Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
4.3และ4.4 ข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยข้อจำกัดและเงื่อนไขการประกอบวิชาชีพ…
4.3และ4.4
ข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยข้อจำกัดและเงื่อนไขการประกอบวิชาชีพฉบับที่ 2.2553
ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทําได้โดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย คณะกรรมการสภาการพยาบาลจึงออกข้อบังคับไว้
ข้อ ๑. ข้อบังคับน้ีเรียกว่า “ข้อบังคับสภาการพยาบาลวาด้วยข้อจํากัดและเงื่อนไขในการ ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
ข้อ ๒. ข้อบังคับน้ีให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ข้อ ๓. ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง หรือผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและ การผดุงครรภ์ชั้นหน่ึง ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรพยาบาลเวชปฏิบัติทางตาที่สภาการพยาบาลให้การรับรอง และได็ขึ้นทะเบียนเป็นพยาบาลเวชปฏิบัติทางตากับสภาการพยาบาล
ข้อ ๕ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง
การพยาบาลให้การรับรอง และได้ขึ้นทะเบียนเป็นพยาบาลเวชปฏิบัติทางตากับสภาการพยาบาล กระทําการรักษาโรคเบื้องต้น
นพยาบาลเวชปฏิบัติทางตากับสภาการพยาบาล กระทําการรักษาโรคเบื้องต้น
ภาวะฉุกเฉินทางตา
ต้อลม ต้อเนื้อ ต้อกระจก ต้อหิน
ตาแดงจากไวรัส แบคทีเรีย ภูมิแพ้
ตากุ้งยิง
สายตาผิดปกติ สายตาสั้น ยาว เอียง ภาวะตาขี้เกียจ ตาเข สายตาเลือนราง
ท่อน้ําตาอุดตนั ตาแฉะ ตามหี นอง
อื่นๆ
การตรวจประเมินสภาพตาและสายตา การบันทึกผลการตรวจ และการแปลผล
การวัด VA (Visual Acuity)ช
การวัดความดนั ลูกตาดว้ย Schiotz Tonometer
การตรวจดู retina ดวย Direct Ophthalmoscope
(๔) การวัดความโค้งของกระจกตา และวดั กําลงั เลนสแกวตาเทียม(Intraocular Lens)
๕) การใช้เครื่องมือพิเศษในการตรวจสภาพตาส่วนหนาด้วย Slit lamp biomicroscope
ข้อ ๔. ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง หรือผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและ การผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง
(๖) การบันทึกผลการตรวจประเมินสภาพผู้ป่วย และการประเมินสภาพตาและสายตา
(๗) แปลผลการประเมินสภาพตาและสายตา เพื่อประกอบการรักษาโรคเบื้องต้น
ข้อ ๖ ส่งต่อผู้ป่วยไปรับการบําบัดรักษาจากผู้ประกอบวิชาชีพอื่น เมื่อปรากฏ ตรวจพบ หรือ เห็นว่าอาการไม่บรรเทา มีอาการรุนแรงเพิ่มข้ึน
ข้อ ๗ ในกรณีที่มีความจําเป็นต้องใช้ยา ให้ใช้ยาได้ตามท่ีสภาการพยาบาลกําหนด
มมาตรา ๒๖ (๑) แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ. ๒๕๒๘ คณะกรรมการสภาการพยาบาลจึงได้ออกข้อบังคับไว้
ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับสภาการพยาบาล ว่าด้วยข้อจากัดและเงื่อนไข ในการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒”
ข้อ ๒ ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับต้ังแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ การเจาะเก็บตัวอย่างเลือด เพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ต้องมีวัตถุประสงค์ เพื่อ (๑) การตรวจวิเคราะห์หรือการวินิจฉัยโรค
(๒) การวางแผนบาบัดหรือรักษาโรค
(๓) การประเมินภาวะสุขภาพของบุคคล
(๔) การบริจาคโลหิต
ข้อ ๔ การเจาะเก็บตัวอย่างเลือดต้องเป็นแนวปฏิบัติทางการพยาบาล (Clinical Nursing Practice
Guideline (CNPG)) หรือเป็นแนวปฏิบัติทางเวชกรรม
ข้อ ๕ การเจาะเก็บตัวอย่างเลือด ต้องเป็นการเจาะเก็บตัวอย่างเลือดจากเส้นเลือดฝอยปลายนิ้ว หรือจากหลอดเลือดดาส่วนปลาย
ข้อ ๖ การเก็บตัวอย่างเลือดจากหลอดเลือดแดงหรือหลอดเลือดดาส่วนกลาง ตามแผนการรกั ษา ให้จัดเก็บจากสายสวนหลอดเลือดแดงหรือหลอดเลือดดาส่วนกลาง