Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Hypertensive crisis, 6.2 การพยาบาลผู้ป่วยวิกฤตในระบบหัวใจและการไหลเวียนโลห…
Hypertensive crisis
การพยาบาล
- ในระยะเฉียบพลัน เฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับอาการและอาการแสดงของระบบต่างๆ ได้แก่ neurologic,cardiac, and renal systems
- ผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด ไม่ควรลด SBP ลงมาตํ่ากว่า 120 มม.ปรอท ความดันโลหิต DBP ที่เหมาะสม คือ 70-79 มม.ปรอท
ในผู้ป่วยที่มีสมองขาดเลือดร่วมกับความดันโลหิตสูงวิกฤต ควรควบคุมความดันโลหิตให้ตํ่ากว่า 180/105 มม.ปรอทใน 24 ชั่วโมงแรก แต่ไม่เกินร้อยละ 15 ของค่าความดันโลหิตเริ่มต้น
-
- การรักษาด้วย short-acting intravenous antihypertensive agents ได้แก่ sodium nitroprusside แพททย์จะเริ่มให้ขนาด 0.3-0.5 mcg/kg/min และเพิ่มครั้งละ 0.5 mcg/kg/minทุก 2-3 นาทีจนสามารถคุมความดันโลหิตได้ ขนาดยาสูงสุดให้ไม่เกิน 10 mcg/kg/min ผสมยาใน D5W และ NSS หลังจากผสมแล้วยาคงตัว 24ชั่วโมง เก็บยาให้พ้นแสงและตลอดการให้ยาแก่ผู้ป่วย หากพบว่ายาเปลี่ยนสีเข้มขึ้น หรือเป็นสีส้ม นํ้าตาล นํ้าเงินห้ามใช้ยสเนื่องจากเกิดการสลายตัวของยาซึ่งจะปล่อย cyanide ออกมาให้ยาทาง infusion pump เท่านั้นห้ามฉีดเข้าหลอดเลือดด าโดยตรง
- ช่วยเหลือผู้ป่วยในการทำกิจกรรม เช่นการจัดท่านอนให้สุขสบาย การปฏิบัติกิจวัตรประจำวันต่างๆ และจัดสิ่งแวดล้อมให้สงบ เช่นปิดไฟหัวเตียง เพื่อส่งเสริมการพักผ่อนนอนหลับ
- ให้ความรู้/ข้อมูลแก่ผู้ป่วยเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของการรักษาเพื่อควบคุมความดันโลหิต และเหตุผลที่ต้องติดอุปกรณ์ที่ใช้เฝ้าระวังต่างๆหลังจากควบคุมความดันโลหิตได้แล้วควรให้ข้อมูลเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนการดําเนินชีวิตเพื่อลดปัจจัยเสี่ยง
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
-
เสี่ยงต่อเลือดไปเลี้ยงเนื้อเยื่อส่วนปลายไม่เพียงพอ (Risk for ineffective peripheral tissue perfusion)
วิตกกังวล (Anxiety related to threat to biologic, psychologic, or social integrity)
-
-
-
การรักษา
ลดความดันโลหิตเฉลี่ย (mean arterial pressure) ลงจากระดับเดิม20-30% ภายใน 2 ชั่วโมงแรก และ 160/100 มม.ปรอท ใน 2-6 ชั่วโมง
ยาที่มีใช้ในประเทศไทย เช่น sodium nitroprusside,
nicardipine, nitroglycerin, labetalol ยา sodium nitroprusside
-
-
-
Hypertensive urgency
ภาวะความดันโลหิตสูงรุนแรงแต่ไม่มีอาการของอวัยวะเป้าหมายถูกทำลาย ไม่จำเป็นต้องรับการรักษาในหอผู้ป่วยหนัก
-
สาเหตุ
- การหยุดยาลดความดันโลหิตทันที (Sudden withdrawal of antihypertensive medications)
- Acute or chronic renal disease
- Exacerbation of chronic hypertension
- การใช้ยาบางชนิดที่มีผลทำให้ความดันโลหิตสูง เช่น ยาคุมกาเนิด ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์
การตรวจร่างกาย
วัดสัญญาณชีพ โดยเฉพาะความดันโลหิตเปรียบเทียบกันจากแขนซ้ายและขวา นํ้าหนัก ส่วนสูง ดัชนีมวลกาย เส้นรอบเอว รวมถึงตรวจหาความผิดปกติที่เกิดจาก TOD
โรคหลอดเลือดสมอง จะมีอาการ แขนขาชาหรืออ่อนแรงครึ่งซีก มองเห็นไม่ชัดหรือตามัวชั่วขณะ(blurredvision) ระดับความรู้สึกตัวผิดปกติ (change in level of consciousness) หมดสติ(Coma)
-
ตรวจ retina ถ้าพบ cotton-wool spots and hemorrhages แสดงว่า มีการแตกของ retina blood vesselsและ retina nerves ถูกท าลาย
-
-
ในรายที่สงสัยมีภาวะเลือดเซาะในผนังหลอดเลือดเอออร์ต้า (Aortic dissection) ให้คล าชีพจรที่แขนและขาทั้ง 2 ข้าง และวัดความดันโลหิตที่แขนทั้ง 2 ข้าง จะแตกต่างกันอย่างชัดเจน เรียกว่า seudohypotension ของแขนข้างที่มี intimal flap ที่ไปอุดหลอดเลือดแดงที่มาเลี้ยงแขนข้างนั้น
-
-