Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่1 การป้องกันและการควบคุมการติดเชื้อ - Coggle Diagram
บทที่1 การป้องกันและการควบคุมการติดเชื้อ
วงจรการติดเชื้อ
องค์ประกอบ
ทางออกของเชื้อ
(Portal of exit)
ระบบทางเดินหายใจ
น้ำมูก
ลมหายใจ
ระบบสืบพันธุ์
ระบบทางเดินปัสสาวะ
เชื้ออยู่บนแผลผิวหนัง
เชื้อจากมารดาสู่ทารก
สายสะดือ
โรคที่เชื้อโรคออกจากร่างกายจากแมลงกัด/ด฿ดเลือดไปกัดผู้อื่น
หนทางการแพร่กระจาย
(Mode of transmission)
หายใจ
แพร่กระจายโดยมีตัวนำ
สัมผัส
แหล่งกักเก็บเชื้อโรค
(Reservoir)
เป็นที่ให้เชื้อโรคเจริญเติบโตและมีการขยายตัว
ตัวอย่าง
คน
เป็นแหล่งเชื้อ
วัณโรค
ไข้หวัดใหญ่
หัด
ยุง
เป็นแหล่งเชื้อ
มาลาเรีย
ดิน
เป็นแหล่งเชื้อ
บาดทะยัก
คน/สัตว์มีเชื้อโรคแต่ไม่มีอาการ
Carrier
ทางเข้าของเชื้อ
(Portal of entry)
ทางเข้ามักเป็นทางเดียวกับทางที่ออกมา
พบบ่อย
ทางเดินหายใจ
อวัยวะสืบพันธ์ุ
ผิวหนังที่ฉีกขาด
ทางเดินอาหาร
เชื้อก่อโรค
(Infectious agent)
เชื้อรา
Candida albicans
Canduda glabrata
ไวรัส
อีสุกอีใส
เริม
เชื้อหัด
ไข้หวัดใหญ่
Corona virus
โปรโตซัว
Entamoeba histolytica
เกิดโรคบิด
พยาธิ
พยาธิเส้นด้าย
พบมากในเด็ก
พยาธิใบไม้
พยาธิตัวตืด
แบคทีเรีย
Gram positive
staphylococcus aureus
staphylococcus epidermidis
clostridium difficile
Gram negative
ความไวของบุคคลในการรับเชื้อ
(Susceptible host)
ร่างกายมีกลไกที่ต่อสู้กับจุลชีพ
ผิวหนัง
ขนอ่อนในจมูก
ขบวนการการอักเสบ
แอนติบอดี้
มี lysozyme
ขึ้นอยู่กับ
ลักษณะของเชื้อจุลชีพ
เนื้อเยื่อที่รับเชื้อ
สุขภาพของแต่ละบุคคล
ภูมิคุ้มกันโรค
ปัจฉัยที่มีอิทธิพลต่อการเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
ความเครียด
(Stress)
เครียดมาก
ติดเชื้อง่าย
ภาวะโภชนาการ
รับอาหารครบถ้วน
ไม่ติดเชื้อง่าย
โปรตีน
ช่วยสร้างเนื้อเยื่อ
ช่วยเนื้อเยื่อเจริญเติบโต
ขาดอาหาร
ติดเชื้อ/โรคต่างได้ง่าย
วัณโรค
ความอ่อนเพลีย
คนอ่อนเพลีย/พักผ่อนไม่เพียงพอ
ติดเชื้อง่าย
ความร้อนหรือเย็น
ได้รับความร้อน/เย็นมากเกินไป
ติดเชื้อง่าย
เย็นเกินไป
ลดการเคลื่อนไหวของขนอ่อนในระบบทางเดินอาหาร
ลดจำนวนเลือดที่ไปเลี้ยงเนื้อเยื่อ
กดทับการสร้าแอนติบอดี้
โรคภูมิแพ้หรือโรคเรื้อรัง
มีความต้านทานน้อยกว่าคนปกติ
ความสามารถในการตกสู้เชื้อโรคจึงน้อย
เพศ
โรคบางชนิดพบในแต่ละเพศไม่เท่ากัน
โรคปอดบวม
พบในเพศชายมากกว่า
โรคอีดำอีแดง
พบในเพศหญิงมากกว่า
กรรมพันธุ์
ขาดสาร Immunoglobulin
เป็นสารสำคัญในการสร้างภูมิคุ้มกัน
อายุ
เด็ก
มีความไวในการติดเชื้อง่าย
การสร้างภุมิคุ้มกันในร่างกายไม่ดีพอเท่าผู้ใหญ่
ผู้สูงอายุ
มีภูมิต้านทานน้อย
รับอาหารไม่เพียงพอ
มีโรคเรื้อรัง
การรักษาการแพทย์บางชนิด
ติดเชื้อง่าย
การฉายรังสี
รับยาที่กดการสร้างภูมิคุ้มกัน
อาชีพ
บางอาชีพอาจมีการสัมผัสเชื้อได้ง่าย
ลดรปะสิทธิกลไกการป้องกันตนเอง
ตัวอย่าง
คนเลี้ยงนกพิราบ
ติดเชื้อไวรัสH1N1
การติดเชื้อในโรงพยาบาล
ผู้ป่วยได้รับเชื้อขณะอยู่โรงพยาบาล
เชื้อที่อยู่ในตัวผู้ป่วยเอง(Endogenou organism)
เชื้อจากภายนอกร่างกายของผู้ป่วย(Exogenou organism)
หากไม่ทราบระยะการฟักตัวของเชื้อนานเท่าไรเป็นการติดเชื้อในโรงพยาบาล
หากการติดเชื้อแสดงอาการหลังจากการรักษาในโรงพยาบาล48ชั่วโมงอาจเป็นการติดเชื้อในโรงพยาบาลที่รักษาครั้งก่อน
ผู้ป่วยที่ติดเชื้อในโรงพยาบาลอยู่แล้ว
อาจติดเชื้อชนิดใหม่ที่ตำแหน่งเดิม
อาจติดเชื้อชนิดเดียวกับเดิม
องค์ประกอบ
คน
ผู้ป่วยที่มีภูมิต้านทานโรคต่ำ
ผู้สูงอายุ
เด็กเล็กที่มีภูมิต้านทานยังพัฒนาไม่เต็มที่
บุคลากรในโรงพยาบาล
สิ่งแวดล้อม
บุคลากรในโรงพยาบาล
ญาติที่มาเยี่ยม
เครื่องมือเครื่องใช้
เครื่องมือทางการแพทย์ที่ต้องสอดใส่เข้าร่างกายของผู้ป่วย
มีโอกาสติดเชื้อสูง
อาคาร สถานที่
เชื้อโรค
ส่วนใหญ่ที่พบ
เชื้อประจำถิ่น
เชื้อที่พบบนร่างกายผู้ป่วยเอง
แบคทีเรียแกรมลบทรงแท่ง
อัตราดื้อต่อยาปฏิชีวนะสูง
ตัวอย่าง
MRSA
Pseudomonas aeruginosa
การแพร่กระจายเชื้อ
โดยการสัมผัส
(Contact transmission)
การสัมผัสโดยตรง (Direct-contact transmission)
มือสัมผัสแหล่งเชื้อโรคแล้วสสัมผัสกับผู้ป่วย
การอาบน้ำเช็ดตัวผู้ป่วย
การทำแผล
การพลิกตะแคงตัวผู้ป่วย
การสัมผัสโดยอ้อม(Indirect-contact transmission)
สัมผัสกับสิ่งของ/อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ปนเปื้อน
ของเล่นในแผนกเด็กป่วย
ลูกบิดประตู
ผ้าปูที่นอน
โดยฝอยละออง
(Droplet spread)
สัมผัสละอองน้ำมูกน้ำลาย
ขนาดใหญ่กว่า5ไมครอน
เกิดในระยะไม่เกิน3เมตร
ทางอากาศ
(Airborne transmission)
การหายใจเอาเชื้อที่อยู่ในอากาศเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ
อยู่ในรูปของ Droplet nuclei
เชื้อที่แพร่กระจายโดยวิธีนี้
อีสุกอีใส
วัณโรค
งูสวัด
โดยการผ่านสื่อนำ
(Vehicle transmission )
มีเชื้อปนอยู่
ในเลือด ผลิตภัณฑ์ของเลือด
อาหาร น้ำ ยา
สารน้ำที่ให้ทางหลอดเลือดดำแก่ผู้ป่วย
โดยสัตว์เป็นพาหะ
(Vector-Borne transmission)
แพร่จาก
แมลง สัตว์นำโรค
คนที่ได้รับเชื้อจากแมลงกัด
ตัวอย่าง
ยุง
มีไวรัสเต็งกี่กัด
มีเชื้อมาลาเรียกัด
แมลงวันเกาะขยะแล้วมาเกาะอาหาร
การทำลายเชื้อและการทำให้ปราศจากเชื้อ
การทำลายเชื้อ
(Disinfection)
การต้ม
วิธีที่ดีที่สุด
ง่าย ประหยัด มีประสิทธิภาพดี
ต้มเดือดนาน20นาที
การใช้สารเคมี
เป็นวิธีสุดท้ายที่จะใช้หากไม่มีวิธีอื่น
ฤทธิ์ของสารเคมีที่ทำลายเชื้อจะเปลี่ยนแปลงตามปัจจัยต่างๆ
การล้าง
ผ้ากันเปื้อน
แว่นตาป้องกัน
สวมถุงมือยาง
การจับของแหลมคมอย่าให้ถูกบาด
การใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ
การล้างมือธรรมดา
ใช้สบู่ก้อน/เหลว
หลังสัมผัสผู้ป่วย สิ่งของปนเปื้อนและก่อนสัมผัสผู้ป่วยภูมิคุ้มกันโรคต่ำ
ฟอกมือด้วย
Chlorhexidine 4% / lodophor 7.5%
ผสม Alcohol 70% กับ Chlorhexidine 0.5% จนน้ำยาแห้ง
การล้างมือก่อนทำหัตถการ
แปรงมือและแขนถึงข้อศอกให้ทั่วทุกมุม
โดย Chlorhexidine 4% / lodophor 7.5% อย่างน้อย5นาที
การเตรียมผิวหนัง
ฉีดยา
Alcohol 70%
ผ่าตัดเล็ก
Alcohol 70% หรือ Tr.iodine 2%
ผ่าตัดใหญ่
Chlorhexidine 4% / lodophor 7.5% แล้วเช็ดออก
Alcohol 70% กับ Chlorhexidine 0.5%
การทำแผล
ล้าางแผลให้สะอาด
Steriled normal saline
แผลสกปรก
เช็ดผิวหนังรอบๆ Alcohol 70% หรือ Tr.iodine 2%
มีหนอง
Wet dressing ด้วย Steriled normal saline
การสวนล้างช่องคลอด
Cetrimide15%+Chlorhexidine 1.5% เจือจาง1:100
การทำความสะอาดฝีเย็บก่อนคลอดหรือก่อนการตรวจภายใน
Cetrimide15%+Chlorhexidine 1.5% เจือจาง1:100
การทาช่องคลอดก่อนผ่าตัด
lodophor10%
ระดับการทำลายเชื้อ
การทำลายเชื้อระดับสูง
ทำลายเชื้อจุลชีพก่อโรคได้ทุกชนิด+สปอร์ของเชื้อแบคทีเรีย
ทำให้อุปกรณ์ปราศจากเชื้อได้
แต่ต้องแช่ในน้ำยาเป็นระยะเวลานานตามกำหนด
น้ำยาทำลายสูงเรียกว่า "Chemosterilant" หรือ "Cold sterilant"
น้ำยาทำลายเชื้อ
Peracetic acid
Hydrogen peroxide
Chlorine dioxide
Glutaraldehyde
การทำลายเชื้อระดับกลาง
ทำลายให้อ่อนกำลังจนไม่มำอันตรายต่อมนุษย์
Mycobacterium tuberculosis
เชื้อแบคทีเรีย
เชื้อไวรัส
เชื้อรา
แต่ไม่สามารถทำลายสปอร์ของเชื้อแบคทีเรียได้
น้ำยาในกลุ่มนี้
แอลกอฮอล์
Chlorine compounds
Phenolic
lodophor
การทำลายเชื้อระดับต่ำ
ทำลายได้บางชนิด
เชื้อแบคทีเรีย
เชื้อไวรัส
เชื้อรา
ไม่สามารถทำลายเชื้อที่มีความคงทน
วิธีนี้เหมาะสำหรับอุปกรณ์ประเภท Noncritical items
เครื่องวัดความดันโลหิต
โต๊ะข้างเตียง
น้ำยาในกลุ่มนี้
Iodophors
Phenolic
Quaternary ammonium compounds
การทำให้ปราศจากเชื้อ
(Sterilization)
วิธีทางกายภาพ
ความร้อน
การใช้ความร้อนแห้ง
บรรจุอุปกรณืลงเตาอบ160-180องศาเซลเซียส นาน1-2ชม.
การต้ม
ต้มน้ำเดือด100 องศาเซลเซียสนาน30นาที
การเผา
ทำลายอุปกรณ์ที่จะไม่นำกลัยมาใช้
การใช้ความร้อนชื้น
การนึ่งไอน้ำใต้ความดัน
มีประสิทธิภาพที่สุด
การใช้รังสี
X-ray และ Gamma rays
มีประสิทธิภาพต้องให้รังสีสัมผัสโดยตรงกับเชื้อ
UV
ทำลายเชื้อแบคทีเรียหลาชนิด
แทรกวึมลงอุปกรณ์ได้ไม่ดี
ช่วยลดจำนวนเชื้อก่อโรคที่อยู่ในอากาศ
ในห้องผ่าตัด
ห้องปฏิบัติการทางจุลชีววิทยาได้
วิธีทางเคมี
การใช้แก๊ส
Formaldehyde
ทำลายเชื้อจุลชีพกว้างขวาง
อบให้ปราศจากเชื้อได้6-12ชม.
สปอร์แบคทีเรียใช้เวลา 2-4วัน
ถ้าใช้ร่วมกับไอน้ำ
ประสิทธิภาพในการทำลายสูงขึ้น
ไอน้ำช่วยให้ฟอร์มาลีนซึมผ่านเขาไปทำลายสปอร์ได้ดี
Ethylene oxide gas (EO)
นิยมมากในปัจจุบัน
เหมาะสำหรับวัสดุที่ไม่สามารถทนความร้อนและความชื้นได้
Fiber optic scopes
มีดไฟฟ้า
สายสวนต่าง
ข้อเสีย
ใช้เวลานาน
ราคาสูง
ตกค้างในอุปกรณ์ที่มีเนื้อวัสดุเป็นรูพรุนได้
การใช้ High-level disinfectant
Hydrogen peroxide
Peracetic acid
Glutaraldehyde
กระบวนการพยาบาลในการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ
1.การประเมินความเสี่ยงต่อการติดเชื้อของผู้ป่วย
การซักประวัติ ตรวจร่างกาย การรักษาที่ได้รับ
2.การวินิจฉัยทางการพยาบาล
เสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อสู่ผู้อื่น
มีโอกาสระบาดในชุมชน
3.การวางแผนและให้การพยาบาล
1.ล้างมือก่อนและหลังการให้การพยาบาล
2.ใช้หลัก Airborne precautions
3.ให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องแก่ผู้ป่วยและญาติ
4.รายงานอุบัติการณ์การเฝ้าระวังการเกิดโรคต่อคณะกรรมการการติดเชื้อของโรงพยาบาล
4.การประเมินผลการพยาบาล
ไม่มีการแพร่กระจายเชื้อสู่ญาติแและบุคคลในหอผุ้ป่วย
การควบคุมการแพร่กระจายเชื้อ
Standard precautions
1.ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่/สบู่ยาฆ่าเชื้อ
ล้างมือภายหลังสัมผัสผู้ป่วยหรือสิ่งปนเปือนเชื้อโรค
ล้างมือก่อนทำหัตถการ
ล้างมือธรรมดา
ใช้Alcohol hand rub ทดแทนการล้างมือในกรณีเร่งด่วน
2.สวมเครื่องป้องกันเมื่อควดว่าจะสัมผสเลือดหรรือสารคัดหลั่งของผุ้ป่วย
หยิบจับอุปกรณ์มีคมด้วยความระมัดระวัง
ทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมที่เปื้อนเลือด/สารคัดหลั่งอย่งถูกวิธี
ผ้าปิดปากและจมูก
บรรจุผ้าเปื้อนในถุงพลาสติกผูกปากถุงให้แน่น
เสื้อคลุม
ทำความสะอาดและทำลายเชื้อ
ถุงมือ
ถุงมือปราศจากเชื้อ
ถงมือสะอาด
หลีกเลี่ยงการเกิดแผลขณะปฏิบัติงาน
Transmission-base precautions
การป้องกันการแพร่กระจายเชื้อทางอากาศ
3.อากาศถายในห้องแยกควรดูดออกภายนอกโดยตรง/ผ่านเครื่องกรอง
4.ผู้เข้าไปห้องผู้ป่วยใส่หน้ากากN95
2.ผู้ป่วยมีอาการเดียวกันอบู่ห้องเดียวกันได้
5.จำกัดการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
1.แยกผู้ป่วยติดต่อไว้ในห้องพิเศษ
การป้องกันการแพร่กระจายเชื้อจากฝอยละอองน้ำมูกน้ำลาย
1.แยกผู้ป่วยไว้ในห้องแยก
2.ผู้ป่วยมีอาการเดียวกันอบู่ห้องเดียวกันได้
3.หากไม่มีห้องแยกควรจัดเตียงห่าง 3 ฟุต
4.ผู้ที่จะเข้าไปในห้องผู้ป่วยต้องใส่ผ้าปิดจมูกและปาก
5.จำกัดการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
การป้องกันการแพร่กระจายเชื้อจากสัมผัส
1.สวมถุงมือทุกครั้ง
2.ถอดถุงมือและล้างมือด้วยสบู่ผสมน้ำยาฆ่าเชื้อก่อนออกจากห้องผู้ป่วย
3.สวมเสื้อคลุม
4.จำกัดการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
5.ควรแยกอุปกรณ์ชนิดNon-critical items
หลักการ
4.การทำลายเชื้อและการทำให้ปราศจากเชื้อ
5.การใช้ยาต้านจุลชีพอย่างถูกต้องและมีนโยบายแน่นอน
3.สิ่งแวดล้อม อาคาร สถานที่ ควรสะอาดและแห้ง
การทำลายขยะ
เลือด หนอง สารน้ำ
เทลงส้วมได้
กระดาษ ผ้าต่างๆ
ขยะธรรมดา
เข็ม ใบมีด เชื้อโรคจากห้องปฏิบัติการ
ทำลาบเชื้อโดย Autoclave ก่อนทิ้ง
การแยกขยะในโรงพยาบาล
ขยะทั่วไป
ขยะเป็นพิษ
ขยะติดเชื้อ
ขยะที่นำกลับมาใช้ใหม่
6.การเฝ้าระวังติดเชื้อในโรงพยาบาล
2.ผู้ป่วยที่มีภุมิคุ้มกันโรคน้อยควรจะแยกจากแหล่งของเชื้อโรค
7.การติดเชื้อของบุคลากรในขณะปฏิบัติงานในโรงพยาบาล
1.กำจัดเชื้อโรค