Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับนิติเวชและนิติจิตเวช : - Coggle Diagram
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับนิติเวชและนิติจิตเวช
:
:red_flag: ความหมายและความสำคัญของนิติเวชและนิติจิตเวช :star:
นิติเวช:
การนำหลักทางการแพทย์ประยุกต์ใช้ เพื่อคลี่คลายข้อพิพาทและพิสูจน์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีความ
นิติจิตเวช:
การนำหลักจิตเวชประยุกต์เพื่อประโยชน์ในกระบวนการยุติธรรมและความสงบของสังคม
จิตเวช:
ความเจ็บป่วยทางจิต ความผิดปกติของอารมณ์และบุคลิกภาพ :
:red_flag: การวินิจฉัย และขั้นตอนในการตรวจวินิจฉัยทางนิติจิตเวช :star:
การวินิจฉัยทางนิติจิตเวช
2.การตรวจทางจิตเวชต้องทำอย่างละเอียดรอบคอบ (ได้ข้อมูลจากทีมนิติจิตเวช)
3.การรวบรวมข้อมูล
แบ่ง2ส่วน 1) ส่วนที่เกี่ยวกับคดี
2) ส่วนที่เกี่ยวข้องกับความเจ็บป่วยทางจิต
1.พิจารณาวัตถุประสงค์ว่าPt.มาเพื่อต้องการทราบอะไร
ขั้นตอนในการตรวจวินิจฉัยทางนิติจิตเวช
3.การรวบรวมข้อมูล แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการก่อคดี โดยซักถามหรือขอข้อมูลจากผู้ใกล้ชิด พยานเอกสารอื่น ๆ จากราชการ พฤติกรรมผู้ป่วยขณะอยู่ในโรงพัก หรือในเรือนจำ เป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับความเจ็บป่วยทางจิตเวช ตลอดจนการตรวจรักษาจากญาติ หรือจากเอกสารทางการแพทย์
4.วิเคราะห์ วินิจฉัย โดยการรวบรวมข้อมูลทั้งหมด โดยทีมงานจิตเวชประชุมร่วมกันของทุกฝ่ายในที่ประชุมนิติจิตเวช
2.การตรวจทางจิตเวช ต้องรีบทำอย่างละเอียด โดยการตรวจสภาพจิต ตรวจร่างกาย ตรวจทางระบบประสาท ตรวจทางห้องปฏิบัติการ ทดสอบทางจิตวิทยา การเฝ้าดูพฤติกรรม โดยทีมจิตเวช
5.สรุปผลการวินิจฉัย 1)การวินิจฉัยทางคลินิก (clinical diagnosis) เพื่อการรักษาการพยากรณ์โรค
2)การวินิจฉัยทางกฎหมาย (legal diagnosis) ส่งที่ต้องพิจารณา คือ
•ขณะตรวจ วิกลจริต และสามารถต่อสู้คดีได้หรือไม่
•ขณะประกอบคดี สามารถรู้ผิดชอบ หรือบังคับตนเองได้หรือไม่
•ความเห็นหรือข้อเสนอแนะ เช่น ภาวะอันตราย
1.พิจารณาวัตถุประสงค์ ต้องกระจ่างในความมุ่งหมาย พิจารณาจากใบส่งตัว
6.การเตรียมตัวให้ปากคำต่อศาล
:red_flag: กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับนิติเวช และนิติจิตเวช :star:
วิธีเพิ่มโทษ ลดโทษ และการรอการลงโทษ
มาตรา56: “ผู้กระทำความผิดจำคุกไม่เกินสองปี แต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่กระทำโดยประมาท ศาลจะพิพากษาว่าผู้นั้นมีความผิด แต่รอการกำหนดโทษไว้หรือกำหนดโทษแต่รอการลงโทษไว้แล้วปล่อยตัวเพื่อให้โอกาส ผู้นั้นกลับตัวภายในระยะเวลาที่ศาลกำหนด แต่ต้องไม่เกินห้าปีนับแต่วันที่ศาลพิพากษา"
มาตรา 57: “ผู้กระทำความผิด ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขดังที่ศาลกำหนดไว้ในคดีก่อนบวกเข้ากับโทษในคดีหลัง ในเวลาที่ศาลได้กำหนดตามมาตรา 56 ศาลอาญาตักเตือนผู้กระทำความผิด หรือกำหนดการลงโทษที่ยังไม่ได้กำหนดหรือลงโทษ ซึ่งรอไว้นั้นก็ได้”
มาตรา58: “ภายในเวลาที่ศาลกำหนดตามมาตรา 56 ผู้ที่ถูกศาลพิพากษาให้กระทำความผิด และลงโทษจำคุกสำหรับความผิดนั้นให้พิพากษาคดีหลังกำหนดโทษที่รอการกำหนดไว้ในคดีก่อนบวกเข้ากับโทษในคดีหลัง แต่ถ้าในเวลาที่ศาลกำหนดตามมาตรา 56 ผู้นั้นมิได้กระทำความผิดดังกล่าวมาในวรรคแรกให้ผู้นั้นพ้นจากการที่ถูกกำหนดโทษ”
ความหมายเกี่ยวกับผู้ดูแล
มาตรา373: “ผู้ใดควบคุมดูแลบุคคลวิกลจริต ปล่อยปละละเลยให้บุคคลวิกลจริตนั้น อาจเที่ยวตามลาพังต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าร้อยบาท”
วิธีการเพื่อความปลอดภัย
มาตรา48: “ถ้าเห็นว่าการปล่อยหรือได้รับการลดโทษตามมาตรา 65 จะเป็นการไม่ปลอดภัยแก่ประชาชน ศาลจะสั่งให้ส่งตัวไปควบคุมไว้ในสถานพยาบาลก็ได้ และเพิกถอนเมื่อใดก็ได้”
มาตรา49: “กรณีที่ศาลพิพากษามีความผิด แต่รอกำหนดโทษ ถ้าเห็นว่าเป็นผู้ติดยาเสพติดให้โทษ จะกำหนดว่าจะต้องไม่เสพสุรายาเสพติดงภายในระยะเวลาไม่เกินสองปี นับแต่วันพ้นโทษหรือวันปล่อยตัว เพราะรอกำหนดโทษหรือรอลงโทษก็ได้”
ความรับผิดชอบในทางอาญา
มาตรา66: “ความมึนเมาเพราะเสพสิ่งเมาจะยกขึ้นเป็นข้อแก้ตัวตามมาตรา 65 ไม่ได้ เว้นแต่ความมึนเมาเกิดโดยไม่รู้ว่าสิ่งนั้นจะทำให้มึนเมา และได้ทำความผิดขณะไม่สามารถบังคับตนเองได้ จึงจะได้รับยกเว้นโทษ”
ความสามารถในการต่อสู้คดี หรือวิธีพิจารณาความอาญา
มาตรา14: กรณีที่เห็นว่าผู้ต้องหาไม่สามารถต่อสู้คดีให้งดการสอบสวนจนกว่าจะสามารถต่อสู้คดีได้
หลักพิจารณาความสามารถต่อสู้คดี
รู้ว่าตนเองต้องคดีอะไร
รู้ถึงความหนักเบาของโทษที่จะได้รับ
เล่ารายละเอียดของคดีได้
เข้าใจขั้นตอนการดำเนินคดี
ให้ปากคำได้
ร่วมมือกับทนายได้
วิธีพิจารณาความอาญา
มาตรา246:“ศาลมีอำนาจสั่งให้ทุเลาการบังคับให้จำคุกไว้ก่อน จนกว่าเหตุอันสมควรทุเลาจะหมดไป"
มาตรา248:“ถ้าพิพากษาให้ประหารชีวิต เกิดวิกลจริตก่อนประหารชีวิต ให้รอการประหารชีวิตไว้จนกว่าจะหาย"
เกี่ยวกับความผิดทางอาญาของบุคคลวิกลจริต
มาตรา65: “กระทำผิดขณะไม่สามารถบังคับตนเองได้ เพราะมีจิตบกพร่อง โรคจิตหรือจิตฟั่นเฟือน ไม่ต้องรับโทษ
แต่ถ้ายังบังคับตนเองได้บ้าง ต้องรับโทษ แต่จะน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้”
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ป.พ.พ. มาตรา 31:“การที่บุคคลผู้ซึ่งศาลได้สั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถได้ทำลงไปการนั้นท่านว่าเป็นโมฆียะ”
ป.พ.พ. มาตรา 32: “การใดที่บุคคลวิกลจริตได้ทำง แต่บุคคลนั้นศาลยังมิได้สั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ การนั้นจะเป็นโมฆียะ เมื่อพิสูจน์ได้ว่าได้ทำลงในเวลาซึ่งบุคคลนั้นวิกลจริตอยู่ และคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้รู้แล้วด้วยว่าผู้ทำเป็นคนวิกลจริต”
ป.พ.พ. มาตรา 30: “บุคคลผู้ซึ่งศาลได้สั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถนั้น ท่านว่าต้องจัดให้อยู่ในความอนุบาล”
ป.พ.พ. มาตรา 429: “บุคคลใดแม้ไร้ความสามารถเพราะเป็นผู้เยาว์หรือวิกลจริตก็ต้องรับผิดในผลที่ตนละเมิดบิดา มารดา หรือผู้อนุบาลต้องรับผิดชอบร่วมด้วย เว้นแต่พิสูจน์ได้ว่าตนได้ระมัดระวังตามสมควร แก่หน้าที่ดูแลซึ่งทำอยู่นั้น”
ป.พ.พ. มาตรา 29: “บุคคลวิกลจริตผู้ใด ถ้าภริยาสามี บุพการี ผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์พนักงานอัยการ ร้องขอต่อศาลแล้วศาลจะสั่งให้บุคคลผู้นั้นเป็นคนไร้ความสามารถก็ได้ คำสั่งอันนี้ให้โฆษณาในราชกิจจานุเบกษา”
ป.พ.พ. มาตรา 430: "บุคคลอื่นซึ่งรับดูแลบุคคลผู้ไร้ความสามารถอยู่ จะต้องรับผิดร่วมกับผู้ไร้ความสามารถในการละเมิดซึ่งเขาได้กระทำลงในระหว่างที่อยู่ในความดูแลของตน ถ้าหากพิสูจน์ได้ว่าบุคคลนั้น ๆ มิได้ระมัดระวังตามสมควร”
:red_flag: กระบวนการเกี่ยวกับนิติจิตเวช :star:
บุคคลที่สงสัยว่าวิกลจริต/มีปัญหาสุขภาพจิตขณะประกอบคดี
ถูกจับดำเนินคดี
ปล่อยตัวถ้าพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้กระทำความคิด
มีหลักฐานว่ากระดำความผิด
งดสอบสวนหรือพิจารณาคดี
ตรวจวินิจตาม มาตรา 14
รักษาตามขั้นตอน
อาการทางจิตทุเลา
อาการทางจิตไม่ทุเลา
แจ้งผลการรักษาเป็นระยะ
1 more item...
:red_flag: บทบาทของพยาบาลกับงานนิติจิตเวช :star:
บทบาทของพยาบาลกับงานนิติจิตเวช
เก็บข้อมูลของผู้ป่วยเป็นความลับ
กรณีที่บริษัทประกันร้องขอข้อมูลของผู้ป่วย พยาบาลต้องแจ้งให้แพทย์เจ้าของไข้ทราบ อาจช่วยดำเนินการในการรวบรวมข้อมูล จากนั้นผนึกซอง ตีตราลับและส่งถึง ฝ่ายแพทย์ของบริษัทประกันให้เร็วที่สุด
การสังเกต และการบันทึกอาการอย่างละเอียด และเป็นระยะๆ
กรณีผู้ป่วยจิตเวช พยาบาลควรแจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับอาการของผู้ป่วยที่อาจก่อนให้เกิดอันตราย
บทบาทของพยาบาลกับการชันสูตรพลิกศพ
หลักการเขียนรายงานการชันสูตรบาดแผล
2.ความเห็นเกี่ยวกับแผล
1.ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับแผล
หลักการเก็บรักษาวัตถุพยาน
2.แยกหีบห่อ บรรจุซอง เขียนรายละเอียด
3.ป้องกันการปลอมแปลง เจือปน หรือเสื่อมสภาพ
1.รวบรวมวัตถุพยานหรือสิ่งที่สงสัยว่าเป็นวัตถุพยาน
4.ส่งมอบวัตถุพยานด้วยความระมัดระวัง รัดกุม มีบันทึกการส่งมอบและผู้รับผิดชอบ
หลักการเขียนรายงานการชันสูตรพลิกศพ
3.การตรวจชิ้นเนื้อ เพื่อดูพยาธิสภาพ
4.การตรวจทางห้องปฏิบัติการ ดูสารในร่างกาย
2.รายงานการผ่าศพชันสูตร เป็นตรวจสอบสภาพภายนอก / ภายในของศพนั้นๆ
5.การลงความเห็นในเรื่องเหตุ และพฤติการณ์ที่ตาย
1.เขียนรายงาน ณ ที่เกิดเหตุ จดบันทึกเกี่ยวกับข้อเท็จจริงทั่วไป ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับศพ ความเห็นเกี่ยวกับศพ การดำเนินการเกี่ยวกับศพ
การบันทึกอาการและอาการแสดง
1.บันทึกอย่างถูกต้อง ตามความจริง กระชับ ชัดเจน ใช้การขีดฆ่าและเขียนชื่อกำกับแทนการลบ
2.การสังเกตและบันทึกอาการ อาการแสดงเป็นระยะๆ
3.ระมัดระวังการใช้ภาษา อย่าใช้อารมณ์ในการเขียน
4.เขียนให้สื่อความหมายในแง่การรักษาและเป็นพยานเอกสาร
5.ระลึกไว้เสมอว่าเป็นเอกสารลับ ผู้ป่วยสามารถขอดูได้ ไม่ควรเปิดเผยกับผู้อื่น ยกเว้นแพทย์ ในกรณีที่ต้องที่ต้องมีการเปิดเผยตามข้อกำหนดของศาล