Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

Drug allergy 3a9786 - Coggle Diagram

- - - - พบ abnormal V/S
        
        BT = 38..6 องศาเซลเซียส
        PR = 105 bpm
        RR = 24 BPM
      - สงสัยว่าเป็น sepsis
      - มีผื่นลุกลามทั่วตัว
  - - - DCAP BTLS
    - - SAMPLE
        
        sign
        
        onset - เริ่มมีอาการหลังได้รับยา meropenam วันที่ 21/06/63
        
        provacation - pt. เป็น ESRD ทำให้มีผลต่อกลไกการ excretion
        
        Quality - มีอาการ ผื่นแดงลามทั่วตัว คันเล็กน้อย มีมือบวม มีไข้ BT = 38.6 oC
        
        Radiation -ผื่นแดงขึ้นที่ขา และรามไปลำตัว แขน ใบหน้า
        
        severity - อาการของการแพ้ยาระดับรุนแรง
        
        time -มีอาการมาแล้ว 2 day (มีอาการมากขึ้นเรื่อยๆ)
        
        Allergies : ไม่มีประวัติแพ้ยา meropenam
        
        medication - ได้รับนา meropenam และ vancomycin
        
        past history ผู้ป่วยมีโรคประจำตัวเป็น IgA nephropamy
        ESRD ทำHD via Rt. perm cath วัน อังคาร พฤหัส และเสาร์
        
        last oral intake - รับประทาน ยา Para 3hs. PTA
        
        event
        
        1 day PTA มีอาการผื่นแดงขึ้นที่ขา มีไข้ ไม่ได้ไปหาหมอคลินิก
        
        3 day PTA (20/06/63) หลังล้างไต N/V 10 ครั้ง ไป admit รพ.กรุงเทพคริสเตียน ระหว่าง Admit มีไข้ 1 peak ทำ septic w/u ให้ยา meropemam + vancomycin D/C 21/06/63
        
        วันนี้ ผื่นแดงมากขึ้น มีไข้ = 38.6 องศาเซลเซียส จึงมาพบแพทย์
- - - - ทางผิวหนัง
        
        รุนแรง
        Severe cutaneous drug reaction
        เกิดขึ้นได้ตั้งแต่ 2 wk-2Mo
        
        มีตุ่มน้ำพอง Steven Johnson Syndrome
        
        มีไข้สูง
        
        BT = 38.6 / 39.0 องศาเซลเซียส
        
        ให้ Para (500) 1 tab PO
        
        เจ็บแสบผิวหนัง
        
        ผิวหนังบวม
        
        มีผื่นสีเข้ม
        
        มีผื่นแดงทั่วร่างกาย
        
        เจ็บบริเวณเยื่อบุอ่อน เช่น ตา ช่องปาก อวัยวะเพศ
        
        อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร
        
        อักเสบของอวัยวะภายใน เช่น ตับอักเสบ อาจมี ปวดท้อง N/V ไตอักเสบ
        
        ไม่รุนแรง
        
        ผื่นแดงจางๆ คันผิว
      - ทางเดินหายใจ
        
        น้ำมูกไหล คัดจมูก เสียงแหบ ไอ หายใจเสียงดังหวีด แน่นหน้าอก asphyxia
        
        ฟังปอด
        
        Stridor
        rhonchi
        
        wheezing
      - หัวใจและหลอดเลือด
        
        หัวใจเต้นเร็ว SBP <90 mmHg เวียนศีรษะ เป็นลม ช็อค
        
        PR = 105 BPM
      - ทางเดินอาหาร
        
        N/V ท้องเดิน ปวดท้อง ท้องอืด
      - ระบบประสาท
        
        ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ กระสับกระส่าย ความรู้สึกตัวลดลง
    - - การทดสอบการแพ้ยา
        
        ทดสอบโดยการเจาะเลือด
        
        หาค่า tryptase ค่าปกติ 1-1.5 ug/L
        
        ทดสอบโดยการได้รับยาซ้ำ
        
        การให้ยาที่ต้องการทดสอบแก่ผู้ป่วย ต้องเริ่มจากขนาดยาที่น้อยไปจนถึงขนาดยาที่มากที่ใช้ในการรักษา
        
        ภายใต้การควบคุมและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
        
        ทำในสถานที่ที่มีอุปกรณ์ช่วยชีวิตอย่างครบครัน
        
        ยาที่ควรทำการทดสอบ
        
        ยาฆ่าเชื้อกลุ่มเพนนิซิลิน
        
        ยาชา
        
        ยาที่มช้ในการดมสลบ
        
        ยาแก้ปวด
        
        ทดสอบทางผิวหนังโดยการสะกิดและฉีด SC
    - - epinephrine 0.01 mg/kg.
      - antihistamine รักษาได้ดีในอาการทางผิวหนัง
        
        CPM 1 AMP IV
      - steroid
      - ยาพ่น beta 2 agonist ขยายหลอดลมในรายที่มีหลอดลมหดเกร็ง
      - ให้น้ำเกลือเข้าทางหลอดเลือดดำ เนื่องจากมีการขยายตัวของหลอดเลือดทำให้น้ำรั่วออก เพื่อรักษาความดัน
      - vasopresser เช่น dopamine , epinephrine ในราย BP ต่ำ / ในรายที่ได้ B Blocker ให้ glucagon
      - ให้ออกซิเจน
    - - Type 1 hypersensitivity IgE mediated reaction เป็นสาเหตุใหญ่ โดยสรที่กระตุ้นการเกิดการแพ้ ได้แก่ อาหาร ยา พิษแมลงต่อย
      - สารก่อภูมิแพ้กระตุ้นให้ร่างกานสร้าง allergen specific IgE ซึ่งจะไปเกาะบนผิว mast cell
      - ทำให้ mast cell หลั่ง mediators ต่างๆ
        
        Histamine
        
        Tryptase
        
        อยู่ในกระแสเลือด 6-8 hr.
        
        carboxypeptidease , cytokines
        
        prostaglandin D2
        
        platelet activating factor
      - เกิด Vascular permiability เกิดการหดเกร็งหลอดลม เกิดอาการต่างๆทั่วร่างกาย
      - บางรายกระตุ้น eosinophil , basophil , monocyte , lymphocyte
        
        ใน 3-8 hr. ต่อมา มีอาการกลับมาเป็นซ้ำได้อีก เรียก biphasic reaction
  - - - อาการ / อาการแสดง
        
        ปวดปัสสาวะบ่อย
        
        รู้สึกปวดแสบขณะปัสสาวะ
        
        น้ำปัสสาวะขุ่น มีปริมาณน้อย และมีกลิ่นเหม็นผิดปกติ
        
        ปวดบริเวณท้องน้อย
        
        มีไข้
        
        ปัสสาวะมีเลือดปนในบางครั้ง
      - การวินิจฉัย
        
        ซักประวัติเกี่ยวกับอาการผิดปกติที่เกิดขึ้น
        
        ตรวจร่างกาย
        
        ตรวจปัสสาวะ
        
        UA
        
        WBC = Not Found
        
        Bacteria = Not Found
        
        Urine gram's stain
        
        No Microorganism Found
        
        urine culture
        
        ผลยังไม่ออก
    - - อาการ / อาการแสดง
        
        Tunnel infection หมายถึง อาการติดเชื้อที่สายสวนหลอดเลือด ร่วมกับ การพบหนองจำนวนมากรอบบริเ วณตำแหน่ง ที่สายสวนออก หรือมีหนองจำนวนมากออกมาหลังกดรีดผิวหนังบริเวณสายสวน
        
        Exit site infection อาการบวมแดง กดเจ็บ และอาจพบหนองขนาด เส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่า 2 ซ.ม. รอบบริเวณตำแหน่งที่สายสวนออก
    - - อาการและอาการแสดง
        
        มีไข้ อาจจะมีไข้สูงหรือไข้ต่ำก็ได้ ขึ้นอยู่กับชนิดของการติดเชื้อ
        
        ไอ มักไอไม่มาก อาจไอมีเสมหะหรือไม่มีเสมหะก็ได้
        
        น้ำมูก อาจมีมากหรือน้อย
        
        เจ็บคอ คอหอยอักเสบ
        
        อาจมีเสียงแหบ
      - การวินิจฉัย
        
        ซักประวัติ
        
        ตรวจร่างกาย
        
        ฟัง lung
        
        ไม่พบเสียงผิดปกติ
        
        ตรวจทางห้องปฏิบัติการ
        
        cheat x-ray
        
        ปกติ
    - - อาการ / อาการแสดง
        
        รู้สึกตัวน้อยลง รวมทั้งสับสนจนคิดอะไรไม่ออก
        
        คลื่นไส้และอาเจียน
        
        ผิวหนังอาจเกิดจุดหรือแดง หากปล่อยทิ้งไว้
        ผื่นจะลุกลามใหญ่ขึ้นเหมือนรอยช้ำ
        โดยรอยช้ำเหล่านี้จะแผ่ขยายใหญ่เป็นบริเวณกว้าง
        
        ปัสสาวะน้อยลง
        
        เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงอวัยวะไม่เพียงพอ นำไปสู่ภาวะช็อก
      - การวินิจฉัย
        
        ตรวจทางห้องปฏิบัติการ
        
        PCT
        procalcitonin
        
        PCT = 2.3 ng/ml
        
        low risk < 0.5
        Hight risk =.2.0
        
        เป็น biomarker ที่ใช้แยกการติดเชื้อในกระเลือดที่เกิดจากแบคทีเรีย โดย การหลั่งของ PCT ที่สูงขึ้นภายใน 2-3 ชั่วโมงหลังจากผู้ป่วย อยู่ในภาวะ Severe sepsis หรอ ื Septic shock
        
        Hemoculture
        
        CBC
        
        WBC = 10,760 cell
        
        Neutrophil = 81.8 %
        
        Eosinophil = 7.4 %
        
        ซักประวัติ
        
        ตรวจร่างกาย