Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การวินิจฉัยแยกโรคระบบทางเดินหายใจ : กลุ่มอาการเหนื่อย ไข้,…
การวินิจฉัยแยกโรคระบบทางเดินหายใจ : กลุ่มอาการเหนื่อย ไข้
กรณีศึกษา
ข้อมูลทั่วไป
ไม่แพ้อาหาร ชอบรับประทานอาหารรสจัด
ชื่นชอบการออกกำลังกายคือเล่นบาส ชอบทำกินกรรมกับเพื่อนตั้งแคมป์ในป่า มีการจุดไฟ
ชายไทย อายุ 19 ปี ไม่ดื่มสุรา ไม่สูบบุหรี่ อาศัยอยู่กับมารดา
ตา และ ยาย มีประวัติเป็นโรค หัวใจ หอบหืด เบาหวาน ความดันโลหิตสูง
มีประวัติเป็นหอบหืด ต้องพกยาพ่นอยู่ตลอดเวลา
ประวัติตามระบบ
ระบบหายใจ
แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก
ไอ ในช่วงเวลากลางคืน
หายใจเหนื่อยหอบ
ปอดได้ยินเสียง wheezing both lung
ระบบไหลเวียน
เจ็บแน่นหน้าอก
10 ปีที่แล้วบวมที่เท้า
7 ปีก่อน หายใจเหนื่อย ไปโรงพยาบาลเป็นระยะๆ พ่นยาเป็นระยะๆ ปัจจุบันก็ยังพ่น มักพ่นตอนทำกิจกรรม ถ้าไม่พ่นก็จะหายใจไม่ออก มีอาการเจ็บหน้าอกร่วมด้วย เวลาที่ไอมากๆ ก็จะหายใจไม่ออก
ประวัติการเจ็บป่วยปัจจุบัน
2-3 วันก่อนมาโรงพยาบาล มีไข้ต่ำๆ ไอแห้งๆ ไอมากเวลากลางคืน รู้สึกแน่นหน้าอกเวลาไอ
2 เดือนที่แล้วมีอาการไอกลางคืน แต่ ไม่เหนื่อยหอบ น้ำหนักลดลง 2 กิโลกรัม
2 ชั่วโมงก่อนมาโรงพยาบาล รู้สึกหายใจไม่ออก แน่นหน้าอก เหงื่อออก (นั่งรถเข็นมาเนื่องจากเดินไม่ไหว)
อาการสำคัญ
หายใจไม่ออก แน่นหน้าอก 2 ชั่วโมงก่อนมาโรงพยาบาล
อาการแรกรับที่ ER
RR 28-30 ครั้งต่อนาที
Temp 37.7 องศาเซลเซียส
PR 112-116 ครั้งต่อนาที
O2 Sat 95%
การส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการที่ผู้ป่วยได้รับ
Acid fast bacilli (AFB) ผล Negative
(ตัดความสงสัยว่าผู้ป่วยเป็น TB ออก)
chest x-ray ไม่พบ Infiltation ผล chest x-ray ไม่พบ
พยาธิสภาพของฝีในปอดและไม่พบ cardiomegaly
(ตัดความสงสัยว่าเป็น TB,Pneumoniaม COPD ออก เนื่องจากโรคเหล่านี้จะมีพยาธิสภาพที่ปอด หาก X-ray จะพบความผิดปกติ)
ส่งตรวจ CBC normal
EKG normal(ตัดความสงสัย CHF ไม่มีภาวะหัวใจโต
และหัวใจขาดเลือด )
ส่งตรวจ Liver function test Normal (ตัด cirrhosis)
ส่งตรวจ echocardiography normal
(ตัดความสงสัย CHF ไม่มีภาวะหัวใจโต
และหัวใจขาดเลือด )
วางแผนการดูแลผู้ป่วย Asthma
สังเกตภาวะพร่องออกซิเจน เช่น หายใจ หอบมากขึ้น หายใจลำบาก หายใจหน้าอกบุ๋ม ระดับ ความรู้สึกตัวลดลง กระสับกระส่าย หากพบสิ่งผิดปกติให้รีบรายงานแพทย์
ดูแลให้ได้รับออกซิเจนตามแผนการรักษา รักษาระดับความอิ่มตัวของออกซิเจนให้ได้มากกว่าหรือ เท่ากับ 95% ในกรณีที่เสมหะเหนียวข้น ควรใช้ออกซิเจนชนิดที่มีความชื้นสูง
ดูแลให้ได้รับยาสเตียรอยด์เพื่อลดการอักเสบ ตามแผนการรักษา ซึ่งข้อบ่งชี้ในการให้ คือควรให้ ทันทีที่ผู้ปุวยไม่ตอบสนองต่อการได้รับยาพ่นขยายหลอดลมในครั้งแรก โดยให้ยาในรูปการฉีดเมื่อผู้ป่วยมี อาการรุนแรงหรือรับประทานอาหารไม่ได้
จัดท่านอนศีรษะสูงประมาณ 30 องศา เพื่อให้ผู้ปุวยหายใจได้สะดวก
ควรจัดท่านอนกึ่งนั่งเพื่อให้ ปอดขยายตัวได้ดีและมีการระบายอากาศที่ดี
ติดตามผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการในรายที่มีอาการรุนแรงควรติดตามระดับออกซิเจนในเลือด แดงร่วมด้วย และในกรณีที่ใช้ยาขยายหลอดลมกลุ่ม SABA ในขนาดสูง ติดต่อกันหลายครั้ง ควรติดตามระดับ โพแทสเซียมในเลือด
ประเมินสภาพปอดโดยการใช้หูฟัง ฟังเสียงลมผ่านปอดก่อนและหลังการพ่นยาขยายหลอดลมเพื่อ ประเมินการหดเกร็งของหลอดลม หากหลังการพ่นยาแล้วอาการไม่ดีขึ้น โดยผู้ปุวยยังคงมีอาการหายใจเร็วได้ ยินเสียงหวีด ให้รายงานแพทย์เพื่อปรับเปลี่ยนการรักษา
ประเมินและบันทึกสัญญาณชีพ และระดับความอิ่มตัวของออกซิเจน ทุก 2-4 ชั่วโมง
เพื่อติดตาม อาการอย่างใกล้ชิด หากพบสิ่งผิดปกติให้รีบรายงานแพทย์
ประเมินผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ยาขยายหลอดลม เช่น หัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น มือสั่น นอน ไม่หลับ หากพบสิ่งผิดปกติให้รีบรายงานแพทย์
ประเมินอาการโรคหอบหืดก าเริบเฉียบพลันโดยใช้ SCAS
เพื่อประเมินระดับความรุนแรงของโรค ทุก 2-4 ชั่วโมง
ดูแลให้ได้รับยาขยายหลอดลมตามแผนการรักษา ได้แก่ ยาขยายหลอดลมกลุ่ม SABA ซึ่งโดยทั่วไป นิยมให้ทางการสูดดมแบบฝอยละออง (aerosal therapy)
การให้ความรู้แก่ผู้ปุวย ญาติ และผู้ใกล้ชิดเพื่อให้เกิดความร่วมมือในการรักษา ผู้ปุวยและสมาชิกในครอบครัวควรได้รับทราบข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับโรคหอบหืด ซึ่งได้แก่
ธรรมชาติของโรค
ปัจจัยหรือสิ่งกระตุ้นที่อาจทำให้เกิดการกำเริบของโรค
ชนิดของยาที่ใช้ในการรักษาโรคหอบหืด และวิธีการใช้ยาที่ถูกต้อง
โดยเฉพาะการใช้ยาประเภทสูด
การวินิจฉัย
ผู้ป่วยเป็น Asthma
เนื่องจาก
การตรวจร่างกาย
ฟังปอดพบ Wheezing both lung ซึ่งเมื่อมีอาการหอบ
ผู้ป่วยAsthma จะมีเสียง wheezig ได้
หายใจ มี retraction ที่ ร่องไหปลาร้า
ไม่พบอกถังเบียร์
chest x-ray ไม่พบ Infiltation ผล chest x-ray ไม่พบ
พยาธิสภาพของฝีในปอดและไม่พบ cardiomegaly
อาการและอาการแสดง
อาการไอกลางคืน แต่ไม่เหนื่อยหอบ
รู้สึกหายใจไม่ออก แน่นหน้าอก เหงื่อออก
2 ชั่วโมงก่อนมา (นั่งรถเข็นมาเนื่องจากเดินไม่ไหว)
มีไข้ต่่ำๆ ไอเเห้งๆ ไอมากเวลา กลางคืน รู้สึกแน่นหน้าอกเวลาไอ
อาการคล้าย COPD แต่ COPD จะไอมีเสมหะสีขาวขุ่น
ไอทุกช่วงเวลาของวัน อาการเหนื่อยแน่นหน้าอกจะมีตลอดทั้งวัน
จะมีอาการมากเมื่อใช้แรง ซึ่งผู็ป่วยจะเหนื่อยแค่ตอนแพ้หรืออกกำลังหนักเท่านั้น จึงให้น้ำหนักไปที่ Asthma มากกว่า
ประวิติของผู้ป่วย
พกยาพ่นตลอดเวลา จะมีอาการเหนื่อยหอบเมื่อมีการกระตุ้นจากการออกกำลังกาย จากฝุ่นควัน
ไม่สูบบุหรี่ อายุน้อย
มีประวัติรักษาโรคหอบหืดเมื่อ 7 ปีก่อน
ตา และ ยาย มีประวัติเป็นโรค หัวใจ หอบหืด เบาหวาน ความดันโลหิตสูง
ปัจจัยที่กระตุ้น Exacerbationของผู้ป่วย
ความเครียดเนื่องจากผู้ปุวยกังวล รู้สึก กังวลกับโรคที่เป็นเนื่องจากเสียภาพลักษณ์
จากการที่ต้องใช้ยาพ่นเมื่อมีอาการหอบหืด
ผู้ปุวยชอบออกกำลังกายโดยการเล่นบาสเก็ตบอล
ฝุุน จากการเดินทางไปโรงเรียนและจาก การเล่นกีฬากลางแจ้ง รถที่ขับผ่าน เวลาที่ ผู้ป่วยอยู่ข้างถนนก็จะมีอาการกำเริบ
ฝุุน ควันไฟ จากการที่ผู้ป่วยชอบทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อน
โดยการไปตั้งแคมป์ ในป่า
การดูแลตนเองของผู้ป่วย Asthma
ควรกำจัดหรือลดปริมาณของสารก่อภูมิแพ้หรือสารกระตุ้นให้เกิดอาการ
ที่มีอยู่ในสิ่งแวดล้อม รอบตัวให้เหลือน้อยที่สุด
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบทุกประเภท รวมทั้งผักและผลไม้
หลีกเลี่ยงหรือกำจัดสิ่งที่แพ้ หรือกระตุ้นท าให้เกิดอาการ โดยใช้วิธีสังเกตว่าสัมผัสกับอะไร อยู่ใน สิ่งแวดล้อมใดหรือรับประทานอะไรแล้วมีอาการ ควรหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านั้น
การใช้ยาเพื่อบรรเทาอาการ เช่น ยารับประทาน ยาสูด หรือพ่นคอ เพื่อปรับความไวหรือขยาย หลอดลม
นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
ออกกำลังกายเป็นประจำ
ประวัติการเจ็บป่วยในอดีต