Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Anemia
ภาวะโลหิตจาง, อ้างอิง วิปร วิประกษิต.(2557) แนวทางในการวินิจฉัยภา…
Anemia
ภาวะโลหิตจาง
อาการ และอาการแสดง
ผู้ป่วยที่มีอาการซีดจากทุกสาเหตุจะมีอาการและอาการแสดง ออกโดยรวมคล้ายคลึงกัน เช่น อาการกระสับกระส่าย อ่อนเพลีย ตรวจพบมีภาวะโลหิตจาง อาจมีอาการเหลืองหรือมีอาการเหนื่อยง่ายเวลาออกกำลังกาย ใจสั่น มีอาการบวมที่เท้า ปวดหัว เป็นลม
การรักษา
- ในกรณีของการเสียเลือด ต้องให้การรักษาตามสาเหตุ พยายามทำ ให้เลือดหยุดโดยเร็ว
- การรักษาภาวะโลหิตจางเฉียบพลันจากเม็ดเลือดแดงแตก
-
-
-
ในรายที่ ซีดมากจำเป็นต้องนอนพักบนเตียงโดยตลอด งดกิจกรรมอื่น เช่น
การลุกเดินเข้าห้องน้ำ เพราะผู้ป่วยอาจหมดสติเป็นอันตรายได้
- การรักษาภาวะโลหิตจางจากการสร้างเม็ดเลือดได้น้อย นอกเหนือจาการรักษาด้วยการให้เลือดในกรณีที่จำเป็นแล้ว อาจ พิจารณาให้การรักษาตามสาเหตุที่นำมาให้เกิดผลต่อไขกระดูก
- การรักษาเพื่อส่งเสริมการสร้างเม็ดเลือดแดงตัวอ่อนใน ไขกระดูก
พยาธิสรีรวิทยา
ค่าปกติทางโลหิตวิทยาในเด็กแปรผันตามอายุ แพทย์จึง จำเป็นต้องคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงในทางสรีรโลหิตวิทยาในเด็ก แต่ละช่วงวัยเมื่อพิจารณาประเมินปัญหาโลหิตจาง ระดับของ Hb และ Hct ค่อนข้างสูงในทารกแรกเกิด หลังจาก นั้นจะค่อยๆ ลดลงจนถึงระดับต่ำสุดที่ประมาณ 7 สัปดาห์ ในทารกคลอดก่อนกำหนด และประมาณ 2-3 เดือนในทารกที่คลอดครบ กำหนด สภาวะดังกล่าวเรียกว่า “ภาวะโลหิตจางทางสรีรวิทยาใน ทารก” (physiologic anemia of infancy)
-
สาเหตุของภาวะโลหิตจาง
- เม็ดเลือดแดงแตกทำลาย มักจะมีอาการซีดและ เหลือง เนื่องจากมีการแตกทำลายของเม็ดเลือดนอกหลอดเลือด จึงมีระดับของบิลิรูบิน (indirect bilirubin) เพิ่มขึ้นทำ ให้ปัสสาวะมีสีเข้ม
- การสร้างเม็ด เลือดลดลงในเวลาอันรวดเร็ว อาการและอาการแสดงที่พบจะเป็นอาการจากภาวะโลหิตจาง โดยทั่วไป ไม่พบลักษณะเม็ดเลือดแดงแตกสลาย
- การเสียเลือด เกิดได้ทั้งเสียเลือดจากภายใน หรือ จากภายนอกผู้ป่วยที่เสียเลือดมากอย่างรวดเร็ว จะเกิดอาการของ ปริมาณเลือดต่ำ (hypovolemia) ก่อนที่จะมีอาการซีด
การวินิจฉัย
ควรตรวจดูว่ามีอาการตับม้ามโต ต่อมน้ำเหลืองโตหรือไม่ ประเมินว่ามีภาวะเหลืองร่วมกับภาวะโลหิตจางหรือไม่
เพื่อหาว่ามีตำแหน่งเลือดออกหรือไม่ มีจุดจ้ำ ลือดผิดปกติเพื่อให้ทราบว่าเลือดออกจากปัญหาเฉพาะที่หรือมีความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด
-
- การซักประวัติผู้ป่วยโดยละเอียด
โดยครอบคลุมประวัติ เลือดออกง่าย หยุดยาก การติดเชื้อ ไข้ การได้รับยา การรับประทาน อาหารทั้งประเภทและปริมาณ ประวัติการเสียเลือดทั้งภายนอก หรือภายใน และประวัติการซีด ในครอบครัว การได้รับเลือด ประวัติอาการเหลืองแรกเกิดและ การรักษาที่ได้รับ
-
จะเห็น reticulocytes ชัดเจนภายหลัง 2-3 วัน ส่วนระดับ Hct ระยะแรกจะปกติแล้วจะ ค่อย ๆ ลดลงจนเต็มที่ในเวลา 72 ชั่วโมง
ผู้ป่วยที่เสียเลือดอย่างฉับพลันภายใน 2-3 ชั่วโมงแรกจะมีการเพิ่มขึ้นของเม็ดเลือดขาว (leucocytosis) และเกล็ดเลือด
หมายถึง
การลดลงอย่างผิดปกติของจำนวน เม็ดเลือดแดงในกระแสเลือด และ/หรือปริมาณความเข้มข้นของ ฮีโมโกลบิน (hemoglobin, Hb) โดยการลดลงดังกล่าวต่ำกว่า ค่าปกติ
-