Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ - Coggle Diagram
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
วิวัฒนาการของกฎหมายวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
มีพัฒนาการมากกว่า100 ปีและมีกฎหมายที่มีความสัมพันธ์กันหลายฉบับ
สมัยรัชกาลที่ 6 ได้มีการออกกฎหมายขึ้นควบคุมการให้บริการด้านการดูแลสุขภาพแก่ประชาชน “พระราชบัญญัติการแพทย์ พ.ศ. 2466”
พ.ศ. 2472 มีการแก้ไขโดยการตัดสาขาสัตวแพทย์ออกโดยให้การประกอบโรคศิลปะเป็นการกระทำต่อมนุษย์เท่านั้น
พ.ศ. 2479 ซึ่งได้แบ่งการประกอบโรคศิลปะออกเป็น2 แผนได้แก่แผนโบราณ และแผนปัจจุบัน
5 กันยายนพ.ศ.2528 ได้มีการประกาศใช้ “พระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์พ.ศ. 2528” และมีผลบังคับใช้ในวันที่ 6กันยายนพ.ศ.2528
พ.ศ.2479กฎหมายควบคุมการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์แยกออกจากพระราชบัญญัติควบคุมการประกอบโรคศิลปะ เปลี่ยนแปลงการเรียกชื่อผู้ประกอบโรคศิลปะแผนปัจจุบัน สาขาการพยาบาลและการผดุงครรภ์ เป็น ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
ประกาศในพระราชกิจจานุเบกษา ฉบับกฤษฎีกา เล่ม 114 ตอนที่ 75ก วันที่ 23ธันวาคม พ.ศ. 2540 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24ธันวาคม พ.ศ. 2540 จวบจนถึงปัจจุบัน
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์สำหรับพยาบาลและการกระทำความผิดที่พบบ่อย
ความหมายและลักษณะของกฎหมายแพ่ง
กฎหมายแพ่งเป็นส่วนหนึ่งในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
กฎหมายพาณิชย์: เป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการค้าขายหรือกิจการใดๆ
กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง: เป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับวิธีการดำเนินพิจารณาพิพากษาคดีในกรณีที่
เกิดข้อพิพาทในทางแพ่งขึ้น
นิติกรรม
องค์ประกอบของนิติกรรม
ผู้กระทำต้องแสดงออกในฐานะที่เป็นเอกชน หมายถึง ผู้กระทำนิติกรรมต้องแสดงออกใน
ฐานะเอกชน มิใช่เจ้าพนักงานของรัฐ
การกระทำโดยเจตนา เป็นการกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดด้วยใจสมัคร เพื่อให้บุคคลภายนอก
รับรู้ถึงความต้องการหรือเจตนาของตนที่จะทำนิติกรรมตามกฎหมาย
การกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย หมายถึง การกระทำที่กฎหมายให้อำนาจบุคคลกระทำได้
โดยชัดแจ้ง หรือกฎหมายไม่ได้กำหนดไว้ว่าห้ามกระทำ หากนิติกรรมที่กระทำนั้นขัดต่อกฎหมาย
ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวสิทธิหมายถึง ผลของการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้เกิดการ
เปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือระงับสิทธิอย่างใดอย่างหนึ่งแก่คู่กรณีตามนิติกรรมนั้นๆ
ความสามารถของบุคคลในการให้การยินยอมรักษาพยาบาล
บุคคล
บุคคลธรรมดา
การตายโดยธรรมชาติหมายถึง การป่วยตาย แก่ตาย หรือถูกะฆ่าตายของบุคคล ทำให้สภาพ
บุคคลสิ้นสุด ก่อให้เกิดผลทางกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญา
การสาบสูญ หมายถึง การที่บุคคลได้ไปจากภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่ และไม่มีใครรู้แน่ว่า บุคคลนั้น
ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ เป็นเวลาติดต่อกัน 5 ปี ในเหตุการณ์ปกติ หรือเป็นเวลา 2 ปี
นิติบุคคล
ผู้เยาว์(Minor) หมายถึง บุคคลที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ในทางกฎหมาย บุคคลจะพ้นจากการ
เป็นผู้เยาว์หรือบรรลุนิติภาวะใน 2 กรณี คือ อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์
คนไร้ความสามารถ (Incompetence) หมายถึง คนวิกลจริต (Unsound mind) หรือ อยู่
ในภาวะผัก (Vegetative state) ที่คู่สมรส ผู้สืบสันดาน
คนเสมือนไร้ความสามารถ (Quasi – incompetence) หมายถึง บุคคลที่ไม่สามารถ
จัดทำการงานโดยตนเอง
ลูกหนี้ที่ถูกศาลสั่งเป็นบุคคลล้มละลาย ตาม พรบ. ล้มละลาย พ.ศ. 2483 เมื่อศาลมีคำสั่ง
พิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้แล้ว เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เป็นผู้มีอ านาจในการจัดการ
สามีภริยา เป็นผู้จัดการสินสมรสร่วมกัน จึงต้องให้ความยินยอมซึ่งกันและกันเป็นการทำนิติกรรม
บางประเภท เช่น การซื้อขาย แลก เปลี่ยน การเช่าอสังหาริมทรัพย์เกิน 3 ปี
สัญญา หมายถึง การกระทำของบุคคลตั้งแต่สองฝ่ายขึ้นไป ที่แสดงเจตนาด้วยใจสมัครถูกต้องตรงกันที่
จะกระทำหรืองดเว้นการกระทำ
ความรับผิดจากการละเมิด
การกระทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมาย หมายถึง การประทุษกรรม หรือกระทำต่อผู้อื่นโดย
ผิดกฎหมายด้วยการฝ่าฝืนข้อห้าม
การกระทำโดยประมาทเลินเล่อ หมายถึง การกระทำโดยมิได้จงใจ แต่กระทำโดยปราศจาก
ความระมัดระวังในระดับวิญญูชน
อายุความ คือ ระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดให้บุคคลมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายภายในระยะเวลาที่
กฎหมายกำหนด ถ้าผู้เสียหายใช้สิทธินั้นร้องเรียนต่อศาลเกินระยะเวลาที่กำหนด
กฎหมายอาญาสำหรับพยาบาลและการกระทำความผิดที่พบบ่อย
ความหมายและวัตถุประสงค์ของกฎหมายอาญา
กฎหมายอาญาเป็นกฎหมายมหาชน ซึ่งบัญญัติว่าการกระทำใดเป็นความผิด และกำหนดโทษอาญาแก่
ผู้ฝ่าฝืน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมความประพฤติของบุคคลให้อยู่ในสังคมด้วยความสงบเรียบร้อย
ประเภทของความรับผิดทางอาญา
ความผิดต่อแผ่นดิน เป็นความผิดที่สำคัญและร้ายแรง มีผลกระทบต่อผู้เสียหายและ
สังคมส่วนรวม เช่น การกระทำที่มีผลต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร
ความผิดต่อส่วนตัว เป็นความผิดที่ไม่ร้ายแรง มีผลกระทบต่อผู้เสียหายฝ่ายเดียว และ
กฎหมายบัญญัติประเภทไว้ชัดเจน
ลักษณะสำคัญของความรับผิดทางอาญา
ต้องมีบทบัญญัติความผิด และกำหนดโทษไว้โดยชัดแจ้ง กล่าวคือ ในขณะที่กระทำผิด ต้อง
มีกฎหมายบัญญัติความผิดและโทษเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจน
ต้องตีความเคร่งครัดตามตัวอักษร การตีความ หมายถึง การถอดความหมายของข้อความ
หรือศัพท์ต่างๆ ในบทบัญญัติออกมา เพื่อให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น โดยใช้ภาษาที่คนทั่วไปเข้าใจ
ไม่มีผลย้อนหลังที่เป็นโทษ หมายถึง จะไม่มีผลในการเพิ่มโทษแก่บุคคล หากขณะกระทำยัง
ไม่มีกฎหมายบัญญัติว่าการกระทำนั้นเป็นความผิด
หลักเกณฑ์ความรับผิดทางอาญา
การกระทำหมายถึง การเคลื่อนไหวร่างกาย หรือไม่เคลื่อนไหวร่างกาย โดยรู้สำนึกและอยู่
ภายใต้การบังคับของจิตใจ
กฎหมายบัญญัติว่าการกระทำนั้นเป็นความผิดและกำหนดโทษ ซึ่งเป็นลักษณะสำคัญของ
ความรับผิดตามกฎหมายอาญา
กระทำโดยเจตนา ประมาท หรือไม่เจตนา ความผิดทางอาญานอกจากมีการกระทำที่เป็น
องค์ประกอบภายนอกแล้ว
โทษทางอาญา
โทษประหารชีวิต เป็นโทษสูงสุด สำหรับลงโทษผู้กระทำความผิดคดีอุกฉกรรจ์ ปัจจุบัน
วิธีการประหารชีวิตได้เปลี่ยนแปลงจากเดิม
โทษจำคุก เป็นโทษจำกัดเสรีภาพของนักโทษที่ถูกควบคุมไว้ในเรือนจำ ตามระยะเวลาที่
กำหนดไว้ในคำพิพากษา
โทษกักขัง เป็นโทษที่เปลี่ยนจากโทษอย่างอื่นมาเป็นโทษกักขัง ได้แก่ เปลี่ยนโทษจำคุกไม่
เกิน 3 เดือน
โทษปรับ การเสียค่าปรับ คือ การชำระเงินต่อศาลตามจำนวนที่ศาลกำหนดไว้ในคำพิพากษา
(ปอ. มาตรา 28) ถ้าไม่ชำระภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ศาลพิพากษา
โทษริบทรัพย์สิน
ความประมาทในการประกอบวิชาชีพกับการปฏิเสธการรักษา
การปฏิบัติการพยาบาล
บางครั้งจะพบผู้ป่วยปฏิเสธการรักษา ซึ่งหน้าที่ของพยาบาลไม่ได้สิ้นสุดทันทีที่ผู้ป่วยปฏิเสธ แต่พยาบาลต้องทำ
ให้แน่ใจว่าการที่ผู้ป่วยปฏิเสธการรักษานั้น ผู้ป่วยได้รับข้อมูลเพียงพอหรือไม่
แนวปฏิบัติในการรักษาความลับของผู้ป่วย
ไม่นำเรื่องของผู้ป่วยมาวิพากษ์วิจารณ์ให้บุคคลภายนอกได้ยินหรือพูดในที่สาธารณะ เช่น
ห้องอาหาร ลิฟท์ ทางเดิน ป้ายรถเมล์ และไม่นำเรื่องผู้ป่วยมาถกเถียงกันต่อหน้าผู้ป่วย
ไม่วางแฟ้มประวัติหรือเขียนการวินิจฉัยไว้ที่ปลายเตียง/หน้าห้องผู้ป่วย
กรณีศึกษาของนักศึกษาพยาบาล ไม่ควรเขียนนามสกุลจริงของผู้ป่วย แต่อาจเขียนเฉพาะ
ชื่อ เว้นการเขียนนามสกุลไว้ โดยนักศึกษาอาจเขียนเบอร์เตียงหรือเบอร์ห้องที่ผู้ป่วยนอนแทนได้
ไม่นำบันทึกรายงานของผู้ป่วยออกจากหอผู้ป่วย
ไม่เปิดเผยข้อมูลของผู้ป่วยแก่ญาติหรือคนอื่น โดยผู้ป่วยไม่ยินยอม
ระมัดระวังการพูดเกี่ยวกับการวินิจฉัย และการรักษาในห้องผู้ป่วยที่เป็นห้องรวม
หากส่งข้อมูลเกี่ยวกับผู้ป่วยที่เป็นความลับ เช่น ผลการตรวจเลือดหาเชื้อ HIV ควรใช้
กระดาษปะหน้า ใส่ซองปิดผนึกและประทับตรา “ลับ”
อภิปรายข้อมูลผู้ป่วยเฉพาะกับผู้ร่วมทีมสุขภาพ และเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับการ
รักษาพยาบาลเท่านั้น
จัดเก็บรายงานผู้ป่วยไว้เป็นสัดส่วน และทบทวนระเบียบยืมแฟ้มประวัติผู้ป่วย/เวช
ระเบียน เมื่อมีการส่งไปให้คำปรึกษา/ส่งต่อ หรือนำไปใช้เพื่อการศึกษา
ประเด็นการประกอบวิชาชีพที่อาจเกิดปัญหาทางด้านกฎหมาย
ประเด็นการประกอบวิชาชีพที่อาจเกิดปัญหาทางด้านจริยธรรม