุษย์นิยามความหมายให้กับชีวิตและสิ่งต่างๆ
วัฒนธรรมเป็นสิ่งที่ไม่หยุดนิ่ง มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
ทางสังคมวิทยาได้จำแนกวัฒนธรรมออกเป็น 2 ประเภท คือ
วัฒนธรรมทางวัตถุ(material culture) หมายถึง สิ่งของหรือวัตถุอันเกิดจากความคิดและการประดิษฐ์ขึ้นมาของมนุษย์ เช่น ถ้วย ชาม จาน ตึกรามบ้านช่อง รวมไปถึงศิลปกรรมของมนุษย์
วัฒนธรรมที่ไม่ใช่วัตถุ(non-materisl culture) หมายถึง วัฒนธรรมที่แสดงออกได้โดยทัศนะประเพณี ขนบธรรมเนียม การปฏิบัติสิบต่อกันมาและเป็นที่ยอมรับในกลุ่มของตน
1.1.1 องค์ประกอบของวัฒนธรรม
ประกอบด้วย 4 ประการ คือ
องค์วัตถุ(Material) ทั้งที่เป็นเครื่องมือและสัญลักษณย์ หมายถึง วัฒนธรรมในด้านวัตถุที่มีรูปร่างสามารถจับต้องได้ เช่น เครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ ภาพเขียน สิ่งก่อสร้างต่างๆ
องค์การหรือสมาคม(Organization) หมายถึง วัฒนธรรมในส่วนของการจัดระเบียบเป็นองค์การ มีโครงสร้างซึ่งสามารถมองเห็นได้ มีระเบียบแบบแผน
องค์พิธีหรือพิธีการ(Usage หรือ Ceremony) หมายถึง วัฒนธรรมในส่วนของพิธีต่างๆที่มนุษย์สร้างขึ้นนับตั้งแต่การเริ่มต้นของชีวิต คือ การเกิดจนกระทั่งตาย เช่น พิธีรับขวัญเด็ก พิธีโกนจุก การแต่งกาย มารยาททางสังคมต่างๆ เป็นต้น
องค์มติหรือมโนทัศน์(Concepts) หมายถึง วัฒนธรมในด้านความคิด ความเชื่อ และอุดมการณ์ต่าๆ ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับมาจากคำสอนทางศาสนา เช่น ความเชื่อในเรื่องบาปบุญ ความเชื่อในเรื่องกฏแห่งกรรม
1.1.2 ความสำคัญของวัฒนธรรม
วัฒนธรรมเป็นเครื่องกำหนดความเจริญหรือความเสื่อมของสังคม เป็นเครื่องกำหนดชีวิตความเป็นอยู่ของคนในสังคม
การศึกษาวัฒนธรรมจะทำให้เข้าใจชีวิตความเป็นอยู่ ค่านิยมของสังคม เจตคติความคิดเห็น
ทำให้มีความรู้สึกเป็นพวกเดียวกันและให้ความร่วมมือกันได้
ทำให้เกิดความสงบเรียบร้อยในสังคม
ทำให้มีพฤติกรรมเป็นแบบเดียวกัน
ทำให้เข้ากับคนพวกอื่นในสังคมเดียวกันได้
ทำให้มนุษย์มีสภาวะที่แตกต่างจากสัตว์
1.2 คุณค่า ความเชื่อ ค่านิยมทางสังคมที่มีผลต่อหลักการในการดำเนินชีวิต
ความเชื่อ หมายถึง การยอมรับคำอธิบายเหตุการณ์ที่บุคคลได้จากการรับรู้และเรียนรู้ร่วมกันในสังคม และถ่ายทอดสืบต่อกันมาจนตกผลึกเป็นแบบแผนทางวัฒนธรรมของสังคมนั้น โดยอาจมีเหตุผลหรือไม่มี ก็ได้ ความเชื่อสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามวิวัฒนาการและพัฒนาการของสังคม
1.2.1 ประเภทของความเชื่อ
ความเชื่อในสิ่งปรากฏอยู่จริง เช่น เชื่อว่าพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกและตกทางทิศตะวันตก น้ำทะเลมีรสเค็ม เป็นต้น
ความเชื่อขั้นพื้นฐานของบุคคล มี 2 ลักษณะ คือ เกิดจากประสบการณ์ตรง และเกิดจากการแลกเปลี่ยนพบปะสังสรรค์
ความเชื่อแบบประเพณี ในภาคเหนือเชื่อในเรื่องเกี่ยวกับผีและอำนาจเหนือธรรมชาติเกี่ยวกับป่า
ความเชื่อแบบเป็นทางการ เช่น ความเชื่อที่มีต่อหลักคำสอนในพระพุทธศาสนาเรื่องการมีสติ ความไม่ประมาท
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความเชื่อ แบ่งได้ 3 ประเภท คือ
ปัจจัยทางด้านจิตวิทยา ได้แก่ การรับรู้ การเรียนรู้
ปัจจัยทางสังคมและวัฒนธรรม ได้แก่ การขัดเกลาทางสังคม การควบคุมทางสังคม
ปัจจัยทางด้านบุคคล ได้แก่ ศาสนา อายุ เพศ การศึกษา อาชีพ
ความเชื่อเกี่ยวกับสาเหตุของการเกิดโรคและวิธีการดูแลสุขภาพ
ความเชื่อแบบอำนาจเหนือธรรมชาติและวิธีการดูแลสุขภาพ เช่น ความเชื่อเกี่ยวกับสาเหตุของการเกิดโรค เชื่อว่าความเจ็บป่วยเกิดจากการกระทำของผี การดูแลส่วนใหญ่ใช้การประกอบพิธีกรรมเป็นหลัก
ความเชื่อแบบพื้นบ้านและวิธีการดูแลสุขภาพ เช่น ความเจ็บป่วยที่เกิดจากการขาดสมดุลธาตุ การดูแลจะมีการทำพิธีตั้งขันข้าวซึ่งเป็นการไหว้ครูเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ทางการรักษา
ความเชื่อแบบการแพทย์แผนตะวันตกและวิธีการดูแลสุขภาพ เช่น การเจ็บป่วยเกิดจากเชื้อโรค การดูแลจะมีการวินิจฉัยหาสาเหตุของความเจ็บป่วย
ความเชื่อและการดูแลสุขภาพในช่วงเปลี่ยนผ่านสถานการณ์ชีวิต เช่น
4.1 ความเชื่อและการดูแลสุขภาพเกี่ยวกับการเกิดแบบพื้นบ้าน
ระยะตั้งครรภ์ คนโบราณเชื่อว่าการตั้งครรภ์เป็นผลจากความสัมพันธ์ของมนุษย์กับดวงดาวในระบบจักรวาล การดูแลจะเกี่ยวกับสุขภาพจิต สุขภาพกาย การฝากครรภ์
ระยะคลอดบุตร ได้แก่ เรื่องความเป็นสิริมงคล ท่าทาในการคลอด การดูแลได้แก่ การจัดสถานที่และท่าทางในการคลอด การตรวจครรภ์ก่อนคลอด
ระยะหลังคลอด ได้แก่ ความเชื่อเรื่องผี เรื่องกรรม เรื่องการบำรุงกาย การดูแล ได้แก่ การอยู่ไฟ การนาบหม้อ การนวดหลังคลอด การงดบริโภคอาหารแสลง
4.2 ความเชื่อและการดูแลสุขภาพเกี่ยวกับการเกิดแบบแพทย์ตะวันตก
ความเชื่อเรื่องเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ เป็นภาวะที่ตัวอ่อนได้ก่อกำเนิดขึ้นภายในมดลูก
การดูแลมีหลักการคล้ายคลึงแบบพื้นบ้าน คือ มีในระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอด และหลังคลอด
ความเชื่อเกี่ยวกับความชราและการดูแลสุขภาพแบบพื้นบ้าน
5.1 ความเชื่อเกี่ยวกับความชราและการดูแลสุขภาพแบบพื้นบ้าน
ความเชื่อเกี่ยวกับความชรา เช่น ภาวะหมดประจำเดือนในเพศหญิง การเสื่อมสมรรถภาพทางเพศชาย
การดูแล ได้แก่ การใช้สมุนไพร การดูแลอาหาร
5.2 ความเชื่อเกี่ยวกับความชราและการดูแลแบบแพทย์แผนตะวันตก
ความเชื่อเกี่ยวกับความชนา อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข้าสู่วัยชรา
การดูแล ได้แก่ ด้านโภชนาการ การดูแลฮอร์โมน การออกกำลังกาย
ความเชื่อและการดูแลสุขภาพเกี่ยวกับความตาย
6.1 ความเชื่อและการดูแลสุขภาพเกี่ยวกับความตายแบบพื้นบ้าน
ความเชื่อเกี่ยวกับความตายแบบพื้นบ้าน เชื่อในเรื่องวิญญาณ กฏแห่งกรรม การเวียนว่ายตายเกิด
การดูแล จะมุ่งเน้นการตอบสนองทางด้านจิตวิญญาณของผู้ตายและเครือญาติ
6.2 ความเชื่อและการดูแลสุขภาพเกี่ยวกับความตายแบบแพทย์แผนตะวันตก
จะพิจารณาจากการหยุดทำงานของหัวใจและการทำงานของแกนสมอง
การดูแล มุ่งเน้นให้ระบบและอวัยวะต่างๆ สามารถทำงานต่อไปได้และยืดชีวิตผู้ป่วยให้นานที่สุด
1.2.2 ค่านิยมทางสังคม
ครอบครัว เป็นสถาบันแรกที่มีอิทธิพลต่อการสร้างค่านิยมให้แก่บุคคล เพราะเป็นหน่วยแรกที่อบรมสั่งสอนพฤติกรรมให้แก่คนตั้งแต่เกิดจนโต
โรงเรียน คือสถาบันทางสังคมที่มีส่วนในการสร้างค่านิยมอันถูกต้องให้แก่เด็กเป็นอย่างมากในการสั่งสอนเด็กให้เกิด ความคิด ความเชื่อ นำไปสู่การมีพฤติกรรมที่ดี
สถาบันศาสนา บุคคลและหน่วยงานของศาสนาต่างๆ ก็มีส่วนช่วยในการปลูกฝังค่านิยมและศีลธรรมอันถูกต้องได้อย่างดี
สังคมวัยรุ่นและกลุ่มเพื่อน การคบหาสมาคมกับเพื่อนในรุ่นเดียวกันไม่ว่าจะเพื่อนสนิท ผลที่ได้รับคือ การเรียนรู้และการยอมรับค่านิยมจากกิจกรรมเหล่านั้น
สื่อมวลชน ในปัจจุบันได้รับความรู้และความคิดจากสื่อมวลชนเป็นอันมากในบางกรณีบุคคลก็ยอมรับเอาความรู้ และความคิดเหล่านั้นไปยึดถือเป็นค่านิยมบางประการของตน
องค์กรของรัฐบาล มีส่วนในการปลูกฝันค่านิยมและศีลธรรมให้แก่สังคมตามปกติ
1.3 วัฒนธรรมการดูแลสุขภาพและการแสวงหาการรักษาของประชาชนในภูมิภาคต่างๆของโลก
วัฒนธรรมการดูแลสุขภาพไม่ได้จำกัดอยู่เพียงวัฒนธรรมดั้งเดิม เช่น ความเชื่อ ประเพณี พิธีกรรม เท่านั้น แต่ครอบคลุมถึงวัฒนธรรมองค์กร และวัฒนธรรมของสังคมที่มีความสัมพันธ์กับสุขภาพของคนในสังคมในภาพรวมด้วย
1.3.1 แนวคิดเกี่ยวกับวัฒนธรรมกับการดูแลสุขภาพ
ส่งเสริมสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ
ป้องกันไม่ให้เกิดการเจ็บป่วยหรือพิการ
ดูแลรักษาสุขภาพเมื่ออยู่ในภาวะเจ็บป่วยเป็นโรค
ฟื้นฟูสุขภาพให้เข้าสู่ภาวะปกติ
1.3.2 ประเภทของวัฒนธรรมกับการดูแลสุขภาพ แบ่งเป็น 2 ลักษณะคือ
วัฒนธรรมการดูแลสุขภาพในสภาวะปกติ หมายถึง แบบแผนทางวัฒนธรรมของสังคมที่มีกำหนดขึ้นเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตของคนในสังคม แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
วัฒนธรรมเกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพ เช่น การกินอาหารประภทน้ำพริกผักจิ้มและอาหารจากธรรมชาติ การออกกำลังกาย
วัฒนธรรมเกี่ยวกับการป้องกันโรค เช่น การบริโภคอาหารปรุงสุก การคว่ำกะลาเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของยุงลาย
วัฒนธรรมการดูแลสุขภาพในสภาวะเจ็บป่วย หมายถึง การรับรู้ของบุคคลที่มีต่อความผิดปกติของร่างกาย แบ่งออกเป็น 2 ปรเภท คือ
วัฒนธรรมเกี่ยวกับการรักษาโรค แต่ละสังคมต่างมีระบบการดูแลสุขภาพที่มีความเชื่อโยงกัน 3 ประเภทได้แก่ ระบบการดูแลสุขภาพภาคประชาชน แบบพื้นบ้าน และแบบวิชาชีพ
วัฒนธรรมเกี่ยวกับการฟื้นฟูสมรรถภาพ เช่น การดูแลการพักฟื้นของผู้ป่วยจากคนในครอบครัว การงดบริโภคอาหารแสลง
1.3.3 ความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมกับการดูแลสุขภาพ
Awareness หมายถึง
การตระหนักรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรม กระบวนการรู้คิดของบุคลากรสุขภาพที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของ การให้คุณค่า ความเชื่อ วิถีชีวิต พฤติกรรม และวิธีการแก้ปัญหาของผู้ใช้บริการต่างวัฒนธรรม
Skill หมายถึง
ความสามารถของบุคลากรสุขภาพในการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับประวัติและปัญหาของผู้รับบริการ การมีความไวทางวัฒนธรรม รวมถึง การเรียนรู้วิธีประเมินความต่างทางวัฒนธรรม และการะเมินสุขภาพ
Knowledge หมายถึง
การแสวงหาความรู้พื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับโลกทัศน์ ของบุคคลที่มีความแตกต่างกันทางวัฒนธรรม องค์ความรู้เหล่านี้สามารถศึกษาได้จาก ศาสตร์ต่างๆ เช่น การบริการข้ามวัฒนธรม มนุษย์วิทยาการแพทย์
Encounter หมายถึง
การที่บุคลากรสุขภาพมีความสามารถในการจัดบริการที่เหมาะสมสำหรับผู้รับบริการที่มีภูมิหลังทางวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน มีการสื่อสารทั้งทาง วัจนภาษา และอวัจนภาษา
Desire หมายถึง
ความปรารถนาที่จะมีสมรรถนะทางวัฒนธรรมของบุคลากรทางสุขภา ที่ทำให้ต้องการเข้าไปู่กระบวนการพัฒนาสมรรถนะทางวัฒนธรรม และเป็นขั้นที่สูงสุดของสมรรถนะทางวัฒนธรรม
ความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมกับการดูแลสุขภาพ สามารถจัดแบ่งได้ตามประโยชน์และโทษดังนี
ขนบธรรมเนียมประเพณีที่ส่งเสริมสุขภาพ เช่น การให้ทารกกินนมแม่นานถึง 2 ปี หรือการห้ามหญิงหลังคลอดบริโภคน้ำดิบ
ขนบธรรมเนียมประเพณีที่ไม่ได้ให้ประโยชน์ เช่น ห้ามหญิงมีครรภ์กินกล้วยแฝด
ขนบธรรมเนียมประเพณีที่ให้โทษ เช่น การรับประทานอาหารสุกๆ ดิบๆ เป็นสาเหตุของโรคพยาธิ โรคอุจจาระร่วง