Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ภาวะแทรกซ้อนทางสูติศาสตร์, นางสาวกิตติยาภรณ์ โพธิ์ทา ชั้นปีที่ 3 ห้อง ก.…
ภาวะแทรกซ้อนทางสูติศาสตร์
สายสะดือพลัดต่ำ (Occult Prolapsed Cord)
ความหมาย
การที่สายสะดือเคลื่อนลงมาอยู่ข้างๆ หรือต่ำกว่าส่วนนำของทารก
ชนิดของสายสะดือพลัดต่ำ
Occult Prolapsed Cord
สายสะดือลงมาข้างๆส่วนนำในส่วนที่กว้างที่สุด ไม่สามารถตรวจเจอได้จากการ PV แต่สามารถตรวจเจอได้จากการ U/S ถุงน้ำคร่ำอาจจะแตกหรือไม่แตกก็ได้
Fore lying Cord หรือ Funic
presentation หรือ Cord
presentation
สายสะดือเคลื่อนลงมาต่ำกว่าส่วนนำของทารก ถุงน้ำคร่ำยังไม่แตกและเมื่อ PV อาจคลำเจอ Pulse
Overt Prolapsed Cord หรือ Complete Prolapsed Cord
ภาวะที่ถุงน้ำคร่ำแตกแล้ว และสายสะดือย้อยลงมาต่ำกว่าระดับส่วนนำ ซึ่งอาจอยู่ภายในหรือภายนอกช่องคลอดก็ได้
การวินิจฉัย
การซักประวัติการาแตกของถุงน้ำคร่ำ
การตรวจภายใน
คลำพบสายสะดือในรายที่ถุงน้ำคร่ำแตกแล้ว
คลำพบสายสะดือในรายที่ถุงน้ำคร่ำยังไม่แตก
คลำพบ Pulse ของสายสะดือ
ฟังเสียงหัวใจทารก
การตรวจด้วยคลื่นความถี่สูง
การพยาบาล
อธิบายให้ผู้คลอดและครอบครัวทราบ
ดูแลจัดท่านอน Trendelenburg's position หรือท่า Knee chest position เพื่อไม่ให้ส่วนนำของทารกเคลื่อนลงมากดสายสะดือ
ลดการกดสายสะดือจากส่วนนำ โดยใช้มือสอดเข้าไปในช่องคลอดแล้วใช้มือดันส่วนนำของทารกไว้ขณะมดลูกคลายตัว
ใส่น้ำเกลือเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะเพื่อให้กระเพาะปัสสาวะโป่งตึงแล้วดันส่วนนำของทารกใหเลอยสูงขึ้น
ถ้าสายสะดือยื่นออกมาข้างนอกให้ใส่สายสะดือกลับเข้าไป เนื่องจากความเย็นภายนอกอาขทำให้หลอดเลือดในสายสะดือหดตัวได้
ดูแลให้ได้รับออกซิเจน 10 L/min ทาง face mask
ดูแลให้ได้รับยาคลายมดลูกตามแผนการรักษา
เตรียมอุปกรณ์สำหรับการช่วยคลอด/อุปกรณ์ช่วยฟื้นคืนชีพทารก
น้ำคร่ำอุดกั้นหลอดเลือในปอด (Amniotic fluid embolism)
ความหมาย
ภาวะที่มีน้ำคร่พลัดเข้าไปในกระแสเลือดทางมารดาส่วนประกอบของน้ำคร่ำจะมีผลทำให้เกิดภาวะล้มเหลวของการทำงานระบบไหลเวียนเลือดหัวใจและระบบหายใจ
ผลที่เกิดขึ้นตามมาทันที
เลือกที่จะไหลจากปอดมาสู่หัวใจชักซ้ายลดลงทันทีเกิดภาวะช็อกจากหัวใจล้มเหลว
ความดันในหลอดเลือดปอดสูงขึ้นมีเลือดคั่งในปอดเกิด Pulmonary edema
เกิดภาวะขาดออกซิเจนจากการแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนกับคาร์บอนไดออกไซด์ในปอดลดลง
อาการและอาการแสดง
มีอาการหนาวสั่น (Chill)
หงื่อออกมาก (Diaphoresis)
คลื่นไส้วิตกกังวลและพักได้น้อย
หายใจลำบาก (dyspnea)
เกิดการหายใจล้มเหลวทันทีทันใดและมีการเขียวตามใบหน้าและตามตัว (cyanosis)
เกิดภาวะน้ำคั่งในปอด (pulmonary edema)
เส้นเลือดที่หัวใจตีบ (Cadiovascula Collapse)
ความดันเลือดต่ำลงมาก (hypotension)
ชัก
หมดสติและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ถ้าเกิดอาการนานกว่า 1 ชั่วโมงผู้ป่วยยังมีชีวิตอยู่จะเกิดภาวะกลไกการแข็งตัวของเลือดสูญเสียไปและเกิดอาการตกเลือดอย่างรุนแรงตามมา
การป้องกันและการรักษา
ป้องกันการเกิดภาวะน้ำคร่ำอุดกั้นหลอดเลือดในปอด
ประเมินปัจจัยเสี่ยง
ประเมินการหดรัดตัวของมดลูกอย่างใกล้ชิดในผู้คลอดที่ได้รับยา
ประเมินสัญญาณชื่นและอาการแสดงของภาวะน้ำคร่ำอุดกั้นหลอกเลือดในปอดภายหลังถุงน้ำคร่ำแตกหรือการเซาะแยกถุงน้ำคร่ำออกจากปากมดลูก
หลีกเลี่ยงการตรวจทางห้องในผู้ที่มีภาวะรกเกาะต่ำหรือรกลอกตัวก่อนกำหนด
การพยาบาลเมื่อเกิดภาวะน้ำคร่าอุดกั้นในหลอดเลือดปอด
หลอดเลือดแดงฝอยของปอดหดเกร็งระบบหายใจล้มเหลวให้การรักษาโดยการช่วยฟื้นคืนชีพใส่ Endotrachial tube และให้ออกซิเจนให้ En Amminophyline 1 Ampule wawilu 50% glucose 50 mil pump ช้าๆเพื่อขยายหลอดลม
ความบกพร่องในการแข็งตัวของเลือดให้ Fresh blood เพื่อเพิ่ม Fibrinogen และ plasma ลดภาวะ Fibrinogen ในเลือดต่ำและเพื่อเพิ่ม Blood volume ลดภาวการณ์เกิดหัวใจล้มเหลวเนื่องจากขาดเลือดไปเลี้ยง
มดลูกอ่อนตัวให้ยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก
การพยาบาล
ควรตระหนักถึงปัจจัยที่ก่อให้เกิดภาวะน้ำคร่ำอุดกั้นทางเดินของปอดเช่นการให้ยาเร่งคลอดการเจ็บครรภ์คลอดที่รุนแรงซึ่งมักจะพบได้ในระยะของการคลอดและทันทีหลังคลอด
ถ้ามีอาการและอาการแสดงควรจะปฏิบัติดังนี
จัดท่าผู้คลอดนอนในท่า Fowler's position
ให้ยาและเลือดตามแผนการรักษา
ให้ออกซิเจนผ่านทาง bag หรือ mask หรือทาง Endotrachial tube
ช่วยเหลือการคลอดโดยใช้ Forceps หรือผ่าท้องทำคลอด
ระวังภาวะตกเลือดหลังคลอดเนื่องจากภาวะกลไกการแข็งตัวของเลือดสูญเสียไป
ช่วยเหลือแพทย์ในการช่วยฟื้นคืนชีพในรายที่เกิดหัวใจล้มเหลว
ควรส่งผู้คลอดไปดูแลต่อที่หอผู้ป่วยหนักโดยการใช้เครื่องช่วยหายใจใน 2-3 วันแรกเพื่อดูแลระบบหายใจและระบบไหลเวียนของโลหิต
ถ้าผู้คลอดและบุตรเสียชีวิตควรดูแลและให้กำลังใจกับครอบครัวผู้คลอดตามขั้นตอนการโศกเศร้าและการสูญเสีย
รกติด รกค้าง (retained placenta)
ความหมาย
ภาวะที่รกหรือชิ้นส่วนของรก (Retained pieces of placenta ไม่คลอดออกมาภายหลังเด็กเกิดนานกว่า 30 นาที
สาเหตุ
ขาดกลไกของการลอกตัว
รกปกติ แต่มดลูกไม่หดรัดตัวรกจึงไม่ลอกหรือลอกตัวได้ไม่สมบูรณ์
รกผิดปกติพวกนี้ถึงแม้มดลูกจะมีการหดรัดตัวได้ดีตามปกติ แต่รกไม่คลอด
ขาดกลไกของการขับดันให้รกที่ลอกตัวแล้วผ่านออกมาภายนอก
รกลอกตัวแล้วแต่ไม่สามารถผ่านออกมาจากโพรงมดลูกส่วนบนได้
รกลอกตัวแล้วและผ่านโพรงมดลูกออกมาอยู่ในช่องคลอดแล้วแต่ไม่สามารถผ่านออกมาภายนอก
สาเหตุส่งเสริม
ทำคลอดรกก่อนรกลอกตัว
เคยมีประวัติรกค้าง
เคยทำหัตถการที่ส่งเสริมให้เกิดภาวะรกค้างเช่นเคยผ่าท้องทำคลอดหรือผ่าตัดเอาเนื้องอกออกจากโพรงทดลูก (Myomectomy) หรือเคยบูดมดลูกมาก่อน
มดลูกมีลักษณะผิดปกติเช่นมีผนังกั้นภายในโพรงมดลูก
รกเกาะแน่น (Placenta adherent) ไม่สามารถหลุดลอกออกมาได้เพราะมดลูกหดรัดตัวไม่ดี (Ineffective uterine Contraction)
รกเกาะแน่นและรกเกาะลึกกว่าชั้น Decidual basalis ชนิดของรกเกาะลึก (placenta accrete)
อาการและอาการแสดง
ไม่มีอาการแสดงของรกลอกตัวหรือเพียงเล็กน้อยไม่ชัดเจนระยะหลังรกคลอดนาน 15-30 นาที
พบว่ามดลูกหดรัดตัวไม่ดีหลังคลอด
มีเลือดออดทาช่องคลอดจำนวนมากภายหลังรกคลอด
ตรวจรกพบว่ามีบางส่วนของเนื้อรกหรือ Membrane ขาดหายไป
มารดามีอาการกระสับกระส่ายชื่นจรเบาเร็วตัวเย็นชืดเหงื่ออกความดันโลหิตต่ำลงระดับความรู้สึกตัวลดลง
การรักษา
ให้ยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก
ให้ยาเพื่อเกิดการคลายตัวของปากมดลูก
Adrenaline 1: 1000 จำนวน 0.3-0.5 ซีซี เข้ากล้ามเนื้อ
Magnesium Sulphate 20 ซีซีฉีดเข้าเส้นโลหิตช้าๆ
ช่วยเหลือด้วยการล้วงรก (manual removal of the placenta)
ถ้ารกติดแน่นผู้ทำคลอดสามารถล้วงรกออกมาได้ แต่มีบางส่วนค้างเหลืออยู่บนผนังมดลูกอาจให้การช่วยเหลือได้
ขูดมดลูกถ้าส่วนที่เหลือค้างมีน้อยหรือมีครรภ์แรกที่ต้องการมีบุตรอีกและต้องให้ยาปฏิชีวนะร่วมไปด้วยอย่างเต็มที่
ตัดมดลูก (Hysterectomy) ในกรณีที่แม่มีบุตรอย่างเพียงพอแล้วหรืออายุมากหรือมีพยาธิสภาพมาก
การพยาบาลผู้คลอดเมื่อมีภาวะรกค้าง
ตรวจดูอาการแสดงต่างๆของรกที่ลอกตัวสมบูรณ์แล้วถ้ามีแสดงว่ารกลอกตัวแล้วแต่ขาดกลไกธรรมชาติที่จะทำให้รกคลอดออกมาเอง
ช่วยเหลือการคลอดรกที่ยังค้างอยู่ภายในโพรงมดลูก
ถ้าตรวจดูแล้วปรากฏว่าไม่มีอาการแสดงของรกลอกตัวสมบูรณ์ซึ่งหมายถึงรกถูกผลักดันมาอยู่ในช่องคลอดแล้วรกอาจจะยังไม่ลอกตัวหรือลอกตัวแล้วแต่ส่วนของมดลูกหดรัดตัวเอาไว้ไม่ให้เคลื่อนผ่านออกมาห้ามทำ Modified Crede maneuve
ตรวจการหดรัดตัวของกล้ามเนื้อมดลูกถ้าไม่มีการหดรัดตัวหรือมีการหดรัดตัว แต่ไม่แข็งเต็มที่
สวนปัสสาวะถ้ากระเพาะปัสสาวะเต็มเป็นเหตุให้รกไม่อาจลอกตัวได้สมบูรณ์
ถ้าสวนปัสสาวะแล้วมดลูกยังหดรัดตัวไม่ดีขึ้นใช้ฝ่ามือคลึงเบา ๆ ที่ยอดมดลูก
ถ้าปฏิบัติดังกล่าวแล้วรกยังไม่ลอกตัวในเวลาอันสมควรแสดงว่า
รกลอกตัวแล้วแต่ไม่อาจผ่านโพรงมดลูกออกมาได้
รกไม่สามารถลอกตัวได้ตามธรรมชาติ
ผู้ทำคลอดอาจสอดนิ้วมือเข้าไปในช่องคลอดเพื่อตรวจดูสภาพของปากมดลูกหรือส่วนของกล้ามเนื้อมดลูกส่วนล่างว่ามีการหดรัดตัวจนขัดขวางการเคลื่อนต่ำของรกหรือไม่
อาจลองทำคลอดรกด้วยวิธีดึงสายสะดือ แต่ถ้าลองดึงดูแล้วรกยังติดอยู่ห้ามดังต่อไปด้วยกำลังแรงเพราะสายสะดืออาจขาดหรือมดลูกปลิ้นหรือมีเศษรกค้างอยู่ภายในมดลูกได้
มดลูกแตก (Rupture of the uterus)
ความหมาย
การฉีกบาดหรือทะลุของมดลูกขณะตั้งครรภ์ขณะเจ็บครรภ์คลอดหรือขณะคลอดส่วนมากเกิดในระยะเจ็บครรภ์คลอดซึ่งมีทั้งการแตกหมดและแตกบางส่วนทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการฉีกขาดนั้นติดต่อกับช่องท้องหรือไม่โดยไม่รวมถึงการแตกที่เกิดจากการตั้งครรภ์นอกมดลูก
ชนิดของมดลูกแตก
Complete uterine rupture
การที่ผนังของมดลูกทั้งสามชั้นแยกออกจากกันและมีการแตกของถุงน้ำคร่ำทำให้โพรงมดลูกเปิดเข้าสู่ช่องท้องโดยตรงส่วนของทารกจะยื่นเข้าสู่ช่องท้องด้วยส่วนใหญ่ผู้ใหญ่จะมีอาการของการเสียเลือดเนื่องจากบริเวณขอบแผลมีเลือดออกในกรณีที่แผลเกิดขึ้นบริเวณที่เป็นแผลเก่าของตัวมดลูกแผลที่แตกมักจะฉีกมากขึ้นกว่ารอยแผลเดิม
incomplete uterine rupture
ผนังของมดลูกยกเว้นชั้น visceral peritoneum แยกออกจากกันและส่วนของทารกยื่นเข้าไปในช่องท้องโดยส่วนใหญ่มักจะเข้าไปอยู่ใน broad ligament
สาเหตุ
ผนังมดลูกเคยได้รับบาดเจ็บมาก่อน เช่น เคยผ่าท้องทำคลอดในครรภ์ที่ผ่านมา เคยผ่าตัดเนื้องอกมดลูก เคยผ่าตัดเย็บซ่อมมดลูก (metroplasty) เป็นต้น หรือพบได้ในรายที่มีการเจริญพัฒนาผิดปกติของตัวมดลูก
การวินิจฉัย
อาการและอาการแสดง
กระสับกระส่ายเจ็บปวดบริเวณท้องน้อยอย่างรุนแรง
การคลอดไม่ก้าวหน้าปากมดลูกไม่เปิดขยายต่อส่วนนำของทารกไม่เคลื่อนต่ำลงมา
ตรวจพบวงแหวนระหว่างมดลูกส่วนบนและมดลูกส่วนล่าง
Tetanic contraction
ทารกในครรภ์เกิด Fetal distress
การประเมินสภาพ
ตรวจมดลูกพบมดลูกหดรัดตัวนานมากกว่า 90 วินาทีระยะพักน้อยกว่า 2 นาทีหรือพบมดลูกแบ่งเป็นสองลอน (Band! 's ring)
ผู้คลอดอาการกระสับกระส่ายกระวนกระวายชีพจรเบาเร็วหายใจไม่สม่ำเสมอ
อัตราการเต้นของหัวใจทารกไม่สม่ำเสมอและหายไป 4 มีเลือดออกทางช่องคลอด
การพยาบาล
หญิงตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงควรแนะนำให้ฝากครรภ์อย่างสม่ำเสมอและแนะนำให้มาคลอดที่โรงพยาบาล
หญิงตั้งครรภ์ที่เคยผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องควรแนะนำให้คุมกำเนิดและเว้นระยะของการตั้งครรภ์อย่างน้อย 2 ปีและถ้าอายุครรภ์มากกว่า 36 สัปดาห์ส่งพบแพทย์เพื่อนัดวันคลอด
การพยาบาลในระยะคลอดต้องเฝ้าดูแลผู้คลอดอย่างใกล้ชิดตรวจการหดรัดตัวของมดลูกถ้าพบว่าผิดปกติคือ interval น้อยกว่า 2 นาที duration มากกว่า 90 นาทีมดลูกแบ่งเป็นสองลอนหน้าท้องแข็งตลอดเวลาผู้คลอดกระสับกระส่ายปวดท้องมากแน่นอึดอัดในท้องฟังเสียงหัวใจทารกไม่ได้ยินควรรายงานแพทย์
ในกรณีที่มีการตั้งครรภ์ผิดปกติหรือมีภาวะแทรกซ้อนของกาตั้งครรภ์เช่นท่าขวางเด็กหัวบาตรการคลอดล่าช้าเคยผ่าตัดที่มดลูกเคยได้รับการทำสูติศาสตร์หัตการควรรายงานแพทย์เพื่อพิจารณาผ่าตัดทำคลอด
เตรียมผู้คลอดเพื่อทำผ่าตัดในรายที่มีภาวะเสี่ยงต่อมดลูกแตกหรือในรายที่มดลูกแตก
เตรียมอุปกรณ์ช่วยฟื้นคืนชีพทารกแรกเกิด
ให้การดูแลด้านจิตใจแก่มารดาหลังคลอดและครอบครัวในรายที่สูญเสียบุตร
มดลูกปลิ้น (Inversion of uterus)
ความหมาย
ภาวะที่มดลูกปลิ้นตลบเอาผนังด้านในออกมาอยู่ด้านนอกและโผล่ออกมาทางช่องคอลดฉะนั้นส่วนบนของมดลูกจะกลับผ่านปากมดลูกออกมา แต่บางครั้งไม่ปรากฏให้เห็นทางช่องคลอด
ชนิดของมดลูกปลิ้น
มดลูกปลิ้นแบบไม่สมบูรณ์ (Incomplete inversion) มดลูกปลิ้นโดยส่วนที่ปลิ้นยังไม่พ้นปากมดลูก
มดลูกปลิ้นแบบสมบูรณ์ (complete inversion) มดลูกปลิ้นโดยส่วนที่ปลิ้นพ้นปากมดลูก
มดลูกปลิ้นแบบสมบูรณ์และเคลื่อนต่ำลงมานอกปากช่องคลอด (Prolapsed of inverted uterus)
สาเหตุ
สาเหตุส่งเสริม
มีพยาธิสภาพที่มดลูกเช่นผนังมดลูกบางและยืดหรือมีก้อนเนื้องอกที่ผนังมดลูกหรือมีรกฝังตัวที่บริเวณส่วนยอดมดลูก
ผนังมดลูกหย่อนเช่นพบมดลูกปลิ้นภายหลังคลอดที่มีความดันในช่องท้องเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในขณะที่มดลูกคลายตัวเช่นการไอการจาม
สาเหตุฉุกเฉิน (Exiting cause)
รกเกาะแน่น (An abnormally adherent placenta)
การล้วงรก (Manual removal of placenta)
การเพิ่มแรงดันในช่องท้องเช่นการเบ่งคลอดรก
การปฏิบัติการคลอดระยะที่ 3 ไม่ถูกต้อง
อาการและอาการแสดง
ยอดมดลูกเป็นแอ่งคล้ายภูเขาไฟหรือไม่พบยอดมดลูก
จะมีอาการปวดช็อกตกเลือดทางช่องคลอดอย่างเฉียบพลันและมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงถ้ารกยังไม่ลอกตัวหรือรกติดแน่นถ้าแก้ไขไม่ทันผู้คลอดอาจเสียชีวิต
ในรายที่เรื้อรังผนังเยื่อบุมดลูกจะแห้งและเป็นแผลทำให้เกิดตกขาวเลือดออกกะปริบกะปรอยอาจมีอาการปวดหลังถึงอุ้งเชิงกรานและถ่ายปัสสาวะขัดหรือรู้สึกถ่วงที่ช่องคลอด
การวินิจฉัย
จากการตรวจหน้าท้องในรายที่เป็นมดลูกปลิ้นชนิดไม่สมบูรณ์จะพบว่ายอดมดลูกมีรอยปุ่มเป็นหลุมที่อคล้ายปล่องภูเขาไฟในรายที่มดลูกปลิ้นสมบูรณ์จะคลำไม่พบยอดมดลูก
การตรวจภายในจะคลำได้ก้อนเนื้อบริเวณปากมดลูกหรือคลำได้ก้อนในช่องคลอดหรือก้อนโผล่ออกมานอกช่องคลอดถ้ารกยังไม่หลุดก็จะเห็นรกติดกับก้อนนั้น
การรักษา
การป้องกันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเช่นการช่วยเหลือการคลอดรกอย่างถูกวิธีการตรวจภายในหลังจากคลอดรกและหลังการเย็บแผลจะสามารถประเมินสภาพได้รวดเร็ว
การช่วยเหลือในภาวะฉุกเฉิน
แก้ไขภาวะช็อกโดยการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำการฉีดมอร์ฟันระงับปวด
ผ้าชุบน้ำเกลือคลุมและกดผนังมดลูกที่ปลิ้นไม่ให้เลือดไหลออกมาในขณะรักษาการช็อกและรอในมดลูกลับเข้าที่
ต้นมดลูกกลับภายใต้การดมยาสลบที่ห้องผ่าตัดโดยใช้นิ้วมือผลักกลับเข้าไปเริ่มตั้งแต่บริเวณปากมดลูกเรื่อย ๆ ไปจนถึงก้อนมดลูกและคงไว้ประมาณ 3-5 นาที
เมื่อมดลูกกลับเข้าที่เดิมแล้วฉีด Methergin ให้มดลูกหดรัดตัว
การผ่าตัดในรายที่เป็นมดลูกปลิ้นแบบเรื้อรังโดยการผ่าทางหน้าท้องหรือทางช่องคลอดในการตัดปากมดลูกที่รัดมดลูกที่ปลิ้นหรือตัดมดลูกทิ้ง
ให้ยาป้องกันการติดเชื้อและให้ยาพวกเหล็กรักษาภาวะเลือด
ทารกขาดออกซิเจนในครรภ์ (Fetal distress)
ความหมาย
ภาวะที่ทารกในครรภ์ได้รับออกซิเจนหรือได้รับสารอาหารไม่เพียงพอซึ่งแสดงออกให้เห็นหรือตรวจพบได้จากการศึกษาทางการแพทย์อาจเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันโดยเกิดจากสายสะดือพลัดต่ำหรือรกลอกตัวก่อนกำหนดหรือเกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไปเช่นจากการหดรัดตัวของลูกที่รุนแรงหรือเกิดจากสาเหตุที่เรื้อรังเช่นการทำงานของรกที่เสื่อมสภาพ
สาเหตุ
ด้านมารดา
มารดามีความดันโลหิตต่ำหรือช็อกจากโรคหัวใจ
มีภาวะชักเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
มีภาวะทุพโภชนาการหรือมีการขาดน้ำร่างกายมารดา
มีภาวะเป็นกรดและมารดา
มีความดันโลหิตลดลงเมื่อเปลี่ยนท่าอย่างรวดเร็ว
ด้านมดลูก
มดลูกมีการหดรัดตัวที่มากผิดปกติหรือเกิดจากการเสื่อมสภาพของหลอดเลือดบริเวณมดลูก
ด้านรก
หลอดเลือดที่บริเวณรกเสื่อมสภาพหรือขาดเลือดไปเลี้ยงหรือมีการลอกตัวของรกก่อนกำหนด
ด้านสายสะดือ
สายสะดือถูกกดทับหรือบิดเป็นเกลียวเกิดการพับงอ
ด้านทารก
ทารกมีการติดเชื้อพิการ แต่กำเนิดมีภาวะซีดหรือมีความผิดปกติเกี่ยวกับการไหลเวียนของเลือดในครรภ์แฝด
อาการและอาการแสดง
มีขี้เทาปนออกมากับน้ำคร่ำในทารกที่มีศีรษะเป็นส่วนนำ
มีการเปลี่ยนแปลงการเต้นของหัวใจทารก เช่น Late or severe variable deceleration มีการเต้นของหัวใจทารกช้ากว่า 120 ครั้ง / นาทีหรือเร็วกว่า 160 ครั้ง / นาทีหรือเต้นไม่สม่ำเสมอ
จากการตรวจ Fetal Scalp blood sampling พบค่า PH ต่ำกว่าหรือเท่ากับ 7.2 ซึ่งถือว่ามีภาวะ Acidosis
ทารกในครรภ์ดิ้นอย่างรุนแรงและมากขึ้นแสดงแสดงถึงภาวะ Acute fetal distress แต่ต่อมาทารกในครรภ์เริ่มดิ้นน้อยลงแสดงว่าเกิด Chronic fetal distress
การวินิจฉัย
การฟังเสียงหัวใจทารก (FHR) โดยปกติแล้วอัตราการเต้นของหัวใจทารกจะอยู่ระหว่าง 120-160 ครั้ง / นาที
การสังเกตลักษณะของน้ำคร่ำถ้ามีขี้เทาปนออกมาจะสังเกตเห็นว่าน้ำคร่ำมีสีเขียวบางครั้งจะมีลักษณะบันแสดงว่าทารกมี Asphyxia มาก
การสังเกตการณ์ดิ้นของทารกจะมีการเคลื่อนไหวการดิ้นประมาณ 3-4 ครั้ง / ชั่วโมง
การบันทึกการเต้นของหัวใจทารกด้วยเครื่อง Monitor ซึ่งวิธีการนี้จะช่วยประเมินสภาพทารกในครรภ์ได้ค่อนข้างแน่นอน
การคลอดเฉียบพลัน (Precipitate labor)
ความหมาย
การเจ็บครรภ์คลอดและคลอดทารกภายในเวลา 3 ชั่วโมงหรือการเจ็บครรภ์ที่มีการเปิดขยายของปากมดลูกมากกว่า 5 เซนติเมตร / ชั่วโมงในครรภ์แรกและเปิด 10 เซนติเมตร / ชั่วโมงในครรภ์หลัง
สาเหตุ
ช่องทางคลอดหย่อนจากการผ่านการคลอดบุตรมาหลายครั้งมดลูกหดรัดตัวแรงกว่าปกติทารกตัวเล็กและได้รับยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูกในปริมาณที่มากเกินการวินิจฉัยการตรวจหน้าท้องพบว่ามดลูกหดรัดตัวถี่นานและแรงผิดปกติและตรวจภายในทำให้ทราบการเปิดของปากมดลูกเร็วกว่าปกติ
ผลกระทบ
่องทางคลอดฉีกขาดมากตกเลือดหลังคลอดทารกขาดออกซิเจนเกิดการบาดเจ็บขณะคลอดเช่นเลือดออกในสมองสายสะดือขาดสำลักน้ำคร่ำแนวทางการรักษาติดตามความก้าวหน้าของการคลอดอย่างใกล้ชิดและเตรียมความพร้อมสำหรับการคลอด
การพยาบาล
ผู้คลอดที่มีปัจจัยเสี่ยง ควรแนะนำการสังเกตอาการเจ็บครรภ์-ประเมินความก้าวหน้าของการคลอดและเสียงหัวใจทารก แนะนำเทคนิคหายใจ เตรียมอุปกรณ์การคลอดให้พร้อมใช้งานหลังคลอด ติดตามการฉีกขาดของช่องคลอดและภาวะตกเลือดหลังคลอด
นางสาวกิตติยาภรณ์ โพธิ์ทา ชั้นปีที่ 3 ห้อง ก. เลขที่ 5