Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การเปลี่ยนแปลงด้านร่างกายและจิตใจ ของสตรีในระยะคลอด - Coggle Diagram
การเปลี่ยนแปลงด้านร่างกายและจิตใจ
ของสตรีในระยะคลอด
การเปลี่ยนแปลงของระบบหัวใจและหลอดเลือด
เพิ่มขึ้นเนื่องจากขณะมดลูกหดรัดตัวจะมีเลือดออก
จากมดลูกเข้าเข้าสู่ระบบไหลเวียนเลือดของมารดา
ประมาณ 400 ml. ต้นระยะที่ 1 ของการตลาด C.0,
เพิ่มขึ้น 15-20% ปลายระยะที่ 1 และต้นระยะที่ 20.0,
เพิ่มขึ้น 35-406
การเปลี่ยนแปลงของระบบเลือดและเม็ดเลือด
Hemoglobin / Hct. เพิ่มขึ้นเล็กน้อยประมาณ 1.2 g
เนื่องจากภาวะเครียดและภาวะขาดน้ำและจะลดลงใน
วันแรกหลังคลอดระดับ Fibrinogen ในกระแสเลือดเพิ่ม
ขึ้นเม็ดเลือดขาวจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 15,000 cell /
mm และอาจเพิ่มถึง 25,000-30,000 cell / mm3
การเปลี่ยนแปลงของระบบหัวใจและหลอดเลือด
Heart Rate เพิ่มขึ้นในระยะ 1st Stage of labor
โดยทั่วไปชีพจรจะอยู่ระหว่าง 80-90 ครั้ง / นาที
และลดลงเล็กน้อยในระยะ 2nd stage of labor
Blood Pressure: Normal และเพิ่มขึ้นขณะมดลูกหดรัดตัว
systolic blood pressure ระยะที่ 1 เพิ่มขึ้น 10-15 mmHg
ระยะที่ 2 เพิ่ม 30 mmHg diastolic blood pressure
ระยะที่ 1 เพิ่มขึ้น 5-10 mmHg ระยะที่ 2 เพิ่ม 25 mmHg
การเปลี่ยนแปลงภายในถุงน้ำคร่ำจะถูก
แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ
น้ำคร้าที่อยู่ต่ำกว่าล้วนั้น
เรียกว่าน้ำทูนหัว fore water
น้ำคร่ำที่ล้อมรอบตัวเด็กอยู่เหนือส่วนนำ
เรียกว่า hind water
การเปิดขยายของปากมดลูก
Dilatation of the cervical Os)
ในระยะ Latent phase (0-3 cm.)
เปิดข้าครรภ์แรกใช้เวลา 8-12 ชม
ครรภ์หลั่งใช้เวลา 6-8 ชมใน
ระยะ Active phase (4-10 cm.)
เปิดเร็วครรภ์แรกเฉลี่ย 1-1.2 cm./ชม
ครรภ์หลังเฉลี่ย 1.5 cm./ ชม
ความบางตัวของปากมดลูก (cervical effacement)
ถ้าปากมดลูกหนา 2 cm. จะมีความบาง 0% ถ้าปากมดลูก
หนา 1 cm. จะมีความบาง 50% ถ้าปากมดลูกหนา 0.5cm.
จะมีความบาง 75% ถ้าปากมดลูกหนา 1-2 mm. จะมีความ
บาง 100%
การเปลี่ยนแปลงด้านรูปร่างของมดลูก
"รูปร่างของมดลูกจะยึดยาวออกไปตามแนวยาวของตัวมดลูก
1 เส้นผ่านศูนย์กลางตามแนวนอนหรือแนวหน้า
-หลังจะสั้นลงทำให้ fetal ovoid หรือตัวเด็กที่อยู่ในทรงรูปไข่
ถูกบีบให้กระดูกสันหลังยึดยาวออกความยาวจะยึดออกประมา ณ 5-10 cm.ทำให้ส่วนของเด็กเคลื่อนต่ำลงสู่ช่องเชิงกรานซึ่ง
มีแรงต้านทานต่ำกว่าความดันที่มีผลต่อเด็กในลักษณะนี้เรียก
ว่า fetal axis pressure 1 ตัวมดลูกยึดยาวออกโยกล้ามเนื้อ
มดลูกส่วนล่างและปากมดลูกถูกดึงรั้งขึ้นไปข้างบนทำให้ปาก
มดลูกเปิดขยาย
ความแรงของการหดรัดตัวของมดลูกในส่วนต่างๆแรงไม่
เท่ากันส่วนบน (upper segment) มีความรุนแรงมากและ
ค่อยๆลดหลั่นลงเรื่อย ๆ จากยอดมดลูกไปถึงส่วนล่าง
เมื่อหดรัดตัวแต่ละครั้งจะมีแรงขับเคลื่อนเด็กให้เคลื่อน
ลงไปทางส่วนล่าง (lower segment)
ถ้าหดรัดตัวรุนแรงมากผิดปกติจะเกิด pathological retraction ring
"หรือ Bandl ring Bestionnina vodacom มักจะเกิดในรายที่ศีรษะ
ของทารกและเชิงกรานของมารดา Ananasu
(Cephalo Pelvic Disproportion: CPD)
เมื่อการคลอดก้าวหน้ามากขึ้น Upper segment wa: Lower segment จะแบ่งขอบเขตกันชัดเจนเกิดเป็น 'physiological retraction ring' SAMPLE
การหดรัดตัวของมดลูกอยู่นอกอำนาจจิตใจบังคับไม่
ได้การหดรัดตัวของมดลูกเกิดขึ้นเป็นจังหวะและถี่ขึ้นเรื่อยๆระยะคลายตัวการไหลเวียนของเลือดในรกจะ
ดีกว่าระยะการหดรัดตัวความดันภายในโพรงมดลูก
ระหว่างการเจ็บครรภ์เฉลี่ย 40 (20-60) มิลลิเมตรปรอท
การหดรัดตัวของมดลูกก่อให้เกิดความเจ็บปวดได้อย่างไรสาเหตุของความเจ็บปวดไม่ทราบแน่ชัด แต่มีสมมติฐานดังนี้
มัดกล้ามเนื้อในบริเวณปากมดลูกและมดลูกส่วนล่างกด
ganglia ของเส้นประสาทเมื่อมีการหดรัดตัว
ภาวะ hypoxia ของกล้ามเนื้อมดลูกขณะหดรัดตัว
การดึงรั้งหรือการยืดขยายของปากมดลูกในระหว่วงที่มี
การถ่างขยายปากมดลูก
การดึงรั้งหรือการยืดขยายของเยื่อบุช่องท้องที่ปกคลุม
กล้ามเนื้อมดลูกแบ่งเป็น3ชั้น
ตามลักษณะใยกล้ามเนื้อ
2.ชั้นกลางใยกล้ามเนื้อเรียงตัวประสานเป็นรูปเลข
(figure of eight)ล้อมรอบเส้นเลือดช่วยบีบรัดเส้นเลือด
ทำให้เลือดหยุดไหลได้ในระยะหลังคลอดกล้ามชั้นนี้มี
ความหนาและแข็งแรงที่สุด
1.ชั้นนอกใยกล้ามเนื้อเรียงตัวตามยาว (Longitudinal)
ช่วยให้กล้ามเนื้อมดลูกมีความแข็งแรงตามความยาว
ทำให้มีการผลักดันทารกในครรภ์ลงมาได้ดี
3.ชั้นในใยกล้ามเนื้อเรียงตัวแบบวงกลม (circular)
ประกอบกันเป็นกล้ามเนื้อหูรูดโดยเฉพาะที่บริเวณ
ปากมดลูกชั้นในนจะมีการยืดขยายออกเมื่อเข้าสู่
ระยะคลอดที่เรียกว่าปากมดลูกปิด (cervical dilatation)
การเปลี่ยนแปลงของมดลูก
ระยะตั้งครรภ์มดลูกอยู่ในสภาพคลายตัวสงบเงียบและ
ยืดขยายปากมดลูกแข็งแรงสามารถต้านแรงดันจาก
ภายในโพรงมดลูกได้เมื่อเข้าสู่ระยะคลอดกล้ามเนื้อมดลูก
หดรัดตัวรุนแรงขึ้นและเป็นจังหวะปากมดลูกจะนุ่มอ่อนตัว
ลงมากและยืดขยาย
กลไกการเกิด Paturition
กลไกการเกิด Parturition ในมนุษย์สรุปได้
ทารกในครรภ์ส่งสัญญาณไปกระตุ้นให้เกิด
กระบวนการต่างๆใน parturition
มีการเปลี่ยนแปลงทางชีวเคมีภายในมดลูก
ต่อมใต้สมองหลั่ง H. Oxytocin เพิ่มขึ้นเป็นพักๆ
ในระยะท้ายของการตั้งครรภ์กระตุ้นให้มดลูกหดรัดตัว
การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพจากการที่ทารกโตขึ้น
และน้ำคร่ำที่มากขึ้นทำให้มีน้ำหนักกดลงบนปากมดลูก
และส่วนล่างของมดลูกทวีตาร์แกนจะ
Parturition
หมายถึงกระบวนการเปลี่ยนแปลงในระหว่างการตั้งครรภ์
ที่จะนำไปสู่การเจ็บครรภ์คลอดการเจ็บครรภ์คลอ (Labor)
หมายถึงกระบวนการที่มดลูกหดรัดตัวอย่างรุนแรงและเป็นจังหวะสม่ำเสมอทำให้ปากมดลูกเปิดขยายออกและ
ทารกถูกบีบไล่ให้เคลื่อนต่ำลงมาตามช่องทางคลอดโดย
จะสิ้นสุดเมื่อคลอดทารกปกติจะใช้เวลาไม่เกิน 24 ชั่วโมง
ระยะคลอด
คือระยะตั้งแต่เจ็บครรภ์จริงจนถึงเด็กและรกคลอดออกมาครบระยะคลอดจริงๆแบ่งเป็น 3 ระยะ แต่ในทางปฏิบัตินับรวม 2 ชมหลังคลอดเป็นระยะที่ 4 ของการคลอดด้วย
ระยะที่ 1 ของการคลอดคือตั้งแต่เจ็บครรภ์คลอดถึงปากหมดลูกเปิด
ระยะที่ 2 ของการคลอดคือตั้งแต่ปากหมดลูกเปิดหมดถึงเด็กคลอดทั้งตัว
ระยะที่ 3 ของการคลอดคือตั้งแต่เด็กคลอดถึงรกคลอดออกมาทั้งหมด
ระยะที่ 4 ของการคลอดคือตั้งแต่รกคลอดถึง 2 ชม! หลังคลอด