Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
พระราชบัญญัติ วิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์, จิดาภา ตั้งอยู่ดำรงกุล…
พระราชบัญญัติ
วิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
หมวด ๑ สภาการพยาบาล
มาตรา๘ อำนาจหน้าที่
รับรองหลักสูตรต่างๆ สาหรับการฝึ กอบรมในวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ของ สถาบนัการศึกษาท่ีจะทาการฝึกอบรมในวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
รับรองวิทยฐานะของสถาบัน ที่ทำการสอนและฝึกอบรมตาม (๔) และ (๕)
รับรองหลักสูตรต่างๆ สำหรับการศึกษาในระดับประกาศนียบัตรของสถาบัน ที่จะทำการสอนวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
รับรองปริญญา ประกาศนียบัตรเทียบเท่าปริญญา ประกาศนียบัตร หรือวุฒิบัตรในวิชาชีพ การพยาบาลและการผดุงครรภ์ของสถาบันต่างๆ
ให้ความเห็นชอบหลักสูตรการศึกษาวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ในระดับอุดมศึกษาของสถาบนั การศึกษาท่ีจะทาการสอนวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ เพื่อเสนอต่อทบวงมหาวิทยาลัย
ออกหนงัสืออนุมัติหรือวุฒิบัตรเกี่ยวกับความรู้หรือความชำนาญเฉพาะทางและหนังสือ แสดงวุฒิอื่นในวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ให้แก่
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์
สั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์
ดาเนินการให้เป็นไปตามวตั ถุประสงค์ของสภาการพยาบาล
รับข้ึนทะเบียนและออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ขอเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์
มาตรา ๙ รายได้
ผลประโยชน์จากกิจกรรมอื่นของสภาการพยาบาลตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดในมาตรา ๗
เงินและทรัพย์สินซึงมีผู้ให้แก่สภาการพยาบาล
ค่าจดทะเบียนสมาชิกสามัญค่าบำรุง และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ
ดอกผลของเงินและทรัพย์สินอื่นตาม (๑) (๒) (๓) และ (๔)
เงินอุดหนุนจากงบประมาณแผ่นดิน
มาตรา ๗ วัตถุประสงค์
ช่วยเหลือ แนะนา เผยแพร่ และให้การศึกษาแก่ประชาชนและองคก์รอื่นในเรื่องท่ีเก่ียวกบัการพยาบาล การผดุงครรภ์ และการสาธารณสุข
ให้คำปรึกษา หรือขอ้ เสนอแนะต่อรัฐบาลเกี่ยวกับปัญหาการพยาบาล การผดุงครรภ์และการสาธารณสุข
ส่งเสริมความสามัคคีและผดุงเกียรติของสมาชิก
เป็นตัวแทนของผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์
หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์ในประเทศไทย
ส่งเสริมการศึกษาการบริการ การวิจัย และความก้าวหน้าในวิชาชีพการพยาบาลการผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์
ผดุงความเป็นธรรมและส่งเสริมสวสั ดิการให้แก่สมาชิก
ควบคุมความประพฤติของผปู้ระกอบวชิาชีพการพยาบาลการผดุงครรภ์หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ให้ถูกต้องตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
มาตรา ๖
ให้มีสภาการพยาบาล มีวัตถุประสงค์และอานาจหน้าที่ตาม
พระราชบัญญัติน้ี ให้สภาการพยาบาลเป็นนิติบุคคล
หมวด ๒ สมาชิก
มาตรา ๑๒ สิทธิและหน้าที่
แสดงความเห็นเป็นหนังสือเกี่ยวกับกิจการของสภาการพยาบาลส่งไปยัง คณะกรรมการเพื่อพิจารณา และในกรณีที่สมาชิกสามัญร่วมกัน ต้ังแต่ห้าสิบคนข้ึนไปเสนอให้คณะกรรมการพิจารณาเรื่องใดท่ีเกี่ยวกับ กิจการของสภาการพยาบาล คณะกรรมการต้องพิจารณาและแจ้ง ผลการพิจารณาให้ผู้เสนอ ทราบโดยมิชักช้า
เลือกต้ังรับเลือกต้ัง หรือรับเลือกเป็นกรรมการ
ขอข้ึนทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล และขอหนังสืออนุมัติ หรือวุฒิบัตรเกี่ยวกับความรู้หรือความชำนาญ เฉพาะทางหรือหนังสือแสดงวุฒิอื่นในวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ โดยปฏิบัติตามข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยการน้ัน
ผดุงไว้ซึ่งเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพและปฎิบัติตนตามพระราชบัญญัติน้ี
มาตรา ๑๓ สมาชิกสามัญสิ้นสุดลง
ลาออก
ขาดคุณสมบัติตามมาตรา ๑๑ (๑)
ตาย
มาตรา ๑๑
สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่ ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งสภาการพยาบาลเชิญให้เป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์
สมาชิกสามัญ
ไม่เป็นผู้ประพฤติเสียหาย ซึ่งคณะกรรมการเห็นว่าจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสีย เกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ
ไม่เคยต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงท่ีสุด หรือคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายให้จำคุกในคดีที่คณะกรรมการเห็นว่าจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ
มีความรู้ในวิชาชีพการพยาบาลหรือการผดุงครรภ์โดยได้รับปริญญา
ประกาศนียบัตร เทียบเท่าปริญญา หรือประกาศนียบัตรในสาขาการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและ การผดุงครรภ์ ที่สภาการพยาบาลรับรอง
ไม่เป็นผู้มีจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือไม่เป็นโรคที่กำหนดไวใน
ข้อบังคับ สภาการพยาบาล
มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์
หมวด ๓ คณะกรรมการ
มาตรา ๑๙
ให้กรรมการซึ่งได้รับแต่งตั้ง และรับเลือกตั้ง มีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละสี่ปี และ อาจได้รับแต่งตั้ง หรือรับเลือกตั้งใหม่ได้แต่จะดำรงตำแหน่งเกินสองคราวติดต่อกันไม่ได้
มาตรา ๒๐ กรรมการซึ่งได้รับแต่งตั้ง
และรับเลือกตั้งพ้นจากตำแหน่ง เมื่อ
ขาดคุณสมบัติตามมาตรา๑๘
ลาออก
สมาชิกภาพสิ้นสุดลงตามมาตรา ๑๓
มาตรา ๑๗
การเลือกตั้ง กรรมการตามมาตรา ๑๔ การแต่งตั้งกรรมการท่ีปรึกษาตามมาตรา ๑๕ และการเลือกกรรมการเพื่อดำรงตำแหน่งต่างๆ ตามมาตรา ๑๖ ให้เป็นไปตามข้อบังคับสภาการพยาบาล
มาตรา ๒๑
ในกรณีตำแหน่งกรรมการซึ่งได้รับเลือกตั้งว่างลงเกินกึ่งหน่ึงของจำนวนกรรมการดังกล่าวทั้งหมด ให้สมาชิกสามัญเลือกตั้ง กรรมการข้ึนแทนภายในเก้าสิบวัน นับตั้งแต่วันที่ตำแหน่งกรรมการดังกล่าวได้ ว่างลงเกินกึ่งหน่ึง
ถ้าวาระของกรรมการซึ่งได้รับการเลือกตั้ง เหลืออยู่ไม่ถึงเก้าสิบวันคณะกรรมการจะไม่ให้มีการเลือกกรรมการแทนก็ได้
ในกรณีตำแหน่งกรรมการซึ่งได้รับเลือกตั้งว่างลงไม่เกินกึ่งหน่ึงของจำนวนกรรมการ ดังกล่าว ทั้ งหมดก่อนครบวาระให้คณะกรรมการเลือกสมาชิกสามัญผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา ๑๘ เป็นกรรมการแทนภายในสามสิบวัน นับแต่วันที่ตำแหน่งกรรมการน้ันว่างลง
ให้ผู้ซึ่งเป็นกรรมการแทนนั้น อยู่ในตำแหน่งได้เพียงเท่าวาระที่ยังเหลืออยู้ของกรรมการซึ่งตนแทน
มาตรา๑๖
ให้กรรมการผู้ดำรงตำแหน่งต่างๆ ตามวรรคหน่ึงหรือวรรคสองดำรงตำแหน่งตามวาระของ กรรมการซึ่งได้รับแต่งตั้งหรือรับเลือกตั้งเว้น แต่ผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการให้ดำรงตำแหน่งตามวาระของ กรรมการซึ่งได้รับเลือกตั้ง
ให้นายกสภาการพยาบาลมีอำนาจถอดถอนเลขาธิการก่อนครบวาระตามวรรคสามได้ ทั้งน้ี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ
ให้นายกสภาการพยาบาลเลือกสมาชิกสามัญผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา๑๘ เพื่อดำรงตำแหน่ง เลขาธิการหน่ึงคน และเลือกกรรมการเพื่อดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ ประชาสัมพันธ์ และเหรัญญิก ตำแหน่งละหน่ึงคน
กรรมการซึ่งดำรงตำแหน่งต่างๆ ตามมาตราน้ีแต่ละตำแหน่ง อาจพ้น จากตำแหน่งดังกล่าวก่อน ครบวาระได้โดยอนุมัติของคณะกรรมการ
ให้คณะกรรมการเลือกกรรมการเพื่อดำรงตำแหน่งนายกสภาการพยาบาลอุปนายก สภาการพยาบาลคนท่ีหน่ึง และอุปนายกสภาการพยาบาลคนท่ีสอง ตำแหน่งละหน่ึงคน
มาตรา ๒๒ คณะกรรมการ
มีอำนาจหน้าท่ี
แต่งตั้งคณะอนุกรรมการจริยธรรม คณะอนุกรรมการสอบสวนและคณะอนุกรรมการอื่น เพื่อทำกิจการหรือพิจารณาเรื่องต่างๆ อันอยู่ในขอบเขตแห่งวัตถุประสงค์ของสภาการพยาบาล
ออกข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วย
ข้อจากัดและเงื่อนไขในการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
การรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
หลักเกณฑ์การออกหนังสืออนุมติ หรือวุฒิบัตรเกี่ยวกับความรู้หรือความชำนาญเฉพาะทาง และหนังสือแสดงวุฒิอื่นในวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
การประชุมคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการ
หลักเกณฑ์การรับรองสถาบนั การศึกษาวิชาการพยาบาลและการผดุงครรภ์
หลักเกณฑ์ว่าด้วยการสอบความรู้ตามอำนาจหน้าที่ของสภาการพยาบาล
หลักเกณฑ์ว่าด้วยการสืบสวนหรือสอบสวนในกรณีมีการกล่าวหาหรือกล่าวโทษว่ามีผู้ประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
หลักเกณฑ์การข้ึนทะเบียนและการออกใบอนุญาต แบบ และประเภทใบอนุญาต
การเลือกและการเลือกตั้ง กรรมการ และการแต่งตั้ง กรรมการที่ปรึกษาตามมาตรา ๑๗
การกำหนดค่าจดทะเบียนสมาชิกสามัญ ค่าบำรุง และค่าธรรมเนียมอื่นนอกจากที่กำหนดไว้ในอัตราค่าธรรมเนียมท้ายพระราชบัญญัติน้ี
การกำหนดโรคตามมาตรา ๑๑ (๑) (จ)
เรื่องอื่นๆ ที่อยู่ภายในวัตถุประสงค์ของสภาการพยาบาลหรืออยู่ภายในอำนาจหน้าที่ของสภาการพยาบาลตามกฎหมายอื่น
การเป็นสมาชิก
บริหารกิจการสภาการพยาบาลให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดตามมาตรา ๗
มาตรา ๑๕
คณะกรรมการอาจแต่งต้ังสมาชิกกิตติมศักดิ์หรือสมาชิกสามัญเป็นกรรมการที่ปรึกษาได้ ทั้งน้ี จำนวนกรรมการที่ปรึกษาต้อ้งไม่เกินหน่ึงในสี่ของคณะกรรมการให้กรรมการที่ปรึกษาดารงตาแหน่งตามวาระของคณะกรรมการท่ีแต่งต้ัง
มาตรา ๒๓
อุปนายกสภาการพยาบาลคนท่ีหน่ึงเป็นผู้ช่วยนายกสภาการพยาบาลในกิจการอันอยู่ในอำนาจหน้าที่ของนายกสภาการพยาบาลตามที่นายกสภาการพยาบาลมอบหมายและเป็นผู้กระทำการแทน นายกสภาการพยาบาล เมื่อนายกสภาการพยาบาลไม่อยู่หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าท่ีได้
อุปนายกสภาการพยาบาลคนที่สองเป็นผู้ช่วยนายกสภาการพยาบาลในกิจการอันอยู่ในอำนาจหน้าที่ของนายกสภาการพยาบาลตามที่นายกสภาการพยาบาลมอบหมายและเป็นผู้ทำการแทน นายกสภาการพยาบาล เมื่อท้ังนายกสภาการพยาบาลและอุปนายกสภาการพยาบาลคนท่ีหน่ึงไม่อยู่ หรือไม่สามารถปฎิบัติหน้าที่ได้
นายกสภาการพยาบาลมีอำนาจหน้าที่
เป็นผู้แทนสภาการพยาบาลในกิจการต่างๆ
เป็นประธานในที่ประชุมคณะกรรมการ
ดำเนินกิจการของสภาการพยาบาลให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติน้ี หรือตามมติของคณะกรรมการ
เลขาธิการมีอำนาจหน้าที่
รับผิดชอบในการดูแลรักษาทะเบียนสมาชิก ทะเบียนผู้ประกอบวิชาชีพการ
พยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์ และทะเบียนอื่นๆ
ควบคุม ดูแล ทรัพย์สินของสภาการพยาบาล
ควบคุมรับผิดชอบในงานธุรการทั่วไปของสภาการพยาบาล
เป็นเลขานุการคณะกรรมการ
ควบคุมบ้งคับบัญชาเจ้าหน้าที่สภาการพยาบาลทุกระดับ
รองเลขาธิการเป็นผู้ช่วยเลขาธิการในกิจการอันอยู่ในอำนาจหน้าที่ของเลขาธิการตามที่เลขาธิการมอบหมายและเป็นผกู้ระทาการแทนเลขาธิการเมื่อเลขาธิการไม่อยหู่รือไม่สามารถปฎิบัติหน้าที่ ได้
ประชาสัมพันธ์มีหน้าที่ในการประชาสัมพันธ์ แนะนำ เผยแพร่กิจการของสภาการพยาบาล และให้การศึกษาแก่ประชาชน และองค์กรอื่นในเรื่องที่เกี่ยวกับ การพยาบาล การผดุงครรภ์ และการ สาธารณสุข
เหรัญญิกมีอานาจหน้าที่ควบคุม ดูแล รับผิดชอบการบัญชี การเงินและการงบประมาณ ของสภาการพยาบาล
มาตรา๑๔
ให้มีคณะกรรมการสภาการพยาบาล ประกอบด้วย
ผู้แทนกระทรวงมหาดไทยหน่ึงคน
ผู้แทนทบวงมหาวิทยาลัยสี่คน
ผู้แทนกระทรวงกลาโหมสามคน
ผู้แทนกรุงเทพมหานครหน่ึงคน
ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุขห้าคน
ผู้แทนสภากาชาดไทยหน่ึงคน
นายกสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
สมาชิกสามัญ สภาการพยาบาลอีกสิบหกคนซึ่งได้รับเลือกตั้ง
หมวด ๔ การดำเนินกิจการของคณะกรรมการ
มาตรา ๒๕
สภานายกพิเศษจะเข้าฟังการประชุมชี้แจงแสดงความเห็นในท่ีประชุมคณะกรรมการ หรือจะส่งความเห็นเป็นหนังสือไปยังคณะกรรมการในเรื่องใดๆ ก็ได้
มาตรา ๒๖ มติของที่ประชุมคณะกรรมการ
ต้องได้รับความเห็นชอบจากสภานายก
พิเศษก่อน จึงจะดำเนินการตามมติน้ันได้
การกำหนดงบประมาณของสภาการพยาบาล
การให้สมาชิกสามัญพ้นจากสมาชิกภาพตามมาตรา ๒๔ วรรคสาม
การออกข้อบังคับ
การวินิจฉัยชี้ขาดตามมาตรา ๔๑ วรรคสาม (๔) และ (๕)
มาตรา ๒๔
มติของที่ประชุมให้ถือเสียงขา้ งมาก กรรมการคนหน่ึงมีเสียงหน่ึงเสียง ในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มข้ึนอีกหน่ึงเสียงเป็นเสียงชี้ขาด
มติของที่ประชุมในกรณีให้สมาชิกสามัญพ้นจากสมาชิกภาพ เนื่องจากขาดคุณสมบัติตาม มาตรา ๑๑ (๑) (ค) (ง) และ (จ) ให้ถือคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจานวนกรรมการทั้งคณะ
การประชุมคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหน่ึงของจำนวนกรรมการทั้งหมด จึงจะเป็นองค์ประชุม
การประชุมคณะอนุกรรมการให้นาความในวรรคหน่ึงและวรรคสองมาใช้บังคับโดยอนุโลม
หมวด ๕ การควบคุมการประกอบวิชาชีพ
การพยาบาลและการผดุงครรภ์
มาตรา ๓๕
ให้คณะกรรมการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการจริยธรรมจากสมาชิกสามัญ ประกอบด้วยประธาน และอนุกรรมการมีจำนวนรวมกัน ไม่น้อยกว่าสามคนมีหน้าที่แสวงหาข้อเท็จจริงในเรื่องที่ได้รับตามมาตรา ๓๔ แล้วทำ
รายงานพร้อมทั้งความเห็นเสนอต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณา
มาตรา ๓๖ มีมติอย่างใดอย่างหน่ึงดังต่อไปน้ี
ให้คณะอนุกรรมการสอบสวนทาการสอบสวน ในกรณีท่ีเห็นว่า
ข้อกล่าวหาหรือข้อกล่าวโทษ น้ันมีมูล
ใหย้กขอ้กล่าวหาหรือขอ้กล่าวโทษในกรณีที่เห็นว่า
ข้อกล่าวหาหรือข้อกล่าวโทษน้นัไม่มีมูล
ให้คณะอนุกรรมการจริยธรรมแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเพื่อเสนอ
ให้คณะกรรมการพิจารณา
มาตรา ๓๔
เมื่อสภาการพยาบาลได้รับเรื่องการกล่าวหา หรือการกล่าวโทษตามมาตรา ๓๓ หรือในกรณีมีมติว่า มีพฤติการณ์อันสมควรให้มีการพิจารณาเกี่ยวกับจริยธรรมแห่งวิชาชีพ ของผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ผู้ใดให้เลขาธิการ เสนอเรื่องดังกล่าวต่อประธานอนุกรรมการจริยธรรมโดยไม่ชักช้า
มาตรา ๓๗
ให้คณะกรรมการแต่งตั้ง คณะอนุกรรมการสอบสวนจากสมาชิกสามัญ ประกอบด้วยประธาน และอนุกรรมการมีจำนวนรวมกัน ไม่น้อยกว่าสามคนมีหน้าที่สอบสวน สรุปผลการสอบสวนและเสนอสำนวนการสอบสวน พร้อมทั้งความเห็นต่อคณะกรรมการเพื่อวินิจฉัยชี้ขาด
มาตรา ๓๓
บุคคลผู้ซึ่งได้รับความเสียหายเพราะผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพ มีสิทธิกล่าวหาผู้ก่อให้เกิดความเสียหายนั้น โดยทำเรื่องยื่นต่อสภาการพยาบาล
มาตรา ๓๘
ในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะอนุกรรมการจริยธรรมสอบสวนตามพระราชบัญญัติน้ี ให้อนุกรรมการจริยธรรมและอนุกรรมการสอบสวนเป็น
เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มีอำนาจเรียกบุคคลใดๆ มาให้ถ้อยคำและมีหนังสือแจ้งให้บุคคลใดๆ ส่งเอกสาร เพื่อประโยชน์แก่การดำเนินงานของคณะอนุกรรมการดังกล่าว
มาตรา ๓๒
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ต้องรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ตามที่ได้กำหนดไว้ในข้อบังคับ สภาการพยาบาล
มาตรา ๓๙
ให้ประธานอนุกรรมการสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา หรือข้อกล่าวโทษพร้อมทั้งส่งสำเนาเรื่องท่ีกล่าวหา ให้ผู้ถูกกล่าวหาไม่น้อยกว่าสิบห้าวันก่อน
วันเริ่มทำการสอบสวน
มาตรา ๓๑
ผู้ขอข้ึนทะเบียนและรับใบอนุญาตต้องเป็นสมาชิกสามัญแห่งสภาการพยาบาลและ มีคุณสมบัติอื่นตามที่กาหนดไว้ในข้อบังคับสภาการพยาบาล
มาตรา ๔๐
เมื่อคณะอนุกรรมการสอบสวนทาการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว ให้เสนอสำนวนการสอบสวนพร้อมท้ังความเห็นต่อคณะกรรมการโดยไม่ชักช้า
เพื่อวินิจฉัยชี้ขาด
มาตรา ๓๐
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์หรือ
ผู้ประกอบวิชาชีพ การพยาบาลและการผดุงครรภ์ ช้ันสอง ต้อง
ได้รับประกาศนียบัตรในสาขาการพยาบาลและการผดุงครรภ์ จากสถาบันการศึกษาในต่างประเทศและได้รับอนุญาตให้เป็น
ผู้ประกอบวิชาชีพในประเทศท่ีตนได้รับประกาศนียบัตร ซึ่งคณะกรรมการได้ตรวจสอบหลักฐานการศึกษาและสอบความรู้แล้ว
ได้รับประกาศนียบัตรในสาขาการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ระดับต้น จากสถาบันการศึกษาในประเทศไทยที่คณะกรรมการรับรอง
และสอบความรู้แล้ว
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์
หรือผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ช้ันหน่ึง ต้อง
ได้รับปริญญาหรือประกาศนียบัตรเทียบเท่าปริญญาในสาขาการพยาบาลและการผดุงครรภ์ จากสถาบันการศึกษาในต่างประเทศและได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพในประเทศที่ตนได้รับปริญญา
ได้รับปริญญาหรือประกาศนียบัตรเทียบเท่าปริญญาในสาขาการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์ จากสถาบันการศึกษาในประเทศไทยที่คณะกรรมการรับรองและสอบความรู้แล้ว
มาตรา ๔๑ มีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดอย่างใดอย่างหน่ึงต่อไปน้ี
ภาคทัณฑ์
พักใช้ใบอนุญาตมีกาหนดเวลาตามที่เห็นสมควร แต่ไม่เกินสองปี
ว่ากล่าวตักเตือน
เพิกถอนใบอนุญาต
ยกข้อกล่าวหาหรือข้อกล่าวโทษ
มาตรา ๒๙
การข้ึนทะเบียนและออกใบอนุญาตให้แบ่งเป็นสามประเภท
ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล
มาตรา ๔๒
ให้เลขาธิการแจ้งคำสั่งสภาการพยาบาลตามมาตรา ๔๑ ไปยัง
ผู้ถูกกล่าวหา เพื่อทราบโดยไม่ชักช้าและให้บันทึกข้อความตาม
คำสั่งน้ันไว้ในทะเบียนผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและ
การผดุงครรภ์ด้วย
มาตรา ๒๘
การข้ึนทะเบียน การออกใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต การออกหนังสือ อนุมัติหรือวุฒิบัตรเก่ียวกับความรู้หรือความชำนาญเฉพาะทาง และหนังสือแสดงวุฒิอื่นในวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ให้เป็นไปตามข้อบังคับสภาการพยาบาล
มาตรา ๔๓
ภายใต้บังคับ มาตรา ๒๗ ห้ามมิให้ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ซึ่งอยู่ในระหว่างถูกสั่งพัก ประกอบวิชาชีพดังกล่าวหรือแสดงด้วยวิธีใด ๆ ให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีสิทธิประกอบวิชาชีพดังกล่าว
นับแต่วันที่ทราบคำสั่งสภาการพยาบาลที่สั่งพักใช้ใบอนุญาตน้ัน
มาตรา๒๗
บุคคลซึ่งกระทรวง ทบวง กรม ตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา หรือ สภากาชาดไทยมอบหมาย ให้กระทำการพยาบาลหรือการผดุงครรภ์ ในความควบคุมของเจ้าหน้าท่ีซึ่งเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนด
ผู้ประกอบโรคศิลปะ ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือผู้ประกอบวิชาชีพอื่น ตามข้อจำกัดและเงื่อนไขตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบวิชาชีพน้ัน
นักศึกษาหรือผู้รับการฝึกอบรมในความควบคุมของสถาบันการศึกษาวิชาการพยาบาลหรือการผดุงครรภ์ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ผู้ฝึกหัดหรือผู้ให้การฝึกอบรมซึ่งเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
การพยาบาลหรือการผดุงครรภข์องที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญของทางราชการหรือผู้สอน ในสถาบันการศึกษา ซึ่งมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล และการผดุงครรภ์ของต่างประเทศ ทั้งน้ี ให้เป็นไปตามข้อบังคับของสภาการพยาบาล
การช่วยเหลือหรือเยียวยาแก่ผู้ป่วยตามหน้าที่ตามกฎหมายหรือตามธรรมจรรยาโดยมิได้รับประโยชน์ตอบแทน แต่การกระทำดังกล่าวต้องมิใช่เป็นการฉีดยาหรือสารใด ๆ เข้า ไปในร่างกายของผู้ป่วย
บุคคลซึ่งปฏิบัติงานเก่ียวกับการพยาบาลหรือการผดุงครรภ์ เพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ในกรณีที่มีสาธารณภัยหรือเกิดภัยพิบัติอย่างร้ายแรง
การพยาบาลหรือการผดุงครรภ์ที่กระทำต่อตนเอง
บุคคลซึ่งช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยในสถานพยาบาลในความควบคุมของผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ตามระเบียบซึ่งรัฐมนตรีกำหนด โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
มาตรา๔๔
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ซึ่งอยู่ในระหว่างถูกส่ังพักใช้ใบอนุญาต ผู้ใดกระทำการฝ่าฝืนมาตรา ๔๓ และถูกลงโทษจำคุกตาม มาตรา ๔๖ โดยคาพิพากษาถึงที่สุด ให้คณะกรรมการสั่งเพิกถอนใบอนุญาตของผู้นั้นตั้งแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด
มาตรา๔๕
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ซึ่งถูกสั่งเพิกถอน
ใบอนุญาตอาจขอรับใบอนุญาตอีกได้เมื่อพ้นสองปีนับ แต่วันท่ีถูกสั่ง
เพิกถอนใบอนุญาต ถ้าคณะกรรมการได้พิจารณาคาขอรับใบอนุญาตและปฏิเสธการออกใบอนุญาตผู้นั้นจะยื่นคำขอรับใบอนุญาตได้อีกต่อเมื่อสิ้นระยะเวลาหน่ึงปี นับแต่วันที่คณะกรรมการปฏิเสธการออกใบอนุญาต ถ้า คณะกรรมการปฏิเสธการออกใบอนุญาตเป็นคร้ังท่ีสองแล้ว ผู้นั้นเป็นอัน หมดสิทธิขอรับใบอนุญาตอีก ต่อไป
หมวด ๕ ทวิ (๑) พนักงานเจ้าหน้าท่ี
มาตรา๔๕ตรี
ในการปฏิบัติหน้าที่พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องแสดงบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่แก่บุคคลที่เกี่ยวข้อง
มาตรา ๔๕ จัตวา
ในการปฏิบัติหน้าที่ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานตามประมวล กฎหมายอาญา
มาตรา ๔๕ ทวิ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่
มีอำนาจเข้า้ไปในสถานที่ต่อไปน้ี
สถานที่ท่ีมีเหตุสมควรเชื่อว่ามีการประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลผดุงครรภ์
สถานที่ที่ทำการสอนหรือเชื่อว่าทำการสอนวิชาการพยาบาล
การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์
สถานที่ประกอบการที่มีผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์ปฏิบัติงานอยู่
มาตรา ๔๕ เบญจ
ในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ ให้ผู้รับผิดชอบหรือปฏิบัติ
หน้าที่ ในสถานที่ตามมาตรา ๔๕ ทวิ อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่
หมวด ๖ บทกำหนดโทษ
มาตรา ๔๗
ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๓๑ วรรคสาม ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหน่ึงพันบาท
มาตรา ๔๘
ผู้ใดไม่มาให้ถ้อยคำ หรือไม่ส่งเอกสารหรือวัตถุใดๆ ตามที่เรียกหรือแจ้ง ให้ส่งตาม มาตรา ๓๘ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหน่ึงเดือน หรือปรับไม่เกินหน่ึงพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๔๖
ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๒๗ หรือมาตรา ๔๓ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือ ปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๔๘ ทวิ
ผู้ใดไม่อำนวยความสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าท่ีตามความในมาตรา ๔๕ เบญจ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหน่ึงเดือนหรือปรับไม่เกินหน่ึงพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
บทเฉพาะกาล
มาตรา ๕๐
ผู้ใดได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะแผนปัจจุบัน ในสาขาการพยาบาลและผดุงครรภ์ ให้ถือว่าผู้นั้นได้ขึ้นทะเบียนและรับ
ใบอนุญาต เป็นผู้ประกอบวิชาชีพในประเภทและชั้นแล้ว แต่กรณีตาม
พระราชบัญญัติน้ี
มาตรา๕๑
ในระยะเริ่มแรกที่ยังมิได้เลือกตั้ง สมาชิกสามัญของสภาการพยาบาลเป็นกรรมการ ให้คณะกรรมการประกอบด้วยปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นนายกสภาการพยาบาล และผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้ง มาตรา ๑๔ เป็นกรรมการ การแต่งตั้งดังกล่าวจะต้องกระทำให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวัน
มาตรา ๔๙
ผู้ใดได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะแผนปัจจุบันในสาขาการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ให้ถือว่าผู้นั้น เป็นสมาชิกสามัญ ของสภาการพยาบาลตามพระราชบัญญัติน้ี
มาตรา ๕๒
ในระหว่างที่ยัง มิได้ออกระเบียบหรือข้อบังคับ เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติน้ี ให้นำกฎกระทรวง ระเบียบหรือประกาศที่ออกตามกฎหมายว่า ด้วยการควบคุมการประกอบโรคศิลปะในส่วนท่ีเกี่ยวกับวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์มาใช้บังคับโดยอนุโลม แต่ทั้งน้ีต้องไม่เกินหน่ึงปีนับ แต่วันที่พระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ
ข้อบังคับสภาการพยาบาล
ว่าด้วยข้อจํากัดและเงื่อนไข พ.ศ. ๒๕๕๐
หมวด ๒ การประกอบวิชาชีพ
การพยาบาล
ส่วนที่ ๑ การพยาบาล
ข้อ ๖ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นสอง ผู้ประกอบวิชาชีพ
การพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นสอง จะให้ยาผู้ป่วยได้เฉพาะ
ที่แพทย์ซึ่งเป็นผู้บําบัดโรคได้ระบุไว้ในแผนการรักษาพยาบาล
หรือ เมื่อเป็นการปฐมพยาบาล
ข้อ ๕ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นสอง ผู้ประกอบวิชาชีพ
การพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นสอง ให้กระทําการพยาบาลที่
ไม่ยุ่งยากซับซ้อนตามแผนการพยาบาล
ข้อ ๗ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพ
การพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง จะให้ยาผู้ป่วยได้เฉพาะ
ที่แพทย์ซึ่งเป็นผู้บําบัดโรคได้ระบุไว้ในแผนการรักษาพยาบาล
หรือ เมื่อเป็นการปฐมพยาบาล
ห้ามมิให้ยาหรือสารละลายทางหลอดเลือดดํา
เฉพาะที่สภาการพยาบาลประกาศกําหนด
ห้ามมิให้ยาหรือสารละลายทางช่องรอบเยื่อบุไขสันหลัง
หรือช่องไขสันหลัง
ส่วนที่ ๒ การทําหัตถการ
ข้อ ๙ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพ
การผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง กระทําการพยาบาลโดยการทําหัตถการ ต่อไปนี้ จะต้องผ่านการอบรมตามหลักสูตรที่สภาการพยาบาลประกาศกําหนดและได้รับใบรับรอง จากสภาการพยาบาล
การผ่าตัดตาปลา
การเลาะก้อนใต้ผิวหนัง บริเวณที่ไม่เป็นอันตราย
การฝังและถอดยาคุมกําเนิด (Nor Plant)
การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี VIA
การใส่และถอดห่วง (IUD)
การจี้ปากมดลูกด้วยความเย็น (Cryotherapy)
ข้อ ๘ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง กระทําการพยาบาลโดยการทําหัตถการตามขอบเขตที่กําหนด ดังนี้
การผ่าตัดเอาสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ในตําแหน่งซึ่งไม่เป็นอันตรายต่ออวัยวะสําคัญ ของร่างกายออก โดยฉีดยาระงับความรู้สึกทางผิวหนัง
การล้างตา
การทําแผล การตกแต่งบาดแผล การเย็บแผล การตัดไหม การผ่าฝี
ในตําแหน่งซึ่งไม่เป็นอันตรายต่ออวัยวะสําคัญของร่างกาย
การถอดเล็บ และการจี้หูดหรือจี้ตาปลา
ส่วนที่ ๓ การรักษาโรคเบื้องต้น
ข้อ ๑๒ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ตามข้อ ๑๐ และข้อ ๑๑ ต้องกระทําการรักษาโรคเบื้องต้นตามข้อกําหนดในการรักษาโรค เบื้องต้นและการให้ภูมิคุ้มกันโรคของสภาการพยาบาลโดยเคร่งครัด จะต้องทําการรักษาโรคเบื้องต้น และการให้ภูมิคุ้มกันโรคโดย
ตรวจวินิจฉัยและบําบัดรักษาโรค ตามมาตรฐานของการประกอบวิชาชีพ การพยาบาลโดยเคร่งครัด
ให้ผู้ป่วยไปรับการบําบัดรักษาจากผู้ประกอบวิชาชีพอื่น เมื่อปรากฏ ตรวจพบ หรือเห็นว่าอาการไม่บรรเทา อาการรุนแรงเพิ่มข้ึน มีโรค หรือภาวะแทรกซ้อนเป็นโรคติดต่อ ที่ต้องแจ้งความตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ หรือมีเหตุอันควรอื่น ๆ เกี่ยวกับการบําบัดรักษา เช่น เครื่องมือ อุปกรณ์ การบําบัดรักษาหรือ เวชภัณฑ์ เป็นต้น
ข้อ ๑๓ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ตามข้อ ๑๒ ถ้าจําเป็นต้องใช้ยา
ให้ใช้ยาได้ตามคู่มือการใช้ยาที่สภาการพยาบาลกําหนด
ข้อ ๑๑ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ที่ได้รับวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชํานาญเฉพาะทางการพยาบาลและการผดุงครรภ์ สาขา เวชปฏิบัติชุมชน กระทําการประกอบวิชาชีพการพยาบาลตามข้อกําหนดในการรักษาโรคเบื้องต้นและการให้ภูมิคุ้มกันโรคได้
และต้องขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลตามข้อกําหนดในการรักษาโรคเบื้องต้นและการให้ภูมิคุ้มกันโรค
ข้อ ๑๔ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ตามข้อ ๑๒ จะให้ภูมิคุ้มกันโรค ต้องปฏิบัติตามแนวทางการให้ภูมิคุ้มกันโรคที่กระทรวงสาธารณสุขกําหนด
ข้อ ๑๕ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ตามข้อ ๑๒ จะต้องบันทึกรายงานเกี่ยวกับประวัติของผู้ป่วย หรือผู้รับบริการ อาการ และ การเจ็บป่วยโรค การให้การรักษาโรค หรือการให้การบริการตามความเป็นจริง ตามแบบของสภาการพยาบาล และต้องเก็บบันทึกรายงานไว้เป็นหลักฐาน
ข้อ ๑๐ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง
ให้กระทําการประกอบวิชาชีพการพยาบาลตามข้อกําหนดในการ
รักษาโรคเบื้องต้น และ การให้ภูมิคุ้มกันโรคได้จะต้องได้รับการ
ศึกษา/อบรมตามหลักสูตรที่สภาการพยาบาล
หมวด ๓ การประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์
ข้อ ๑๘ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและ การผดุงครรภ์ ช้ันหนึ่ง จะให้ยาผู้ป่วยได้เฉพาะที่แพทย์
ซึ่งเป็นผู้บําบัดโรคได้ระบุไว้ในแผนการรักษาพยาบาล หรือเมื่อเป็นการปฐมพยาบาล
ห้ามมิให้ยา หรือสารละลายทางช่องรอบเยื่อบุไขสันหลัง
หรือช่องไขสันหลัง
ห้ามมิให้ยาหรือสารละลายทางหลอดเลือดดํา
เฉพาะที่สภาการพยาบาลประกาศกําหนด
ข้อ ๑๙ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ช้ันหน่ึง จะทําการผดุงครรภ์ได้แต่เฉพาะรายท่ีมีครรภ์ปกติ และคลอดอย่างปกติ ตลอดจนการพยาบาลมารดาและทารก
ข้อ ๑๗ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นสอง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและ การผดุงครรภ์ ชั้นสอง จะทําการผดุงครรภ์ได้แต่เฉพาะรายที่มีครรภ์ปกติ และคลอดอย่างปกติ ตลอดจนการพยาบาลมารดาและทารก
ข้อ ๒๐ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ทั้งช้ันหนึ่งและชั้นสอง จะต้องใช้ยาทําลายและป้องกันการติดเชื้อสําหรับหยอดตา หรือป้ายตาทารก เมื่อคลอดแล้วทันที
ข้อ ๑๖ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ชั้นสอง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและ การผดุงครรภ์ ชั้นสอง จะให้ยาผู้ป่วยได้เฉพาะที่แพทย์
ซึ่งเป็นผู้บําบัดโรคได้ระบุไว้ในแผนการรักษาพยาบาล หรือเมื่อเป็น
การปฐมพยาบาลทั้งนี้ การให้ยาผู้ป่วย ห้ามมิให้ยา หรือสารละลาย
ทางหลอดเลือดดํา ทางช่องรอบเยื่อบุไขสันหลัง หรือช่องไขสันหลัง
ข้อ ๒๑ ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ทั้งชั้นหนึ่งและชั้นสอง จะต้องบันทึกการรับฝากครรภ์และการทําคลอดทุกรายในสมุดบันทึกการผดุงครรภ์ ตามแบบของสภาการพยาบาล และต้องรักษาสมุดนั้นไว้เป็นหลักฐาน
หมวด ๑ บททั่วไป
ข้อ ๔ ในข้อบังคับนี้
การเจ็บป่วยฉุกเฉิน” หมายความว่า การเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน จําเป็นต้อง ดําเนินการช่วยเหลือและการดูแลรักษาทันที รวมถึงการปฐมพยาบาล การปฏิบัติและ การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินและวิกฤต โดยเริ่มตั้งแต่จุดเกิดเหตุ หรือจุดแรกพบผู้ป่วย จนกระทั่งผู้ป่วย ได้รับการรักษาที่ถูกวิธีจากแพทย์
“การเจ็บป่วยวิกฤต” หมายความว่า การเจ็บป่วยที่มีความรุนแรงถึงขั้นที่อาจทําให้ผู้ป่วยถึงแก่ชีวิต หรือพิการได้
ข้อบังคับสภาการพยาบาล
ว่าด้วยข้อจํากัดและเงื่อนไข (ฉบับที่๒)พ.ศ.๒๕๕๓
ข้อ ๔. ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง หรือผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและ การผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ท่ีผ่านการอบรมหลักสูตรพยาบาลเวชปฏิบัติทางตาที่สภาการพยาบาลให้การรับรอง และได้ขึ้นทะเบียนเป็นพยาบาลเวชปฏิบัติทางตา ให้กระทําการพยาบาลโดยการกระทําหัตถการดังน้ี
การวัดกำลังเลนส์แก้วตาเทียม (Intraocular lens power measurement) ด้วยเครื่องมือที่เหมาะสม
การล้างท่อนํ้าตา (Lacrimal sac irrigation) ยกเว้น ผู้ป่วยอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถให้ ร่วมมือได้ เช่น ผู้ป่วยเด็กเล็ก หรือผู้ที่มีสติไม่สมบูรณ์
การขูดหาเชื้อจากแผลกระจกตา (Corneal scraping and curette) และส่งเพาะเชื้อ จากบริเวณแผลกระจกตา
การวัดค่าสายตาผิดปกติ (Refraction) ด้วยเครื่องมือ retinoscope หรือ autorefractor และทดลองเลนส์แว่นตา (Trial Lens set)
การเขี่ยส่ิงแปลกปลอมออกจากตา (Remove conjunctival or corneal foreign body) ในกรณีท่ีส่ิงแปลกปลอมไม่ฝังลึกในกระจกตาจนอาจเกิดอันตรายได้
การเจาะตากุ้งยิง (Incision and curette) ยกเว้นกรณีตากุ้งยิงอยู่ใกล้ท่อน้ําตา หรือ ผู้ป่วยอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถให้ร่วมมือได้ เช่น ผู้ป่วยเด็กเล็ก หรือผู้ที่มีสติไม่สมบูรณ์
ข้อ ๕ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง หรือผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและ การผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรพยาบาลเวชปฏิบัติทางตาท่ีสภาการพยาบาลให้การรับรอง และได้ขึ้นทะเบียนเป็นพยาบาลเวชปฏิบัติทางตากับสภาการพยาบาล
กระทําการรักษาโรคเบื้องต้น ดังนี้
การตรวจประเมินสภาพตาและสายตา การบันทึกผลการตรวจ
และการแปลผล
การตรวจประเมินภาวะฉุกเฉินทางตาที่ต้องให้การช่วยเหลือเบื้องต้น
และส่งต่อ
การตรวจประเมินสภาพผู้ป่วยและสายตาโดยการซักประวัติ
ตรวจคัดกรองผู้ป่วยโรคตา
การตรวจวินิจฉัยแยกโรค และให้การรักษาโรคเบื้องต้น
ตรวจวินิจฉัยและบําบัดรักษาโรคทางตาตามมาตรฐานของการประกอบวิชาชีพ การพยาบาลโดยเคร่งครัด
ข้อ ๖ ส่งต่อผู้ป่วยไปรับการบําบัดรักษาจากผู้ประกอบวิชาชีพอื่น เมื่อปรากฏ ตรวจพบหรือเห็นว่าอาการไม่บรรเทา มีอาการรุนแรงเพิ่มข้ึน มีโรคหรือภาวะแทรกซ้อน หรือมีเหตุอันควรอื่นๆเกี่ยวกับการบําบัดรักษา เช่น เครื่องมือ อุปกรณ์บําบัดรักษา เวชภัณฑ์ เป็นต้น
ข้อ ๓. ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ชั้นหนึ่ง หรือผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและ การผดุงครรภ์ ชั้นหน่ึง ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรพยาบาลเวชปฏิบัติทางตาที่สภาการพยาบาลให้การรับรอง และได้ขึ้นทะเบียนเป็นพยาบาลเวชปฏิบัติทางตากับสภาการพยาบาล ให้กระทําการพยาบาล การคัดกรองผู้ป่วย การเจ็บป่วยทางตาฉุกเฉิน หรือการเจ็บป่วยวิกฤต และการฟื้นฟูสมรรถภาพการมองเห็น
ข้อ ๒. ข้อบังคับน้ีให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศใน
ราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๗ ในกรณีที่มีความจําเป็นต้องใช้ยา ให้ใช้ยาได้ตามท่ีสภาการ
พยาบาลกําหนด
ข้อ ๑. ข้อบังคับน้ีเรียกว่า “ข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยข้อ
จํากัดและเงื่อนไขในการ ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๓
ข้อ ๘ เขียนบันทึกรายงานเก่ียวกับประวัติของผู้ป่วยหรือผู้รับบริการ อาการและการเจ็บป่วย โรค และการให้การรักษาโรคหรือการให้บริการตามความเป็นจริงและต้องเก็บบันทึกรายงานไว้เป็นหลักฐาน
ข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยข้อจํากัด และเงื่อนไข (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒
ข้อ ๓ การเจาะเก็บตัวอย่างเลือด เพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ต้องมีวัตถุประสงค์ เพื่อ
การวางแผนบำบัดหรือรักษาโรค
การประเมินภาวะสุขภาพของบุคคล
การตรวจวิเคราะห์หรือการวินิจฉัยโรค
การบริจาคโลหิต
ข้อ ๔ การเจาะเก็บตัวอย่างเลือดต้องเป็นแนวปฏิบัติทางการพยาบาล หรือเป็นแนวปฏิบัติทางเวชกรรม และ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลไม่เป็นผู้ตรวจวิเคราะห์หรือวินิจฉัย เว้นแต่กรณีการให้บริการแก่ผู้รับบริการ รายที่ตนเองเป็นผู้ดูแลในลักษณะการตรวจ ณ จุดดูแลผู้รับบริการ ได้แก่ การตรวจระดับน้าตาลในผู้ป่วยเบาหวาน
ข้อ ๒ ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับต้ังแต่วันถัดจากวันประกาศใน
ราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๕ การเจาะเก็บตัวอย่างเลือด ต้องเป็นการเจาะเก็บตัวอย่างเลือดจากเส้นเลือดฝอยปลายนิ้ว หรือจากหลอดเลือดดำส่วนปลาย
ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับสภาการพยาบาล ว่าด้วย
ข้อจำกัดและเงื่อนไข ในการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและ
การผดุงครรภ์ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒”
ข้อ ๖ การเก็บตัวอย่างเลือดจากหลอดเลือดแดงหรือหลอดเลือดดำส่วนกลาง ตามแผนการรักษา ให้จัดเก็บจากสายสวนหลอดเลือดแดงหรือหลอดเลือดดาส่วนกลาง ท่ีผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม
ได้เปิดไว้แล้ว
ข้อบังคับสภาการพยาบาล
ว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพ พ.ศ. ๒๕๕๐
หมวด ๒ การประกอบวิชาชีพการพยาบาล
และการผดุงครรภ์
ส่วนที่ ๑ การปฏิบัติต่อผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการ
ข้อ ๑๒ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่ประกอบวิชาชีพโดยไม่คํานึงถึงความปลอดภัย และ ความส้ินเปลืองของผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการ
ข้อ ๑๓ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่สั่งใช้หรือสนับสนุนการใช้ยาตําราลับ รวมทั้งใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์อันไม่เปิดเผยส่วนประกอบ
ข้อ ๑๑ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่หลอกลวงผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการ
ให้หลงเข้าใจผิด เพื่อประโยชน์ของตน
ข้อ ๑๔ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่ออกใบรับรองอันเป็นเท็จโดยเจตนา หรือให้ความเห็น โดยไม่สุจริตในเรื่องใด ๆ อันเกี่ยวกับวิชาชีพของตน
ข้อ ๑๐ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องปฏิบัติต่อผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการโดยสุภาพและปราศจากการบังคับขู่เข็ญ
ข้อ ๑๕ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่เปิดเผยความลับของผู้ป่วย หรือผู้ใช้บริการ ซึ่งตนทราบมา เนื่องจากการประกอบวิชาชีพเว้นแต่ด้วยความยินยอมของผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการ หรือเมื่อต้องปฏิบัติ ตามกฎหมาย
หรือตามหน้าที่
ข้อ ๙ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่เรียกร้องขอรับผลประโยชน์เป็น
ค่าตอบแทนเนื่องจาก การรับหรือส่งผู้ป่วย หรือผู้ใช้บริการเพื่อ
รับบริการทางการพยาบาลหรือการผดุงครรภ์
ข้อ ๑๖ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่ปฏิเสธการช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในระยะอันตรายจากการเจ็บป่วย เมื่อได้รับคําขอร้องและตนอยู่ในฐานะที่จะ
ช่วยได้
ข้อ ๘ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่จูงใจ หรือชักชวนผู้ใดให้มาใช้บริการการพยาบาล หรือ การผดุงครรภ์เพื่อผลประโยชน์ของตน
ข้อ ๑๗ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่ประกอบการในทางสาธารณะ หรือสถานที่สาธารณะเว้นแต่ ในเหตุฉุกเฉินในการปฐมพยาบาล หรือในการปฏิบัติหน้าที่การงานของกระทรวง ทบวง กรม กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นอื่น
ตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษาหรือสภากาชาดไทย
ข้อ ๗ ผู้ประกอบวิชาชีพต้องรักษามาตรฐานของวิชาชีพตามที่สภาการพยาบาลประกาศกําหนด โดยไม่เรียกร้อง สินจ้างรางวัลพิเศษนอกเหนือจากคำบริการที่ควรได้รับตามปกติ
ข้อ ๑๘ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่ใช้หรือสนับสนุนให้มีการประกอบวิชาชีพการพยาบาล และการผดุงครรภ์ การประกอบวิชาชีพด้านการแพทย์ หรือการสาธารณสุขหรือการประกอบโรคศิลปะ โดยผิดกฎหมาย
ส่วนที่ ๒ การปฏิบัติต่อผู้ร่วมวิชาชีพ
ข้อ ๒๐ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่ทับถมให้รายหรือกลั่นแกล้งกัน
ข้อ ๒๑ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่ชักจูงผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการผู้อื่นมาเป็นของตน
ข้อ ๑๙ ผู้ประกอบวิชาชีพ พึงยกย่องให้เกียรติและเคารพในศักดิ์ศรีซึ่ง
กันและกัน
ส่วนที่ ๓ การปฏิบัติต่อผู้ร่วมงาน
ข้อ ๒๓ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่ทับถมให้ร้าย หรือกลั่นแกล้งผู้ร่วมงาน
ข้อ ๒๔ ผู้ประกอบวิชาชีพ พึงส่งเสริมและสนับสนุนการประกอบวิชาชีพของผู้ร่วมงาน
ข้อ ๒๒ ผู้ประกอบวิชาชีพ พึงยกย่องให้เกียรติและเคารพในศักดิ์ศรีของ
ผู้ร่วมงาน
ส่วนที่ ๔ การศึกษาวิจัยและการทดลองต่อมนุษย์
ข้อ ๒๗ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องรับผิดชอบต่ออันตรายหรือผลเสียหายเนื่องจากการทดลอง ที่บังเกิดต่อผู้ถูกทดลอง อันมิใช่ความผิดของผู้
ถูกทดลอง
ข้อ ๒๘ ผู้ประกอบวิชาชีพ สามารถทําการวิจัยได้เฉพาะเมื่อโครงการศึกษาวิจัยหรือ การทดลองดังกล่าว ได้รับการพิจารณาเห็นชอบจากคณะกรรมการด้านจริยธรรมที่เก่ียวข้องแล้วเท่าน้ัน
ข้อ ๒๖ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องปฏิบัติต่อผู้ถูกทดลองเช่นเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อผู้ป่วยหรือ ผู้ใช้บริการในการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ตามส่วนที่ ๑ โดยอนุโลม
ข้อ ๒๙ ผู้ประกอบวิชาชีพ จะต้องปฏิบัติตามแนวทางจริยธรรมของการศึกษาวิจัย และการทดลอง ในมนุษย์ และจรรยาบรรณของนักวิจัย
ข้อ ๒๕ ผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ทําการทดลองต่อมนุษย์ ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ถูกทดลอง และต้องพร้อมที่จะป้องกันผู้ถูกทดลองจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการทดลองนั้น ๆ
หมวด ๓ การโฆษณาการประกอบวิชาชีพการพยาบาล
และการผดุงครรภ์
ข้อ ๓๒ ผู้ประกอบวิชาชีพ อาจแสดงข้อความเกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและ การผดุงครรภ์ของตนที่สถานที่ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ หรือสํานักงานได้เพียง ข้อความเฉพาะเรื่อง ต่อไปนี้
ชื่อปริญญา วุฒิบัตร หรือหนังสืออนุมัติ หรือหนังสือแสดงคุณวุฒิอย่างอื่น ซึ่งตนได้รับมา โดยวิธีการถูกต้องตามกฎเกณฑ์ของสภาการพยาบาลหรือสถาบันนั้น ๆ
สาขาของวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
ชื่อ ชื่อสกุล และอาจมีคําประกอบชื่อได้เพียงคําอภิไธย ตําแหน่งทางวิชาการ ฐานันดรศักดิ์ ยศ และบรรดาศักดิ์เท่านั้น
เวลาทําการ
ข้อ ๓๓ ผู้ประกอบวิชาชีพ อาจแจ้งความการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ เฉพาะการแสดงที่อยู่ ที่ตั้งสํานักงาน หมายเลขโทรศัพท์ และหรือข้อความที่อนุญาตในข้อ ๓๒ เท่านั้น
ข้อ ๓๑ การโฆษณาตามข้อ ๓๐ อาจกระทําได้ในกรณี ต่อไปนี้
การแสดงผลงานในหน้าที่หรือในการบําเพ็ญประโยชน์สาธารณะ
การแสดงผลงานหรือความก้าวหน้าทางวิชาการเพื่อการศึกษาของมวลชน
การประกาศเกียรติคุณเป็นทางการโดยสถาบันวิชาการ สมาคมหรือมูลนิธิ
การแสดงผลงานในวารสารทางวิชาการหรือในการประชุมวิชาการ
ข้อ ๓๔ ผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ทําการเผยแพร่หรือตอบปัญหาทางสื่อมวลชน ถ้าแสดงตน ว่าเป็นผู้ประกอบวิชาชีพต้องไม่แจ้งสถานท่ีทําการประกอบ
วิชาชีพส่วนตัวเป็นทํานองการโฆษณาและ ต้องไม่มีการแจ้งความตาม
ข้อ ๓๓ ในที่เดียวกันหรือขณะเดียวกันนั้นด้วย
ข้อ ๓๐ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องไม่โฆษณา ใช้ จ้าง หรือยินยอมให้ผู้อื่นโฆษณาการประกอบ วิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ความรู้
ความชํานาญในการประกอบวิชาชีพของตนหรือของผู้อื่น
ข้อ ๓๕ ผู้ประกอบวิชาชีพ ต้องระมัดระวังตามวิสัยที่พึงมีมิให้การประกอบวิชาชีพการพยาบาล และการผดุงครรภ์ของตนแพร่ออกไปในสื่อมวลชนเป็นทํานองโฆษณาความรู้ ความสามารถ
หมวด ๑ บททั่วไป
ข้อ ๔ ผู้ประกอบวิชาชีพ ย่อมดํารงตนให้สมควรในสังคมโดยธรรม และเคารพต่อกฎหมาย ของบ้านเมือง
ข้อ ๕ ผู้ประกอบวิชาชีพ ย่อมประกอบวิชาชีพด้วยเจตนาดี โดยไม่คํานึงถึงฐานะ เชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา สังคม หรือ ลัทธิการเมือง
ข้อ ๓ ในข้อบังคับนี้ “ผู้ประกอบวิชาชีพ” หมายความว่า ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ และผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
ข้อ ๖ ผู้ประกอบวิชาชีพ ย่อมไม่ประพฤติหรือกระทําการใด ๆ อันอาจเป็นเหตุให้เสื่อมเสีย เกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ
จิดาภา ตั้งอยู่ดำรงกุล 6001210217 Sec B (10)