Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ นิติเวชและนิติจิตเวช, 84b9beef563946f9d4f8e5151211…
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ
นิติเวชและนิติจิตเวช
ความหมายและความสำคัญ
ของนิติเวชและนิติจิตเวช
จิตเวช
ความเจ็บป่วยทางจิต ความผิดปกติ
ของอารมณ์และบุคลิกภาพ
นิติเวช
การนำหลักทางการแพทย์ประยุกต์ใช้ เพื่อคลี่คลายข้อพิพาทและพิสูจน์ข้อเท็จจริง
เกี่ยวกับคดีความ
นิติจิตเวช
การนำหลักจิตเวชประยุกต์เพื่อประโยชน์
ในกระบวนการยุติธรรมและความสงบของสังคม
การวินิจฉัย และขั้นตอนใน
การตรวจวินิจฉัยทางนิติจิตเวช
การวินิจฉัย
พิจารณาวัตถุประสงค์ว่าส่วนตัว
ผู้ป่วยมาเพื่อต้องการทราบอะไร
การตรวจทางจิตเวชต้องทำอย่างละเอียดรอบคอบ โดยได้ข้อมูลจากทีมนิติจิตเวช
การรวบรวมข้อมูล
แบ่งเป็น 2 ส่วน
ส่วนที่เกี่ยวกับคดี
ส่วนที่เกี่ยวข้องกับความเจ็บป่วยทางจิต
ขั้นตอนใน
การตรวจวินิจฉัย
พิจารณาวัตถุประสงค์ เพื่อที่จะทราบว่าใคร นำส่ง
ขณะนี้คดีอยู่ชั้นไหน ส่งมาจากแหล่งใด
ผู้ป่วยต้องคดีอะไร ต้องการทราบอะไรบ้าง
2.การตรวจจิตเวช ต้องทำอย่างละเอียด
โดยทีมจิตเวช ได้แก่ จิตแพทย์ พยาบาลจิตเวช
นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ นักอาชีวบำบัด
และบุคคลที่เกี่ยวข้อง
3 .การรวบรวมข้อมูล
ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการก่อคดี
โดยซักถามหรือขอข้อมูลจากผู้ใกล้ชิด
พฤติกรรมขณะประกอบคดี
ส่วนที่เกี่ยวข้องกับความเจ็บป่วยทางจิตตลอดจนการตรวจรักษาจากญาติ หรือจากเอกสารทางการแพทย์อื่นๆ
4 .วิเคราะห์ วินิจฉัย โดยการรวบรวมข้อมูลทั้งหมด
5 .สรุปผลการวินิจฉัย
การวินิจฉัยทางคลินิก (clinical diagnosis)
เพื่อการรักษาการพยากรณ์โรค
การวินิจฉัยทางกฎหมาย (legal diagnosis)
ส่งที่ต้องพิจารณา
6 .การเตรียมตัวให้ปากคำต่อศาล
กระบวนการเกี่ยวกับนิติจิตเวช
บุคคลที่สงสัยว่าวิกลจริต
ถูกจับดำเนินคดี
ปล่อยตัวถ้าพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้กระทำความคิด
มีหลักฐานว่ากระทำความผิด
งดสอบสวนหรือพิจารณาคดี
งดสอบสวนหรือพิจารณาคดี
รักษาตามขั้นตอน
อาการทางจิตไม่ทุเลา
แจ้งผลการรักษาเป็นระยะ
1 more item...
อาการทางจิตทุเลา
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
กับนิติเวช และนิติจิตเวช
- กฎหมายเกี่ยวกับความผิด
ทางอาญาของบุคคลวิกลจริต
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 65
ผู้ใดกระทำความผิดในขณะ
ไม่สามารถรู้ผิดชอบหรือไม่สามารถบังคับตนเองได้
เพราะมีจิตบกพร่อง โรคจิตหรือจิตฟั่นเฟือน
ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษสำหรับความผิดนั้น
สามารถ
รู้ผิดชอบอยู่บ้าง
หรือยังสามารถบังคับตนเองได้บ้าง
ผู้นั้นต้องรับโทษสำหรับความผิดนั้น
แต่ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้
การพิจารณาความผิดทางอาญา
ไม่สามารถรู้ผิดชอบ
ผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่รู้ว่าการกระทำของตนถูกหรือผิดดีหรือชั่วควรหรือไม่ควร
ไม่สามารถบังคับตนเองได้
ผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่สามารถห้ามจิตใจ มิให้ร่างกายทำการนั้นได้ อันเกิดจากโรคจิต จิตบกพร่อง
หรือจิตฟั่นเฟือน
- ความสามารถในการต่อสู้คดี
หรือวิธีพิจารณาความอาญา
ประมวลกฎหมายมาตรา 14
รู้ว่าตนต้องคดีอะไร
รู้ถึงความหนักเบาของโทษ
เล่ารายละเอียดคดีได้
เข้าใจขั้นตอนการดำเนินคดี
ให้ปากคำต่อกระบวนการยุติธรรมได้
ร่วมมือกับทนายป้องสิทธิของตนเองได้
- วิธีการเพื่อความปลอดภัย
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 48
ถ้าศาลเห็นว่าการปล่อยตัวผู้มีจิตบกพร่อง โรคจิต
หรือจิตฟั่นเฟือน ซึ่งไม่ต้องรับโทษ หรือได้รับการลดโทษตามมาตรา 65 จะเป็นการไม่ปลอดภัยแก่ประชาชน ศาลจะสั่งให้ส่งตัวไปควบคุมไว้ในสถานพยาบาลก็ได้
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 49
จะต้องไม่เสพสุรายาเสพติดให้โทษอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้งสองอย่างภายในระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี
นับแต่วันพ้นโทษหรือวันปล่อยตัว เพราะรอ
การกำหนดโทษหรือรอการลงโทษก็ได
- วิธีเพิ่มโทษ ลดโทษ และการรอการลงโทษ
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56
ผู้กระทำผิดรอการกำหนดโทษไว้หรือรอการลงโทษไว้ เเล้วปล่อยตัวเพื่อให้โอกาส ผู้นั้นกลับตัวในเวลาที่กำหนด เเต่ต้องไม่เกิน 5 ปี นับตั้งเเต่วันพิพากษาโดยจะกำหนดเงื่อนไข
เพื่อคุมประพฤติของผู้นั้นหรือไม่ก็ได้
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 57
เมื่อความปรากฏแก่ศาลหรือความตามคำแถลงของพนักงานอัยการหรือเจ้าหนักงานว่า
ผู้กระทำความผิด ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขดังที่ศาลกำหนดไว้ในคดีก่อนบวกเข้ากับโทษ
ในคดีหลัง แล้วแต่กรณี
แต่
ถ้าในเวลาที่ศาลได้กำหนดตามมาตรา 56 ศาลอาญาตักเตือนผู้กระทำความผิด
หรือกำหนดการลงโทษที่ยังไม่ได้กำหนดหรือลงโทษซึ่งรอไว้นั้นก็ได้
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 58
ถ้าภายในเวลาที่ศาลกำหนดตามมาตรา 56 ไม่ใช่ความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ และศาลพิพากษาให้ลงโทษจำคุกสำหรับความผิดนั้นให้ศาลที่พิพากษาคดีหลังกำหนดโทษที่รอการกำหนดไว้ในคดี
ก่อนบวกเข้ากับโทษในคดีหลัง
- ความรับผิดชอบในทางอาญา
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 66
หากความมึนเมาเกิดโดยผู้เสพย์ไม่รู้ว่าสิ่งนั้นจะทำให้มึนเมา หรือได้เสพย์โดยถูกขืนใจให้เสพและได้กระทำความผิดในขณะไม่สามารถรับผิดชอบ
หรือไม่สามารถบังคับตนเองได้ ผู้กระทำความผิดจึงจะได้รับยกเว้นโทษ
หากผู้นั้นยังสามารถรู้ผิดชอบอยู่บ้าง หรือยังสามารถบังคับตนเองได้บ้าง
ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้
- ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 246
(ศาสสั่งทุเลาการจำคุกดังต่อไปนี้)
เมื่อจำเลยวิกลจริต
เมื่อเกรงว่าจำเลยจะถึง
อันตรายแก่ชีวิตถ้าต้องจำคุก
ถ้าจำเลยมีครรภ์แต่เจ็ดเดือนขึ้นไป
ถ้าจำเลยคลอดบุตรแล้วยังไม่ถึงเดือนในระหว่างทุเลาการบังคับอยู่นั้น ให้ศาลสั่งพนักงาน
ฝ่ายปกครองหรือตำรวจจัดให้บุคคลดังกล่าว
แอยู่ในสถานที่อันควร
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 248
การตัดสินว่าวิกลจริตหรือไม่เป็นเรื่องของศาล โดยอาศัยจิตแพทย์ ส่วนกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองคนวิกลจริตในประเทศไทยยังไม่มี ถ้าคนวิกลจริตถูกข่มขืนกระทำชำเราถ้าเป็นวิกลจริตจริงก็ถือว่าไม่รู้ตัว เป็นการยินยอมเอาผิดไม่ได้ ถ้าเป็นคนปัญญาอ่อนขึ้นอยู่กับการพิจารณา และพยาน อาจจะเป็นการยินยอมหรือไม่ยินยอมก็ได้
ความหมายเกี่ยวกับผู้ดูแล
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 373
ผู้ใดควบคุมดูแลบุคคลวิกลจริต ปล่อยปละละเลยให้บุคคลวิกลจริตนั้น อาจเที่ยวตามลำพัง
ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 500 บาท
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ป.พ.พ. มาตรา 29
บุคคลวิกลจริตผู้ใด ถ้าบิดา มารดา ปู่ย่า ตายาย ทวดก็ดี ลูกหลาน เหลน ผู้อนุบาล หรือพนักงานอัยการ ร้องขอต่อศาล
แล้วศาลจะสั่งให้บุคคลผู้นั้นเป็นคนไร้ความสามารถก็ได้
คำสั่งอันนี้ให้โฆษณาในราชกิจจานุเบกษา
ป.พ.พ. มาตรา 30
บุคคลผู้ซึ่งศาลได้สั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถนั้น ท่านว่าต้องจัดให้อยู่ในความอนุบาล
ป.พ.พ. มาตรา 31
การใด ๆ อันบุคคลผู้ซึ่งศาลได้สั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถได้ทำลงไปการนั้นท่านว่าเป็นโมฆียะ
ป.พ.พ. มาตรา 32
การใด ๆ อันบุคคลวิกลจริตได้ทำลง แต่หากบุคคลนั้นศาลยังมิได้สั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ การกระทำนั้นจะเป็นโมฆียะ ต่อเมื่อพิสูจน์ได้ว่าได้ทำลงในเวลาซึ่งบุคคลนั้นวิกลจริตอยู่ และคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้รู้แล้วด้วยว่าผู้ทำเป็นคนวิกลจริต
ป.พ.พ. มาตรา 429
บุคคลใดแม้ไร้ความสามารถเพราะเหตุเป็นผู้เยาว์หรือวิกลจริต
ก็ต้องรับผิดในผลที่ตนละเมิดบิดา มารดา เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควร แก่หน้าที่ดูแลซึ่งทำอยู่นั้น
ป.พ.พ. มาตรา 430
ครูบาอาจารย์ นายจ้างหรือบุคคลอื่นซึ่งรับดูแลบุคคลผู้ไร้ความสามารถ จำต้องรับผิดร่วมกับผู้ไร้ความสามารถในการละเมิด
ซึ่งเขาได้กระทำลงในระหว่างที่อยู่ในความดูแลของตน
ถ้าหากพิสูจน์ได้ว่าบุคคลนั้น ๆ มิได้ระมัดระวังตามสมควร
บทบาทของพยาบาล
กับงานนิติจิตเวช
บทบาทของพยาบาลกับงานนิติจิตเวช
ใช้การสังเกต และการบันทึกอาการ
ของผู้ป่วยอย่างละเอียด และเป็นระยะๆ
เก็บข้อมูลของผู้ป่วยเป็นความลับ
เว้นแต่เป็นเรื่องทางกฎหมาย
ในกรณีที่บริษัทประกันร้องขอข้อมูลของผู้ป่วย พยาบาลต้องแจ้งให้แพทย์เจ้าของไข้ทราบ แพทย์อาจจะให้พยาบาลช่วยดำเนินการในการรวบรวมข้อมูล จากนั้นให้ผนึกซอง ตีตราลับและส่งถึง
ฝ่ายแพทย์ของบริษัทประกันให้เร็วที่สุด
ในกรณีผู้ป่วยจิตเวช พยาบาลควรแจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับอาการของผู้ป่วยที่อาจก่อนให้เกิดอันตราย
ในอนาคต
บทบาทของพยาบาลกับการชันสูตรพลิกศพ
หลักการเขียนรายงาน
การชันสูตรพลิกศพ
เขียนรายงาน ณ ที่เกิดเหตุ โดยมีการจดบันทึกเกี่ยวกับข้อเท็จจริงทั่วไป ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับศพ
ความเห็นเกี่ยวกับศพ การดำเนินการเกี่ยวกับศพ
รายงานการผ่าศพชันสูตร ซึ่งเป็นตรวจสอบ
สภาพภายนอก / ภายในของศพนั้นๆ
การตรวจชิ้นเนื้อ เพื่อดูพยาธิสภาพ
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพื่อดูสารในร่างกาย
การลงความเห็นในเรื่องเหตุ และพฤติการณ์ที่ตาย
หลักการเขียนรายงาน
การชันสูตรบาดแผล
ข้อเท็จจริง
(จำนวน ชนิด ตำแหน่ง ขนาด สิ่งแปลกปลอมที่พบในแผล ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ วิธีการรักษาพยาบาล และความผิดปกติที่เป็นผลจากการบาดเจ็บ)
ความเห็นเกี่ยวกับแผล
หลักการเก็บรักษา
วัตถุพยาน
รวบรวมวัตถุพยานหรือสิ่ง
ที่สงสัยว่าเป็นวัตถุพยาน
แยกหีบห่อ การบรรจุซอง เขียนรายละเอียด
ป้องกันการปลอมแปลงเจือปน หรือเสื่อมสภาพ
ส่งมอบวัตถุพยานด้วยความระมัดระวัง
รัดกุม มีบันทึกการส่งมอบและผู้รับผิดชอบ
การบันทึกอาการ
และอาการแสดง
บันทึกอย่างถูกต้อง ตรงตามความเป็นจริง
กระชับ ชัดเจน ใช้การขีดฆ่าและ
เขียนชื่อกำกับแทนการลบ
ต้องมีการสังเกตและบันทึกอาการ
อาการแสดงเป็นระยะๆ
ในการบันทึกต้องระมัดระวังการใช้ภาษา
อย่าใช้อารมณ์ในการเขียน
ควรเขียนให้สื่อความหมายในแง่
การรักษาและกรณีที่เป็นพยานเอกสาร
พึงระลึกไว้เสมอว่าบันทึกอาการ และอาการแสดงของผู้ป่วยเป็นเอกสารลับ และผู้ป่วยสามารถขอดูได้ จึงไม่ควรเปิดเผยเอกสารนี้กับผู้อื่น
ยกเว้นแพทย์หรือในกรณีที่ต้องมี
การเปิดเผยตามข้อกำหนดของศาล
กฎหมายได้กำหนดให้ต้องทำการชันสูตรพลิกศพในกรณีที่สงสัยว่ามีการตายโดยผิดธรรมชาติหรือตาย
ในระหว่างความควบคุมของเจ้าหน้าที่ (มาตรา 148)
ประกอบด้วย
การฆ่าตัวตาย (committed suicide)
ถูกผู้อื่นทำให้ตาย (homicide)
ถูกสัตว์ทำร้ายตาย
ตายโดยอุบัติเหตุ (accident)
ตายโดยยังมิปรากฏเหตุ (sudden & unexpected death) ซึ่งต้องทำการชันสูตรพลิกศพในกรณีที่สงสัยว่ามีการตายโดยผิดธรรมชาติ