Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
เนื้อเรื่องภาพยนต์สั้น A beautiful mind - Coggle…
เนื้อเรื่องภาพยนต์สั้น A beautiful mind
สาเหตุ
ด้านร่างกาย(Biological)
อายุ 24 ปี
เพศชาย
ด้านจิตใจ(Psylogical)
สัมพันธภาพในครอบครัว
เป็นคนเก็บตัว
ไม่อยากมีเพศสัมพันธ์กับภรรยา
มีความคิดหมกมุ่นจนเกือบทำร้ายภรรยายและลูก
มีการทะเลาะกับภรรยาเนื่องจากเกิดอาการประสาทหลอน
ด้านสังคม(Social)
ฐานะทางเศรษฐกิจ
ค่อนข้างดี
สภาพแวดล้อม
เป็นลุกชายคนเดียวของครอบครัว มีน้องสาว 1 คน
เพื่อน
ไม่มีเพื่อน ชอบเก็บตัว
โดนเพื่อนเเกล้งตอนเด็ก
ปัจจัยกระตุ้น
ขาดยา
อาการและอาการเเสดง
อาการทางบวก(Positive Symptoms)
อาการประสาทหลอน (Hallucination)
เห็นภาพหลอน
(Visual Hallucination)
เห็นเพื่อนที่ไม่มีตัวตน
หูแว่ว
(Auditory Hallucination)
ได้ยินเสียงคนคุยกัน
ได้ยินว่ามีคนสั่งให้ถอดรหัสลับ
ได้ยินเสียงคนสะกดรายตาม
อาการหลงผิด (Delusion)
หวาดระแวง(paranoid)
คิดว่าตนเป็นสายลับถอดรหัสได้ (Persecutory Type)
การพูดที่ไม่ปกติ
(disorganized speech)
ถามตอบได้รู้เรื่อง ตะกุกตะกักในบางครั้ง
การพูดที่ไม่ปกติ
(disorganized speech)
ถามตอบได้รู้เรื่อง ตะกุกตะกักในบางครั้ง
(grossly disorganized behavior)
ผู้ป่วยเดินหลังค่อมและมองซ้ายมองขวาเกือบตลอดเวลา
ความผิดปกติทางเพศ (Sexual dysfunctions )
มีการลดลงหรือขาดความสนใจทางเพศหรืออารมณ์ทางเพศ
อาการทางลบ (Negative Symptoms)
ผู้ป่วยพูดช้าลง(Alogia)
ผู้ป่วยบอกว่าชอบอยู่คนเดียว
(Asociality)
ผู้ป่วยมีสีหน้าเรียบเฉย
(Affective flattening)
การรักษา
ทางร่างกาย
การใช้ยารักษา
Diazepam
Antianxiety drugs
มีผลทำให้สงบและผ่อนคลาย
Thorazine
Antipsychotic drugs
Dopamine เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของพฤติกรรม
การรักษาด้วยไฟฟ้า (ECT)
กระตุ้นให้เกิดภาวะชัก (Generalized Seizure )
กระแสไฟฟ้าผ่านเข้าสู่สมองด้วยเวลาจำกัด
มีผลทำให้อาการทางจิต ทุเลาหายเร็วขึ้น
ทางจิตใจ
การช่วยเหลือด้านจิตใจ
ให้คำปรึกษากับครอบครัว
ทางสังคม
กลุ่มบำบัด(Group Therapy)
นิเวศน์บำบัด(Milieu Therapy)
กฏหมาย พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้อง
พระราชบัญญัติ สุขภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑
มาตรา ๑๕
ผู้ป่วยยอมมีสิทธิดังต่อไปนี้
(๑) ได้ รับการบําบัดรักษาตามมาตรฐานทางการแพทย์ โดยคํานึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
มาตรา ๒๒
(๑) มีภาวะอันตราย
(๒) มีความจําเป็นต้องได้รับการบําบัดรักษา
การกรณีศึกษา คุณจอห์นเข้าข่ายบุคคลตามมาตรา ๒๒ ทั้ง (๑) และ (๒)
มาตรา ๒๑
การบําบัดรักษา
จะกระทําได้ต่อเมื่อผู้ป่วยได้รับการอธิบายเหตุผลความจําเป็น ในการบําบัดรักษา รายละเอียดและประโยชน์ของการบําบัดรักษาและได้รับความยินยอมจากผู้ป่วย
เว้นแต่เป็นผู้ป่วยตามมาตรา ๒๒
ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอายุไม่ถึงสิบแปดปีบริบูรณ์ หรือขาดความสามารถในการตัดสินใจให้ ความยินยอมรับการบําบัดรักษา
ให้ คู่สมรส ผู้บุพการี ผู้สืบสันดาน ผู้ปกครอง ผู้ พิทักษ์ผู้อนุบาล หรือผู้ ซึ่ง ปกครองดูแลบุคคลนั้น แล้วแต่กรณี เป็นผู้ให้ความยินยอมตามวรรคสองแทน
จอห์นเป็นผู้ป่วยตามมาตราที่ ๒๒
ภรรยาสามารถเซ็นยินยอมเข้ารับการรักษาเเทนได้
จอห์น ถือเป็นผู้ขาดความสามารถในการตัดสินใจ
มาตรา ๑๘
การรักษาทางจิตเวชด้วยไฟฟ้า การกระทําต่อสมองหรือระบบประสาทหรือ การบําบัดรักษาด้วยวิธีอื่นใด ที่อาจเป็นผลทําให้ ร่างกายไม่อาจกลับคืนสู่สภาพเดิมอย่างถาวรให้กระทําได้
ในกรณีดังต่อไปนี้
(๑) กรณีผู้ป่วยให้ ความยินยอมเป็นหนังสือเพื่อการบําบัดรักษานั้น
โดยผู้ป่วยได้ รับทราบเหตุผล ความจําเป็น ความเสี่ยงที่อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายร้ายแรง หรืออาจเป็นผลทําให้ไม่สามารถ แก้ไขให้ร่างกายกลับคืนสู่สภาพเดิม
ผู้ป่วยได้ รับทราบประโยชน์ของการบําบัดรักษา
(๒) กรณีมีเหตุฉุกเฉินหรือมีความความจําเป็นอย่างยิ่ง
เพื่อประโยชน์ของผู้ป่วยหากมิได้ บําบัดรักษาจะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตของผู้ป่วย
ทั้งนี้ โดยความเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ของ คณะกรรมการสถานบําบัดรักษา
จากภาพยนต์สั้น เรื่อง A beautiful mind
สามารถรักษาด้วยไฟฟ้าได้ ตามมาตราที่ ๑๘ (๒)
คุณจอห์นถือว่ามีความความจําเป็นต้องได้รับการรักษาตามพระราชบัญญัติ สุขภาพจิต พ.ศ. ๒๕๕๑
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
ข้อที่ 2 บกพร่องในการสร้างสัมพันธภาพกับผู้อื่นเนื่องจากมีพฤติกรรมเเยกตัว
วัตถประสงค์
สามารถสร้างสัมพันธภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เกณฑ์การประเมิน
เข้าร่วมกิจกรรมที่จัดขึ้นภายในหอผู้ป่วย
สนทนากับเจ้าหน้าที่หรือผู้อื่น
เข้ากับผู้อื่นได้ดีขึ้น
การพยาบาล
2.สนใจและให้ความช่วยเหลือให้ผู้ป่วยได้ระบายความรู้สึกกลัวหรือวิตกกังวลที่เกิดจากความคิดหลงผิดและประสาทหลอน สนทนากบผู้ป่วยในเรื่องที่เป็นจริง
3.สร้างสัมพันธภาพกับผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอด้วยท่าทีเป็นมิตร โดยใช้เวลาส่วนใหญ่นั่งเงียบ พยายามสบตาและสัมผัสผู้ป่วยด้วยความระมัดระวังถึงแม้ผู้ป่วยจะไม่พูดถามคำถามง่าย ๆ ถ้าผู้ป่วยไม่พูดใช้เทคนิคการแปลความหมาย เพื่อให้ผู้ป่วยทราบว่าพยาบาลเห็นใจผู้ป่วย เช่น “มันคงยากมากสำหรับคุณ เมื่อ.............”เทคนิคดังกล่าวทำให้ผู้ป่วยเกิดความไว้วางใจและระบายความรู้สึกออกมา
1.พยาบาลต้องให้ความสำคัญกับการสร้างสัมพันธภาพเเบบตัวต่อตัวเพื่อการบำบัดอย่างสม่ำเสมอเพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ป่วยได้พูดถึงความคิดของเขาได้อย่างอิสระและเพื่อได้รับฟังความคิดของผู้ป่วย
กระตุ้นให้ผู้ป่วยได้ทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น เมื่อผู้ป่วยได้ไว้วางใจพยาบาล โดยให้เข้ากลุ่มเล็กๆก่อน เมื่อปรับตัวได้ดีจึงให้เข้ากลุ่มใหญ่โดยให้พยาบาลอยู่เป็นเพื่อนและให้กำลังใจ
5.ดูแลให้ได้รับยารักษาอาการทางจิตตามแผนการรักษา สังเกตผลของยาว่าผู้ป่วยมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นเหมาะสมมากข้ึน มีอาการประสาทหลอนลดลง และอาการข้างเคียงของยามีอาการ Extrapyramidal symptoms หรือไม่เช่นปากแห้ง ตาพร่ามัว ง่วงนอนหน้ามืดเมื่อเปลี่ยนท่า ไวต่อแสง อาการเคลื่อนไหวผิดปกติ ควบคุมไม่ได้
ข้อที่ 1 เสี่ยงต่อการทำร้ายตนเองเเละผู้อื่นเนื่องจากมีภาวะหลงผิดและประสาทหลอน
วัตถุประสงค์
เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยทำร้ายตนเองเเละผู้อื่น
เกณฑ์การประเมิน
ผู้ป่วยไม่ทำร้ายตนเองและผู้อื่น
มีภาวะหลงผิดและประสาทหลอนลดลง
มีการเเสดงออกและควบคุมอารมณ์ได้อย่างเหมาะสม
การพยาบาล
สร้างสัมพันธภาพเเบบตัวต่อตัวการเข้าร่วมกลุ่มกิจกรรมของผู้ป่วย แต่ควรสร้างสัมพันธภาพแบบตัวต่อตัว
สังเกตพฤติกรรมการทำร้ายตัวเองหรือผู้อื่นของผู้ป่วยอยู่เสมอ
นำวัตถุที่เป็นอันตราย เช่น ของมีคมวัตถุท่ีทำด้วยแก้วหรือกระจกเข็มขัดเน็คไทบุหรี่ เป็นต้น ออกห่างผู้ป่วยให้มากที่สุด
สำหรับผู้ป่วยที่มีความคิดหลงผิดแบบระแวง พยาบาลควรปฏิบัติ ดังนี้
9.2 การเข้าไปสนทนากับผู้ป่วยต้องแนะนาตัวและบอกวัตถุประสงค์ให้ชัดเจน
9.3 การปฏิบัติต่อผู้ป่วยต้องคงเส้นคงวา เมื่อมีข้อตกลงต่อกันแล้วจะต้องปฏิบัติตาม
9.4 หลีกเลี่ยงการเข้าไปจับต้องตัวผู้ป่วยและไม่ควรใช้ภาษาหรือกิริยาที่ก่อให้เกิดความสงสัยหรือตีความได้ไม่ชัดเจน
9.1 พยาบาลต้องไม่ทำใหผู้ป่วยสงสัยในพฤติกรรมของพยาบาล เพราะผู้ป่วยจะระมัดระวังตัว
มีเวลาอยู่กับผู้ป่วย คอยให้ความช่วยเหลือขณะที่ผู้ป่วยกระวนกระวายลุกลี้ลุกล้น
1.ประเมินอาการประสาทหลอนที่เกี่ยวข้องว่าเกิดจากระบบสัมผัสใด ผู้ป่วยแสดงปฏิกิริยาอย่างไรต่อการรับรู้นั้น อาการเกิดขึ้นช่วงเวลาใด
2.ถ้าพยาบาลพบผู้ป่วยที่กำลังแสดงอาการประสาทหลอน พยาบาลควรบอกสิ่งที่เป็นจริง (Present reality)กับผู้ป่วยในขณะนั้น เช่น ผู้ป่วยบอกว่าเห็นเพื่อนมาหา ซึ่งขณะนั้นไม่มีเพื่อผู้ป่วย พยาบาลควรบอกให้ผู้ป่วยรู้ว่าพยาบาลไม่เห็นเพื่อนของเขา
3.พยาบาลต้องเเสดงความยอมรับต่ออาการประสาทหลอนของผู้ป่วยโดยการรับฟังไม่โต้เเย้ง เเต่ควรบอกความจริงกับผู้ป่วยว่าไม่เห็นไม่ได้ยินสิ่งที่ผู้ป่วยบอก บอกว่าไม่เห็นสิ่งที่คุณเห็นหรือได้ยินนะคะ
4.ไม่ส่งเสริมและลดโอกาสในการเกิดอาการประสาทหลอนต่างๆ โดยการสนทนากับผู้ป่วยด้วยถ้อยคำที่ชัดเจน เรียกชื่อผู้ป่วยให้ถูกต้อง และกระตุ้นให้ผู้ป่วยเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ
10.ให้ผู้ป่วยแยกแยะว่า อาการประสาทหลอนที่เกิดขึ้นนั้นเขารู้สึกอย่างไรอาการเกิดขึ้นใน ช่วงเวลาใด หรือมีเหตุการณ์อะไรนำมาก่อน เพราะผู้ป่วยจะได้รู้จักป้องกัน ตนเองไม่ให้เกิดอาการรุนแรงขึ้นพยาบาลต้องตระหนักว่า มีอาการประสาทหลอนบางประเภทมีแนวโน้มจะทำให้ผู้ป่วยมีปฏิกิริยาโตต้อบรุนแรง
ข้อที่ 3 เสี่ยงต่อการกลับเป็นซ้ำเนื่องจากปฏิเสธการเจ็บป่วยและรับประทานยาไม่ต่อเนื่อง
เกณฑ์การประเมิน
รับประทานยาได้อย่างอย่างต่อเนื่อง
ลดระยะห่างการกลับเป็นซ้ำกลับไปอยู่บ้านนานขึ้น
ยอมรับการเจ็บป่วยมากขึ้น
การพยาบาล
3.สร้างสัมพันธภาพเเบบตัวต่อตัว เพื่อให้ผู้ป่วยไว้วางใจ
พูดคุยและให้การเสริมแรงทางบวกเก่ียวกับการ รับประทานยา
4.เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้พูดคุยและระบาย ความรู้สึก และสอบถามข้อสงสัยเกี่ยวกับยา และการดูแลตนเอง
1.ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องการใช้ยาให้ผู้ป่วยจัดให้ผู้ป่วยสนทนาเกี่ยวกับความเข้าใจ
เรื่องโรค การรักษาด้วยยา และให้ผู้ป่วยสังเกตผลของการรับประทานยา
5.จัดให้ครอบครัวของผู้ป่วยมาเข้าร่วมสนทนา แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์เก่ียวกับการดูเเลผู้ป่วย การรับประทานยา และเสนอแนะให้ครอบครัวสอบถาม และให้กำลังใจเมื่อผู้ป่วยสามารถปฏิบัติได้ดี
2.ให้ความรู้เกี่ยวกับการสังเกตอาการกำเริบของผู้ป่วยหากมีอาการประสาทหลอนหลงผิด หรือมีอาการผิดปกติอืนๆที่ควรได้รับการรักษา
วัตถุประสงค์
ป้องกันการกลับเป็นซ้ำ
การตรวจสุขภาพจิต
ลักษณะทั่วไป (General Appearance)
นั่งกุมมือและบีบมือตัวเองเกือบตลอดเวลา สีหน้าวิตกกังวล แววตาหวาดระแวง ก้มหน้าเป็นส่วนใหญ่
การเคลื่อนไหว (Psychomotor Activity)
เดินหลังค่อม มองซ้ายขวาเกือบตลอดเวลา
ความสามารถในการรับสัมผัส (Perception)
บางครั้งผู้ป่วยพูดคนเดียวเหมือนกำลังสนทนากับใคร สอบถามทราบว่าผู้ป่วยกำลังสนทนากับเพื่อนชื่อชาร์ลส์
การรับรู้ (Orientation)
คิดว่าจิตแพทย์ที่รักษาเขาเป็นสายลับรัสเซีย จึงไม่ให้ความร่วมมือในการรักษา
การคิด (Thought)
คิดว่าตนเป็นสายลับ และถูกปองร้ายจากกลุ่มสายลับรัสเซีย
ลักษณะการพูด (Speech)
พูดตะกุกตะกักในบางครั้ง แต่เมื่อพูดถึงเรื่องการเป็นสายลับ การถูกสะกดรอยตามจะพูดรัว เร็ว
การรับรู้เกี่ยวกับตนเอง (Insight)
ไม่คิดว่าตนเจ็บป่วยทางจิต
การวินิจฉัยโรค: โรคจิตเภท (Schizophrenia)
เกณฑ์การวินิจฉัย ICD 10
F20.0 Paranoid schizophrenia โรคจิตเภทแบบระแวง :star:
F20.09 Paranoid schizophrenia\,course uncertain\,period of observation too short โรคจิตเภทแบบระแวง การดำเนินโรคไม่แน่นอน ระยะสังเกตุการณ์สั้นเกินไป
F20 Schizophrenia โรคจิตเภท
โรคจิตเภท (Schizophrenia) หมายถึง เป็นโรคที่มีความผิดปกติของความคิด (thought) เป็นอาการเด่น แต่มี
ผลถึงการรับรู้(perception) อารมณ์(affect) และพฤติกรรม(behavior) Eugen Bleuer
ชนิด
Paranoid type
ผู้ป่วยจะหมกมุ่นอยู่กับความคิดหลงผิด (delusion) หนึ่งอย่างหรือมากกว่า ร่วมกับอาจจะมี
อาการหูแว่ว (auditory hallucination) ร่วมด้วย :star:
Disorganized type
ผู้ป่วยมักจะแสดงให้เห็นถึงความถดถอยทางความสามารถอย่างชัดเจน มีพฤติกรรมทีค่อนข้าง primitive ขาดการยับยั้ง เช่น ก่อนอายุ 25 ปี ผู้ป่วยมักกระตือรือร้น แต่ทําอะไรแบบไร้ เป้าหมาย ไม่ค่อนอยู่ในโลกความเป็นจริง
Catatonic type
ผู้ป่วยจะมีความผิดปกติของ motor function อย่างมาก อาจจะมีลักษณะ stupornegativism (ต้านการเคลื่อนไหวหรือการตรวจ), rigidity, posturing (ทําท่าทางแปลกๆค้างอยู่นาน)excitement (ขยับตื่นตัวตลอดเวลา),
Undifferentiated type
เป็นกลุ่มผู้ป่วย schizophrenia ที่มีอาการแล้วไม่สามารถแยกประเภทเข้ากับกลุ่ม
ใดๆทีกล่าวมาข้างต้นได้
Schizoaffective
มีอารมณ์เศร้าร่วมกับอาการ
เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ คิดช้า รู้สึกว่า ตนมีความผิด เบื่อชีวต คิดอยากตาย
Simple Type
ผู้ป่วยขาดความสัมพนัธ์กับบุคคล บุคลิกภาพเปลี่ยนไปในทางเสื่อม เก็บตัวอยู่ตามลำพังคนเดียวละเลยกิจวัตรประจำวัน อารมณ์เฉยเมยไม่คิดว่าตนผิดปกติไม่มีความคิดหลงผิด มักเกิดในวัยรุ่น ค่อยเป็นค่อยไป
Residual Type
เก็บตัว เฉือยชา ไม่สนใจตัวเอง