Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาทางระบบประสาท - Coggle Diagram
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาทางระบบประสาท
โรคลมชัก (Epilepsy)
สาเหตุ
ได้รับอันตรายจากการคลอด
พันธุกรรม
Developmental and degenerative disorders
โรคติดเชื้อของสมอง
รอยโรคในสมองที่ทำให้เซลล์ประสาทหลั่งคลื่นไฟฟ้าสมองผิดปกติ
Metabolic
Toxic etiologies
2 ชนิด
Partial seizure ชักกระตุกเฉพาะที่
Generalized seizure
Primary generalized epilepsy
ไม่มีความผิดปกติในระบบประสาท
Secondary generalized epilepsy
มีความผิดปกติในระบบประสาท
การรักษา
ใช้ยาระงับอาการชัก
ยาป้องกันการชักซ้ำ
ตามสาเหตุที่วินิจฉัย
ผ่าตัดเอารอยโรคที่สมองออก
อาหาร Ketogenic diet
การจัดอาหารสัดส่วนที่มีปริมาณ
ไขมันสูง
คาร์โบไฮเดรตต่ำ
โปรตีนต่ำ
การฝังเครื่องกระตุ้นไฟฟ้า
คำแนะนำสำคัญสำหรับผู้ปกครอง
ให้เด็กรับประทานยากันชักต่อเนื่องทุกวัน
อย่างน้อย 2 ปี
ห้ามหยุดยาเอง
แนะนำวิธีการป้องกันอุบัติเหตุขณะชัก
มาตรวจตามนัดเพื่อแพทย์ประเมินอาการและปรับระดับยากันชักให้เหมาะสม
ชัก
ชักจากไข้สูง
ชนิด
Primary febrile convulsion
ไม่มีความผิดปกติของสมอง
Secondary febrile convulsion
มีความผิดปกติของสมอง
การรักษา
ระยะที่กำลังมีอาการชัก
ชักเกิน 5 นาที
ต้องทำให้หยุดชักเร็วที่สุด
ให้ยาระงับอาการชัก
diazepam
ให้ยาลดไข้
เน้นขณะชักห้ามให้ยาชนิดรับประทาน
ระยะหลังชัก
ซักประวัติตรวจร่างกายโดยละเอียด
ให้ยาป้องกันการชัก
รับประทานทุกวันนาน 1-2 ปี
Phenobarbital
Depakine
ชักจากการติดเชื้อของเยื่อหุ้มสมองหรือเนื้อสมอง
Meningitis
สาเหตุ
เชื้อแบคทีเรีย (Bacterial meningitis)
เชื้อไวรัส (Viral หรือ Asepitc meningitis)
พยาธิ (Eosinophilic meningitis)
เชื้อรา (Fungal memingitis)
Cerebrospinal fluid test
Pressure
เด็กโต
110-150 mmH2O
ทารก
100 mmH2O
Red cells ไม่พบ
White cell count ไม่พบ
Glucose 50-75 mg/dl
(ครึ่งหนึ่งของน้ำตาลในเลือด)
Protein 14-45 mg/dl
การวิเคราะห์ผลการตรวจ CSF
bact
Pressure ปกติ,>180
ลักษณะขุ่น
WBC
จำนวน100 -10,000
type PMN
Glucoseต่ำ
Protein สูง
virus
Pressure ปกติ 110-150
ลักษณะใส
WBC
จำนวน10-100
type L
Glucoseปกติ
Protein ปกติ , สูง
TB
Pressure >200
ลักษณะใส เหลืองอ่อน
WBC
จำนวน 25-500
type L
Glucose ต่ำ
อาการ
อาการที่แสดงว่ามีการติดเชื้อ
มีไข้
ปวดศีรษะมาก
ซึมลง
กระหม่อมโป่งตึง
อาเจียน
ชัก
อาการแสดงของการระคายเคืองของเยื่อหุ้มสมอง
คอแข็ง (Stiffness of neck)
Kernig’s sign ได้ผลบวก
Brudzinski’s sign ได้ผลบวก
การรักษา
การรักษาเฉพาะ
ให้ยาปฏิชีวนะ
การรักษาตามอาการ
ให้ยาลดไข้
ให้ยานอนหลับ
ให้ยากันชัก
ให้ยาลดอาการบวมของสมอง
ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำรักษาภาวะไม่สมดุล
เจาะคอหรือใช้เครื่องช่วยหายใจในรายที่มีปัญหาการหายใจหรือหมดสติ
การป้องกัน
ควรฉีดวัคซีน
Hib vaccine
JE vaccine
BCG
Encephalitis
สาเหตุ
เชื้อไวรัส
เชื้อแบคทีเรีย
เชื้อรา
เชื้อปรสิต
ปฏิกิริยาต่อวัคซีน
วัคซีนป้องกันโรคไอกรน
วัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า
อาการ
ไข้สูง
ปวดศีรษะ
ปวดบริเวณต้นคอ
คอแข็ง (Stiffness of neck)
ซึมลง
จนโคม่าได้ภายใน 24 – 72 ชั่วโมง
ชัก
มีการเคลื่อนไหวผิดปกติ
กระสับกระส่าย
อารมณ์ผันแปร
เพ้อ
คลั่ง
อาละวาด
การหายใจไม่สม่ำเสมอ
การรักษา
ให้ออกซิเจน
เจาะคอ หรือใช้เครื่องช่วยหายใจ
ยา
ยาระงับชัก
ยานอนหลับ
ลดอาการบวมของสมอง
รักษาสมดุลของปริมาณน้ำเข้า – ออก ของร่างกาย
ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
การพยาบาล
จัดให้ผู้ป่วยนอนราบ ตะแคงหน้าไปข้างใดข้างหนึ่ง
ไม่ผูกรัดหรือตรึงผู้ป่วย
ขณะชักเพื่อป้องกันกระดูกหัก
ทำทางเดินหายใจให้โล่ง
ดูแลให้ได้รับออกซิเจนตรงตามแผนการรักษา
ขณะชักให้ NPO
เตรียมไม้กดลิ้นไว้ที่โต๊ะข้างเตียงในรายที่มีอาการชักเกร็ง
ไข้สูง
ให้เช็ดตัวด้วยน้ำธรรมดา หรือน้ำอุ่น
รายงานแพทย์ทราบเพื่อให้ยาลดไข้ตามแผนการรักษา
ดูแลให้ได้รับยากันชัก
ยาคลายกล้ามเนื้อตรงตามแผนการรักษา
ขณะที่ผู้ป่วยชัก
ควรป้องกันอันตรายจากการเกิดอุบัติเหตุ
ช่วยแพทย์ในการเตรียมตรวจ
จัดสิ่งแวดล้อมรอบเตียงให้เงียบและอากาศถ่ายเทได้สะดวก
สังเกตและบันทึกลักษณะการชัก
ระดับความรู้สึกตัว
วัดและบันทึกสัญญาณชีพ อย่างน้อยทุก 4 ชั่วโมง
การให้คำแนะนำและเตรียมความรู้แก่ผู้ปกครอง
ให้ความรู้เกี่ยวกับภาวะโรค
แนะนำวิธีการปฏิบัติเมื่อผู้ป่วยมีไข้
แนะนำวิธีปฏิบัติเมื่อผู้ป่วยเกิดอาการชัก
แนะนำการดูแลให้ยากันชัก และผลข้างเคียงของยา
โรคไข้สมองอักเสบ Japanese encephalitis (JE)
อาการ
เริ่มด้วยมีไข้ ปวดเมื่อย อ่อนเพลีย
ปวดศีรษะจะมากขึ้น อาการอาเจียน ง่วงซึมจนไม่รู้สึกตัว
บางรายอาจมีอาการเกร็งชักกระตุก
อาจมีอาการหายใจไม่สม่ำเสมอ
ในรายที่เป็นรุนแรง
ถึงแก่กรรมประมาณวันที่ 7-9
พ้นระยะนี้แล้ว
ระยะฟื้นตัว
มีความพิการ
การตรวจวินิจฉัย
ตรวจแยกเชื้อไวรัสจากเลือด หรือน้ำไขสันหลัง
ตรวจหาIgM antibody เฉพาะต่อไวรัส เจอี
การรักษา
ต้องให้การดูแลรักษาเฉพาะใน Intensive care unit
ให้ยาลดไข้
ลดการบวมของสมอง
ระงับอาการชัก
ดูแลทางเดินหายใจให้โล่ง
เจาะคอ หรือใช้เครื่องช่วยหายใจ
การป้องกัน
หลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกยุงกัด
ไม่ควรเลี้ยงหมูในบริเวณใกล้บ้านที่อยู่อาศัย
การฉีดวัคซีน 3 ครั้ง ตามกำหนด
ควรจะเริ่มให้วัคซีนนี้พร้อมกับการให้ booster dose DTP และ OPV
โรคสมองพิการ(Cerebral Palsy)
ความหมาย
คนที่มีปัญหาการเคลื่อนไหว
เนื่องจากความผิดปกติในการทำงานของสมองทำให้ไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของอวัยวะต่างๆอย่างเป็นปกติได้
เกิดก่อนอายุ 8 ปี
มีปัญหาการเคลื่อนไหวอวัยวะที่ใช้ในการหายใจและการพูดร่วมสายตา และการได้ยิน
สาเหตุ
ระยะก่อนคลอด
การมีเลือดออกทางช่องคลอดของมารดาช่วงเดือนที่6-9 มารดา
ขณะตั้งครรภ์ขาดสารอาหาร
มารดามีภาวะชักหรือมีภาวะปัญญาอ่อน
การเกิดก่อนกำหนด
การเกิดน้ำหนักตัวน้อย
การใช้ยาบางชนิด
ได้รับอุบัติเหตุ
เกิดการติดเชื้อขณะตั้งครรภ์
ระยะคลอด
สมองขาดออกซิเจน
เป็นสาเหตุร้อยละ 30
ได้รับอันตรายจากการคลอด
คลอดยาก
รกพันคอ
การใช้คีม
ดึงเด็ก
คลอดท่าก้น
ระยะหลังคลอด
การได้รับการกระทบกระเทือนที่ศีรษะ
เป็นสาเหตุของสมองพิการร้อยละ 5
ตัวเหลืองเมื่อแรกเกิด
เส้นเลือดที่สมองมีความผิดปกติ
การขาดออกซิเจนจากการจมน้ำ
การติดเชื้อบริเวณสมอง
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
ฝีที่สมอง
การได้รับสารพิษ
สารตะกั่ว
ยาฆ่าแมลง
อาการ
ลักษณะอ่อนปวกเปียก
อาจหายใจช้า
พัฒนาการช้า
การดูด
การ
กลืน
การเคี้ยว
ทำให้สำลักนม
รีเฟล็กซ์ผิดปกติ
การเคลื่อนไหวกับสมดุลของร่างกายมีความผิดปกติ
ภาวะปัญญาอ่อนตั้งแต่ขนาดน้อยถึงมาก
พูดไม่ชัดเจน
การรักษา
การให้ยาคลายกล้ามเนื้อ
diazepam
baclofen
การทำกายภาพบำบัดของกล้ามเนื้อแขน ขา หรือลำตัว
การให้ early stimulation เพื่อให้สมองส่วนต่างๆที่ไม่มีความเสียหายได้พัฒนา
การแก้ไขความผิดปกติของการรับรู้ที่สำคัญ
การแก้ไขความผิดปกติของระบบประสาทส่วนอื่น
การให้คำแนะนำผู้ปกครองในการดูแลเด็กในชีวิตประจำวัน
ส่งเสริมให้เด็กฝึกทักษะการใช้ส่วนต่างๆของร่างกายตามความสามารถ
การพยาบาล
ได้รับสารอาหารน้อยกว่าความต้องการของร่างกาย
เสี่ยงต่อพัฒนาการช้ากว่าวัย/มีพัฒนาการช้ากว่าวัย
เสี่ยงต่อการได้รับบาดเจ็บ
บิดา มารดาหรือผู้ดูแลเด็กขาดความรู้ในการดูแลเด็ก
Hydrocephalus
ความหมาย
ภาวะที่มีการคั่งของน้ำไขสันหลังในกะโหลกศีรษะ
บริเวณ ventricle ของสมอง
subarachnoid space มากกว่าปกติ
เกิดความดันภายในกะโหลกศีรษะเพิ่มขึ้น
สาเหตุ
การสร้างหรือการผลิตน้ำไขสันหลังมากผิดปกติ
Overproduction of CSF
การอุดกั้นการไหลเวียนของน้ำหล่อสมองและไขสันหลัง
Obstruction of the flow of CSF
ความผิดปกติในการดูดซึมน้ำไขสันหลัง
Defective absorption of CSF
อาการ
ศรีษะโต/ หัวบาตร (cranium enlargement)
เด็กเล็กที่กระหม่อมยังไม่เปิดพบว่ากระหม่อมหน้าโป่งตึงกว่าปกติ(fontanelle bulging )
หนังศีรษะบางและมองเห็นหลอดเลือดดำที่บริเวณใบหน้าหรือศรีษะโป่งตึงเห็นชัดมากกว่าปกติ(enlargement & engorgement of scalp vein)
การวินิจฉัย
การตรวจด้วยการส่องไฟฉาย( transillumination test)
Ventriculography
CT scan
Ultrasound
Head Circumference
ความยาวเส้นรอบวงศีรษะปกติ
แรกเกิด 35 เซนติเมตร
1 ปี 45 เซนติเมตร
2 ปี 47 เซนติเมตร
การรักษา
ผ่าตัดรักษาสาเหตุ
ผ่าตัดเปลี่ยนทางเดินน้ำไขสันหลัง (Shunt)
ปัญหาแทรกซ้อนของการผ่าตัดใส่ Shunt
Obstruction
Infection
Ventriculo-peritoneal Shunt (V-P Shunt)
การให้ยาลดการสร้างน้ำไขสันหลัง (Diamox)
การพยาบาล
หลังผ่าตัด
มีปัญหาเหมือนก่อนผ่าตัดแต่เพิ่มเรื่องการดูแลแผลผ่าตัดและการป้องกันภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด
การติดเชื้อที่แผลผ่าตัด
การระบายน้ำไขสันหลังเร็วเกินไป (เน้นนอนราบหลังผ่าตัด ใน 24 ชม.แรก
ปัญหาและภาวะแทรกซ้อนภายหลังทำผ่าตัดสายระบาย
การติดเชื้อของสายระบายน้ำในโพรงสมอง
การทำงานผิดปกติของสายระบายน้ำในโพรงสมอง
การอุดตันของสายระบายน้ำในโพรงสมอง
ภาวะโพรงสมองตีบแคบ
ภาวะเลือดออกในศรีษะเนื่องจากการผ่าตัด
เกิดแผลเป็นที่สมอง
ก่อนผ่าตัด
อาจเกิดความดันในกะโหลกศีรษะสูงจากการคั่งของน้ำไขสันหลัง
จัดท่านอนศีรษะสูง 15-30 องศา
ประเมินอาการความดันในกระโหลกศีรษะสูง
วัดเส้นรอบวงศีรษะทุกวันเวลาเดียวกัน
อาจเกิดแผลกดทับบริเวณศีรษะ
จัดให้นอนบนที่นอนนุ่มๆ ใช้หมอนนุ่มรองศีรษะไหล่
เปลี่ยนท่านอนบ่อยๆ
รักษาความสะอาดของผิวหนัง
จัดปูที่นอนให้เรียบตึง
ตรวจสอบประเมินการเกิดแผลกดทับสม่ำเสมอ
อาจเกิดภาวะขาดสารน้ำและอาหารเนื่องจากการสำรอกอาเจียนหรือดูดนมได้น้อย
ดูแลให้รับนมน้ำครั้งละน้อยๆโดยแบ่งให้บ่อยครั้ง
ขณะให้นมอุ้มท่าศีรษะสูงเสมอ
หลังให้นมจับเรอไล่ลม
Spina bifida
ชนิด
Spina bifida occulta
Meningocele
Myelomeningocele
การวินิจฉัย
มีประวัติติดเชื้อขณะตั้งครรภ์ พบ Alphafetoprotien ในน้ำคร่ำสูง
การตรวจร่างกายทารกพบความผิดปกติ
การรักษา
การรักษา
การผ่าตัดเย็บปิดถุงที่ยื่นออกมา
การพยาบาล
อาจเกิดการติดเชื้อ เนื่องจากถุงน้ำแตก
จัดท่านอนตะแคงหรือนอนคว่ำ
ไม่นุ่งผ้าอ้อม
ดูแลถุงน้ำให้ชุ่มชื่น ระวังไม่ให้เกิดแผล
หมั่นตรวจสอบการฉีกขาด รั่ว
ประเมินการติดเชื้อ
อาจมีการติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะเนื่องจากการคั่งของน้ำปัสสาวะ
ทำ Crede’manuever ทุก 2-4 hr
ทำความสะอาดทุกครั้งหลังขับถ่าย
ให้ยา Antibiotic ตามแผนการรักษา
มีกล้ามเนื้อแขนขาอ่อนแรงจากการกดเบียดเส้นประสาทไขสันหลัง
ทำ Passive Exercise ให้ผู้ป่วย
สอนผู้ปกครองในการกระตุ้นการเคลื่อนไหวของผู้ป่วย
สังเกตอาการอ่อนแรงของแขนขาการควบคุมการขับถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ
หลังผ่าตัด
มีโอกาสติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัดได้ง่ายจากการปนเปื้อนอุจจาระปัสสาวะ
จัดท่านอนตะแคงหรือคว่ำ ไม่นุ่งผ้าอ้อม
ดูแลทำความสะอาดแผล
ดูแลให้ยา Antibiotic
check V/S
เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด
ตรวจสอบสัญญาณชีพ อาจทุก 2-4 hr
เฝ้าระวังและสังเกตภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญคือ แผลติดเชื้อ และ Hydrocephalus
วัดเส้นรอบศีรษะทุกวันเพื่อประเมินภาวะHydrocephalus
บริหารแขนขา/ เปลี่ยนท่านอนบ่อยๆ
กลุ่มอาการดาวน์ (Down ’s syndrome)
ความผิดปกติทางโครโมโซมคู่ที่ 21
อุบัติการณ์ ประมาณ 1:1,000
โอกาสเสี่ยงจะสูงขึ้นถ้ามารดามีอายุมากกว่า 30 ปี ชัดเจนมากถ้าอายุมากกว่า 35 ปี
บิดามารดาของผู้ป่วยจะมีโครโมโซมปกติ
อาการ
กล้ามเนื้ออ่อนปวกเปียก (hypotonia)
หัวแบนกว้าง (brachiocephaly)
คอสั้นและผิวหนังด้านหลังของคอค่อนข้างมากและนิ่ม
หูติดอยู่ต่ำ
brush field spot
ปากอ้าและลิ้นมักจะยื่นออก และมีรอยแตกที่ลิ้น
-มือกว้างและสั้น มักจะมี simian crease
นิ้วก้อยโค้งงอ(clinodactyly)
ร่องระหว่างนิ้วโป้งเท้าและนิ้วชี้กว้าง
พบ distal triradius ในฝ่ามือ
ทางเดินอาหารอุดตัน ที่พบบ่อยคือ duodenum stenosis
Hypothyroidism
ร่างกายเจริญเติบโตช้า
Polycythemia
ความผิดปกติเกี่ยวกับตา
ต้อกระจก
ต้อหิน
ตาเข
สายตาสั้น
ความผิดปกติเกี่ยวกับหู
ช่องรูหูเล็ก
มีปัญหาการได้ยิน
อวัยวะเพศของผู้ชายอาจเล็กกว่าปกติ
พัฒนาการทางเพศช้า
หัวใจพิการแต่กำเนิด
การติดเชื้อ โดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจเกิดง่ายกว่าเด็กทั่วไป
การรักษา
การกระตุ้นและส่งเสริมพัฒนาการให้เหมาะสมตามวัยตั้งแต่อายุยังน้อย(early stimulation)
การรักษาโรคทางกายอื่นๆที่มีร่วมด้วย
การให้คำปรึกษาแนะนำด้านพันธุกรรม
Guillain Barre ‘s Syndrome
กลุ่มอาการของโรคที่เกิดจากการบวมอักเสบของระบบประสาทส่วนปลายหลายๆเส้นอย่างเฉียบพลัน
เกิดขึ้นหลังจากมีการติดเชื้อในร่างกาย
สาเหตุ
เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานผิดปกติ
มีการสร้างแอนติบอดีย์ต่อ Myelin sheath ของเส้นประสาทไขสันหลัง
spinal nerve roots
ทำให้ไขสันหลังไม่สามารถติดต่อสั่งงานมายังกล้ามเนื้อได้ตามปกติ
อาการ
Sensation
เริ่มมีอาการเหน็บชา เจ็บ และปวดโดยเฉพาะปลายแขนปลายขา ไหล่ สะโพก และโคนขา
อาการคล้ายเป็นตะคริวที่ส่วนปลาย
อาจรุนแรงต้องให้ยาแก้ปวด
อาการอ่อนแรง ชา สูญเสีย reflex
motor
กล้ามเนื้ออ่อนแรง (Flaccid motor paralysis) ทั้งสองข้างสมดุลกัน
อาการอัมพาตในGBS จะเริ่มต้นที่ขา
เดินลำบาก
ลามไปถึงกล้ามเนื้อทรวงอก แขนทั้งสองข้าง
ในรายที่ไม่รุนแรงอาจเกิดแค่ปลายเท้าตกเท่านั้น
ลุกลามไปที่กล้ามเนื้อที่ช่วยในการหายใจทำให้หายใจล้มเหลว
อาการของประสาทสมอง
ความผิดปกติประสาทสมองคู่ที่ 7 (Facaial nerve)
มีอัมพาตของหน้า
ปิดตา
ปากไม่สนิท
ความผิดปกติของการ
แสดงสีหน้า
อาการกลืน พูด และหายใจลำบาก
ความผิดปกติ (Glossophryngeal nerve)
ความผิดปกติ (Vagus nerve)
อาการลุกลามของประสาทอัตโนมัติ
medulla oblongata
ควบคุมการทำงานของอวัยวะสำคัญและเส้นประสาท vagus
เกิดความผิดปกติร่วมด้วยจะเกิดอาการผิดปกติในระบบประสาทอัตโนมัติ
การเต้นหัวใจผิดจังหวะ
ความดันโลหิตไม่คงที่
หัวใจเต้นช้าหรือเร็ว
หน้าแดง
เหงื่อออก
ปัสสาวะคั่ง
ท้องอืดจาก paralytic ileus
การรักษา
การรักษาด้วยการเปลี่ยนถ่ายพลาสมา Plasmapheresis
การรักษาด้วย Intravenous Immunglobulin (IVIG)
มีความเสี่ยงน้อยกว่าการแลกเปลี่ยนพลาสม่า
ข้อเสียคือราคาแพงและมีโอกาสกับเป็นซ้ำได้มากกว่า
ภายใน2-4 สัปดาห์หลังจากเริ่มมีอาการครั้งแรกจะสามารถช่วยชีวิตได้เร็วขึ้น
วินิจฉัยการพยาบาล
เสี่ยงต่อการเกิดการหายใจไม่เพียงพอจากกล้ามเนื้อช่วยหายใจอ่อนแรงอย่างเฉียบพลัน
เสียงต่อการขาดสารอาหารจากไม่สามารถช่วยตนเองจากกล้ามเนื้ออ่อนแรงอย่างสมบูรณ์
เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการไม่เคลื่อนไหวจากกล้ามเนื้ออ่อนแรงทำให้สูญเสียความสามารถในการดูแลตนเอง
พักผ่อนไม่เพียงพอ
ทุกข์ทรมานจากอาการปวดกล้ามเนื้อ
ขาดการติดต่อสื่อสารกับบุคคลอื่นๆจากไม่สามารถพูดได้
ผู้ป่วยและญาติกลัว วิตกกังวล ท้อแท้ กับอาการของโรคที่เป็น จากการขาดความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับโรคและการปฏิบัติตัวตลอดจนการฟื้นฟูสภาพ
การพยาบาล
Check vital sign โดยเฉพาะ RR ต้องมีการตรวจวัด vital capacity , tidal volumeหรือ minute volume
ให้ออกซิเจน ถ้ามีภาวการณ์หายใจไม่พอจำเป็นต้องใส่ท่อช่วยหายใจพร้อมเครื่องช่วยหายใจ
ติดตามประเมินการเคลื่อนไหว กำลังของกล้ามเนื้อ การรับรู้สัมผัส สภาวะของmotor sensory และ cranial nerve ช่วยเหลือฟื้นฟูสภาพ Observe อาการแทรกซ้อนจากการ จำกัดการเคลื่อนไหว
ดูแลปัญหาการขาดสารอาหาร เนื่องจากผู้ป่วยจะมีน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว ต้องการพลังงานในการหย่าเครื่องช่วยหายใจ ทำให้ได้รับอาหารไม่เพียงพอ
สังเกตอาการปวดตามกล้ามเนื้อ
ประคับประคองด้านจิตใจ ส่งเสริมการมองโลกในแง่ดีสำหรับผู้ป่วย
ผู้จัดทำ
นางสาว พิมพิศา รักษาสิทธิ์ 36/2 เลขที่ 7 612001087
อ้างอิง
วิริยาภรณ์ แสนสมรส.(2563).บทที่ 11 การพยาบาลเด็กที่ปัญหาทางระบบประสาท. สืบค้น 27 มิถุนายน 2563.จาก
https://classroom.google.com/u/1/w/NzMzNjU4Njc4NDla/tc/NTc1NjI3NTkyNzJa