Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
4.3 การพยาบาลมารดาที่มีภาวะสายสะดือพลัดต่ำหรือสายสะดือโผล่ (Prolapse of…
4.3 การพยาบาลมารดาที่มีภาวะสายสะดือพลัดต่ำหรือสายสะดือโผล่
(Prolapse of Cord)
ชนิด
Occult (Hidden) prolapse of cord หมายถึง สายสะดือเคลื่อนต่ำลงมา
พอที่จะถูกส่วนนำของทารกกดได
Forelying cord หมายถึง สายสะดือเคลื่อนต่ าลงมาจนถึงปากมดลูก ถ้าตรวจ
ภายในจะสามารถคลำพบสายสะดือได้
Complete prolapse of cord หมายถึง สายสะดือพลัดออกมาจนพ้นปากมดลูก
ในกรณีที่ถุงน้ าแตกแล้วจะสามารถมองเห็นสายสะดือโผล่พ้นออกมาจากปากช่องคลอด
สาเหตุ
ทารกอยู่ในท่าผิดปกติ เช่น ท่าก้น (Breech presentation) ท่าขวาง(Transverse lie)
ตั้งครรภ์แฝดเด็กหรือแฝดน้ำ
ทารกมีขนาดเล็กกว่าอายุครรภ์ (Small for gestational age)
ส่วนนำไม่กระชับกับช่องทางคลอด
ถุงน้ำแตกก่อนกำหนด
การคลอดก่อนกำหนด
สายสะดือยาวกว่าปกติ โดยเฉพาะถ้ายาวเกิน 75 ชม. จะทำให้พลัดต่ำได้ง่าย
รกเกาะต่ำทำให้สายสะดืออยู่ใกล้กับปากมดลูก
อาการและอาการแสดง
ถ้าเป็นชนิด Complete prolapse cord จะพบว่าสายสะดือโผล่ออกมาจากช่อง
คลอด หรือมารดามีความรู้สึกขัดตุงบริเวณช่องคลอดภายหลังจากถุงน้ำแตก
ตรวจภายในพบสายสะดือพลัดต่ ากว่าส่วนน าของทารก โดยอาจตรวจพบการเต้นของ
หัวใจทารกบริเวณสายสะดือ
ถ้าสายสะดือพลัดต่ าเป็นชนิด Occult prolapse cord
การป้องกัน
แนะนำให้มารดาที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดสายสะดือพลัดต่ำ เช่น ครรภ์แฝด ครรภ์ไม่ครบกำหนดทารกอยู่ในท่าผิดปกติ หรือส่วนน าไม่กระชับกับช่องเชิงกราน ไม่ควรเบ่งก่อนเวลาที่เหมาะสม หรือให้รีบมาโรงพยาบาลทันทีที่ถุงน้ำแตก
ในการเจาะถุงน้ำ ควรทำด้วยความระมัดระวัง
ในกรณีที่ถุงน้ำคร่ำแตกเอง ควรตรวจภายในเพื่อประเมินว่ามีสายสะดือพลัดต่ำหรือไม่
รวมทั้งประเมินความก้าวหน้าของการคลอดด้วย
มารดาที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดสายสะดือพลัดต่ำ
ควรบันทึกการเต้นของหัวใจทารกด้วยเครื่อง Monitor
การรักษา
พยายามลดการกดทับของส่วนนำบนสายสะดืออย่างทันทีทันใด โดยจัดให้มารดานอน
ในท่ายกก้นสูง อาจเป็นท่า Trendelenburg หรือ Knee – chest
สวมถุงมือ Sterile แล้วดันส่วนนำไม่ให้กดทับบริเวณสายสะดือจนกว่าการคลอดจะ
สิ้นสุดลง
ห้ามดันสายสะดือที่โผล่พ้นออกจากช่องคลอดกลับเข้าไปใหม่ ควรใช้ผ้า Sterile
พยายามช่วยให้ทารกคลอดออกมาโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าปากมดลูกยังเปิดไม่
เต็มที่
ให้ออกซิเจนแก่มารดา 8 – 10 ลิตร/นาที
ถ้าหากทารกเสียชีวิตแล้ว แพทย์จะช่วยให้การคลอดเป็นไปตามธรรมชาติ หรืออาจ
ช่วยคลอดโดยการใช้คีม
นางสาวรัตนาภรณ์ ใจอ่อน รหัส 602701077 ชั้นปีที่ 4 รุ่น 35