Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 6.2 การพยาบาลผู้ป่วยวิกฤตในระบบหัวใจและการไหลเวียนโลหิต - Coggle…
บทที่ 6.2 การพยาบาลผู้ป่วยวิกฤตในระบบหัวใจและการไหลเวียนโลหิต
Hypertensive crisis
การตรวจร่างกาย
ตรวจ retina ถ้าพบ cotton-wool spots and hemorrhages แสดงว่า มีการแตกของ retina blood vesselsและ retina nerves ถูกท าลาย
สงสัยมีภาวะเลือดเซาะในผนังหลอดเลือดเอออร์ต้า (Aortic dissection) ให้คลำชีพจรที่แขนและขาทั้ง 2
ข้าง และวัดความดันโลหิตที่แขนทั้ง 2 ข้าง
ตรวจจอประสาทตา ถ้าพบ Papilledema ช่วยประเมินภาวะ increased intracranial pressure
Chest pain บอกอาการของ acute coronary syndrome or aortic dissection
โรคหลอดเลือดสมอง จะมีอาการแขนขาชาหรืออ่อนแรงครึ่งซีก blurred vision, change in level of consciousness, Coma
อาการของ oliguria or azotemia แสดงถึงภาวะไตถูกทำลาย
V/S วัดความดันโลหิตเปรียบเทียบกันจากแขนซ้ายและขวา น้ำหนัก ส่วนสูง ดัชนีมวลกาย เส้นรอบเอว
สาเหตุ
Acute or chronic renal disease
Exacerbation of chronic hypertension
การหยุดยาลดความดันโลหิตทันที (Sudden withdrawal of antihypertensive medications)
การใช้ยาบางชนิดที่มีผลทำให้ความดันโลหิตสูง เช่น ยาคุมกำเนิด ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์
อาการและอาการแสดง
กล้ามเนื้อหัวใจตาย (Myocardial infarction)
เจ็บแน่นหน้าอกแบบเฉียบพลัน/แบบไม่คงที่ (Unstable angina)
กลุ่มอาการโรคหลอดเลือดหัวใจเฉียบพลัน (Acute cardiovascular syndromes)
น้ าท่วมปอด (Pulmonary edema)
hypertensive encephalopathy จะมีอาการ
ปวดศรีษะ การมองเห็นผิดปกติ สับสน คลื่นไส้ อาเจียน
ภาวะเลือดเซาะในผนังหลอดเลือดเอออร์ต้า (Aortic dissection)
การพยาบาล
ติดตามอาการNeurologic symptoms ได้แก่ สับสน confusion, stupor, seizures, coma, or stroke.
การรักษาด้วย short-acting intravenous antihypertensive agents ได้แก่ sodium nitroprusside
Cardiac symptoms ได้แก่ aortic dissection, myocardial ischemia, or dysrhythmias.
ประเมินและบันทึกการตอบสนองต่อยาโดยติดตามความดันโลหิตอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันการลดลงของความดันโลหิตอย่างรวดเร็ว
จัดท่านอนให้สุขสบาย จัดสิ่งแวดล้อมให้สงบ
การตรวจทางห้องปฏิบัติการและการตรวจพิเศษ
ตรวจ CBC ประเมินภาวะ microangiopathic hemolytic anemia (MAHA)
Creatinine และ Glomerular filtration rate (eGFR) และค่าอัลบูมินในปัสสาวะ
12-lead ECG และ chest Xray
การซักประวัติ
ไตวายเฉียบพลัน ปริมาณปัสสาวะลดลง หรืออาจไม่มีการขับถ่ายปัสสาวะ
โรคระบบหัวใจและหลอดเลือด มีอาการ เจ็บหน้าอก (chest pain) เหนื่อยง่ายแน่นอกเวลาออกแรง
โรคความดันโลหิตสูง ความสม่ำเสมอในการรับประทานยาผลข้างเคียงของยาที่ใช้ การสูบบุหรี่
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
เสี่ยงต่อเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ (Risk for ineffective cerebral tissue perfusion)
เสี่ยงต่อเลือดไปเลี้ยงเนื้อเยื่อส่วนปลายไม่เพียงพอ
วิตกกังวล
พร่องความรู้
Cardiac arrhythmias: Sustained AF, VT, VF
AF
ประเภทของ AF
Persistent AF หมายถึง AF ที่ไม่หายได้เองภายใน 7 วัน หรือหายได้ดัวยการรักษาด้วยยา หรือการช็อคไฟฟ้า
Permanent AF หมายถึง AF ที่เป็นนานติดต่อกันกว่า 1 ปีโดยไม่เคยรักษาหรือเคยรักษาแต่ไม่หาย
Paroxysmal AF หมายถึง AF ที่หายได้เองภายใน 7 วันโดยไม่ต้องใช้ยา หรือการช็อคไฟฟ้า (Electrical Cardioversion)
Recurrent AF หมายถึง AF ที่เกิดซ้ ามากกว่า 1 ครั้ง
Lone AF หมายถึง AFที่เป็นในผู้ป่วยอายุน้อยกว่า 60 ปี ที่ไม่มีความผิดปกติของหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง
สาเหตุ
โรคหัวใจขาดเลือด โรคหัวใจรูห์มาติก ภาวะหัวใจล้มเหลว ความดันโลหิตสูง เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ผู้ป่วยหลังผ่าตัดหัวใจ (open heart surgery), hyperthyrodism
อาการและอาการแสดง
ใจสั่น อ่อนเพลีย เหนื่อยเวลาออกแรง คล าชีพจรที่ข้อมือได้เบา
การพยาบาล
เตรียมผู้ป่วยและอุปกรณ์ในการทำ Cardioversion
Radiofrequency Ablation ในผู้ป่วยที่เป็น AF และไม่
สามารถควบคุมด้วยยาได
ดูแลให้ได้รับยาต้านการแข็งตัวของเลือดตามแผนการรักษาในผู้ป่วยที่มีข้อบ่งชี้ว่ามีลิ่มเลือดเกิดขึ้น
ดูแลให้ได้รับยาควบคุมการเต้นของหัวใจ เช่น digoxin, beta-blocker, calcium channel blockers, amiodarone
สังเกตอาการและอาการแสดงของการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน สมอง ปอด แขนและขา
ประเมินการเปลี่ยนแปลงของสัญญาณชีพและคลื่นไฟฟ้าหัวใจอย่างต่อเนื่อง
VT
ประเภทของ VT
Sustained VT คือ VT ที่เกิดต่อเนื่องกันนานกว่า 30วินาทีทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตในร่างกายลดลง
Monomorphic VT คือ VT ที่ลักษณะของ QRS complex เป็นรูปแบบเดียว
Nonsustained VT คือ VT ที่เกิดต่อเนื่องกันน้อยกว่า 30วินาที
Polymorphic VT หรือ Torsade คือ VT ที่ลักษณะของ QRS complex ไม่เป็นรูปแบบเดียว
สาเหตุ
MI, Rheumatic heart disease, ถูกไฟฟ้าดูด ภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำ Digitalis toxicity
อาการและอาการแสดง
อาการเกิดทันที จะรู้สึกใจสั่น ความดันโลหิตต่ำ หน้ามืด เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก หัวใจหยุดเต้น
การพยาบาล
คลำชีพจร V/S ระดับความรู้สึกตัว เจ็บหน้าอก ภาวะเขียว จeนวนปัสสาวะ
ดูแลให้ได้รับยาและแก้ไขสาเหตุหัวใจเต้นผิดจังหวะ
นำเครื่อง Defibrillator มา เปิดหลอดเลือดดำให้ยาและสารน้ำ
คลำชีพจรได้ร่วมกับมีอาการของการไหลเวียนโลหิตในร่างกายลดลง ให้เตรียมทำ synchronized cardioversion
คลำชีพจรไม่ได้ (Pulseless VT) ให้เตรียมเครื่อง Defibrillator เพื่อให้แพทย์ทำการช็อกไฟฟ้าหัวใจ
ทำ CPR ถ้าหัวใจหยุดเต้น
Ventricular fibrillation (VF)
สาเหตุ
Hypovolemia, Hypoxia, Hydrogen ion, . Hypokalemia, Hyperkalemia, Hypothermia, Tension pneumothorax, Cardiac tamponade, Toxins, Pulmonary thrombosis, Coronary thrombosis
อาการและอาการแสดง
อาการเกิดทันทีคือ หมดสติไม่มีชีพจร รูม่านตาขยาย เนื่องจากหัวใจไม่สามารถสูบฉีดโลหิตออกมาได้และเสียชีวิต
การพยาบาล
การช็อกไฟฟ้าหัวใจทันทีและการกดหน้าอก
ป้องกันภาวะ tissue hypoxia โดยให้ออกซิเจนตามแผนการรักษา ในกรณีที่ค่า O2 saturation หรือSpO2 น้อยกว่า 93%
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
ปริมาณเลือดออกจากหัวใจในหนึ่งนาทีลดลงเนื่องจากความผิดปกติของ อัตรา และจังหวะการเต้นของหัวใจ
Acute Heart Failure (AHF)
ชนิดของหัวใจล้มเหลว
ชนิดของหัวใจล้มเหลวที่แบ่งตามการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ
Diastolic heart failure หรือ Heart failure with preserved EF (HFPEF): หัวใจล้มเหลวที่เกิดร่วมกับการบีบตัวของหัวใจห้องล่างซ้ายปกตb
Systolic heart failure หรือ Heart failure with reduced EF (HFREF) : หัวใจล้มเหลวที่เกิดร่วมกับการบีบตัวของหัวใจห้องซ้ายล่าง (Left ventricle) ลดลง
แบ่งตามอาการและอาการแสดงของหัวใจที่ผิดปกติ
Left sided-heart failure:Orthopnea หรือ Paroxysmal nocturnal dyspnea (PND)
Right sided-heart failure: อาการบวม ตับโต
ชนิดของหัวใจล้มเหลวที่แบ่งตามเวลาการเกิดโรค
Transient: หัวใจล้มเหลวที่มีอาการชั่วขณะ
Chronic: หัวใจล้มเหลวที่มีอาการเรื้อรัง
New onset: หัวใจล้มเหลวที่เกิดขึ้นครั้งแรก
แบ่งตามลักษณะของ Cardiac output
High-output heart failure:
Low-output heart failure:
ภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน (Acute heart failure)
ภาวะหัวใจล้มเหลวเรื้อรัง (Chronic heart failure)
สาเหตุของภาวะหัวใจล้มเหลว
ความผิดปกติของกล้ามเนื้อหัวใจ (Myocardial disease)
ความผิดปกติของเยื่อหุ้มหัวใจ
ความผิดปกติของลิ้นหัวใจ (Valvular heart disease)
ความผิดปกติของหลอดเลือดหัวใจ (coronary artery disease)
ความผิดปกติแต่กำเนิด (Congenital heart disease)
อาการและอาการแสดง
อาการบวม
อ่อนเพลีย (Fatigue)
อาการเหนื่อย (Dyspnea)
แน่นท้อง ท้องอืด
การวินิจฉัย
Chest X-ray, CXR
electrocardiography
การตรวจเลือด
การตรวจคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงหัวใจ (Echocardiography)
การพยาบาล
จํากัดนํ้าในแต่ละวันตามแนวทางการรักษาโดยในรายที่ไม่รุนแรงให้ จํากัดประมาณ 800-1,000 ซีซี/วัน
ถเผชิญกับความเจ็บป่วยด้วยภาวะหัวใจวายได้
ชั่งนํ้าหนักผู้ป่วยทุกวันในเวลาเดิม
ช่วยให้ผู้ป่วยปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตในการควบคุมอาการของภาวะหัวใจวายได้
ดูแลให้ได้รับยาตามแผนการรักษาและมีการติดตามประเมินผลของยา
ยาดิจิทาลิส (Digitalis)
ยาโดปามีน (Dopamine)
Nitroglycerine
ประเมิน V/S ทุก 1 ชั่วโมง
จัดท่านั่งศีรษะสูง 30-90 องศา (Fowler’s position)
ดูแลให้ผู้ป่วยได้ Bed rest โดยช่วยเหลือทำกิจกรรมให้ผู้ป่วยในระยะที่ผู้ป่วยมีอาการเหนื่อย
ภาวะช้อก (Shock)
การแบ่งประเภทของช็อก (Classification of shock)
Low cardiac output shock (Hypodynamic shock)
1) Hypovolemic shock
2) Cardiogenic shock
3) Obstructive shock
High cardiac output shock (Distributive shock, hyperdynamic shock)
1) Septic shock
2) Anaphylactic shock
3) Endocrinologic shock ได้แก่ Adrenal crisis, thyroid storm
4) Neurogenic shock
5) Drug and toxin
Supportive treatment
Airway: กรณีที่มี Upper airway obstruction ควรทำการเปิดทางเดินหายใจให้โล่ง
Breathing: ในผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะช็อกควรให้ออกซิเจนร่วมด้วย
Circulation: พิจารณาการให้สารน้ำหรือ Vasopressors / inotropes ตามสาเหตุของช็อก
การเลือกใช้ Vasoactive drugs ในช็อกประเภทต่างๆ
Hypovolemic shock โดยทั่วไปไม่มีที่ใช้ของ Vasoactive drugs
Cardiogenic shock ควรเลือกใช้ Dopamine หาก Systolic BP ต่ำกว่า 70 มม. ปรอท อาจเลือก Norepinephrine
Septic shock ควรให้สารน้ำก่อนความดันโลหิตยังไม่ขึ้น อาจให้ Dopamine หรือ Norepinephrine ควรเลือก Norepinephrine ก่อน
Obstructive shock ควรให้สารน้ำก่อน ความ
ดันโลหิตยังต่ำอยู่ ใช้ Dopamine ต่ำมากใช้ Norepinephrine
Endocrinologic shock ให้สารน้ำและให้การรักษา
ทดแทนทางฮอร์โมน
Anaphylactic shock เลือก Epinephrine (Adrenaline)
Neurogenic shock เลือก Dopamine ก่อน
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล (Nursing diagnosis)
ผู้ป่วยอยู่ในภาวะปริมาณเลือดออกจากหัวใจต่อนาทีต่ำลงเนื่องจากผู้ป่วยมีภาวะช็อค
ประเมิน V/S อาการแสดงของ Shock และระดับความรู้สึกตัวทุก10 นาที
ให้ได้รับสารน้ำ 0.9% NSS load จนครบ
ดูแลให้ยาปฏิชีวนะ Ceftriazone septic shock
บันทึกจำนวนปัสสาวะที่ออกเพื่อประเมินหน้าที่การทำงานของไต
อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการได้รับยา Levophed อาจเกิดภาวะยารั่วซึมออกนอกหลอดเลือดเกิดเนื้อตายได้
ให้ได้รับยาตามแผนการรักษาเข้าทางหลอดเลือดดำใหญ่ตรง Antecubital vein โดยใช้ infusion pump
จวัดความดันโลหิตและอัตราหัวใจเต้นทุก 10 นาทีทีเมื่อ IV ครบ 1,000 ml BP ปกติ Titrate Levophed เพิ่มทีละ 5 ml / hr. ร่วมกับให้สารน้ำจนครบ1,500 ml