Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กลุ่มอาการไข้และไอ, การวินิจฉัย - Coggle Diagram
กลุ่มอาการไข้และไอ
Lower respiratory tract infection (LRI)
Pertussis
เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Bordetella pertussis(B. pertussis)
ติดต่อกันได้ง่ายจากการไอ จาม ระยะฟักตัวของโรคประมาณ 6-20 วันถ้าสัมผัสโรคมาเกิน 3 สัปดาห์แล้วไม่มีอาการแสดงว่าไม่ติดโรค
อาการและอาการแสดง
ระยะแรกเด็กจะเริ่มมีอาการ มีน้ำมูก และไอ เหมือนอาการเริ่มแรก ของโรคหวัดธรรมดาอาจมีไข้ต่างๆตาแดง น้ำตาไหล ระยะนี้เรียกว่าCatarrhal stage จะเป็นอยู่ประมาณ 1-2 สัปดาห
Paroxysmal stage ระยะนี้มีอาการไอเป็นชุดๆ
เมื่อเข้าสู่
สัปดาห์ที่ 3 ไม่มีเสมหะจะเริ่มมีลักษณะของไอกรน คือ มี อาการไอถี่ๆ ติดกันเป็นชุด 5-10 ครั้งตามด้วยการหายใจเข้าอย่างแรงจนเกิดเสียง วู๊ป(whoop) ระยะไอเป็นชุดๆนี้จะเป็นอยู่นาน 2-4 สัปดาห์ หรืออาจนานกว่านี้ได
ระยะฟื้นตัว (Convalescent stage) กินเวลา 2-3 สัปดาห์อาการไอเป็นชุดๆ จะค่อยๆลดลงทั้งความรุนแรงของการไอและจำนวน
ครั้ง แต่จะยังมีอาการไอหลายสัปดาห์ระยะของโรคทั้งหมดถ้าไม่มีโรค
แทรกซ้อนจะใช้เวลาประมาณ 6-10 สัปดาห
โรคแทรกซ้อน
ปอดอักเสบ ซึ่งเป็นสาเหตุของการตายที่สำคัญของ โรคไอกรนในเด็กเล็ก
เกิดจากการมีเสมหะเหนียวไปอุดในหลอดลมและถุงลม
เลือดออกในเยื่อบุตา (Subconjunctival hemorrhage)
• มีอาการชัก พบบ่อยในเด็กเล็ก เนื่องจากขาดเลือดไปเลี้ยงสมอง
การวินิจฉัย
อาการและอาการแสดง
nasopharyngeal
swab หรือดูดเอา nasopharyngeal mucus
การรักษา
ให้ยาปฎิชีวนะที่ได้ผล
เฉพาะคือ erythromycin ในขนาด 50 มก./กก./วันเป็นระยะเวลา14 วัน
การรักษาตามอาการพักผ่อนดื่มน้ำอุ่น
Laryngeal diphtheria
• โรคคอตีบเกิดจากเชื้อ Corynebacterium diphtheria (Greek clubshaped bacteria that produce membrane)
การติดต่อ
สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่ วย หรือ Carrier
ติดต่อทางผิวหนัง ทางการหายใจ
อาการทางคลินิก
Anterior nasal :อาการคล้ายที่พบเป็นหวัด
แต่น ้ำมูกจะมีสีข้นเขียวคล้ายหนองและบางครั้งมีเลือดออก จะตรวจพบแผ่นเยื่อได้ที่nasal septum อาการส่วนใหญ่ไม่รุนแรง
การรักษา
ยาปฎิชีวนะ
erythromycin กิน หรือ ฉีด 14 วัน (40 mg/k/d, max 2 gm/d)
Penicillin G ฉีด IM หรือ IV 14 วัน
Penicillin G procain ฉีด IM 14 วัน (300,000 U <10 kg x 2 fo>10 kg)
หลังครบ 14 วันต้องตรวจเพาะเชื้อ เพื่อแสดงว่าไม่พบเชื้อ 2 ครั้ง (เก็บตัวอย่างห่างกันอย่างน้อย 24 ชั่วโมง)
ให้การรักษาปัญหาทางเดินหายใจตีบตัน โดยการเจาะคอ(tracheostomy)
ให้การรักษาภาวะแทรกซ้อนทางหัวใจและระบบประสาท
การป้องกัน
ผู้สัมผัสโรค booster dose of diphtheria vaccine และให้ยาปฏิชีวนะBenzatine Pen G 600,000 U for < 6 yrs, 1,200,000 U for > 6yrs ส าหรับเด็ก และ 1 g/d ส าหรับผู้ใหญ
ค้นหา Carriers และให้การรักษา
update vaccine coverage in community and school
Acute bronchiolitis
ประมาณ 90% เกิดจากการติดเชื้อไวรัส
มักมีอาการ ไอ มีเสมหะและมีไข้ แต่อาการต่างๆเหล่านี้มักหายภายใน 1-3 สัปดาห์
อาการทางคลินิก
มักมีเสมหะร่วมด้วย เสมหะอาจมีสีขาว ใส สีเหลือง เขียว เทา และสี
อาจร่วมกับ เจ็บระคายคอ เสียงแหบ
อาจมีไข้มักมีไข้ต ่าๆ แต่มีไข้สูงได
การวินิจฉัย
จากอาการและอาการแสดงทางคลินิก
การตรวจร่างกาย
การรักษา
การรักษาตามอาการ
การรักษาประคับประคอง
การรักษาจ าเพาะ
Pneumonia
อาการทางคลินิก
ไข้
ไอ
หอบ
มีอาการหายใจลำบากขณะหายใจเข้า
ฟังปอดได้ยินเสียงผิดปกติ
อาจเกิดจากไวรัสและแบคทีเรียซึ่งแตกต่างกันตสมกลุ่มอายุ
การรักษา
ในรายที่ติดเชื้อไวรัสไม่มียารักษาที่จำเพาะ
มีสาเหตุจากเชื้อแบคทีเรีย
ให้กิน amoxycillin 40-50 มก./กก./วัน แบ่งวันละ 3 ครั้ง ถ้าแพ้ยากลุ่ม penicillin ให้กิน erythromycin 30-40 มก./กก./วัน เมื่อกินยา 2 วันแล้ว ควรให้กลับมาตรวจอีกครั้งถ้าอาการดีขึ้นให้กินยาจนครบ 5-7 วัน
โรคปอดบวมรุนแรงและรุนแรงมาก
ให้ยาปฏิชีวนะชนิดฉีด คือpenicillin หรือ ampicillin ร่วมกับ aminoglycoside หรือ 3generation cephalosporin เช่น cefotaxime หรือ ceftriaxone นาน 7-10 วัน
Pulmonary Tuberculosis (TB)
สาเหตุ: เกิดจากเชื้อวัณโรค สายพันธุ์ที่พบได้บ่อยและก่อปัญหามากที่สุดในมนุษย์คือ Mycobacterium tuberculosis
• การติดต่อ:
จากการไอ จาม หัวเราะ พูด ร้องเพลง
แบ่งการดำเนินโรคเป็น 2 แบบ
วัณโรคปฐมภูมิ (Primary tuberculosis) คือ แสดงอาการตั้งแต่ครั้งแรกที่ติดเชื้อโดยไม่มีการอยู่ในระยะแฝง
การติดเชื้อวัณโรคแฝง หรือ วัณโรคระยะแฝง
อาการและอาการแสดงทางคลินิก
ไข้ตำ่ๆ ตอนบ่าย
อ่อนเพลีย เบื่ออาหารร่วมด้วย
เหงื่อออกชุ่มในในตอนกลางคืนNight sweats
มีอาการอย่างเรื้อรังต่อเนื่องนาน 2-3 สัปดาห
น ้าหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็วโดยไม่ทราบสาเหตุ
อาจมีอาการไอเป็นเลือด
แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวกหรือหอบเหนื่อย
การวินิจฉัย
จากการซักประวัติการสัมผัสโรค ตรวจร่างกาย
(Tuberculin skin test : TST)
การเอกซเรย์ปอด
การย้อมเชื้อวัณโรคจากเสมหะ(AFB)
การน าเสมหะไปเพาะหาเชื้อ
การรักษา
นิยมใช้สูตรยา 6 เดือน
ช่วง 2 เดือนแรก
1.Isoniazid (INH)
2.Rifampicin
3.Pyrazinamide
4.Ethambutol
หลังจากกินยาทั้ง 4 ชนิดครบ 2 เดือน
Isoniazid
Rifampicin
Upper respiratory tract infection (URI)
Acute rhinitis/acute nasopharyngitis (common cold)
เป็นโรคติดเชื้อที่พบบ่อยที่สุดในเด็ก และเด็กมักเป็นหวัดได้บ่อยๆ
สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส ที่พบบ่อยคือ Rhinovirus ,RSV
การรักษา
การดูแลทั่วไป
การกินอาหารตามปกติ ไม่ลดอาหาร
รักษาตามอาการ
หากมีไข้สูง38องศาควรให้ยาลดไข้paracetamol10 mg / kg / dose เป็นครั้งคราวได้ทุก 4–6 ชั่วโมง
บรรเทาอาการคัดจมูกและลดน้ำมูกในเด็กเล็กที่มีน้ำมูกมากแนะนำให้ผู้ปกครองช่วยดูดออกหรือใช้ไม้พันสำลีหรือผ้านุ่มที่ม้วนปลายแหลมสอดเข้าไปซับน้ำมูกหรือดูดออกโดยใช้ลูกยางแดงในเด็กโตสอนให้สั่งน้ำมูกเอง
ยากลุ่ม antihistamine ไม่แนะน าให้ใช้บรรเทาอาการหวัดในเด็กทั่วไปเพราะไม่มีหลักฐานว่าได้ผลและยังมีผลข้างเคียงอื่นๆ เช่นทำให้ซึม และชัก
Oralhydrationเป็นสิ่งสคัญที่สุดในการบรรเทาอาการไอ
ควรดื่มน้ำมากๆเพราะจะทำให้เสมหะเหลวและถูกขับออกได้
ยาขับเสมหะ ( expectorant )แนะนำให้ใช้ ได้แก่Guaifenesinหรือ glyceryl guaiacolate แต่ต้องระวังside effect จากการให้ขนาดสูงเกินไป
ซึ่งจะทำให้คลื่นไส้ อาเจียนได้
ยา( cough suppressant ) เช่น codiene,dextromethorphanไม่ควรใช้เลยในเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี
Influenza
เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Influenza virus)มีอยู่ 2 ชนิดคือ influenza A และ B
เกิดจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ (H1N1) ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่มีภูมิคุ้มกันทำให้เกิดการระบาดหรือติด
เชื้อเป็นวงกว้าง
ซึ่งเชื้อนี้มีระบาดไปในแทบทุกประเทศทั่วโลกในเวลาอันสั้น
พบในคนมี2ส่วนใหญ่ๆ
ไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล
เกิดจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่พบกันมานานแล้ว
ไข้หวัดใหญ่ที่ทำให้เกิดการระบาดใหญ่หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่
ติดต่อโดยการหายใจเอาละอองน้ำมูก น้ำลายและเสมหะ
อาการ
ไข้ ไอ น้ำมูก บางคนมีอาการเจ็บคอ
ปวดเมื่อยตามตัวมากคลื่นไส้อาเจียน ท้องเสียอาการส่วนใหญ่จะไม่
รุนแรงเป็นอยู่ประมาณ3-5วัน
กลุ่มเสียงที่อาจจะทำให้อาการรุนแรง
กลุ่มเด็กเล็ก
กลุ่มผู้สูงอายุ
สตรีมีครรภ์
ผู้ป่ วยที่มีโรคประจ าตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจโรคปอด โรคปอด โรคอ้วน และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันในร่างกายต ่า
การวินิจฉัย
อาการและอาการแสดง
ตรวจทางห้องปฏิบัติการ
Nasopharyngeal swab
การรักษารักษา
รักษาแบบประคับประคองให้การดูแล รักษาตามอาการ
รายที่มีอาการรุนแรงหรือมีปอดบวมจ าเป็นต้องนอนรักษาตัวใน
โรงพยาบาล
Acute pharyngitis/ acute tonsillitis/pharyngotonsillitis
อาการ
• เจ็บคอเป็นอาการที่ส าคัญ
• มีไข้มากกว่า 37.5องศา
• ปวดศีรษะ
• ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ
• ผื่นตามผิวหนัง
• ต่อมน ้าเหลืองที่คอโต
• กลืนอาหารแล้วเจ็บคอ
• น ้ามูกไหล ไอ
• คลื่นไส้อาเจียน
การวินิจฉัย
การตรวจ CBC หรือ
ThroatCulture กรณีไม่ตอบสนอง
ต่อการรักษา
ภาวะแทรกซ้อน
การติดเชื้อของหู
• ไซนัสอักเสบ
• โรคหัวใจ Rheumatic fever
• ไตอักเสบ Poststreptococcal glomerulonephritis
Scarlet fever
การรักษา
การรักษาจ าเพาะ (specific treatment)
penicillin V 50,000 – 100,000 ยูนิต/กก./วันหรือ amoxycillin 30 – 50 มก./กก./วัน รับประทานนาน 10วัน ถ้าแพ้ penicillin ให้ erythromycin 30 – 50 มก./กก./วัน นาน 10 –14 วัน
ASTHMA
ทำให้เกิดอาการ และอาการแสดงจากการตีบของหลอดลมที่เกิดขึ้นที่ปอดทั้ง2ข้าง
อาการและอาการแสดง
ประวัติไอเรื้อรังไอนานมากกว่า 8 สัปดาห
การหายใจและได้ยินเสียงหวีด
หายใจล าบาก หรือแน่นหน้าอก
asthma triads คือ ไอ หายใจมีเสียงหวีด
ฟังปอดได้ยินเสียง wheeze
การวินิจฉัย
ลักษณะทางคลินิก จากการซักประวัติ การตรวจร่างกาย
ทดสอบทางห้องปฏิบัติการ
การรักษา
ยาที่ใช้ควบคุมโรคหืดcontrollers
ยาที่ใช้บรรเทาอาการของโรคหืดrelievers
การวินิจฉัย