Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การดูแลสุขภาพแบบข้ามวัฒนธรรม - Coggle Diagram
การดูแลสุขภาพแบบข้ามวัฒนธรรม
1.1 ความหมายของวัฒนธรรม
วัฒนธรรมคือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเป็นเครื่องมือที่มนุษย์คิดค้นเพื่อช่วยให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ต่อไปได้ในสังคมของตน
คำว่าวัฒนธรรมถูกนำมาใช้อย่างเป็นทางราชการครั้งแรกในสมัยรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม5
พื้นฐานที่สำคัญของวัฒนธรรมมี 6 ประการดังนี้
1.วัฒนธรรมเป็นความคิดร่วมและค่านิยมทางสังคมเป็นตัวกำหนดมาตรฐานพฤติกรรม
2.วัฒนธรรมเป็นสิ่งที่มนุษย์เรียนรู้ซึ่งมนุษย์จะเรียนรู้ที่ละเล็กทีละน้อยในสังคมจนกลายเป็น "มรดกสังคม"
3.วัฒนธรรมมีพื้นฐานมาจากการใช้สัญลักษณ์ซึ่งกล่าวว่าพฤติกรรมของมนุษย์มีต้นกำเนิดมาจากการใช้สัญลักษณ์ เช่น เงินตรา สัญญาณจราจร
4.วัฒนธรรมเป็นองค์รวมของความรู้และภูมิปัญญาทำหน้าที่ตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์
5.วัฒนธรรมคือกระบวนการที่มนุษย์นิยามความหมายให้กับชีวิตและสิ่งต่างๆ
6.วัฒนธรรมเป็นสิ่งที่ไม่หยุดนิ่ง มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
สามารถจำแนกวัฒนธรรมออกเป็น 2 ประเภท คือ
1.วัฒนธรรมทางวัตถุ
คือ สิ่งของหรือวัตถุอันเกิดจากความคิดและการประดิษฐ์ขึ้นมาของมนุษย์ เช่น ถ้วย จาน ช้อน ส้อม
2.วัฒนธรรมที่ไม่ใช่วัตถุ
คือ วัฒนธรรมที่แสดงออกได้โดยทัศนะประเพณี ขนบธรรมเนียม
1.1.1 องค์ประกอบวัฒนธรรม
มี 4 ประการดังนี้
1.องค์วัตถุ ทั้งที่เป็นเครื่องมือและสัญลักษณ์หมายถึงวัฒนธรรมในด้านวัตถุที่มีรูปร่างสามารถจับต้องได้ เช่น ภาษาและการสื่อความหมายต่างๆ
2.องค์การหรือสมาคม คือวัฒนธรรมในส่วนของการจัดระเบียบเป็นองค์การหรือสมาคม
3.องค์พิธีหรือพิธีการ คือวัฒนธรรมในส่วนของพิธีหรือพิธีการต่างๆที่มนุษย์สร้างขึ้นนับตั้งแต่การเริ่มต้นของชีวิต
4.องค์มติหรือมโนทัศน์ คือวัฒนธรรมในด้านความคิด ความเชื่อ และอุดมการณ์ต่างๆส่วนใหญ่ได้รับมาจากคำสอนศาสนา เช่น ความเชื่อในเรื่องบาปบุญ ความเชื่อในเรื่องกฏแห่งกรรม
1.1.2 ความสำคัญของวัฒนธรรม
1.วัฒนธรรมเป็นเครื่องกำหนดความเจริญหรือความเสื่อมของสังคม
2.การศึกษาวัฒนธรรมจะทำให้เข้าใจชีวิตความเป็นอยู่ ค่านิยมของสังคม
3.ทำให้มีความรู้สึกเป็นผู้เดียวกัน
4.ทำให้เกิดความสงบเรียบร้อยในสังคม
5.ทำให้มีพฤติกรรมเป็นแบบเดียวกัน
6.ทำให้เข้ากับคนพวกอื่นในสังคมเดียวกันได้
7.ทำให้มนุษย์มีสภาวะที่แตกต่างจากสัตว์
1.2 คุณค่า ความเชื่อ ค่านิยมทางสังคมที่มีผลต่อหลักการในการดำเนินชีวิต
หมายถึง การยอมรับคำอธิบายเหตุการณ์หรือปรากฏการณ์หนึ่งๆ ที่บุคคลได้จากการรับรู้และเรียนรู้ร่วมกันในสังคม
1.2.1 ประเภทของความเชื่อ
1.ความเชื่อในสิ่งปรากฏอยู่จริง
2.ความเชื่อขั้นพื้นฐานของบุคคล มี2 ลักษณะ
เกิดจากประสบการณ์ตรง
เกิดจากการแลกเปลี่ยนพบปะสังสรรค์
3.ความเชื่อแบบประเพณี
4.ความเชื่อแบบทางการ
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความเชื่อ
ปัจจัยด้านจิตวิทยา
การรับรู้
การเรียนรู้
ปัจจัยด้านสังคมและวัฒนธรรม
การขัดเกลาทางสังคม
การควบคุมทางสังคม
ปัจจัยด้านบุคคล
ศาสนา
อายุ
เพศ
ความเชื่อเกี่ยวกับสาเหตุของการเกิดโรคและวิธีการดูแลสุขภาพ
1.ความเชื่อแบบอำนาจเหนือธรรมชาติและวิธีการดูแลสุขภาพ
2.ความเชื่อแบบพื้นบ้านและวิธีการดูแลสุขภาพ
3.ความเชื่อแบบการแพทย์แผนตะวันตกและวิธีการดูแลสุขภาพ
4.ความเชื่อและการการดูแลสุขภาพในช่วงเปลี่ยนผ่านสถานการณ์ชีวิต
ความเชื่อและการดูสุขภาพเกี่ยวกับการเกิดแบบพื้นบ้าน
ระยะตั้งครรภ์
ระยะคลอดบุตร
ระยะหลังคลอด
ความเชื่อและการดูสุขภาพเกี่ยวกับการเกิดแบบแพทย์ตะวันตก
ความเชื่อเกี่ยวกับการตั้งครรภ์
การดูแลสุขภาพแบบการแพทย์ตะวันตกมีหลักการดูแลคล้ายแบบพื้นบ้าน
5.ความเชื่อเกี่ยวกับความชราและการดูแลสุขภาพพื้นบ้าน
ความเชื่อเกี่ยวกับความชรา
การดูแลสุขภาพวัยชราแบบพื้นบ้าน
6.ความเชื่อและการดูแลสุขภาพเกี่ยวกับการตาย
1.2.2 ค่านิยมทางสังคม
ค่านิยมทางสังคมถือได้ว่าเป็นวัฒนธรรมที่กำหนดพฤติกรรมของสมาชิกสังคมนั้นๆ โดยตรง
ค่านิยมทางสังคมจะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยปัจจัยทางสังคมหลายอย่างเข้า
มามีอิทธิพลต่อการเรียนรู้
ครอบครัว เป็นสถาบันสังคมอันดับแรกที่มีอิทธิพลต่อการสร้างค่านิยมให้แก่บุคคล
โรงเรียน คือสถาบันทางสังคมที่มีส่วนในการสร้างค่านิยมอันถูกต้องให้แก่เด็กเป็นอย่างมากในการสั่ง
สอนเด็กให้เกิด
ความคิด
ความเชื่อ
สถาบันศาสนา บุคคลและหน่วยงานของศาสนาต่างๆ
สังคมวัยรุ่นและกลุ่มเพื่อน การคบหาสมาคมกับเพื่อนในรุ่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเพื่อนสนิท
สื่อมวลชน ในปัจจุบันบุคคลได้รับความรู้และความคิดจากสื่อมวลชนเป็นอันมากในบางกรณ
องค์การของรัฐบาล รัฐย่อมมีส่วนในการปลูกฝังค่านิยมและศีลธรรมให้แก่สังคมตามปกติ
1.3 วัฒนธรรมการดูแลสุขภาพและการแสวงหาการรักษาของประชาชนในภูมิภาคต่างๆของโลก
1.3.1 แนวคิดเกี่ยวกับวัฒนธรรมกับการดูแลสุขภาพ
ส่งเสริมสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ
ป้องกันไม่ให้เกิดการเจ็บป่วยหรือพิการ
ดูแลรักษาสุขภาพเมื่ออยู่ในภาวะเจ็บป่วยเป็นโรค
ฟื้นฟูสุขภาพให้เข้าสู่ภาวะปกติ
1.3.2 ประเภทของวัฒนธรรมกับการดูแลสุขภาพ
วัฒนธรรมการดูแลสุขภาพในสภาวะปกติ
แบบแผนทางวัฒนธรรมของสังคมที่มีกำหนดขึ้น
เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตของคนในสังคม
วัฒนธรรมเกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพ
วัฒนธรรมเกี่ยวกับการป้องกันโรค
วัฒนธรรมการดูแลสุขภาพในสภาวะเจ็บป่วย
การรับรู้ของบุคคลที่มีต่อความผิดปกติของ
ร่างกาย
วัฒนธรรมเกี่ยวกับการรักษาโรค
วัฒนธรรมเกี่ยวกับการฟื้นฟูสมรรถภาพ
1.3.3 ความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมกับการดูแลสุขภาพ
เป็นกระบวนการที่ประกอบด้วยแนวคิดหลัก 5 ประการ ASKED
A =Awareness
การตระหนักรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรม หมายถึง กระบวนการรู้คิดของ บุคลากร
สุขภาพที่เล็งเห็นถึงความสําคัญของ การให้คุณค่า ความเชื่อ
S = Skil
การมีทักษะเกี่ยวกับวัฒนธรรม คือ ความสามารถของบุคลากรสุขภาพในการเก็บ
ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติและปัญหาของผู้รับบริการ
K = Knowledge
การมีองค์ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรม คือ การแสวงหาความรู้พื้นฐานที่
เกี่ยวข้องกับโลกทัศน์ ของบุคคลที่มีความแตกต่างกันทางวัฒนธรรม
E = Encounter
ความสามารถในการเผชิญและจัดการกับวัฒนธรรม หมายถึง การที่บุคลากรสุขภาพมีความสามารถในการจัดบริการที่เหมาะสมสำหรับผู้รับบริการ
D = Desire
ความปรารถนาที่จะมีสมรรถนะทางวัฒนธรรมของบุคลากรทางสุขภาพ ที่ทําให้
ต้องการเข้าไปสู่กระบวนการพัฒนาสมรรถนะทางวัฒนธรรม
เป็นขั้นที่สูงที่สุดของสมรรถนะทางวัฒนธรรม
สามารถจัดแบ่งได้ตามประโยชน์และโทษดังนี
ขนบธรรมเนียมประเพณีที่ส่งเสริมสุขภาพ
การให้ทารกกินนมแม่นานถึง 2 ปี
การห้าม
หญิงหลังคลอดบริโภคน้ำดิบ
ขนบธรรมเนียมประเพณีที่ไม่ได้ให้ประโยชน์ เช่น ห้ามหญิงมีครรภ์กินกล้วยแฝด
ขนบธรรมเนียมประเพณีที่ไม่แน่ว่าให้คุณหรือโทษ เช่น สังคมแอฟริกันบางสังคมให้เด็กกินดินหรือโคลน
ขนบธรรมเนียมประเพณีที่ให้โทษ
การรับประทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ
เป็นสาเหตุโรคพยาธิ
โรคอุจจาระร่วง
คือ กระบวนการที่บุคคลได้กระทำกิจกรรม
ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพเพื่อนำไปสู่การมีสุขภาพที่ดี มีความผาสุก
โดยนำเอาแบบแผนความเชื่อและ
พฤติกรรมที่เกิดจากการเรียนรู้ แลกเปลี่ยน และถ่ายทอดระหว่างกลุ่มวัฒนธรรมต่างๆ
แนวทางการดูแลสุขภาพที่เกิดขึ้นเป็นวัฒนธรรมของการดูแลสุขภาพของประชาชนนั้นประกอบด้วย
ระบบย่อย 3 ระบบ
ระบบการดูแลสุขภาพภาควิชาชีพ
เป็นส่วนของการปฏิบัติการ
รักษาพยาบาลทางการแพทย์
ระบบการดูแลสุขภาพภาคพื้นบ้าน
เป็นการปฏิบัติการรักษาที่มิใช่รูปแบบของวิชาชีพ ไม่มีการจัดองค์กร
ระบบการดูแลสุขภาพภาคประชาชน
เป็นส่วนของการดูแลสุขภาพ
ภาคประชาชนซึ่งถูกปลูกฝังถ่ายทอดกันมาตามวัฒนธรรม