Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับนิติเวชและนิติจิตเวช - Coggle Diagram
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับนิติเวชและนิติจิตเวช
ความหมายและความสำคัญของนิติเวชและนิติจิตเวช
นิติเวช
หมายถึง
การนำหลักทางการแพทย์ประยุกต์ใช้ เพื่อคลี่คลายข้อพิพาทและพิสูจน์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีความ
นิติจิตเวช
หมายถึง
การนำหลักจิตเวชประยุกต์เพื่อประโยชน์ในกระบวนการยุติธรรมและความสงบของสังคม
จิตเวช
หมายถึง
ความเจ็บป่วยทางจิต ความผิดปกติของอารมณ์และบุคลิกภาพ
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับนิติจิตเวช
กฎหมายเกี่ยวกับความผิดทางอาญาของบุคคลวิกลจริต ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 65
ผู้ใดกระทำความผิดในขณะไม่สามารถรู้ผิดชอบหรือไม่สามารถบังคับตนเองได้ เพราะมีจิตบกพร่อง โรคจิตหรือจิตฟั่นเฟือน ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษสำหรับความผิดนั้น
แต่ถ้ากระทำความผิดยังสามารถรู้ผิดชอบอยู่บ้าง หรือยังสามารถบังคับตนเองได้บ้าง ผู้นั้นต้องรับโทษสำหรับความผิดนั้น แต่ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้
การพิจารณาความผิดทางอาญา
1)ไม่สามารถรู้ผิดชอบหมายถึงขณะประกอบคดีผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่รู้ว่าการกระทำของตนถูกหรือผิดดีหรือชั่วควรหรือไม่ควร
2)ไม่สามารถบังคับตนเองได้ หมายถึง ขณะประกอบคดี ผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่สามารถห้ามจิตใจ มิให้ร่างกายทำการนั้นได้ อันเกิดจากโรคจิต จิตบกพร่อง หรือจิตฟั่นเฟือน
ความสามารถในการต่อสู้คดี หรือวิธีพิจารณาความอาญาประมวลกฎหมายมาตรา 14
หลักการพิจารณาความสามารถในการต่อสู้คดี
รู้ถึงความหนักเบาของโทษที่จะได้รับ
สามารถเล่ารายละเอียดของคดีได้
รู้ว่าตนเองต้องคดีอะไร
สามารถเข้าใจขั้นตอนการดำเนินคดี
สามารถให้ปากคำต่อกระบวนการยุติธรรมได้
สามารถร่วมมือกับทนายในการปกป้องสิทธิตนเองได้
วิธีการเพื่อความปลอดภัย ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 48
ถ้าศาลเห็นว่าการปล่อยตัวผู้มีจิตบกพร่อง โรคจิต หรือจิตฟั่นเฟือน ซึ่งไม่ต้องรับโทษ หรือได้รับการลดโทษตามมาตรา 65 จะเป็นการไม่ปลอดภัยแก่ประชาชน ศาลจะสั่งให้ส่งตัวไปควบคุมไว้ในสถานพยาบาลก็ได้ และคำสั่งนี้ศาลจะเพิกถอนเสียเมื่อใดก็ได้
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 49
ในกรณีที่ศาลพิพากษาลงโทษ หรือพิพากษามีความผิด แต่รอการกำหนดโทษ หรือรอการลงโทษบุคคลใด ถ้าศาลเห็นว่าเป็นผู้ติดยาเสพติดให้โทษ ศาลจะกำหนดในคำพิพากษาว่า บุคคลนั้นจะต้องไม่เสพย์สุรายาเสพติดให้โทษอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้งสองอย่างภายในระยะเวลาไม่เกินสองปี
วิธีเพิ่มโทษ ลดโทษ และการรอการลงโทษ
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56
เงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติของผู้กระทำผิดนั้นศาลจะกำหนดข้อเดียวหรือหลายข้อดังต่อไปนี้
2)แนะนำ ช่วยเหลือ หรือตักเตือนตามที่เห็นสมควรในเรื่องความประพฤติและการประกอบอาชีพ
3)ให้ฝึกหัดหรือทางานอาชีพอันเป็นกิจลักษณะ
1)ให้ไปรายงานตัวต่อเจ้าพนักงานที่ศาลระบุไว้เป็นครั้งคราว เพื่อเจ้าพนักงานจะได้สอบสวน
4)ให้ละเว้นการคบหาสมาคม หรือการประพฤติใดอันอาจนาไปสู่การกระทำความผิดเช่นเดียวกันนั้นอีก
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 57
เมื่อความปรากฏแก่ศาลหรือความตามคำแถลงของพนักงานอัยการหรือเจ้าหนักงาน
ผู้กระทำความผิด ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขดังที่ศาลกำหนดไว้ในคดีก่อนบวกเข้ากับโทษในคดีหลัง แล้วแต่กรณี
แต่ถ้าในเวลาที่ศาลได้กำหนดตามมาตรา 56
ศาลอาญาตักเตือนผู้กระทำความผิด หรือกำหนดการลงโทษที่ยังไม่ได้กำหนดหรือลงโทษ
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 58
ถ้าภายในเวลาที่ศาลกำหนดตามมาตรา 56 ผู้ที่ถูกศาลพิพากษาให้กระทำความผิด อันมิใช่ความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท
ศาลพิพากษาให้ลงโทษจำคุกสำหรับความผิดนั้นให้ศาลที่พิพากษาคดีหลังกำหนดโทษที่รอการกำหนดไว้ในคดีก่อน
ความรับผิดชอบในทางอาญา
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 66
ความมึนเมาเพราะเสพย์สุรา หรือสิ่งเมาอย่างอื่น จะยกขึ้นเป็นข้อแก้ตัวตามมาตรา 65 ไม่ได้
เว้นแต่ความมึนเมานั้นจะได้เกิดโดยผู้เสพย์ไม่รู้ว่าสิ่งนั้นจะทำให้มึนเมา หรือได้เสพย์โดยถูกขืนใจให้เสพย์
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 246
ศาลมีอำนาจสั่งให้ทุเลาการบังคับให้จำคุกไว้ก่อนจนกว่าเหตุอันสมควรทุเลาจะหมดไปในกรณีต่อไปนี้
2)เมื่อเกรงว่าจำเลยจะถึงอันตรายแก่ชีวิตถ้าต้องจำคุก
3)ถ้าจำเลยมีครรภ์แต่เจ็ดเดือนขึ้นไป
1)เมื่อจำเลยวิกลจริต
4)ถ้าจำเลยคลอดบุตรแล้วยังไม่ถึงเดือนในระหว่างทุเลาการบังคับอยู่นั้น ให้ศาลสั่งพนักงาน ฝ่ายปกครองหรือตำรวจจัดให้บุคคลดังกล่าวแล้วอยู่ในสถานที่อันควร
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 248
ถ้าบุคคลซึ่งต้องคำพิพากษาให้ประหารชีวิต เกิดวิกลจริตก่อนประหารชีวิต ให้รอการประหารชีวิตไว้ก่อนจนกว่าผู้นั้นจะหาย
ความหมายเกี่ยวกับผู้ดูแล ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 373
ผู้ใดควบคุมดูแลบุคคลวิกลจริต ปล่อยปละละเลยให้บุคคลวิกลจริตนั้น อาจเที่ยวตามลาพังต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าร้อยบาท
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ป.พ.พ. มาตรา 31
การใด ๆ อันบุคคลผู้ซึ่งศาลได้สั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถได้ทำลงไปการนั้นท่านว่าเป็นโมฆียะ
ป.พ.พ. มาตรา 32
การใด ๆ อันบุคคลวิกลจริตได้ทำลง แต่หากบุคคลนั้นศาลยังมิได้สั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถไซร้
ท่านว่าการนั้นจะเป็นโมฆียะ ต่อเมื่อพิสูจน์ได้ว่าได้ทำลงในเวลาซึ่งบุคคลนั้นวิกลจริตอยู่ และคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้รู้แล้วด้วยว่าผู้ทำเป็นคนวิกลจริต
ป.พ.พ. มาตรา 30
บุคคลผู้ซึ่งศาลได้สั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถนั้น ท่านว่าต้องจัดให้อยู่ในความอนุบาล
ป.พ.พ. มาตรา 429
บุคคลใดแม้ไร้ความสามารถเพราะเหตุเป็นผู้เยาว์หรือวิกลจริตก็ต้องรับผิดในผลที่ตนละเมิดบิดา มารดา หรือผู้อนุบาล
ป.พ.พ. มาตรา 29
บุคคลวิกลจริตผู้ใด ถ้าภริยาสามีก็ดี ผู้บุพการีกล่าวคือ บิดา มารดา ปู่ย่า ตายาย ทวดก็ดี
ผู้สืบสันดานกล่าวคือ ลูกหลาน เหลน ลื้อก็ดี ผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ก็ดี หรือพนักงานอัยการก็ดี
ร้องขอต่อศาลแล้วศาลจะสั่งให้บุคคลผู้นั้นเป็นคนไร้ความสามารถก็ได้
คำสั่งอันนี้ให้โฆษณาในราชกิจจานุเบกษา
ป.พ.พ. มาตรา 430
ครูบาอาจารย์ นายจ้างหรือบุคคลอื่นซึ่งรับดูแลบุคคลผู้ไร้ความสามารถอยู่เป็นนิตย์ก็ดี ชั่วครั้งชั่วคราวก็ดี
จะต้องรับผิดร่วมกับผู้ไร้ความสามารถในการละเมิดซึ่งเขาได้กระทำลงในระหว่างที่อยู่ในความดูแลของตน
ถ้าหากพิสูจน์ได้ว่าบุคคลนั้น ๆ มิได้ระมัดระวังตามสมควร
การวินิจฉัย และขั้นตอนในการตรวจวินิจฉัยทางนิติจิตเวช
การวินิจฉัยทางนิติจิตเวช
2)การตรวจทางจิตเวชต้องทำอย่างละเอียดรอบคอบ โดยได้ข้อมูลจากทีมนิติจิตเวช
3)การรวบรวมข้อมูลแบ่งเป็น 2 ส่วน
3.1 ส่วนที่เกี่ยวกับคดี
3.2ส่วนที่เกี่ยวข้องกับความเจ็บป่วยทางจิต
1)พิจารณาวัตถุประสงค์ว่าส่วนตัวผู้ป่วยมาเพื่อต้องการทราบอะไร
ขั้นตอนในการตรวจวินิจฉัยทางนิติจิตเวช
3)การรวบรวมข้อมูล
4)วิเคราะห์ วินิจฉัย โดยการรวบรวมข้อมูลทั้งหมด
2)การตรวจทางจิตเวช ต้องรีบทำอย่างละเอียด
ตรวจทางระบบประสาท
ตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ตรวจร่างกาย
ทดสอบทางจิตวิทยา
การตรวจสภาพจิต
การเฝ้าดูพฤติกรรม
5)สรุปผลการวินิจฉัย แบ่งออกเป็น
การวินิจฉัยทางคลินิก (clinical diagnosis)
การวินิจฉัยทางกฎหมาย (legal diagnosis)
ขณะตรวจ วิกลจริต และสามารถต่อสู้คดีได้หรือไม่
ขณะประกอบคดี สามารถรู้ผิดชอบ หรือบังคับตนเองได้หรือไม่
ความเห็นหรือข้อเสนอแนะ เช่น ภาวะอันตราย
1)พิจารณาวัตถุประสงค์
ต้องกระจ่างในความมุ่งหมาย
ให้พิจารณาจากใบส่งตัว
เพื่อที่จะทราบว่าใคร (ตำรวจ ศาล เรือนจำ คุมประพฤติ) นำส่ง
ขณะนี้คดีอยู่ชั้นไหน ส่งมาจากแหล่งใด
ผู้ป่วยต้องคดีอะไร ต้องการทราบอะไรบ้าง เมื่อใด
6)การเตรียมตัวให้ปากคำต่อศาล
กระบวนการเกี่ยวกับนิติจิตเวช
บุคคลที่สงสัยว่าวิกลจริตหรือมีปัญหา
ถูกจับ
มีหลักฐานว่ากระทำความผิด
งดสอบสวนหรือพิจารณาคดี
ตรวจวินิจตามมาตรา 14
รักษาตามขั้นตอน
อาการทางจิต
อาการทางจิตไม่ทุเลา แจ้งผลการรักษาเป็นระยะ
อาการทางจิตทุเลา
ส่งกลับผู้นำส่งกระบวนการ
ลดโทษ/ปล่อยตัว (ตามมาตรา 65)
ส่งกลับมารักษาตามประมวล
ปล่อยตัวถ้าพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้กระทำ
บทบาทของพยาบาลกับงานนิติจิตเวช และจริยธรรมในการปฏิบัติการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช
บทบาทของพยาบาลกับงานนิติจิตเวช
2)เก็บข้อมูลของผู้ป่วยเป็นความลับ
3)ในกรณีที่บริษัทประกันร้องขอข้อมูลของผู้ป่วย พยาบาลต้องแจ้งให้แพทย์เจ้าของไข้ทราบ
1)ใช้การสังเกต และการบันทึกอาการของผู้ป่วยอย่างละเอียด
4)ในกรณีผู้ป่วยจิตเวช พยาบาลควรแจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับอาการของผู้ป่วยที่อาจก่อนให้เกิดอันตราย
บทบาทของพยาบาลกับการชันสูตรพลิกศพ
การตายโดยผิดธรรมชาติประกอบด้วย
3)ถูกสัตว์ทำร้ายตาย
4)ตายโดยอุบัติเหตุ (accident)
2)ถูกผู้อื่นทำให้ตาย (homicide)
5)ตายโดยยังมิปรากฏเหตุ (sudden & unexpected death)
1)การฆ่าตัวตาย (committed suicide)
หลักการเขียนรายงานการชันสูตรพลิกศพ
3)การตรวจชิ้นเนื้อ เพื่อดูพยาธิสภาพ
4)การตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพื่อดูสารในร่างกาย
2)รายงานการผ่าศพชันสูตร
5)การลงความเห็นในเรื่องเหตุ และพฤติการณ์ที่ตาย
1)เขียนรายงาน ณ ที่เกิดเหตุ โดยมีการจดบันทึกเกี่ยวกับข้อเท็จจริงทั่วไป
หลักการเขียนรายงานการชันสูตรบาดแผล
1)ข้อเท็จจริง
2)ความเห็นเกี่ยวกับแผล
หลักการเก็บรักษาวัตถุพยาน
2)แยกหีบห่อ การบรรจุซอง เขียนรายละเอียด
3)ป้องกันการปลอมแปลงเจือปน หรือเสื่อมสภาพ
1)รวบรวมวัตถุพยานหรือสิ่งที่สงสัยว่าเป็นวัตถุพยาน
4)ส่งมอบวัตถุพยานด้วยความระมัดระวัง รัดกุม มีบันทึกการส่งมอบและผู้รับผิดชอบ
การบันทึกอาการและอาการแสดง
3)ในการบันทึกต้องระมัดระวังการใช้ภาษา อย่าใช้อารมณ์ในการเขียน
4)ควรเขียนให้สื่อความหมายในแง่การรักษาและกรณีที่เป็นพยานเอกสาร
2)ต้องมีการสังเกตและบันทึกอาการ อาการแสดงเป็นระยะๆ
5)พึงระลึกไว้เสมอว่าบันทึกอาการ และอาการแสดงของผู้ป่วยเป็นเอกสารลับ และผู้ป่วยสามารถขอดูได้
1)บันทึกอย่างถูกต้อง ตรงตามความเป็นจริง กระชับ ชัดเจน