Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ - Coggle Diagram
การป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ
วงจรการติดเชื้อ(Infection) เกิดขึ้นเมื่อมีเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายอย่างมากจนทำให้หน้าที่ของร่างกายผิดปกติ
3.ทางออกของเชื้อเชื้อ(Portal of exit)จุลชีพออกจากร่างกายของคนซึ่งเป็นโรคได้หลายทาง
4.หนทางการแพร่กระจายเชื้อ(Mode of transmission)เชื้อแพร่กระจายจากผู้ติดเชื้อหรือผู้ป่วยไปสู่ผู้คนได้หลายทาง
2.แหล่งกักเก็บเชื้อโรค(Reservoir) แหล่งของเชื้อโรคเป็นที่ให้เชื้อโรคเจริญเติบโตและมีการขยายตัว
5.ทางเข้าของเชื้อ(Portal of entry)เมื่อเชื้อโรคออกจากแหล่งเชื้อโรคแล้วจะทำให้เกิดโรคได้มักเป็นทางเดียวกับที่ออกมา
1.เชื้อก่อโรค(Infectious agent)หมายถึงเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อขึ้นอยู่กับ ความสามารถของเชื้อในการเพิ่มจำนวนและเจริญเติบโต แบ่งออกได้เป็น5ชนิด
3.เชื้อรา
4.ไวรัส
2.โปรโตซัว
5.พยาธิ
1.แบคทีเรีย
6.ความไวในการรับเชื้อของบุคคล(Susceptiblehost)ภายหลังที่เชื้อจุลชีพเข้าไปในร่างกายและจะทำให้บุคคลติดเชื้อง่าย
การทำลายเชื้อและการทำให้ปราศจากเชื้อ
1การทำลายเชื้อหมายถึงการกำจัดเชื้อจุลชีพบางชนิดที่แปดเปื้อนผิวหนังอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ทางการแพทย์หรือพื้นผิวต่างๆโดยใช้สารเคมี
การต้ม
การใช้สารเคมี
การล้าง
การใช้สารเคมี
การทำให้ปราศจากเชื้อหมายถึงกระบวนการในการทำลายหรือขจัดเชื้อจุลชีพทุกชนิดจากเครื่องมือทางการแพทย์อุปกรณ์ที่ต้องผ่านเข้าสู่ส่วนต่างๆของร่างกายที่ปราศจากเชื้อกระแสเลือดหรือเนื้อเยื่อ
2.การใช้รังสี
3.วิธีทางเคมี
การใช้แก๊ส
การใช้High-level disinfectant
1.วิธีทางกายภาพ
การใช้ความร้อนแห้ง
การต้ม
การเผา
การใช้ความร้อนชื้น
การใช้ความร้อน
การติดเชื้อในโรงพยาบาลหมายถึงการติดเชื้ออันเป็นผลจากการที่ผู้ป่วยได้รับเชื้อจุลชีพขณะอยู่ในโรงพยาบาล
การติดเชื้อที่พบระยะแรกเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลอาจเป็นการติดเชื้อในโรงพยาบาลที่เกี่ยวข้องกับการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลครั้งก่อนซึ่งจะต้องพิจารณาระยะฟักตัวของเชื้อนั้นๆ
ผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อในโรงพยาบาลอยู่แล้วอาจเกิดการติดเชื้อในโรงพยาบาลจากเชื้อชนิดใหม่ได้ที่ตำแหน่งเดียวกับการติดเชื้อเดิมหรือการติดเชื้อชนิดเดียวกับเชื้อเดิมแต่เกิดการติดเชื้อที่ตำแหน่งใหม่
โรคติดเชื้อในโรงพยาบาลไม่เกิดขึ้นเฉพาะกับผู้ป่วยเท่านั้นบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลอาจติดเชื้อโรคได้
องค์ประกอบของการติดเชื้อในโรงพยาบาล
2.คน
โรคติดเชื้อในโรงพยาบาลจะพบได้มากในผู้ป่วยที่มีภูมิต้านทานโรคต่ำ
3.สิ่งแวดล้อม
สิ่งแวดล้อมผู้ป่วยในโรงพยาบาลครอบคลุมถึงอาคารสถานที่เครื่องมือเครื่องใช้บุคลากรในโรงพยาบาลและญาติที่มาเยี่ยม
1.เชื้อโรค
ส่วนใหญ่เป็นเชื้อประจำถิ่นพบบนร่างกายผู้ป่วยเอง
การแพร่กระจายเชื้อ
2.การแพร่กระจายเชื้อโดยฝอยละอองด้วยฝอยละอองอาจเกิดขึ้นขณะผู้ป่วยไอจามพูดและร้องเพล
เช่นการดูเสมหะ การตรวจหลอดลม
3.การแพร่กระจายเชื้อทางอากาศโดยการสูดหายใจเอาเชื้อที่ลอยอยู่ในอากาศเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ
เช่นเชื้ออีสุกอีใส เชื้อวัณโรค งูสวัด
4.การแพร่ กระจายเชื้อโดยการผ่านสื่อนำเกิดจากการที่มีเชื้อจุลชีพปนเปื้อนอยู่ในเลือดผลิตภัณฑ์ของเลือดอาหาร น้ำ ยา สารน้ำที่ให้ทางหลอดเลือดดำแก่ผู้ป่วย
1.การแพร่กระจายเชื้อโดยการสัมผัสโดยเชื้อจุลชีพแพร่กระจายจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งได้2วิธี
1.การแพร่กระจายเชื้อด้วยการสัมผัสโดยตรงการสัมผัสกันโดยตรงระหว่างคนต่อคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งมือของบุคลากรผู้ให้การพยาบาลผู้ป่วย
เช่นการพลิกตะแคงตัวผู้ป่วย การอาบน้ำเช็ดตัวผู้ป่วยการทำแผล เป็นต้น
2.การแพร่กระจายเชื้อโดยการสัมผัสโดยอ้อมการสัมผัสกับสิ่งของหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีการปนเปื้อนเชื้อก่อโรค
เช่นของเล่นในแผนกเด็กป่วย ลูกบิดประตู ผ้าปูที่นอน เครื่องช่วยหายใจ
5.การแพร่กระจายเชื้อโดยสัตว์พาหนะ แพร่กระจายด้วยแมลงหรือสัตว์นำโรค
เช่นการถูกยุงที่มีไวรัสเด็งกี่กัด ถูกยุงที่มีเชื้อมาลาเรียกัด
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
5.รูปภูมิแพ้หรือโรคเรื้อรัง
คนที่มีอาการแพ้ต่างๆมีความต้านทานต่ำกว่าคนปกติ
6.เพศ
โรคบางชนิดพบมากในแต่ละประเพศไม่เท่ากัน
4.ความร้อนหรือเย็น
ความร้อนหรือเย็นจัดเกินไปมีความไวต่อการติดเชื้อมากกว่า
7.กรรมพันธุ์
คนขาดสารImmunoglobulinซึ่งเป็นตัวการสำคัญในการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย
3.ความอ่อนเพลีย
8.อายุ
ในเด็กมีความไวต่อการติดเชื้อง่ายกว่าผู้ใหญ่
2.ภาวะโภชนาการ
บุคคลที่ได้รับอาหารครบถ้วนความไวต่อการติดเชื้อจะน้อยกว่าคนที่ขาดอาหาร
การรักษาทางการแพทย์บางชนิด
เช่นคนที่ได้รับการรักษาด้วยการฉายรังสี
1.ความเครียด
10.อาชีพ
เช่นคนเลี้ยงนกพิราบมีโอกาสติดเชื้อไวรัสH1N1
การควบคุมการแพร่กระจายเชื้อ หมายถึงการปฏิบัติเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อจุลชีพจากผู้ป่วยที่มีเชื้อหรือผู้ป่วยที่มีเชื้ออยู่แต่ไม่ปรากฏอาการแพร่ไปสู่ผู้ป่วยอื่นเช่นการแยกผู้ป่วย การทำความสะอาดมือ
Standard percautions การป้องกันการแพร่กระจายเชื้อจากเลือด สารน้ำของร่างกาย สารคัดหลังทุกชนิด
การปฏิบัติตามหลัก Standard precautions
4.ทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมที่เปื้อนเลือดหรือสารคัดหลังอย่างถูกวิธี
5.บรรจุผ้าเปื้อนในถุงพลาสติกผูกปากถุงให้แน่น
3.หยิบจับอุปกรณ์ที่มีคมที่ใช้กับผู้ป่วยด้วยความระมัดระวัง
6.ทำความสะอาดและทำลายเชื้อหรือทำให้ปราศจากเชื้ออุปกรณ์การแพทย์ทุกชิ้นที่ใช้กับผู้ป่วยแล้ว
2.สวมเครื่องป้องกันเมื่อคาดว่าจะสัมผัสเลือดหรือสารขัดหลังผู้ป่วย
7.หลีกเลี่ยงการเกิดการบาดเจ็บขณะปฏิบัติงาน
1.ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่หรือสบู่ยาฆ่าเชื้อทุกครั้ง
Transmission-base precautions การป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อที่ทำให้เกิดโรคตามทางที่เชื้อออกจากตัวผู้ป่วยและทางที่จะเข้าสู่บุคคล
วิธีป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ3วิธี
การป้องกันการแพร่กระจายเชื้อทางอากาศ
แยกผู้ป่วยที่มีโรคติดต่อไว้ในห้องแยกพิเศษ
ผู้ป่วยด้วยโรคเดียวกันจัดให้อยู่ห้องเดียวกันได้
2.การป้องกันการแพร่กระจายเชื้อจากฝอยละอองน้ำมูกน้ำลาย
ผู้ที่จะเข้าไปในห้องผู้ป่วยหรือดูแลผู้ป่วยต้องใส่ผ้าปิดจมูกเมื่อให้การดูแลผู้ป่วยในระยะ 3 ฟุต
3.การป้องกันการแพร่กระจายเชื้อจากการสัมผัส
ถอดถุงมือและล้างมือด้วยสบู่ผสมน้ำยาฆ่าเชื้อก่อนออกจากห้องผู้ป่วย
สวมเสื้อคลุมหาคาดว่าอาจสัมผัสเลือดสารขัดหลัง
สวมถุงมือเมื่อให้การดูแลผู้ป่วย
กระบวนการพยาบาลในงานป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ
2.การวินิจฉัยทางการพยาบาล
รวบรวมข้อมูลจากการประเมินมาแล้วนำข้อมูลที่ได้มากำหนดข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
3.การวางแผนและให้การพยาบาล
เมื่อได้เข้าวินิจฉัยทางการพยาบาลต้องกำหนดวัตถุประสงค์การพยาบาลตามปัญหาของผู้ป่วยรวมทั้งมีการประเมินภายหลังให้การพยาบาลทุกครั้งกิจกรรมการพยาบาลที่สำคัญในการป้องกันและการควบคุมการติดเชื้อ
1.การประเมินความเสี่ยงต่อการติดเชื้อของผู้ป่วย
การซักประวัติ
การตรวจร่างกายเกี่ยวกับโรคของผู้ป่วย
4.การประเมินผลการพยาบาล
ไม่มีการแพร่กระจายเชื้อสู่ญาติและบุคลากรในหอผู้ป่วย