Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

นิติเวชและนิติจิตเวช, 612001052 ธิดาวรรณ นาควิมล 51 612001052 - Coggle…

- - - - ป.พ.พ. มาตรา 29 บุคคลวิกลจริตผู้ใดถ้าภรรยาสามีก็ดี พูบุพการีเก้าคือ บิดามารดาปู่ย่าตายายทวดก็ดี ผู้สืบสันดานกล่าวคือ ลูกหลานเหลนก็ดีผู้อนุบาลหรือผู้ พิทักษ์ก็ดี ร้องขอต่อศาลแล้วศาลจะสั่งให้บุคคลนั้นเป็น คนไร้ความสามารถก็ได้
      - ป.พ.พ.มาตรา 30 บุคคลซึ่งศาลได้สั่งให้เป็นคนไร้ ความสามารถนั้นท่านว่าต้องจัดอยู่ในความอนุบาล
      - ป.พ.พ. มาตรา 31 การใดใดอันบุคคลผู้ซึ่งศาลได้สั่งให้ เป็นคนไร้ความสามารถได้ทำลงไปการนั้นท่านว่าเป็น โมฆียะ
      - ป.พ.พ. มาตรา 429 บุคคลใดแม้ไร้ความสามารถ เพราะเหตุเป็นผู้เยาหรือวิกลจริตต้องรับผิดในผลที่ตน ละเมิด บิดามารดาหรือผู้อนุบาลย่อมต้องรับผิดชอบ ร่วมกับเขาด้วยเว้นแต่พิสูจน์ได้ว่าตนเองได้ใช้ความ ระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ดูแลซึ่งทำอยู่นั้น
      - ป.พ.พ.มาตรา 430 ครูบาอาจารย์นายจ้างหรือบุคคล อื่นซึ่งรับดูแลผู้ไร้ความสามารถอยู่เป็นนิรย์ก็ดี ต้องรับ ผิดชอบร่วมกับผู้ไร้ความสามารถในการละเมิดซึ่งเขา ได้กระทำลงในระหว่างที่อยู่ในความดูแลของตนถ้าพิสู จน์ได้ว่าบุคคลนั้นมิได้ระมัดระวังตามสมควร
    - - ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 373
        
        ผู้ใดควบคุมบุคคลวิกลจริตปล่อยประละเลยให้บุคคล วิกลจริตนั้นอาจเที่ยวตามลำพังต้องระวังโทษปรับไม่เกิน 500 บาท
    - - ถ้าบุคคลนั้นซึ่งต้องคำพิพากษาให้ประหารชีวิตเกิด วิกลจริตก่อนป่ะหารให้รการประหารชีวิตไว้ก่อนจนกว่า ผู้นั้นจะหาย ขนาดทุเลาการประหารชีวิตอยู่นั้นศาล มีอำนาจยกมาตรา 46 วรรคสองแห่งกฎหมา ยลักษณะอาญามาบังคับ
    - - ถ้ามีอำนาจสั่งให้ทุเลาการบังคับให้จำคุกไว้ก่อนจนกว่า
        เหตุอันสมควรถูกเราจะหมดไปกรณีต่อไปนี้
        
        เมื่อจำเลยวิกลจริต
        
        เมื่อเกรงว่าจำเลยจะถึงอันตรายแก่ชีวิตถ้าต้องจำคุก
        
        ถ้าจำเลยแต่มีครรภ์เจ็ดเดือนขึ้นไป
        
        ถ้าจำเลยคลอดบุตรแล้วยังไม่ถึงเดือนในระหว่างทุเลากา รบังคับอยู่นั้นให้ศาลสั่งพนักงานฝ่ายปกครองจัดบุคคลดัง กล่าวแล้วอยู่ในสถานที่อันควร
  - - - ความมึนเมาเพราะเสพสุรา หรือสิ่งเมาอย่างอื่นจะ ยกขึ้นเป็นข้อแก้ตัวมาตรา 65 ไม่ได้เว้นแต่ความมึน เมานั้นได้เกิดโดยผู้เสพไม่รู้ว่าสิ่งนั้นจะทำให้มึนเมา
  - - - ถ้าภายในเวลาที่กำหนดมาตรา 56 ผู้ถูกศาลพิพากษา ให้กระทำความผิดอันมิใช่ความผิดได้กระทำโดย ประมาทและสันติภาพให้ลงโทษจำคุกสำหรับความผิด นั้น ให้ลงโทษจำคุกสำหรับความผิดนั้นศาลที่พิพากษา คดีหลังกำหนดโทษที่รอการกำหนดไว้ในคดีก่อนบวก เข้ากับโทษในคดีหลัง
    - - ผู้ใดกระทำความผิดซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรากฏ ว่าผู้นั้นได้รับโทษจำคุกมาก่อนหรือปรากฏว่าได้รับโทษ จำคุกมาก่อนแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำ โดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ หรือสภาพความผิด หรือเหตุการณ์อื่นอันควรปราณีแล้วเห็นเป็นการสมควร ศาลพิพากษาว่าผู้นั้นมีความผิดแต่รอการกำหนดโทษไว้ ให้โอกาสผู้นั้นกลับตัวภายในระยะเวลาที่ศาลกำหนด
  - - - กรณีศาลพิพากษาลงโทษหรือพิพากษามีความผิดแต่ รอกำหนดโทษ ถ้าศาลเห็นว่าเป็นผู้ติดยาเสพติดศาล จะกำหนดให้คำพิพากษาว่าบุคคลนั้นจะต้องไม่เสพสุรา ยาเสพติด ให้โทษอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่าง ภายในระยะเวลาไม่เกินสองปี
    - - ถ้าศาลเห็นว่าการปล่อยตัวผู้มีจิตบกพร่องโรคจิตซึ่งไม่ ต้องรับโทษหรือรับการลดโทษมาตรา 65 จะเป็นการไม่ ปลอดภัยแก่ประชาชนศาลจะสั่งให้ส่งตัวไปควบคุมไว้ ในสถานพยาบาลก็ได้และคำสั่งศาลนี้จะเพิกถอนเสีย เมื่อใด
  - - - รู้ว่าตนเองต้องคดีอะไร
      - รู้ถึงความหนักเบาของโทษที่จะได้รับ
      - สามารถเล่ารายละเอียดของคดีได้
      - สามารถเข้าใจขั้นตอนการดำเนินคดี
      - สามารถให้ปากคำต่อกระบวนการยุติธรรมได้
    - - ในระหว่างทำการสอบสวนต่สวนมูลฟ้องหรือพิจารณาถ้า มีเหตุควรเชื่อว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยเป็นผู้วิกลจริตและไม่ สามารถต่อสู้คดีได้ ให้พนักงานสอบสวนหรือศาลแล้วแต่กรณีสั่งให้พนักงาน แพทย์ตรวจผู้นั้น เสร็จแล้วให้เรียกพนักงานแพทย์ผู้นั้น มาให้ถ้อยคำหรือให้ว่าการกดได้ผลประการใด
      - ในกรณีพนักงานสอบสวนหรือศาลเห็นว่าผู้ต้องหาไม่ สามารถต่อสู้คดีให้งดการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องหรือ พิจารณาไว้จนกว่าผู้นั้นหายวิกลจริต
      - ก็รณีที่ศาลงดการไต่สวนมูลฟ้องหรือพิจารณาดัง บัญญัติไว้ในวรรคก่อนศาลจะสั่งจำหน่ายคดีเสีย ชั่วคราวก็ได้
  - - - ผู้ใดกระทำความผิดในขณะไม่สามารถรู้ผิดชอบหรือ
        ไม่สามารถบังคับตนเองได้
      - แต่ถ้ากระทำความผิดยังสามารถรู้ผิดชอบอยู่บ้างหรือ ยังสามารถบังคับตนเองได้บ้างผู้นั้นต้องรับโทษสำหรับ ความผิดนั้น
    - - ไม่สามารถรู้ผิดชอบหมายถึงขนาดประกอบคดีผู้ต้อง หาหรือจำเลยไม่รู้ว่าการกระทำของตนถูกหรือผิด
      - ไม่สามารถบังคับตนเองได้หมายถึงขนาดประกอบคดีผู้ ต้องหาหรือจำเลยไม่สามารถห้ามจิตใจมีให้ร่างกายทำ การนั้นได้
- - - - 1) การฆ่าตัวตาย (committed suicide)
      - 2) ถูกผู้อื่นทำให้ตาย(homicide)
      - 3) ถูกสัตว์ทำร้ายตายสามารถเล่ารายละเอียดของคดีได้
      - 4) ตายโดยอุบัติเหตุ (accident)
      - 5) ตายโดยยังมิปรากฏเหตุ (sudden & unexpected death)
    - - 1) เขียนรายงาน ณ ที่เกิดเหตุ โดยมีการจดบันทึก เกี่ยวกับข้อเท็จจริงทั่วไป
        การวินิจฉัยทางคลินิก
      - 2) รายงานการผ่าศพชันสูตร ซึ่งเป็นตรวจสอบสภาพ ภายนอก / ภายในของศพนั้นๆ
      - 3) การตรวจชิ้นเนื้อ เพื่อดูพยาธิสภาพ
      - 4) การตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพื่อดูสารในร่างกาย
      - 5) การลงความเห็นในเรื่องเหตุ และพฤติการณ์ที่ตาย
    - - 1) ข้อเท็จจริง (จำนวน ชนิด ตำแหน่ง ขนาด สิ่งแปลก ปลอมที่พบในแผล ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ วิธี การรักษาพยาบาล และความผิดปกติที่เป็นผลจากการ บาดเจ็บ)
      - 2) ความเห็นเกี่ยวกับแผล
    - - 1) รวบรวมวัตถุพยานหรือสิ่งที่สงสัยว่าเป็นวัตถุพยาน
      - 2) แยกหีบห่อ การบรรจุซอง เขียนรายละเอียดจากพยานเอกสารอื่นๆจากทางราชการ
      - 3) ป้องกันการปลอมแปลงเจือปน หรือเสื่อมสภาพ
      - 4) ส่งมอบวัตถุพยานด้วยความระมัดระวัง รัดกุม มี บันทึกการส่งมอบและผู้รับผิดชอบ
    - - 1) บันทึกอย่างถูกต้อง ตรงตามความเป็นจริง กระชับ ชัดเจน ใช้การขีดฆ่าและเขียนชื่อกำกับแทน การลบ ความมึนเมาเพราะเสพสุรา
      - 2) ต้องมีการสังเกตและบันทึกอาการ อาการแส ดงเป็นระยะๆ
      - 3) ในการบันทึกต้องระมัดระวังการใช้ภาษา อย่า ใช้อารมณ์ในการเขียน
      - 4) ควรเขียนให้สื่อความหมายในแง่การรักษาและ กรณีที่เป็นพยานเอกสาร
      - 5 พึงระลึกไว้เสมอว่าบันทึกอาการ และอาการแส ดงของผู้ป่วยเป็นเอกสารลับ และผู้ป่วยสามารถขอดูได้ จึงไม่ควรเปิดเผยเอกสารนี้กับผู้อื่น ยกเว้นแพทย์ หรือ ในกรณีที่ต้องที่ต้องมีการเปิดเผยตามข้อกำหนดของ ศาล