Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 4 พรบ. วิชาชีพพยาบาล, นางสาวจิณห์วรา จันทราโยธากร 6001210835 34_B -…
บทที่ 4 พรบ. วิชาชีพพยาบาล
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติ ข้ึนไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของรัฐสภา ดังต่อไปน้ี
“ การพยาบาล ” หมายความว่า การกระทำต่อมนุษย์เกี่ยวกับการดูแลและการช่วยเหลือ เมื่อเจ็บป่วย การฟื้นฟูสภาพ การป้องกันโรค และการส่งเสริมสุขภาพ รวมทั้งการช่วยเหลือแพทย์กระทำการรักษาโรค ทั้งน้ีโดยอาศัยหลักวิทยาศาสตร์และศิลปะการพยาบาล
“ การผดุงครรภ์ ” หมายความว่า การกระทำเกี่ยวกับการดูแลและการช่วยเหลือ หญิงมีครรภ์ หญิงหลังคลอด และทารกแรกเกิด รวมถึงการตรวจ การทำคลอด การส่งเสริมสุขภาพและป้องกัน ความผิดปกติในระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอด และระยะหลังคลอด รวมทั้งการช่วยเหลือแพทย์กระทำการรักษาโรค ทั้งน้ี โดยอาศัยหลักวิทยาศาสตร์และศิลปะการผดุงครรภ์
มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัติน้ี
“ วิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ” หมายความว่า วิชาชีพเก่ียวกับการพยาบาล และการผดุงครรภ์
“ การประกอบวิชาชีพการพยาบาล ” หมายความว่า การปฏิบัติหน้าที่การพยาบาลต่อบุคคล ครอบครัว และชุมชน โดยการกระทำต่อไปน้ี
การกระทำต่อร่างกายและจิตใจของบุคคล รวมทั้งการจัดสภาพแวดล้อม เพื่อการแก้ปัญหา ความเจ็บป่วย การบรรเทาอาการของโรค การลุกลามของโรค และการฟื้นฟูสภาพ
การกระทำตามวิธีที่กำหนดไว้ในการรักษาโรคเบื้องต้น และการให้ภูมิคุ้มกันโรค
การสอน การแนะนำ การให้คำปรึกษาและการแก้ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพอนามัย
ช่วยเหลือแพทย์กระทำการรักษาโรค
มาตรา ๓ บรรดาบทกฎหมาย กฎ และข้อบังคับอื่นในส่วนที่มีบัญญัติไว้แล้วในพระราชบัญญัติน้ี หรือซึ่งขัดหรือแย้งกับบทแห่งพระราชบัญญัติน้ีให้ใช้พระราชบัญญัตินี้แทน
“การประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์” หมายความว่า การปฏิบัติหน้าที่การผดุงครรภ์ต่อหญิงมีครรภ์ หญิงหลังคลอด ทารกแรกเกิดและครอบครัว โดยการกระทำต่อไปน้ี
การกระทำต่อร่างกายและจิตใจของหญิงมีครรภ์ หญิงหลังคลอดและทารกแรกเกิด เพื่อป้องกัน ความผิดปกติในระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอด และระยะหลังคลอด
การตรวจ การทำคลอด และการวางแผนครอบครัว
การสอน การแนะนำ การให้คำปรึกษาและการแก้ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพอนามัย
ช่วยเหลือแพทย์กระทำการรักษาโรค
มาตรา ๒ พระราชบัญญัติน้ีให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
“ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ” หมายความว่า บุคคลซึ่งได้ข้ึนทะเบียนและรับใบอนุญาต เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลจากสภาการพยาบาล
มาตรา ๑ พระราชบัญญัติน้ีเรียกว่า “พระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ. ๒๕๒๘ ”
หมวด ๑ สภาการพยาบาล
มาตรา ๘ มีอำนาจหน้าที่
สั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์
ให้ความเห็นชอบหลักสูตรการศึกษาวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ในระดับอุดมศึกษาของสถาบันการศึกษาท่ีจะทำการสอนวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ เพื่อเสนอต่อทบวงมหาวิทยาลัย
รับข้ึนทะเบียนและออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ขอเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์
รับรองหลักสูตรต่างๆ สำหรับการศึกษาในระดับประกาศนียบัตรของสถาบันที่จะทำการสอนวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
รับรองหลักสูตรต่างๆ สำหรับการฝึกอบรมในวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ของ สถาบันการศึกษาท่ีจะทำการฝึกอบรมในวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
รับรองวิทยฐานะของสถาบันที่ทำการสอนและฝึกอบรมตามข้อ ๔ และ ๕
รับรองปริญญาประกาศนียบัตรเทียบเท่าปริญญา ประกาศนียบัตร หรือวุฒิบัตรในวิชาชีพ การพยาบาลและการผดุงครรภ์ของสถาบัน ต่างๆ
ออกหนังสืออนุมัติหรือวุฒิบัตรเกี่ยวกับความรู้หรือความชำนาญเฉพาะทางและหนังสือ แสดงวุฒิอื่นในวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ให้แก่ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์
ดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของสภาการพยาบาล
มาตรา ๙ สภาการพยาบาลอาจมีรายได้ ดังต่อไปน้ี
ผลประโยชน์จากกิจกรรมอื่นของสภาการพยาบาลตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดในมาตรา ๗
เงินและทรัพย์สินซึ่งมีผู้ให้แก่สภาการพยาบาล
ค่าจดทะเบียนสมาชิกสามัญค่าบำรุง และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ
ดอกผลของเงินและทรัพย์สินอื่นตามข้อ ๑,๒,๓ และ ๔
เงินอุดหนุนจากงบประมาณแผ่นดิน
มาตรา ๗ มีวัตถุประสงค์
ส่งเสริมความสามัคคีและผดุงเกียรติของสมาชิก
ช่วยเหลือ แนะนำ เผยแพร่ และให้การศึกษาแก่ประชาชนและองค์กรอื่นในเรื่องท่ีเก่ียวกับการพยาบาล การผดุงครรภ์ และการสาธารณสุข
ส่งเสริมการศึกษา การบริการ การวิจัย และความก้าวหน้าในวิชาชีพการพยาบาลการผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์
ให้คำปรึกษา หรือข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลเกี่ยวกับปัญหาการพยาบาล การผดุงครรภ์และการสาธารณสุข
ควบคุมความประพฤติของผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลการผดุงครรภ์หรือการพยาบาล
และการผดุงครรภ์ ให้ถูกต้องตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
เป็นตัวแทนของผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์ในประเทศไทย
ผดุงความเป็นธรรมและส่งเสริมสวัสดิการให้แก่สมาชิก
มาตรา ๖ ให้มีสภาการพยาบาลมีวัตถุประสงค์และอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติน้ี ให้สภาการพยาบาลเป็นนิติบุคคล
“ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ” หมายความว่า บุคคลซึ่งได้ข้ึนทะเบียนและรับใบอนุญาต เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์จากสภาการพยาบาล
“ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ” หมายความว่า บุคคลซึ่งได้ข้ึนทะเบียน และรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์จากสภาการพยาบาล
“ใบอนุญาต” หมายความว่า ใบอนุญาตซึ่งสภาการพยาบาลออกให้แก่ผู้ประกอบวิชาชีพ การพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์
หมวด ๒ สมาชิก
มาตรา ๑๑ สภาการพยาบาลประกอบด้วย
สมาชิกสามัญ ได้แก่
ไม่เป็นผู้ประพฤติเสียหาย ซึ่งคณะกรรมการเห็นว่าจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสีย เกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ
ไม่เคยต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงท่ีสุด หรือคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายให้จำคุกในคดีที่คณะกรรมการเห็นว่าจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ
มีความรู้ในวิชาชีพการพยาบาลหรือการผดุงครรภ์ โดยได้รับปริญญา ประกาศนียบัตรเทียบเท่าปริญญา หรือประกาศนียบัตรในสาขาการพยาบาลการผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ที่สภาการพยาบาลรับรอง
ไม่เป็นผู้มีจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือไม่เป็นโรคที่กำหนดไว้ในข้อบังคับสภาการพยาบาล
มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์
สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่ ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งสภาการพยาบาลเชิญให้เป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์
มาตรา ๑๒ สิทธิและหน้าที่ของสมาชิกสามัญ
เลือกตั้ง รับเลือกตั้ง หรือรับเลือกเป็นกรรมการ
ผดุงไว้ซึ่งเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพและปฎิบัติตนตามพระราชบัญญัติน้ี
แสดงความเห็นเป็นหนังสือเกี่ยวกับกิจการของสภาการพยาบาลส่งไปยังคณะกรรมการเพื่อ พิจารณา และในกรณีที่สมาชิกสามัญร่วมกันตั้งแต่ห้าสิบคนข้ึนไปเสนอให้คณะกรรมการพิจารณาเรื่องใดท่ีเกี่ยวกับกิจการของสภาการพยาบาล คณะกรรมการต้องพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้เสนอ ทราบโดยมิชักช้า
ขอข้ึนทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือ การพยาบาลและการผดุงครรภ์ และขอหนังสืออนุมัติ หรือวุฒิบัตรเกี่ยวกับความรู้หรือความชำนาญ เฉพาะทางหรือหนังสือแสดงวุฒิอื่นในวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ โดยปฏิบัติตามข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยการน้ัน
มาตรา ๑๓ สมาชิกภาพของสมาชิกสามัญสิ้นสุดลงเมื่อ
ลาออก
ขาดคุณสมบัติตามมาตรา ๑๑
ตาย
หมวด ๓ คณะกรรมการ
มาตรา๑๔ ให้มีคณะกรรมการสภาการพยาบาล ประกอบด้วย
ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข 5 คน
ผู้แทนกระทรวงกลาโหม 3 คน
ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย 1 คน
ผู้แทนทบวงมหาวิทยาลัย 4 คน
ผู้แทนกรุงเทพมหานคร 1คน
ผู้แทนสภากาชาดไทย 1 คน
นายกสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีและสมาชิกสามัญ สภาการพยาบาลอีก 16 คนซึ่งได้รับเลือกตั้ง โดยสมาชิกสามัญของสภาการพยาบาล เป็นกรรมการ และให้เลขาธิการเป็นกรรมการและเลขานุการ
มาตรา ๑๕
คณะกรรมการอาจแต่งตั้ง สมาชิกกิตติมศักดิ์หรือสมาชิกสามัญเป็นกรรมการที่ปรึกษาได้
จำนวนกรรมการที่ปรึกษาต้องไม่เกินหน่ึงในสี่ของคณะกรรมการ
มาตรา ๑๖
ให้คณะกรรมการเลือกกรรมการเพื่อดำรงตาแหน่งนายกสภาการพยาบาลอุปนายก สภาการพยาบาลคนท่ีหน่ึง และอุปนายกสภาการพยาบาลคนท่ีสอง ตำแหน่งละหน่ึงคน
มาตรา ๑๗
การเลือกตั้งกรรมการตามมาตรา ๑๔ การแต่งตั้งกรรมการท่ีปรึกษาตามมาตรา ๑๕ และการเลือกกรรมการเพื่อดำรงตำแหน่งต่างๆ ตามมาตรา ๑๖ ให้เป็นไปตามข้อบังคับสภาการพยาบาล
มาตรา ๑๘
กรรมการนอกจากปลัดกระทรวงสาธารณสุขและกรรมการที่ปรึกษาต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปน้ี
ไม่เคยถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาต
ไม่เคยเป็นบุคคลล้มละลาย
เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์
มาตรา ๑๙
ให้กรรมการซึ่งได้รับแต่งตั้งและรับเลือกตั้ง มีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละสี่ปี และ อาจได้รับแต่งตั้งหรือรับเลือกตั้งใหม่ได้ แต่จะดำรงตาแหน่งเกินสองคราวติดต่อกันไม่ได้
มาตรา ๒๐
นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระกรรมการซึ่งได้รับแต่งตั้ง และรับเลือกตั้งพ้นจากตำแหน่งเมื่อ
ขาดคุณสมบัติตามมาตรา ๑๘
ลาออก
สมาชิกภาพสิ้นสุดลงตามมาตรา ๑๓
มาตรา ๒๑
ถ้าวาระของกรรมการซึ่งได้รับการเลือกตั้ง เหลืออยู่ไม่ถึงเก้าสิบวัน คณะกรรมการจะไม่ให้มีการเลือกกรรมการแทนก็ได้
ให้ผู้ซึ่งเป็นกรรมการแทนนั้นอยู่ในตำแหน่งได้เพียงเท่าวาระที่ยังเหลืออยู่ของกรรมการซึ่งตนแทน
มาตรา ๒๒
ออกข้อบังคับสภาการพยาบาล
แต่งตั้งคณะอนุกรรมการจริยธรรม คณะอนุกรรมการสอบสวนและคณะอนุกรรมการอื่น
บริหารกิจการสภาการพยาบาลให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดตามมาตรา ๗
มาตรา ๒๓
นายกสภาการพยาบาลมีอำนาจหน้าที่
ดำเนินกิจการของสภาการพยาบาลให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติน้ี หรือตามมติของคณะกรรมการ
เป็นประธานในที่ประชุมคณะกรรมการ
เป็นผู้แทนสภาการพยาบาลในกิจการต่างๆ
อุปนายกสภาการพยาบาลคนท่ีหน่ึงเป็นผู้ช่วยนายกสภาการพยาบาล
อุปนายกสภาการพยาบาลคนที่สองเป็นผู้ช่วยนายกสภาการพยาบาลในกิจการอันอยู่ใน อำนาจหน้าที่ของนายกสภาการพยาบาลตามที่นายกสภาการพยาบาลมอบหมายและเป็นผู้ทำการแทนนายกสภาการพยาบาล
เลขาธิการมีอำนาจหน้าที่
ควบคุมรับผิดชอบในงานธุรการทั่วไปของสภาการพยาบาล
รับผิดชอบในการดูแลรักษาทะเบียนสมาชิก ทะเบียนผู้ประกอบวิชาชีพการ
พยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์ และทะเบียนอื่นๆ
ควบคุมบังคับบัญชาเจ้าหน้าที่สภาการพยาบาลทุกระดับ
ควบคุม ดูแล ทรัพย์สินของสภาการพยาบาล
เป็นเลขานุการคณะกรรมการ
รองเลขาธิการเป็นผู้ช่วยเลขาธิการในกิจการอันอยู่ในอำนาจหน้าที่ของเลขาธิการตามที่เลขาธิการมอบหมายและเป็นผู้กระทำการแทนเลขาธิการ
ประชาสัมพันธ์มีหน้าที่ในการประชาสัมพันธ์ แนะนำ เผยแพร่กิจการของสภาการพยาบาล
เหรัญญิกมีอำนาจหน้าที่ควบคุม ดูแล รับผิดชอบการบัญชี การเงินและการงบประมาณของสภาการพยาบาล
หมวด ๔ การดำเนินกิจการของคณะกรรมการ
มาตรา ๒๔ การประชุมคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหน่ึงของจำนวน กรรมการทั้งหมด จึงจะเป็นองค์ประชุม
มาตรา ๒๕ สภานายกพิเศษจะเข้าฟังการประชุมชี้แจงแสดงความเห็นในท่ีประชุมคณะ กรรมการ หรือจะส่งความเห็นเป็นหนังสือไปยังคณะกรรมการในเรื่องใดๆ ก็ได้
มาตรา ๒๖ มติของที่ประชุมคณะกรรมการในเรื่องต่อไปน้ี ต้องไดรับความเห็นชอบจากสภานายก พิเศษก่อน จึงจะดำเนินการตามมติน้ันได้
หมวด ๕ การควบคุมการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
มาตรา ๒๗ ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล หรือมิได้เป็นผู้ประกอบ วิชาชีพการผดุงครรภ์ หรือมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ โดยมิได้ข้ึนทะเบียนและรับใบอนุญาต
มาตรา ๒๘ การข้ึนทะเบียน การออกใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต การออกหนังสือ อนุมัติหรือวุฒิบัตรเก่ียวกับความรู้หรือความชำนาญเฉพาะทาง และหนังสือแสดงวุฒิอื่นในวิชาชีพการ พยาบาลและการผดุงครรภ์ ให้เป็นไปตามข้อบังคับสภาการพยาบาล
มาตรา ๒๙ การข้ึนทะเบียนและออกใบอนุญาตให้แบ่งเป็นสามประเภท คือ ผู้ประกอบวิชาชีพ การพยาบาล ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์และผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
มาตรา ๓๐ ผู้มีสิทธิข้ึนทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพตามมาตรา ๒๙
มาตรา ๓๑ ผู้ขอข้ึนทะเบียนและรับใบอนุญาตต้องเป็นสมาชิกสามัญแห่งสภาการพยาบาลและ มีคุณสมบัติอื่นตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับสภาการพยาบาล
มาตรา ๓๓ บุคคลผู้ซึ่งได้รับความเสียหายเพราะผปู้ระกอบวชิาชีพการพยาบาลการผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ มีสิทธิกล่าวหาผู้ก่อให้เกิดความเสียหายนั้น โดยทำเรื่องยื่นต่อสภาการพยาบาล
มาตรา ๓๔ เมื่อสภาการพยาบาลได้รับเรื่องการกล่าวหา หรือการกล่าวโทษตามมาตรา ๓๓ หรือในกรณีท่ีคณะกรรมการมีมติว่ามีพฤติการณ์อันสมควรให้มีการพิจารณาเกี่ยวกับจริยธรรมแห่งวิชาชีพ ของผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์
มาตรา ๓๕ ให้คณะกรรมการแต่งตั้ง คณะอนุกรรมการจริยธรรมจากสมาชิกสามัญประกอบด้วยประธานคนหน่ึง และอนุกรรมการมีจำนวนรวมกัน ไม่น้อยกว่าสามคนมีหน้าที่แสวงหาข้อเท็จจริงใน เรื่องที่ได้รับตามมาตรา ๓๔ แล้วทำรายงานพร้อมทั้ง ความเห็นเสนอต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณา
มาตรา ๓๖ เมื่อคณะกรรมการได้รับรายงานและความเห็นของคณะอนุกรรมการจริยธรรมแล้วให้คณะกรรมการพิจารณารายงานและความเห็นดังกล่าว
มาตรา ๓๗ ให้คณะกรรมการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวนจากสมาชิกสามัญประกอบ ด้วยประธานคนหน่ึง และอนุกรรมการมีจานวนรวมกนั ไม่น้อยกว่าสามคนมีหน้าที่สอบสวน
มาตรา ๓๘ ในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะอนุกรรมการจริยธรรมและของคณะอนุกรรมการ สอบสวนตามพระราชบัญญัติน้ี ให้อนุกรรมการจริยธรรมและอนุกรรมการสอบสวนเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๓๙ ให้ประธานอนุกรรมการสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา หรือข้อกล่าวโทษพร้อมทั้งส่งสำเนาเรื่องท่ีกล่าวหา หรือกล่าวโทษ ให้ผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ถูกกล่าวโทษไม่น้อยกว่าสิบห้าวนั ก่อนวนั เริ่ม ทาการสอบสวน
มาตรา ๔๐ เมื่อคณะอนุกรรมการสอบสวนทาการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้วให้เสนอสำนวนการ สอบสวนพร้อมท้ังความเห็นต่อคณะกรรมการโดยไม่ชักช้าเพื่อวินิจฉัยชี้ขาด
มาตรา ๔๑ เมื่อคณะกรรมการได้รับสำนวนการสอบสวน และความเห็นของคณะอนุกรรมการ สอบสวนแล้ว ให้คณะกรรมการพิจารณาสำนวนการสอบสวนและความเห็นดังกล่าว
มาตรา ๔๒ ให้เลขาธิการแจ้งคำสั่งสภาการพยาบาลตามมาตรา ๔๑ ไปยังผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ถูกกล่าวโทษเพื่อทราบโดยไม่ชักช้าและให้บันทึกข้อความตามคำสั่งน้ันไวในทะเบียนผู้ประกอบวิชาชีพ การพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์ด้วย
มาตรา ๔๓ ภายใต้บังคับ มาตรา ๒๗ ห้ามมิให้ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ซึ่งอยู่ระหว่างถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือซึ่งถูกสั่งเพิกถอนใบอนุญาต ประกอบวิชาชีพดังกล่าวหรือแสดงด้วยวิธีใด ๆ
มาตรา ๔๔ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลการผดุงครรภ์หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ซึ่งอยู่ในระหว่างถูกส่ังพักใช้ใบอนุญาต ผู้ใดกระทาการฝ่าฝืนมาตรา ๔๓ และถูกลงโทษจำคุกตาม มาตรา ๔๖ โดยคำพิพากษาถึงที่สุด
หมวด ๕ ทวิ พนักงานเจ้าหน้าท่ี
มาตรา ๔๕ ทวิ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้า ไปในสถานที่ต่อไปน้ี เพื่อตรวจสอบใบอนุญาต ค้นหรือยืดเอกสารหลักฐานหรือสิ่งของที่อาจใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาหรือดำเนินคดี
มาตรา ๔๕ ตรีในการปฏิบัตืหน้าที่พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องแสดงบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่แก่บุคคลที่เกี่ยวข้อง
มาตรา ๔๕ จัตวา ในการปฏิบัติหน้าที่ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๔๕ เบญจในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ให้ผู้รับผิดชอบหรือปฏิบัติหน้า ที่ ในสถานที่ตามมาตรา ๔๕ ทวิ อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่
หมวด ๖ บทกำหนดโทษ
มาตรา ๔๖ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๒๗ หรือมาตรา ๔๓ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือ ปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๔๗ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๓๑ วรรคสามต้องระวางโทษปรับไม่เกินหน่ึงพันบาท
มาตรา ๔๘ ผู้ใดไม่มาให้ถ้อยคำ หรือไม่ส่งเอกสารหรือวัตถุใดๆ ตามที่เรียกหรือแจ้งใหสั่งตาม มาตรา ๓๘ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหน่ึงเดือน หรือปรับไม่เกินหน่ึงพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๔๘ ทวิ ผู้ใดไม่อำนวยความสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าท่ีตามความในมาตรา ๔๕ เบญจต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหน่ึงเดือนหรือปรับไม่เกินหน่ึงพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข้อบังคับสภาการพยาบาล
หมวด ๑ บททั่วไป
ขอ ๔ ในขอบังคับนี้
“การเจ็บป่วยฉุกเฉิน” หมายความว่า การเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน จําเป็นต้อง ดําเนินการช่วยเหลือและการดูแลรักษาทันที และให้หมายความรวมถึงการปฐมพยาบาล การปฏิบัติและ การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินและวิกฤต โดยเริ่มตั้งแต่จุดเกิดเหตุ หรือจุดแรกพบผู้ป่วย จนกระทั่งผู้ป่วย ได้รับการรักษาที่ถูกวิธีจากแพทย์
หมวด ๒ การประกอบวิชาชีพการพยาบาล
ส่วนที่ ๒ การทําหัตถการ
ส่วนที่ ๓ การรักษาโรคเบื้องต้น
ส่วนที่ ๑ การพยาบาล
ข้อ ๓ ให้ยกเลิก
ข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยข้อจํากัดและเงื่อนไขในการประกอบวิชาชีพ การพยาบาลและการผดุงครรภ์และการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ. ๒๕๓๐
ให้ยกเลิกข้อบังคับสภาการพยาบาล ว่าด้วยข้อจํากัดและเงื่อนไขในการ ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์และการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพการพยาบาลและ การผดุงครรภ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๔
หมวด ๓ การประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์
ข้อ ๑๘ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและ การผดุงครรภ์ช้ันหนึ่ง จะให้ยาผู้ป่วยได้เฉพาะที่แพทย์ ซึ่งเป็นผู้บําบัดโรคได้ระบุไว้ในแผนการ รักษาพยาบาล หรือเมื่อเป็นการปฐมพยาบาล
ข้อ ๑๙ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ช้ันหน่ึง จะทําการผดุงครรภ์ได้แต่เฉพาะรายท่ีมีครรภ์ปกติ และคลอดอย่างปกติ ตลอดจนการพยาบาลมารดาและทารก
ข้อ ๑๗ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นสอง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและ การผดุงครรภ์ ชั้นสอง จะทําการผดุงครรภ์ได้แต่เฉพาะรายที่มีครรภ์ปกติ และคลอดอย่างปกติ ตลอดจนการพยาบาลมารดาและทารก
ข้อ ๒๐ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ทั้งช้ันหนึ่งและชั้นสอง จะต้องใช้ยาทําลายและป้องกันการติดเชื้อสําหรับหยอดตา หรือป้ายตาทารก เมื่อคลอดแล้วทันที
ข้อ ๑๖ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นสอง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและ การผดุงครรภ์ ชั้นสอง จะให้ยาผู้ป่วยได้เฉพาะที่แพทย์ ซึ่งเป็นผู้บําบัดโรคได้ระบุไว้ในแผนการ รักษาพยาบาล หรือเมื่อเป็นการปฐมพยาบาล
ข้อ ๒๑ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ทั้งชั้นหนึ่งและชั้นสอง จะต้องบันทึกการรับฝากครรภ์และการทําคลอดทุกรายในสมุดบันทึกการผดุงครรภ์ ตามแบบของสภาการพยาบาล และต้องรักษาสมุดนั้นไว้เป็นหลักฐาน
ข้อ ๒ ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับสภาการพยาบาล ว่าด้วยข้อจํากัดและเงื่อนไขในการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ. ๒๕๕๐”
ข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยข้อจํากัดและในการประกอบวิชาชีพ การพยาบาลและการผดุงครรภ์ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ.๒๕๖๒
ข้อ ๓ การเจาะเก็บตัวอย่างเลือด เพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ต้องมีวัตถุประสงค์เพื่อ
(๒) การวางแผนบำบัดหรือรักษาโรค
(๓) การประเมินภาวะสุขภาพของบุคคล
(๑) การตรวจวิเคราะห์หรือการวินิจฉัยโรค
(๔) การบริจาคโลหิต
ข้อ ๔ การเจาะเก็บตัวอย่างเลือดต้องเป็นแนวปฏิบัติทางการพยาบาล (Clinical Nursing Practice Guideline (CNPG)) หรือเป็นแนวปฏิบัติทางเวชกรรม (Clinical Practice Guideline (CPG)) และ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลไม่เป็นผู้ตรวจวิเคราะห์หรือวินิจฉัย
ข้อ ๒ ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับต้ังแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๕ การเจาะเก็บตัวอย่างเลือด ต้องเป็นการเจาะเก็บตัวอย่างเลือดจากเส้นเลือดฝอยปลายนิ้ว หรือจากหลอดเลือดดำส่วนปลาย
ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับสภาการพยาบาล ว่าด้วยข้อจากัดและเงื่อนไข ในการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒”
ข้อ ๖ การเก็บตัวอย่างเลือดจากหลอดเลือดแดงหรือหลอดเลือดดาส่วนกลาง ตามแผนการรักษา ให้จัดเก็บจากสายสวนหลอดเลือดแดงหรือหลอดเลือดดำส่วนกลาง ท่ีผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ได้เปิดไว้แล้ว
ข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยข้อจํากัดและในการประกอบวิชาชีพ การพยาบาลและการผดุงครรภ์ (ฉบับที่๒) พ.ศ.๒๕๕๓
ข้อ ๔. ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลชั้นหนึ่งให้กระทําการพยาบาลโดยการกระทําหัตถการ
การขูดหาเชื้อจากแผลกระจกตา (Corneal scraping and curette) และส่งเพาะเชื้อจากบริเวณแผลกระจกตา
การวัดกำลังเลนส์แก้วตาเทียม (Intraocular lens power measurement) ด้วยเครื่องมือที่เหมาะสม
การวัดค่าสายตาผิดปกติ (Refraction) ด้วยเครื่องมือ retinoscope หรือ autorefractor และทดลองเลนส์แว่นตา (Trial Lens set)
การล้างท่อนํ้าตา (Lacrimal sac irrigation) ยกเว้น ผู้ป่วยอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถให้ รวมมือได้ เช่น ผู้ป่วยเด็กเล็กหรือผู้ที่มีสติไม่สมบูรณ์
การเขี่ยส่ิงแปลกปลอมออกจากตา (Remove conjunctival or corneal foreign body)
การเจาะตากุ้งยิง (Incision and curette) ยกเว้นกรณีตากุ้งยิงอยู่ใกล้ท่อน้ําตา หรือ ผู้ป่วยอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถให้ร่วมมือได้ เช่น ผู้ป่วยเด็กเล็ก หรือผู้ที่มีสติไม่สมบูรณ์
ข้อ ๓. ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง หรือผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหน่ึงที่ผ่านการอบรมหลักสูตรพยาบาลเวชปฏิบัติทางตาที่สภาการพยาบาลให้การรับรอง และได้ขึ้นทะเบียนเป็นพยาบาลเวชปฏิบัติทางตากับสภาการพยาบาล ให้กระทําการพยาบาล การคัดกรองผู้ป่วย การเจ็บป่วยทางตาฉุกเฉิน หรือการเจ็บป่วยวิกฤต และการฟื้นฟูสมรรถภาพการมองเห็น
ข้อ ๒. ข้อบังคับน้ีให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๑. ข้อบังคับน้ีเรียกว่า “ข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยข้อจํากัดและเงื่อนไขในการ ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๓
ข้อ ๕ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลชั้นหนึ่ง กระทําการรักษาโรคเบื้องต้น
๕.๒ การตรวจประเมินสภาพผู้ป่วยและสายตาโดยการซักประวัติ ตรวจคัดกรองผู้ป่วยโรคตา
ข้อ ๖ ส่งต่อผู้ป่วยไปรับการบําบัดรักษาจากผู้ประกอบวิชาชีพอื่นเมื่อปรากฏ ตรวจพบ หรือ เห็นว่าอาการไม่บรรเทา มีอาการรุนแรงเพิ่มข้ึน มีโรคหรือภาวะแทรกซ้อน หรือมีเหตุอันควรอื่นๆเกี่ยวกับการบําบัดรักษา
๕.๑ ตรวจวินิจฉัยและบําบัดรักษาโรคทางตาตามมาตรฐานของการประกอบวิชาชีพ การพยาบาลโดยเคร่งครัด
ข้อ ๗ ในกรณีที่มีความจําเป็นต้องใช้ยาให้ใช้ยาได้ตามท่ีสภาการพยาบาลกําหนด
ข้อ ๘ เขียนบันทึกรายงานเก่ียวกับประวัติของผู้ป่วยหรือผู้รับบริการ อาการและการเจ็บป่วย โรคและการให้การรักษาโรคหรือการให้บริการตามความเป็นจริงและต้องเก็บบันทึกรายงานไว้เป็นหลักฐาน
ข้อบังคับสภาการพยาบาล
ว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ. ๒๕๕๐
หมวด ๒ การประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
ส่วนที่ ๒ การปฏิบัติต่อผู้ร่วมวิชาชีพ
ส่วนที่ ๓ การปฏิบัติต่อผู้ร่วมงาน
ส่วนที่ ๑ การปฏิบัติต่อผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการ
ส่วนที่ ๔ การศึกษาวิจัยและการทดลองต่อมนุษย์
หมวด ๑ บททั่วไป
ข้อ ๕ ผู้ประกอบวิชาชีพ ย่อมประกอบวิชาชีพด้วยเจตนาดี โดยไม่คํานึงถึงฐานะ เชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา สังคม หรือ ลัทธิการเมือง
ข้อ ๖ ผู้ประกอบวิชาชีพ ย่อมไม่ประพฤติหรือกระทําการใด ๆ อันอาจเป็นเหตุให้เสื่อมเสีย เกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ
ข้อ ๔ ผู้ประกอบวิชาชีพ ย่อมดํารงตนให้สมควรในสังคมโดยธรรม และเคารพต่อกฎหมาย ของบ้านเมือง
ข้อ ๓ ในข้อบังคับนี้ “ผู้ประกอบวิชาชีพ” หมายความว่า ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ และผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
หมวด ๓ การโฆษณาการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
ข้อ ๓๔ ผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ทําการเผยแพร่หรือตอบปัญหาทางสื่อมวลชน ถ้าแสดงตน ว่าเป็นผู้ประกอบวิชาชีพต้องไม่แจ้งสถานท่ีทําการประกอบวิชาชีพส่วนตัวเป็นทํานองการโฆษณาและต้องไม่มีการแจ้งความตามข้อ ๓๓ ในที่เดียวกันหรือขณะเดียวกันนั้นด้วย
ข้อ ๓๓ ผู้ประกอบวิชาชีพ อาจแจ้งความการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
เฉพาะการแสดงที่อยู่ที่ตั้งสํานักงาน หมายเลขโทรศัพท์ และหรือข้อความที่อนุญาตในข้อ ๓๒ เท่านั้น
ข้อ ๓๒ ผู้ประกอบวิชาชีพ อาจแสดงข้อความเกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและ การผดุงครรภ์ของตนที่สถานที่ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ หรือสํานักงานได้เพียง ข้อความเฉพาะเรื่อง
ข้อ ๓๐ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่โฆษณา ใช้จ้างหรือยินยอมให้ผู้อื่นโฆษณาการประกอบ วิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ความรู้ ความชํานาญในการประกอบวิชาชีพของตนหรือของผู้อื่น
ข้อ ๓๕ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องระมัดระวังตามวิสัยที่พึงมีมิให้การประกอบวิชาชีพการพยาบาล และการผดุงครรภ์ของตนแพร่ออกไปในสื่อมวลชนเป็นทํานองโฆษณาความรู้ ความสามารถ
นางสาวจิณห์วรา จันทราโยธากร 6001210835 34_B