Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การวินิจฉัยแยกโรคระบบทางเดินหายใจ กลุ่มอาการเหนื่อย - Coggle Diagram
การวินิจฉัยแยกโรคระบบทางเดินหายใจ กลุ่มอาการเหนื่อย
กรณีศึกษา
การเจ็บป่วยปัจจุบัน
7 ปีที่แล้วมีประวัติว่าพ่นยาเป็นระยะๆ เวลามีอาการไอจะมีอาการเจ็บหน้าอกร่วมด้วยแต่จะเป็นไม่
บ่อย จะเป็นเฉพาะเวลาที่มีอาการเหนื่อยมาก ๆเท่านั้น
2 เดือนก่อนมาโรงพยาบาล มีอาการไอกลางคืน แต่ไม่เหนื่อยหอบ น้า หนักลดลง
2-3 วัน หายใจปี กจมูกบาน ไอแห้งๆ ไอมากเวลากลางคืน เวลาไอรู้สึกแน่นหน้าอก
2 ชั่วโมงก่อนมาโรงพยาบาล มีไข้ รู้สึกหายใจไม่ออก หายใจปีกจมูกบาน แน่นหน้าอก เหงื่อออก
ประวัติการเจ็บป่วยในครอบครัว
ตากับยายมีโรคประจา ตัว คือ โรคหัวใจ โรคหอบหืด โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน
อาการสำคัญ มีไข้ แน่นหน้าอก 2 ชั่วโมงก่อนมาโรงพยาบาล
ชายไทย อายุ 19 - 20 ปี
การตรวจร่างกาย
สุขภาพทั่วไป : ชายไทย อ่อนแรง สีหน้าดูเหนื่อยไม่มีแรง คิ้วขมวด รูปร่างผอมบาง
ปาก : ไอแห้งๆไอมากเวลากลางคืน
จมูก : หายใจปีกจมูกบาน
ทรวงอก : หายใจแน่นหน้าอก รู้สึกหายใจไม่ออก
แขน - ขา : เดินไม่ได้ขาอ่อนแรง
หอบหืด
(Asthma)
อาการแย่ลงหลังได้รับปัจจัยกระตุ้น คือการออกกำลังกาย
ลักษณะการหายใจหน้าอกจะบุ๋มบริเวณไหปลาร้า
อาการจะดีขึ้นเองหลังจากได้รับยา
ฟังมีเสียง Wheezing
รู้สึกหายใจไม่ออก หายใจปีกจมูกบาน
เคยมีประวัติพ่นยามา 7 ปี
ภาวะหัวใจล้มเหลว(Congestive
Heart Failure)
แน่นหน้าอก หอบเหนื่อย ไอแห้งๆ ไอมากตอนกลางคืน
หายใจลำบาก
เดินไม่ได้ต้องนั่งรถเข็น อ่อนเพลีย เท้าบวม
ฟังปอดได้ยิน Crepitation ทั้งสองข้าง
ภาวะน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอด
หอบ หายใจถี่ หายใจลำบาก
ไอแห้งและมีไข้
เจ็บหน้าอก
หลอดลมอักเสบ
ไข้ต่ำๆ แน่นหน้าอกเวลาไอ
ฟังเสียงปอดมีเสียง Wheezing
ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ วิกฤติ
น้ำหนักตัวลด
เหนื่อยง่าย
โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง
ผู้ป่วยหายใจไม่ออก แน่นหน้าอก 2 ชั่วโมงก่อนมาโรงพยาบาล
ปอดอักเสบ
เจ็บหน้าอก ขณะหายใจหรือไอ หายใจเร็ว หอบ หายใจลำบาก
ไอมีเสมหะ
วัณโรค
มีไข้ต่ำ ๆ ไอแห้งๆ ไอมากเวลากลางคืน รู้สึกแน่นหน้าอก
น้ำหนักลดลง 2 กิโลกรัม
ตรวจร่างกายพบเสียงดังกรอบแกรบ Crepitation ที่บริเวณรอยโรค
วินิจฉัยแยกโรค
วินิจฉัยว่าเป็นโรคหอบหืด (Asthma)
อาการสำคัญ
มีไข้ แน่นหน้าอก 2 ชั่วโมงก่อนมาโรงพยาบาล
Physical Examination
Accessory muscle use, suprasternal notch and supsternal retraction
Expiratory wheezing both lung
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
การวัดการอุดกั้นของทางเดินการหายใจด้วย spirometry
เช่น การวัด FEV (Forced expiratory volume in one second) หรือจากการวัด PEF (Peak expiratory flow)
หรือด้วยเครื่อง peak flow meter
ปัจจัยกระตุ้น exacerbation.
ผู้ป่วยชอบเล่นกีฬาและมักจะมีอาการกำเริบเมื่อทำกิจกรรมมากขึ้นและมีคนในครอบครัวเป็นโรคหอบหืด
ปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคม
การรับรู้โอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหืด เช่น ความเชื่อหรือความคิดเห็นของผู้ป่วยต่อโอกาสที่จะเกิด
อาการหอบจากโรคหืด รวมทั้งเหตุชักนา หรือปัจจัยกระต้นุ ให้เกิดอาการหอบ
การรับรู้ความรุนแรงของการเกิดโรคหืด
การรับรู้ประโยชน์ของการรักษาและปฏิบัติพฤติกรรมการป้องกันโรคหืด
การรับรู้อุปสรรคของการปฏิบัติพฤติกรรมการป้องกันโรคหืด
ปัจจัยชักนำที่ก่อให้เกิดการปฏิบัติตน
การสนับสนุนด้านอารมณ์
การสนับสนุนด้านสิ่งของและบริการ
การสนับสนุนด้านข้อมูลข่าวสาร
การสนับสนุนด้านการยอมรับและเห็นคุณค่า
ปัจจัยที่มีผลต่อระบบสุขภาพ
จา นวนบุคลากรด้านสุขภาพไม่เพียงพอกับความต้องการบริการสุขภาพ
ความเหลื่อมล้า ไมเ่ ป็นธรรมของระบบสุขภาพ
ค่าใชจ่ายในการดูแลสุขภาพที่สูงขึ้น
สถานการณ์ทางการเมืองและความมั่นคงภายในประเทศ
สิ่งแวดล้อม ที่มีมลพิษเพิ่มมากขึ้น สิ่งแวดล้อมแย่ลง
ความรู้สึกต่อการเจ็บป่วยของผู้ป่วย
รู้สึกเหนื่อยที่ต้องมาคอยพกยาพ่นคอยพ่นยาตลอดเวลาที่มีอาการ
รู้สึกว่าถูกรังแก เพราะร่างกายของตนไม่เเข็งแรงสู้คนอื่นไม่ได้
รู้สึกว่าทา กิจกรรมต่างๆได้ไม่เต็มที่ เนื่องจากกลัวมีอาการกา เริบตลอดเวลา
รู้สึกไม่มีความมั่นใจในตัวเองเพราะไม่สามารถทา กิจกรรมต่างๆได้อย่างคนอื่นๆ
รู้สึกได้เล่นกับเพื่อนน้อย ถูกแยกให้อยู่คนเดียวและรู้สึกโดดเดี่ยว
การดูแลตนเองของผู้ป่วย
ดื่มน้า มากๆ วันละประมาณ 8-10 แก้วเพื่อช่วยในการละลายเสมหะ
ผู้ป่วยโรคหอบหืดจานวนมากไม่สามารถออกกาลังกายได้ดี หรือมากเท่าคนปกติโดยจะเหนื่อย
แน่นหน้าอกขึ้นมาภายหลังจากการออกกาลังกายไปพักหนึ่ง
หลีกเลี่ยงสิ่งที่ระคายเคืองต่อทางเดินหายใจ หรือสารก่อภูมิแพ้ เช่น ขนสัตว์ ฝุ่นในบ้าน หรือที่
นอน ควันบุหรี่ อาหารทะเล
ฝึกการหายใจที่ถูกต้อง
กินยา หรือพ่นยาตรงตามการรักษาของแพทย์ ไม่ควรหยุดยาเอง
ฝึกการบริหารปอด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการหายใจ
การดูแลผู้ป่วยที่บ้าน
พกยาในปริมาณน้อยติดตัวไปด้วยเสมอ
รักษาการดาเนินชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ
ผู้ป่ วยควรรับประทานยาตามใบสั่งแพทย์ และพักผ่อนหลังจากได้รับการรักษา โปรดจา วิธี
ปฏิบัติดังต่อไปนี้ในชีวิตประจา วัน
ห้ามสูบบุหรี่
หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีฝุ่น
การพยาบาลในหอผู้ป่วย
ประเมินอาการโรคหืดโดยใช้SCAS เพื่อประเมินระดับความรุนแรงของโรคทุก 2-4 ชั่วโมง
ประเมินและบันทึกสัญญาณชีพ และระดับความอิ่มตัวของออกซิเจน ทุก 2-4 ชั่วโมง
การพยาบาลในระยะนี้มีเป้าหมายที่สา คัญคือ เพื่อรักษาอาการ และป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง
ติดตามผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ