Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

การพยาบาลเด็กที่มีปัญหา ทางระบบประสาท, นางสาวจิดาภา ตระกูลปักษีโรจน์ …

- - - - 2.ให้ยาลดไข้ ร่วมกับ เช่น ตัวลดไข้ (เน้นขณะชักห้ามให้ยาชนิดรับประทาน)
      - กรณีที่มีการชักเกิน 5 นาที ต้องทำให้หยุดชักเร็วที่สุด โดยให้ยาระงับอาการชัก
    - - 1.ซักประวัติตรวจร่างกายโดยละเอียด ให้ยาป้องกันการชัก รับประทานทุกวันนาน 1-2 ปี
- - - - Primary generalized epilepsy ไม่มีความผิดปกติในระบบประสาท
      - Secondary generalized epilepsy มีความผิดปกติในระบบประสาท
  - - - ให้เด็กรับประทานยากันชักต่อเนื่องทุกวันนาน อย่างน้อย 2 ปี
      - ห้ามหยุดยาเอง แนะนำวิธีการป้องกันอุบัติเหตุขณะชัก
      - มาตรวจตามนัดเพื่อแพทย์ประเมินอาการและปรับระดับยากันชักให้เหมาะสม
- - - - เชื้อไวรัส (Viral หรือ Asepitc meningitis)
      - พยาธิ (Eosinophilic meningitis)
      - เชื้อแบคทีเรีย (Bacterial meningitis)
      - เชื้อรา (Fungal memingitis)
    - - Pressure
        
        เด็กโต = 110-150 mmH2O
        
        ทารก 100 mmH2O
      - Red cells ไม่พบ
      - White cell count ไม่พบ
      - Glucose 50-75 mg/dl (ครึ่งหนึ่งของน้ำตาลในเลือด)
      - Protein 14-45 mg/dl
    - - ปวดศีรษะมาก ซึมลง กระหม่อมโป่งตึง อาเจียน ชัก
      - อาการแสดงของการระคายเคืองของเยื่อหุ้มสมอง คือ
        
        คอแข็ง (Stiffness of neck)
        
        Kernig’s sign ได้ผลบวก
        
        Brudzinski’s sign ได้ผลบวก
      - อาการที่แสดงว่ามีการติดเชื้อ เช่น มีไข้
    - - การรักษาตามอาการ
        
        ให้ยานอนหลับ
        
        ให้ยากันชัก
        
        ให้ยาลดไข้
        
        ให้ยาลดอาการบวมของสมอง
        
        ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
      - การป้องกัน ควรฉีดวัคซีน เช่น Hib vaccine , JE vaccine,BCG
      - การรักษาเฉพาะ คือ ให้ยาปฏิชีวนะที่สอดคล้องกับผลการเพาะเชื้อน้ำไขสันหลังที่เป็นสาเหตุ
  - - - เชื้อรา
      - เชื้อปาราสิต
      - เชื้อแบคทีเรีย
      - ปฏิกิริยาต่อวัคซีน
      - เชื้อไวรัส
    - - ซึมลง จนถึงขั้นโคม่าได้ภายใน 24 – 72 ชั่วโมง
      - ชัก มีการเคลื่อนไหวผิดปกติ
      - ปวดบริเวณต้นคอ คอแข็ง (Stiffness of neck)
      - กระสับกระส่าย อารมณ์ผันแปร เพ้อ คลั่ง อาละวาด
      - ปวดศีรษะ
      - การหายใจไม่สม่ำเสมอ
      - ไข้สูง
    - - การให้ยา ระงับชัก ลดอาการบวมของสมอง นอนหลับ ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
      - รักษาสมดุลของปริมาณน้ำเข้า – ออก ของร่างกาย
      - ให้ออกซิเจน, เจาะคอ หรือใช้เครื่องช่วยหายใจ
- - - - ครั้งแรกเมื่ออายุ 1 ปีครึ่ง
      - ครั้งที่ 2 ห่างจากครั้งแรก 2-4 wk
      - แล้วฉีดครั้งที่ 3 หลังจากฉีดเข็มที่ 2 ได้ 1 ปี
- - - - การมีเลือดออกทางช่องคลอดของมารดาช่วงระหว่างการตั้งครรภ์เดือนที่6-9
      - มารดาขณะตั้งครรภ์ขาดสารอาหาร
      - มารดามีภาวะชักหรือมีภาวะปัญญาอ่อน
      - การเกิดก่อนกำหนด การเกิดน้ำหนักตัวน้อย
      - มารดาขณะตั้งครรภ์มีการใช้ยาบางชนิดทำให้สมองเด็กมีพัฒนาการผิดปกติ
      - มารดาได้รับอุบัติเหตุหรือเกิดการติดเชื้อขณะตั้งครรภ์
    - - เป็นสาเหตุของสมองพิการร้อยละ 30
        
        ได้รับอันตรายจากการคลอด
        
        คลอดยาก
        
        สมองขาดออกซิเจน
        
        รกพันคอ
        
        คลอดท่าก้น
        
        การใช้คีมดึงเด็ก
    - - เป็นสาเหตุของสมองพิการร้อยละ 5
        
        เส้นเลือดที่สมองมีความผิดปกติ
        
        การขาดออกซิเจนจากการจมน้ำ
        
        ตัวเหลืองเมื่อแรกเกิด
        
        การติดเชื้อบริเวณสมอง
        
        การได้รับการกระทบกระเทือนที่ศีรษะ
        
        การได้รับสารพิษ
  - - - การดูด การกลืน การเคี้ยว ทำให้สำลักนม
- - - - ปัญหาแทรกซ้อนของการผ่าตัดใส่ Shunt
        
        Obstruction
        
        Infection
  - - - ปัญหาที่ 2 อาจเกิดแผลกดทับบริเวณศีรษะ
        
        การพยาบาล
        
        เปลี่ยนท่านอนบ่อยๆ
        
        รักษาความสะอาดของผิวหนัง
        
        จัดให้นอนบนที่นอนนุ่มๆ ใช้หมอนนุ่มรองศีรษะ ไหล่
        
        จัดปูที่นอนให้เรียบตึง
        
        ตรวจสอบประเมินการเกิดแผลกดทับสม่ำเสมอ
      - ปัญหาที่ 3 อาจเกิดภาวะขาดสารน้ำและอาหารเนื่องจากการสำรอกอาเจียนหรือดูดนมได้น้อย
        
        การพยาบาล
        
        ขณะให้นมอุ้มท่าศีรษะสูงเสมอ
        
        หลังให้นมจับเรอไล่ลม
        
        ดูแลให้รับนมน้ำครั้งละน้อยๆโดยแบ่งให้บ่อยครั้ง
      - ปัญหาที่ 1 อาจเกิดความดันในกะโหลกศีรษะสูงจากการคั่งของน้ำไขสันหลัง
        
        การพยาบาล
        
        2.วัดเส้นรอบวงศีรษะทุกวันเวลาเดียวกัน
        
        3.จัดท่านอนศีรษะสูง 15-30 องศา
        
        1.ประเมินอาการความดันในกะโหลกศีรษะสูง
    - - 1.การติดเชื้อที่แผลผ่าตัด
      - 2.การระบายน้ำไขสันหลังเร็วเกินไป (เน้นนอนราบหลังผ่าตัด ใน 24 ชม. แรก)
    - - 3.การอุดตันของสายระบายน้ำในโพรงสมอง
      - 4.ภาวะโพรงสมองตีบแคบ
      - 2.การทำงานผิดปกติของสายระบายน้ำในโพรงสมอง
      - 5.ภาวะเลือดออกในศรีษะเนื่องจากการผ่าตัด
      - 1.การติดเชื้อของสายระบายน้ำในโพรงสมอง
      - 6.เกิดแผลเป็นที่สมอง
- - - - ดูแลถุงน้ำให้ชุ่มชื่น ระวังไม่ให้เกิดแผล
      - หมั่นตรวจสอบการฉีกขาดรั่ว
      - ไม่นุ่งผ้าอ้อม
      - ประเมินการติดเชื้อ
      - จัดท่านอนตะแคงหรือนอนคว่ำ
    - - ทำ Crede’manuever ทุก 2-4 hr
      - 2.ทำความสะอาดทุกครั้งหลังขับถ่าย
      - 3.ให้ยา Antibiotic ตามแผนการรักษา
    - - สอนผู้ปกครองในการกระตุ้นการเคลื่อนไหวของผู้ป่วย
      - สังเกตอาการอ่อนแรงของแขนขา การควบคุมการขับถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ
      - ทำ Passive Exercise ให้ผู้ป่วย
  - - - ดูแลทำความสะอาดแผล
      - 3.ดูแลให้ยา Antibiotic / check V/S
      - จัดท่านอนตะแคงหรือคว่ำ ไม่นุ่งผ้าอ้อม
    - - 2.เฝ้าระวังและสังเกตภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญคือ แผลติดเชื้อ และ Hydrocephalus
      - 3.วัดเส้นรอบศีรษะทุกวันเพื่อประเมินภาวะHydrocephalus
      - 4.บริหารแขนขา/ เปลี่ยนท่านอนบ่อยๆ
      - 1.ตรวจสอบสัญญาณชีพ อาจทุก 2-4 hr