Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับนิติเวชและนิติจิตเวช, นางสาว อรพิมล ปิ่นปี เลขที่ 60…
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับนิติเวชและนิติจิตเวช
ความหมาย
จิตเวช
ความเจ็บป่วยทางจิต ความผิดปกติของอารมณ์และบุคลิกภาพ
นิติเวช
การนำหลักการทางการแพทย์ มาใช้เพื่อครี่คลายข้อพิพาทและพิสูทน์ข้อเท็จจริง
นิติเวช
การนำหลักจิตเวชประยุกต์เพื่อประโยชน์ในกระบวนการยุติธรรมและความสงบของสังคม
การวินิจฉัย
1.พิจารณาวัตถุประสงค์ว่าผู้ป่วยมาเพื่อต้องการทราบอะไร
2.การตรวจต้องทำอย่างละเอียดรอบคอบ โดยได้ข้อมูลจากทีมนิติเวช
3.รวบรวมข้อมูล
แบ่งเป็น 2 ส่วน
1.เกี่ยวกับคดี
2.เกี่ยวข้องกับความเจ็บป่วยทางจิต
ขั้นตอนในการตรวจวินิจฉัย
1.พิจารณาวัตถุประสงค์
ต้องกระจ่าง
โดยพิจารณาจากใบส่งตัว เพื่อดูว่าใครเป็นผู้นำส่ง คดีอยู่ชั้นไหน ส่งมาจากไหน ผู้ป่วยต้องคดีอะไร ต้องการทราบอะไร เมื่อใด
2.ต้องรีบทำอย่างละเอียด
โดยการตรวจสภาพจิต ตรวจร่างกาย ตรวจทางระบบประสาท ตรวจทางห้องปฏิบัติการ ทดสอบทางจิตวิทยา การเฝ้าดูพฤติกรรม
3.รวบรวมข้อมูล
แบ่ง 2 ส่วน
เกี่ยวกับการก่อคดี
ซักถามหรือขอข้อมูลจากผู้ใกล้ชิด ถึงพฤติกรรมขณะประกอบคดีจากพยานบุคคล ตำรวจ หรือจากพยานเอกสารอื่น ๆ
เกี่ยวกับความเจ็บป่วยทางจิตเวช
4.วิเคราะห์ วินิจฉัย
เก็บรวบรวมข้อมูลทั้งหมด
5.สรุปผลการวินิจฉัย
การวินิจฉัยทางคลินิก(clinical diagnosis)
เพื่อการรักษาการพยากรณ์โรค
การวินิจฉัยทางกฎหมาย (legal diagnosis)
สิ่งที่ต้องพิจารณา
ขณะตรวจ วิกลจริต และสามารถต่อสู้คดีได้หรือไม่
ขณะประกอบคดี สามารถรู้ผิดชอบ หรือบังคับตนเองได้หรือไม่
ความเห็นหรือข้อเสนอแนะ
6.การเตรียมตัวให้ปากคำต่อศาล
กฏหมายที่เกี่ยวข้อง
กฎหมายเกี่ยวกับความผิดทางอาญาของบุคคลวิกลจริต
กฏหมายอาญามาตรา 65
ถ้าผู้กระทำผิดขณะทำไม่สามารถรู้ผิดชอบ หรือไม่สามารถบังคับตัวเองได้ เพราะจิตบกพร่อง ไม่ต้องรับโทษ
แต่ถ้าผู้กระทำผิดยังรับรู้ผิดชอบอยู่บ้าง หรือยังสามารถบังคับตัวเองได้ ต้องได้รับโทษ แต่จะลงโทษน้อยกว่าที่กฏหมายกำหนด
การพิจารณาความผิด
1.ไม่สามารถรู้ผิดชอบ
2.ไม่สามารถบังคับตนเองได้
ความสามารถในการต่อสู้คดี หรือวิธีพิจารณาความอาญา
กฎหมายมาตรา 14
ในระหว่างทำการสอบสวน ไต่สวนมูลฟ้อง หรือพิจารณาถ้ามีเหตุควรเชื่อว่าผู้ต้องหา หรือจำเลยเป็น ผู้วิกลจริต และไม่สามารถต่อสู้คดีได้ ให้พนักงานสอบสวนหรือศาลแล้วแต่กรณี สั่งให้พนักงานแพทย์ตรวจผู้นั้น เสร็จแล้วให้เรียกพนักงานแพทย์ผู้นั้นมาให้ถ้อยคำ
กรณีที่พนักงานสอบสวน หรือศาลเห็นว่าผู้ต้องหา หรือจำเลยผู้วิกลจริต และไม่สามารถต่อสู้คดีให้งด การสอบสวนไต่สวนมูลฟ้อง หรือพิจารณาไว้จนกว่าผู้นั้นหายวิกลจริต หรือสามารถต่อสู้คดีได้ และให้มีอำนาจส่งตัว ผู้นั้นไปยังโรงพยาบาล
หลักการพิจารณาความสามารถในการต่อสู้คดี
รู้ว่าตนเองต้องคดีอะไร
รู้ถึงความหนักเบาของโทษที่จะได้รับ
สามารถเล่ารายละเอียดของคดีได้
สามารถเข้าใจขั้นตอนการดำเนินคดี
สามารถให้ปากคำต่อกระบวนการยุติธรรมได้
สามารถร่วมมือกับทนายในการปกป้องสิทธิตนเองได้
วิธีการเพื่อความปลอดภัย
กฎหมายอาญามาตรา 48
ถ้าศาลเห็นว่าการปล่อยตัวผู้มีจิตบกพร่อง โรคจิต หรือจิตฟั่นเฟือน ซึ่งไม่ต้องรับโทษ หรือได้รับการลดโทษ ศาลจะสั่งให้ส่งตัวไปควบคุมไว้ในสถานพยาบาลก็ได้ และคำสั่งนี้ศาลจะเพิกถอนเสียเมื่อใดก็ได้
กฎหมายอาญามาตรา 49
กรณีที่ศาลพิพากษาลงโทษ หรือพิพากษามีความผิด แต่รอการกำหนดโทษ หรือรอการลงโทษบุคคลใด ถ้าศาลเห็นว่าเป็นผู้ติดยาเสพติดให้โทษ ศาลจะกำหนดในคำพิพากษาว่า บุคคลนั้นจะต้องไม่เสพสุรายาเสพติดให้โทษอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้งสองอย่างภายในระยะเวลาไม่เกินสองปี นับแต่วันพ้นโทษหรือวันปล่อยตัว เพราะรอ การกำหนดโทษหรือรอการลงโทษก็ได้
วิธีเพิ่มโทษ ลดโทษ และการรอการลงโทษ
กฎหมายอาญามาตรา 56
ผู้ใดกระทำความผิดซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกินสองปี ถ้าไม่ปรากฏว่าผู้นั้นได้รับโทษจำคุกมาก่อนแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ หรือสภาพความผิดหรือเหตุอื่นอันควรปราณีแล้วเห็นเป็นการสมควร ศาลจะพิพากษาว่าผู้นั้นมีความผิด แต่รอการกำหนดโทษไว้หรือกำหนดโทษแต่รอการลงโทษไว้แล้วปล่อยตัวเพื่อให้โอกาส ผู้นั้นกลับตัวภายในระยะเวลาที่ศาลกำหนด แต่ต้องไม่เกินห้าปีนับแต่วันที่ศาลพิพากษา
เงื่อนไข
ไปรายงานตัวต่อเจ้าพนักงานที่ศาลระบุไว้เป็นครั้งคราว เพื่อเจ้าพนักงานจะได้สอบสวน
แนะนำ ช่วยเหลือ หรือตักเตือนตามที่เห็นสมควรในเรื่องความประพฤติและการประกอบอาชีพ
ให้ฝึกหัดหรือทางานอาชีพอันเป็นกิจลักษณะ
ให้ละเว้นการคบหาสมาคม หรือการประพฤติที่จะนำไปสู่การกระทำความผิด
กฎหมายอาญามาตรา 57
เมื่อความปรากฏแก่ศาล ผู้กระทำความผิด ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขดังที่ศาลกำหนดไว้ในคดีก่อนบวกเข้ากับโทษในคดีหลัง แล้วแต่กรณี แต่ถ้าในเวลาที่ศาลได้กำหนดตามมาตรา 56 ศาลอาญาตักเตือนผู้กระทำความผิด หรือกำหนดการลงโทษที่ยังไม่ได้กำหนดหรือลงโทษ
กฎหมายอาญามาตรา 58
ถ้าภายในเวลาที่ศาลกำหนดตามมาตรา 56 ผู้ที่ถูกศาลพิพากษาให้กระทำความผิด อันมิใช่ความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ และศาลพิพากษาให้ลงโทษจำคุกสำหรับความผิดนั้นให้ศาลที่พิพากษาคดีหลังกำหนดโทษที่รอการกำหนดไว้ในคดีก่อนบวกเข้ากับโทษในคดีหลัง แล้วแต่กรณีแต่ถ้าในเวลาที่ศาลได้กำหนดตามมาตรา 56 ผู้นั้นมิได้กระทำความผิดดังกล่าวมาในวรรคแรกให้ผู้นั้นพ้นจากการที่ถูกกำหนดโทษหรือถูกลงโทษในคดีนั้น แล้วแต่กรณี
ความรับผิดชอบในทางอาญา
กฎหมายอาญามาตรา 66
ความมึนเมาเพราะเสพสุรา หรือสิ่งเมา จะยกขึ้นเป็นข้อแก้ตัวตามมาตรา 65 ไม่ได้ เว้นแต่ความมึนเมานั้นจะได้เกิดโดยผู้เสพไม่รู้ว่าสิ่งนั้นจะทำให้มึนเมา หรือได้เสพย์โดยถูกขืนใจและได้กระทำความผิดในขณะไม่สามารถรับผิดชอบ หรือไม่สามารถบังคับตนเองได้ ผู้กระทำความผิดจึงจะได้รับยกเว้นโทษ แต่ถ้าผู้นั้นยังสามารถรู้ผิดชอบอยู่บ้าง หรือยังสามารถบังคับตนเองได้บ้าง ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนด
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
กฎหมายอาญามาตรา 246
ศาลมีอำนาจสั่งให้ทุเลาการบังคับให้จำคุกไว้ก่อน จนกว่าเหตุอันสมควรทุเลาจะหมดไป
กฎหมายอาญามาตรา 248
ถ้าบุคคลซึ่งต้องคำพิพากษาให้ประหารชีวิต เกิดวิกลจริตก่อนประหารชีวิต ให้รอการประหารชีวิตไว้ก่อนจนกว่าผู้นั้นจะหาย
ถ้าบุคคลวิกลจริตนั้นหายภายหลังปีหนึ่ง นับแต่วันพิพากษาถึงที่สุด ให้ลดโทษประหารชีวิตลงเหลือจำคุกตลอดชีวิต
ความหมายเกี่ยวกับผู้ดูแล
กฎหมายอาญามาตรา 373
ผู้ใดควบคุมดูแลบุคคลวิกลจริต ปล่อยปละละเลยให้บุคคลวิกลจริตนั้น อาจเที่ยวตามลาพังต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าร้อยบาท
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ป.พ.พ. มาตรา 29
บุคคลวิกลจริต ถ้าภริยาสามีก็ดี ผู้บุพการี ผู้สืบสันดาน ผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ก็ดี หรือพนักงานอัยการก็ดี ร้องขอต่อศาลแล้วศาลจะสั่งให้บุคคลผู้นั้นเป็นคนไร้ความสามารถก็ได้ คำสั่งอันนี้ให้โฆษณาในราชกิจจานุเบกษา
ป.พ.พ. มาตรา 30
บุคคลผู้ซึ่งศาลได้สั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถนั้น ท่านว่าต้องจัดให้อยู่ในความอนุบาล
ป.พ.พ. มาตรา 31
การใด ๆ อันบุคคลผู้ซึ่งศาลได้สั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถได้ทำลงไปการนั้นท่านว่าเป็นโมฆียะ
ป.พ.พ. มาตรา 32
การใด ๆ อันบุคคลวิกลจริตได้ทำลง แต่หากบุคคลนั้นศาลยังมิได้สั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ จะเป็นโมฆียะ ต่อเมื่อพิสูจน์ได้ว่าได้ทำลงในเวลาซึ่งบุคคลนั้นวิกลจริตอยู่ และคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้รู้แล้วด้วยว่าผู้ทำเป็นคนวิกลจริต
ป.พ.พ. มาตรา 429
บุคคลใดแม้ไร้ความสามารถเพราะเหตุเป็นผู้เยาว์หรือวิกลจริตก็ต้องรับผิดในผลที่ตนละเมิดบิดา มารดา หรือผู้อนุบาล ย่อมต้องรับผิดชอบร่วมกับเขาด้วย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควร แก่หน้าที่ดูแลซึ่งทำอยู่นั้น
ป.พ.พ. มาตรา 430
ครูบาอาจารย์ นายจ้างหรือบุคคลอื่นซึ่งรับดูแลบุคคลผู้ไร้ความสามารถอยู่เป็นนิตย์ก็ดี ชั่วครั้งชั่วคราวก็ดี ต้องรับผิดร่วมกับผู้ไร้ความสามารถในการละเมิดซึ่งเขาได้กระทำลงในระหว่างที่อยู่ในความดูแลของตน ถ้าหากพิสูจน์ได้ว่าบุคคลนั้น ๆ ไม่ได้ระมัดระวังตามสมควร
กระบวนการเกี่ยวกับนิติจิตเวช
บุคคลที่สงสัยว่าวิกลจริต หรือมีปัญหาสุขภาพจิตขณะประกอบคดี
ถูกจับดำเนินคดี
ปล่อยตัวถ้าพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้กระทำความคิด
มีหลักฐานว่ากระดำความผิด
งดสอบสวนหรือพิจารณาคดี
ตรวจวินิจตาม มาตรา 14
รักษาตามขั้นตอน
อาการทางจิตทุเลา
อาการทางจิตไม่ทุเลา
แจ้งผลการรักษาเป็นระยะ
อาการทางจิตทุเลา
ส่งกลับผู้นำส่งกระบวนการยุติธรรม
1 more item...
บทบาทของพยาบาลกับงานนิติจิตเวช
1.ใช้การสังเกต และการบันทึกอาการของผู้ป่วยอย่างละเอียด และเป็นระยะๆ
2.เก็บข้อมูลของผู้ป่วยเป็นความลับ เว้นแต่เป็นเรื่องทางกฎหมาย
3.กรณีที่บริษัทประกันร้องขอข้อมูลของผู้ป่วย พยาบาลต้องแจ้งให้แพทย์เจ้าของไข้ทราบ แพทย์อาจจะให้พยาบาลช่วยดำเนินการในการรวบรวมข้อมูล จากนั้นให้ผนึกซอง ตีตราลับและส่งถึง ฝ่ายแพทย์ของบริษัทประกันให้เร็วที่สุด
4.กรณีผู้ป่วยจิตเวช พยาบาลควรแจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับอาการของผู้ป่วยที่อาจก่อนให้เกิดอันตรายในอนาคต
บทบาทของพยาบาลกับการชันสูตรพลิกศพ
หลักการเขียนรายงานการชันสูตรพลิกศพ
1.เขียนรายงาน ณ ที่เกิดเหตุ โดยมีการจดบันทึกเกี่ยวกับข้อเท็จจริงทั่วไป ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับศพ
2.รายงานการผ่าศพชันสูตร ซึ่งเป็นตรวจสอบสภาพภายนอก ภายในของศพ
3.การตรวจชิ้นเนื้อ เพื่อดูพยาธิสภาพ
4.การตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพื่อดูสารในร่างกาย
5.การลงความเห็นในเรื่องเหตุ และพฤติการณ์ที่ตาย
หลักการเขียนรายงานการชันสูตรบาดแผล
1.ข้อเท็จจริง
เกี่ยวกับจำนวน ชนิด ตำแหน่ง ขนาด สิ่งแปลกปลอมที่พบในแผล ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ วิธีการรักษาพยาบาล และความผิดปกติที่เป็นผลจากการบาดเจ็บ
2.ความเห็นเกี่ยวกับแผล
หลักการเก็บรักษาวัตถุพยาน
1.รวบรวมวัตถุพยานหรือสิ่งที่สงสัยว่าเป็นวัตถุพยาน
2.แยกหีบห่อ การบรรจุซอง เขียนรายละเอียด
3.ป้องกันการปลอมแปลงเจือปน หรือเสื่อมสภาพ
4.ส่งมอบวัตถุพยานด้วยความระมัดระวัง รัดกุม มีบันทึกการส่งมอบและผู้รับผิดชอบ
การบันทึกอาการและอาการแสดง
1.บันทึกอย่างถูกต้อง ตรงตามความเป็นจริง กระชับ ชัดเจน ใช้การขีดฆ่าและเขียนชื่อกำกับแทนการลบ
2.ต้องมีการสังเกตและบันทึกอาการ อาการแสดงเป็นระยะๆ
3.ในการบันทึกต้องระมัดระวังการใช้ภาษา อย่าใช้อารมณ์ในการเขียน
4.ควรเขียนให้สื่อความหมายในแง่การรักษาและกรณีที่เป็นพยานเอกสาร
5.พึงระลึกไว้เสมอว่าบันทึกอาการ และอาการแสดงของผู้ป่วยเป็นเอกสารลับ และผู้ป่วยสามารถขอดูได้ จึงไม่ควรเปิดเผยเอกสารนี้กับผู้อื่น ยกเว้นแพทย์ หรือศาล
สรุป
พยาบาลมีบทบาทที่ในการบำบัดรักษา ฟื้นฟูสมรรถภาพทางจิตใจ ติดตามผลการรักษาผู้ป่วย นิติจิตเวช ประสานงานกับทีมนิติจิตเวช และพิทักษ์สิทธิ์ของผู้ป่วย
นางสาว อรพิมล ปิ่นปี เลขที่ 60 36/2 612001141