Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ - Coggle Diagram
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
วิวัฒนาการ
รัชกาลที่ 6 มีการออกกฎหมายขึ้นควบคุมการให้บริการด้านการดูแล สุขภาพแก่ประชาชน โดยกำหนดความหมายของโรคไว้ว่า “การบำบัดโรคทางยาและทางผ่าตัดรวมทั้งการผดุงครรภ์ การสัตวแพทย์ การปรุงยา การพยาบาล การนวดหรือการรักษา คนเจ็บป่วยไข้โดยประการใดๆ” จนกระทั่ง “พระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ. 2528 และที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ. 2540” ได้ประกาศในพระราชกิจจานุเบกษา ฉบับกฤษฎีกา เล่ม 114 ตอนที่ 75ก วันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2540 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2540 จนถึงปัจจุบัน
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์สำหรับพยาบาล
ความหมาย
กฎหมายแพ่งเป็นส่วนหนึ่งในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่กำหนดสิทธิ หน้าที่ และความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ระหว่างเอกชนกับเอกชนโดยทุกฝ่ายมีฐานะเท่าเทียมกัน
กฎหมายพาณิชย์ เป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการค้าขายหรือกิจการใดๆ ที่ได้กระทำในเรื่องหุ้นส่วนบริษัท ประกันภัย ตั๋วเงิน
กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับวิธีการดำเนินพิจารณาพิพากษาคดีในกรณีที่เกิดข้อพิพาทในทางแพ่งขึ้น เช่น วิธีฟ้อง ศาลที่ฟ้อง วิธีพิจารณาของศาลตลอดจนการบังคับให้ฝ่ายที่ผิดปฏิบัติ ตามคำพิพากษา
นิติกรรม
หมายถึง การกระทำของบุคคลด้วยใจสมัครและถูกต้องตามกฎหมาย มุ่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลง โอน สงวนหรือระงับสิทธิระหว่างบุคคล
องค์ประกอบ
ผู้กระทำต้องแสดงออกในฐานะที่เป็นเอกชน มิใช่เจ้าพนักงานของรัฐ
การกระทำโดยเจตนา อาจเป็นการแสดงเจตนาโดยชัดแจ้งหรือการแสดงเจตนาโดยปริยาย
การกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายหรือกฎหมายไม่ได้กำหนดไว้ว่าห้ามกระทำ
ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวสิทธิ เกิดการเปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือระงับสิทธิอย่างใดอย่างหนึ่งแก่คู่กรณีตามนิติกรรม
ประเภท
นิติกรรมที่พิจารณาแบ่งตามจำนวนคู่กรณี
นิติกรรมฝ่ายเดียวได้แก่นิติกรรมที่เกิดผลโดยการแสดงเจตนาของบุคคลเพียงฝ่ายเดียว และมีผลผูกพันทางกฎหมาย เช่น พินัยกรรม
นิติกรรมหลายฝ่ายได้แก่นิติกรรมที่เกิดขึ้นโดยการแสดงเจตนาของบุคคลตั้งแต่สองฝ่ายขึ้นไป และทุกฝ่ายตกลงยินยอมตามข้อตกลง
นิติกรรมที่พิจารณาแบ่งตามการมีผลของนิติกรรม
นิติกรรมที่มีผลขณะผู้แสดงเจตนายังมีชีวิต เช่น การให้โดยเสน่หา สัญญาการซื้อ ขาย สัญญาการใช้ทุนการศึกษา
นิติกรรมที่มีผลขณะผู้แสดงเจตนาไม่มีชีวิต เช่น พินัยกรรม
นิติกรรมที่พิจารณาแบ่งตามค่าตอบแทน
นิติกรรมที่มีค่าตอบแทน เช่น สัญญาจ้างงาน สัญญาซื้อขาย สัญญากู้ยืมเงิน
นิติกรรมที่ไม่มีค่าตอบแทน เช่น การให้โ้ดยเสน่หา สัญญายืมเงินโดยไม่มีดอกเบี้ย
ความสามารถของบุคคลในการให้การยินยอมรักษาพยาบาล
ความหมาย
สภาพที่กฎหมายกำหนดขอบเขตให้บุคคลมีสิทธิหรือใช้สิทธิ ความสามารถของบุคคลเป็นสิ่งสำคัญต่อการพิจารณาความรับผิดทางกฎหมาย
บุคคล หมายถึง สิ่งซึ่งสามารถมีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย ทั้งนี้กฎหมายไม่จำกัดเฉพาะมนุษย์เท่านั้นที่เป็นบุคคล แต่รวมไปถึงสิ่งต่างๆ ที่กฎหมายบัญญัติรับรองการเป็นบุคคล
บุคคลธรรมดา หมายถึง มนุษย์ที่มีชีวิตรอดภายหลังการคลอดจากครรภ์มารดา ในทางกฎหมายกำหนดให้สภาพบุคคลเริ่มตั้งแต่เมื่อคลอดและอยู่รอดเป็นทารกและสิ้นสุดลงเมื่อตาย
:การตายโดยธรรมชาติ หมายถึง การป่วยตาย แก่ตาย การตายของบุคคล ทำให้สภาพบุคคลสิ้นสุด ก่อให้เกิดผลทางกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญา โดยในทางแพ่งบรรดาสิทธิหน้าที่ ความรับผิด และทรัพย์สินของผู้ตาย ย่อมตกทอดไปยังทายาทส่วนในทางอาญา โทษของผู้ตายที่กระทำผิด ย่อมระงับไปเพราะความตายของบุคคลนั้น
การสาบสูญ หมายถึง การที่บุคคลได้ไปจากภูมิล าเนาหรือถิ่นที่อยู่ และไม่มีใครรู้แน่ว่า บุคคลนั้น ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ เป็นเวลาติดต่อกัน 5 ปี ในเหตุการณ์ปกติ หรือเป็นเวลา 2 ปี ในกรณีที่มีเหตุอันตรายจาก การรบ การสงคราม หรือยานพาหนะอับปาง
นิติบุคคล หมายถึง สิ่งซึ่งกฎหมายสมมติให้เป็นบุคคล เพื่อให้มีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย
บุคคลที่กฎหมายจำกัดสิทธิในการทำนิติกรรม
ผู้เยาว์ ไม่สามารถทำนิติกรรมใดๆ โดยลำพัง ต้องได้รับความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรม ได้แก่ บิดามารดา หรือผู้ปกครอง นิติกรรมใดๆ ที่ผู้เยาว์กระทำโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรม จะเป็นโมะฆียะ เช่น การรับของที่มีผู้ให้โดยเสน่หาการจดทะเบียน รับรองบุตรนอกสมรส
คนไร้ความสามารถ บุคคลที่ศาลสั่งให้เป็นคนไร้สามารถไม่อาจทำนิติกรรมใดๆ หากกระทำนิติกรรมนั้น ถือเป็นโมะฆียะทั้งหมด หากจำเป็นต้องทำนิติกรรมใดๆ ผู้อนุบาลต้องเป็นผู้ทำแทน นิติกรรมจึงจะสมบูรณ์
คนเสมือนไร้ความสามารถ ต้องปรากฎว่าบุคคลนั้นไม่สามารถทำงานได้ เนื่องจากมีเหตุบกพร่องอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น กายพิการ จิตฟั่นเฟือน ประพฤติสุรุ่ยสุร่าย เสเพลเป็นอาจิณ
ลูกหนี้ที่ถูกศาลสั่งเป็นบุคคลล้มละลาย
สามีภริยาเป็นผู้จัดการสินสมรสร่วมกัน ต้องให้ความยินยอมซึ่งกันและกันเป็นการทำนิติกรรมบางประเภท เช่น การซื้อขาย แลกเปลี่ยน การเช่าอสังหาริมทรัพย์เกิน 3 ปี การประนีประนอมยอมความ การกู้ยืมเงิน การให้โดยเสน่หาเกินฐานะ
สภาพบังคับทางแพ่ง
โมฆะกรรม ไม่สามารถให้คำรับรองนิติกรรมภายหลังการกระทำ เพื่อให้นิติกรรมกลับมามีผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย
โมฆียกรรม การทำนิติกรรมที่มีผลสมบูรณ์ในขณะกระทำ แต่สามารถบอกล้างหรือปฏิเสธนิติกรรมโดยผู้เสียหายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด มีผลให้นิติกรรมนั้นตกเป็นโมฆะตั้งแต่เริ่มแรกเสมือนไม่ได้ทำนิติกรรมใด
การบังคับชำระหนี้ เป็นการชำระเงิน ส่งมอบทรัพย์สิน กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อใช้หนี้ หรืองดกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อใช้หนี
การชดใช้ค่าเสียหายหรือค่าสินไหมทดแทน การที่กฎหมายรับรองและคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายให้กลับคืนสู่ฐานะเดิมมากที่สุด โดยการคืนทรัพย์สิน การใช้ราคาทรัพย์สินหรือค่าเสียหาย เพื่อความเสียหายที่ก่อขึ้น ถ้าตกลงกันไม่ได้ต้องดำเนินการฟ้องร้องต่อศาล
ความรับผิดจากการละเมิด
การกระทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมาย
การกระทำโดยจงใจหรือประมาท
ทำให้บุคคลอื่นเสียหาย
บุคคลต้องร่วมรับผิดกับผู้กระทำ
นายจ้างต้องร่วมรับผิดกับลูกจ้างในผลแห่งการละเมิด ซึ่่งลูกจ้างได้กระทำไปตามที่ว่าจ้าง
ตัวการต้องรับผิดชอบผลแห่งการละเมิดของตัวแทนที่ได้กระทำไปภายในของเขตอำนาจของตัวแทน ซึ่งกระทำตามที่ตัวการมอบหมาย
บิดามารดาของผู้เยาว์หรือผู้อนุบาลของผู้วิกลจริต ต้องร่วมรับผิดในผลแห่งการละเมิดที่ผู้เยาว์หรือผู้วิกลจริตกระทำ
ครูบาอาจารย์ นายจ้างหรือบุคคลอื่น ซึ่งรับดูแลผู้ไร้ความสามารถอยู่เป็นนิตย์หรือชั่วครั้งคราว จะต้องร่วมรับผิดกับผู้ไร้ความสามารถในการละเมิด ซึ่งได้กระทำระหว่างอยู่ในความดูแลของตน
อายุความ คือ ระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดให้บุคคลมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายภายในระยะเวลาที่ กฎหมายกำหนด ถ้าผู้เสียหายใช้สิทธินั้นร้องเรียนต่อศาลเกินระยะเวลาที่กำหนด ศาลจะมีคำสั่งยกฟ้องได้ เนื่องจากคดีขาดอายุความ ทั้งนี้ผู้เสียหายมีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนอันเกิดจากการละเมิดภายใน 1 ปี นับแต่วันที่รู้เรื่องการละเมิดและรู้ตัวผู้กระทำละเมิด และไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันทำละเมิด
กฎหมายอาญาสำหรับพยาบาล
ประเภท
ความผิดต่อแผ่นดิน เป็นความผิดที่สำคัญและร้ายแรง มีผลกระทบต่อผู้เสียหายและสังคมส่วนรวม
ความผิดต่อส่วนตัว เป็นความผิดที่ไม่ร้ายแรงมีผลกระทบต่อผู้เสียหายฝ่ายเดียว และกฎหมายบัญญัติประเภทไว้ชัดเจน
ลักษณะสำคัญ
ต้องมีบทบัญญัติความผิด และกำหนดโทษไว้โดยชัดแจ้ง
ต้องตีความเคร่งครัดตามตัวอักษร
ไม่มีผลย้อนหลังที่เป็นโทษจะไม่มีผลในการเพิ่มโทษแก่บุคคล
หลักเกณฑ์
การกระทำ การเคลื่อนไหวร่างกาย หรือไม่เคลื่อนไหวร่างกาย โดยรู้สำนึกและอยู่ภายใต้การบังคับของจิตใจ
กฎหมายบัญญัติว่า ผู้ต้องหาไม่มีความผิดจนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด และก่อนมีคำพิพากษาจะปฏิบัติต่อผู้ต้องหาเหมือนเป็นผู้กระทำผิดไม่ได้
กระทำโดยเจตนา ประมาท หรือไม่เจตนา
เหตุยกเว้นความรับผิดทางอาญา
4.1 เหตุยกเว้นความรับผิด การกระทำที่โดยทั่วไปกฎหมายบัญญัติว่าเป็นความผิด แต่ถ้ามีเหตุการณ์หรือสภาพแวดล้อมบังคับให้ผู้กระทำต้องกระทำเช่นนั้น
4.2 เหตุยกเว้นโทษ การกระทำที่เป็นความผิดทางอาญาที่ผู้กระทำไม่ต้องรับโทษ หากมีเหตุอันควรที่กฎหมายระบบ
4.3 เหตุลดหย่อนโทษ มีพฤติการณ์หรือเหตุการณ์ที่น่าเห็นใจหรือมีเหตุเป็นคุณแก่ผู้กระทำความผิดให้หย่อนโทษได้
อายุความ
5.1 อายุความฟ้องคดีทั่วไป ระยะเวลาของอายุความแปรตามอัตราโทษตามความผิด
5.2 อายุความฟ้องคดีความผิดอันยอมความได้
โทษทางอาญา
โทษประหารชีวิต เป็นโทษสูงสุด สำหรับลงโทษผู้กระทำความผิดคดีอุกฉกรรจ์
โทษจำคุก เป็นโทษจำกัดเสรีภาพของนักโทษที่ถูกควบคุมไว้ในเรือนจำตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในคำพิพากษา
โทษกักขัง เป็นโทษที่เปลี่ยนจากโทษอย่างอื่นมาเป็นโทษกักขัง
โทษปรับ การชำระเงินต่อศาลตามจำนวนที่ศาลกำหนดไว้ในคำพิพากษา
โทษริบทรัพย์สิน ศาลมีอำนาจสั่งริบทรัพย์สิน
ความรับผิดทางอาญา
ความประมาทในการประกอบวิชาชีพการกระทำหรือการพยาบาลโดยขาดความระมัดระวัง
1) ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานวิชาชีพ
2) ใช้เครื่องมือ/อุปกรณ์การแพทย์ไม่ถูกต้อง
3) ความบกพร่องด้านการสื่อสาร
4) ความบกพร่องด้านการบันทึก
5) ความบกพร่องด้านการประเมินและเฝ้าระวังอาการ
6) ความบกพร่องด้านการไม่พิทักษ์สิทธิของผู้ป่วย
การทอดทิ้งหรือละเลยผู้ป่วย
การเปิดเผยความลับของผู้ป่วย
การปฏิเสธความช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในอันตรายต่อชีวิต
ความผิดเกี่ยวกับเอกสาร การปลอมเอกสารและการทำหรือรับรองเอกสารเท็จ
การทำให้หญิงแท้งลูก
แนวปฏิบัติในการรักษาความลับของผู้ป่วย
1) ไม่นำเรื่องของผู้ป่วยมาวิพากษ์วิจารณ์ให้บุคคลภายนอกได้ยินหรือพูดในที่สาธารณะ
2) ไม่วางแฟ้มประวัติหรือเขียนการวินิจฉัยไว้ที่ปลายเตียง/หน้าห้องผู้ป่วย
3) กรณีศึกษาของนักศึกษาพยาบาล ไม่ควรเขียนนามสกุลจริงของผู้ป่วย
4) ไม่นำบันทึกรายงานของผู้ป่วยออกจากหอผู้ป่วย
5) ไม่เปิดเผยข้อมูลของผู้ป่วยแก่ญาติหรือคนอื่น
6) ระมัดระวังการพูดเกี่ยวกับการวินิจฉัย และการรักษาในห้องผู้ป่วย
โรงพยาบาลควรมีนโยบายจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ป่วย