การออกเเบบการดูเเลผู้ป่วยรายบุคคล

การสักประวัติ

ประวัติการเจ็บป่วย

ในอดีต

การเจ็บป่วยของครอบครัว

ในปัจจุบัน

เมื่อประมาณ 1 เดือนที่เเล้วมีอาการบวม
เเละปวดบริเวณหัวเข่าข้างขวา

ไม่ได้ไปพบเเพทย์เพื่อรับการวินิจฉัย

รักษาโดย

บีบนวดเเละทายา

เมื่อประมาณ 5 ปีที่เเล้ว เริ่มมีอาการปัสสาวะออกบ่อย ชาตามปลายมือปลายเท้าเป็นเวลานาน ไม่มีอาการบวม มีภาวะระดับน้ำตาลในเลือดสูง เบื่ออาหาร

เเพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคไตวายเรื้อรัง ระยะที่ 4 จากภาวะเเทรกซ้อนของโรคเบาหวาน

รักษาโดย

พบเเพทย์ตามนัดสม่ำเสมอ

เเพทย์ให้คำเเนะนำในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

ป่วยเป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะมาเเล้ว 40 ปี

หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ

ปัจจุบันไม่มีอาการผิดปกติ

มีการพบเเพทย์ตามนัดอยู่เป็นประจำ

เคยป่วยเป็นมาลาเรียเมื่อ 40 ปีที่เเล้ว

ปัจจุบันรักษาหายเเล้ว

ป่วยเป็นเบาหวานมาเเล้ว 30 ปี

รักษาโดย

รับประทานยาตามเเพทย์สั่งสม่ำเสมอ

ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

ทำได้ไม่ดี

มีประวัติระดับน้ำตาลในเลือดสูงบ่อย

เป็นต้อกระจกที่ตาข้างขวา

รักษาโดย

ทำการผ่าตัด

สามีเป็นโรคความดันโลหิตสูงเเละป่วยเป็นอัมพฤกษ์

เนื่องจากเส้นเลือดฝอยมนสมองเเตก

เป็นมาเเล้ว 26 ปี

ปัจจุบันช่อยเหลือตัวเองได้

ใช้วอล์คเกอร์ในการช่วยเดิน

ลูกสาวคนที่ 2 ป่วยเป็นโรคภูมิเเพ้

มีอาการเเพ้ช่วงอากาศหนาว

ปัญหาที่ 1

ปัญหาที่ 2

ปัญหาที่ 3

ปัญหาที่ 4

ปัญหาที่ 5

ปัญหาที่ 6

ผู้ป่วยมีภาวะระดับน้ำตาลในเลือดสูง เนื่องจากความรู้ด้านโภชนาการเกี่ยวกับชนิดของอาหารที่ควรรับประทานไม่เพียงพอ

ผู้ป่วยมีภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานได้แก่ โรคไตเรื้อรัง โรคตา(ต้อ) มีอาการปลายมือปลายเท้าชาและปัสสาวะบ่อยในตอนกลางคืนเนื่องจากมีความรู้ไม่เพียงพอเกี่ยวกับการปฏิบัติตนให้ถูกต้องต่อโรคเบาหวาน

ผู้ป่วยอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคไปเรื้อรังเนื่องจากมีความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติตนให้ถูกต้องเกี่ยวกับโรคไตเรื้อรังระยะที่ 4ไม่เพียงพอ

อาจเป็น โรคข้อเขาเสื่อมและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากมีการทรงตัวไม่ดี มีอาการบวมเเละปวดบริเวณหัวเข่าข้าวขวาร่วมกับการอยู่ในวัยผู้สูงอายุเเละมีภาวะน้ำหนักเกิน

ผู้ป่วยอาจได้รับสารอาหารไม่ครบ 5 หมู่ เนื่องจากมีฟันเพียง 1 ซี่ ส่งผลให้มีความบกพร่องในการเคี้ยวอาหาร

การรวบรวมข้อมูล
(Assessment )

การวินิจฉัยการพยาบาล
(Nursing Diagnosis)

การวางเเผนการพยาบาล
(Planning)

การประเมินผลพยาบาล
(Evaluation)

การรวบรวมข้อมูล
(Assessment )

การรวบรวมข้อมูล
(Assessment )

การรวบรวมข้อมูล
(Assessment )

การรวบรวมข้อมูล
(Assessment )

การรวบรวมข้อมูล
(Assessment )

ความคงทนในการทำกิจกรรมลดลง เนื่องจากมีปัญหาโรคหัวใจทำให้เหนื่อยง่ายเวลาทำกิจกรรม

การวินิจฉัยการพยาบาล
(Nursing Diagnosis)

การวินิจฉัยการพยาบาล
(Nursing Diagnosis)

การวินิจฉัยการพยาบาล
(Nursing Diagnosis)

การวินิจฉัยการพยาบาล
(Nursing Diagnosis)

การวินิจฉัยการพยาบาล
(Nursing Diagnosis)

การวางเเผนการพยาบาล
(Planning)

การวางเเผนการพยาบาล
(Planning)

การวางเเผนการพยาบาล
(Planning)

การวางเเผนการพยาบาล
(Planning)

การวางเเผนการพยาบาล
(Planning)

การประเมินผลพยาบาล
(Evaluation)

การประเมินผลพยาบาล
(Evaluation)

รับประทานยาตามเเพทย์สั่ง

ข้อมูลทั่วไป

การประเมินผลพยาบาล
(Evaluation)

การประเมินผลพยาบาล
(Evaluation)

การประเมินผลพยาบาล
(Evaluation)

บรรลุจุดมุ่งหมายบางส่วน

ผู้ป่วยสามารถบอกวิธีการรับประทานอาหารได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับโรคเเต่ไม่สามารถปฎิบัติได้ทั้งหมด

บรรลุจจุดมุ่งหมายบางส่วน

ผู้ป่วยมีระดับน้ำตาลในเลือด 108 mg/dL

ไม่บรรลุจุดมุ่งหมาย

บรรลุจุดมุ่งหมาย

บรรลุจุดมุ่งหมายบางส่วน

บรรลุจุดมุ่งหมายบางส่วน

บรรลุจุดมุ่งหมายบางส่วน

บรรลุจุดมุ่งหมายบางส่วน

ผู้ป่วยสามารถควบคุมเเละป้องกันภาวะเเทรกซ้อนที่มีอยู่ไม่ให้เกิดความรุนเเรงมากขึ้นได้

บรรลุจุดมุ่งหมายบางส่วน

ผู้ป่วยสามารถบอกวิธีการดูเเลตนเองได้บางส่วน

บรรลุจุดมุ่งหมายบางส่วน

ผู้ป่วยมีระดับน้ำตาลในเลือด 108 mg/dL
เเละมีตำนวนครั้งในการปัสสาวะช่วงกลางคืนน้อยลงในบางคืน

บรรลุจุดมุ่งหมายบางส่วน

ผู้ป่วยสามารถบอกสาเหตุการเกิดโรคไตเรื้อรังได้

บรรลุจุดมุ่งหมาย

ผู้ป่วยและญาติสามารถบอกวิธีการรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับโรคได้

บรรลุจุดมุ่งหมาย

ผู้ป่วยไม่สามารถควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติได้

ไม่บรรลุจุดมุ่งหมาย

ผู้ป่วยทรงตัวได้ดีขึ้น มีการใช้อุปกรณ์ช่วย
ในการพยุงตัวน้อยลง

บรรลุจุดมุ่งหมายบางส่วน

ผู้ป่วยสามารถบอกอาการเเละวิธีลดการบวมของหัวเข่า
รวมถึงวิธีป้องกันโรคข้อเข่าเสื่อมได้บางส่วน

บรรลุจุดมุ่งหมายบางส่วน

ผู้ป่วยสามารถทำกิจกรรมบางอย่างได้นานมากขึ้น

บรรลุจุดมุ่งหมายบางส่วน

ผู้ป่วยสามารถบอกวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกิจกรรมได้

บรรลุจุดมุ่งหมาย

ผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหารได้ครบ 5 หมู่

บรรลุจุดมุ่งหมายบางส่วน

ญาติผู้ดูแลสามารถบอกวิธีการจัดอาหารให้ผู้ป่วยได้อย่างถูกต้อง
เเละมีความเหมาะสมต่อความต้องการของผู้ป่วย

บรรลุจุดมุ่งหมาย

จุดมุ่งหมายการพยาบาล

เกณฑ์การประเมินผล

จุดมุ่งหมายการพยาบาล

จุดมุ่งหมายการพยาบาล

จุดมุ่งหมายการพยาบาล

จุดมุ่งหมายการพยาบาล

จุดมุ่งหมายการพยาบาล

เกณฑ์การประเมินผล

เกณฑ์การประเมินผล

เกณฑ์การประเมินผล

เกณฑ์การประเมินผล

เกณฑ์การประเมินผล

ผู้ป่วยสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้
โดยอยู่ในเกณฑ์ 74-100 mg/dL

ผู้ป่วยสามารถบอกวิธีรับประทานอาหาร
ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับโรค

ผู้ป่วยมีความรุนเเรงในภาวะเเทรกซ้อนจากโรคเบาหวานลดลง

ผู้ป่วยมีความรู้ในการดูเเลตนเองเกี่ยวกับโรคเบาหวานเเละโรคเเทรกซ้อนต่างๆมากขึ้น เช่น หลีกเลี่ยงการเกิดภาวะไตวายเฉียบพลันเเละสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้

ผู้ป่วยสามารถควบคุมเเละป้องกันภาวะเเทรกซ้อนที่มีอยู่ไม่ให้เกิดความรุนเเรงมากขึ้นได้ เช่น การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูง เพื่อลดภาวะไตวายเฉียบพลัน

ผู้ป่วยสามารถบอกวิธีการดูเเละตนเองได้อย่างถูกต้อง

ผู้ป่วยมีระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในเกณฑ์ 74-100 mg/dL
เเละมีจำนวนครั้งในการปัสสาวะช่วงกลางคืนน้อยลง

ผู้ป่วยปลอดภัยเเละไม่เกิดภาวะเเทรกซ้อน
จากโรคไตเรื้อรังเพิ่มมากขึ้น

ผู้ป่วยสามารถบอกสาเหตุการเกิดโรคไตเรื้อรังได้

ผู้ป่วยเเละญาติสามารถบอกวิธีการรับประทานอาหาร
เเละวิธีการปฎิบัติตนที่เหมาะสมกับโรค

ผู้ป่วยมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคข้อเข่าเสื่อมลดลง
ในขาขวาที่กำลังมีอาการเเละข้างซ้ายที่ปกติ

ผู้ป่วยมีอาการบวมเเละปวดบริเวณหัวเข่าข้างขวาลดลง

ผู้ป่วยปลอดภัยเเละมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุน้อยลง

ผู้ป่วยสามารถบอกอาการเเละวิธีลดการบวมของหัวเข่า
รวมถึงวิธีการป้องกันโรคข้อเข่าเสื่อมได้

ผู้ป่วยสามารถควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติได้

ผู้ป่วยมีความคงทนในการทำกิจกรรมต่างๆเพิ่มขึ้น
เเละสามารถบอกวิธีการดูเเลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาะในการทำกิจกรรมได้

ผู้ป่วยสามารถบอกวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกิจกรรมได้

ผู้ป่วยสามารถทำกิจกรรมต่างๆได้มากขึ้น
เเละมีระยะเวลาในการทำกิจกรรมได้นานขึ้น

ผู้ป่วยได้รับสารอาหารครบ 5 หมู่เเละเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

ญาติผู้ป่วยมีความรู้เกี่ยวกับวิธีการจัดอาหารได้อย่างเหมาะสม

ผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหารได้อย่างครบ 5 หมู่

ญาติผู้ดูเเลสามารถบอกวิธีการจัดอาหารให้ผู้ป่วยได้อย่างถูกต้อง
เเละมีความเหมาะสมต่อความต้องการของผู้ป่วย

กิจกรรมการพยาบาล
(Implementation)

กิจกรรมการพยาบาล
(Implementation)

กิจกรรมการพยาบาล
(Implementation)

กิจกรรมการพยาบาล
(Implementation)

กิจกรรมการพยาบาล
(Implementation)

กิจกรรมการพยาบาล
(Implementation)

แนะนำและสร้างสัมพันธภาพผู้ป่วยเพื่อให้เกิดความไว้วางใจในการพูดคุยและให้คำแนะนำ

ประเมินความรู้และสอนผู้ป่วย/ญาติให้สังเกตุการรับรู้และการประเมินเมื่อมีอาการผิดปกติ เพื่อลดความรุนแรงของโรคและอาการผิดปกติที่จะเกิดขึ้น

เมื่อมีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำจะมีอาการ

เมื่อมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงจะมีอาการ

หัวใจเต้นเร็ว เวียนศรีษะ ปวดศีรษะฉุนเฉัยวง่าย กังวล สายตาพร่า เหงื่อออกมาก หิวบ่อย อ่อนเพลีย ตัวสั่น
ถ้าอาการรุนแรงอาจชักหรือหมดสติต้องดำเนินการดังนี้

กระหายน้ำมาก คลื่อนไส้ ปัสสาวะบ่อยและมากผิดปกติโดยเฉพาะเวลากลางคืน อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ตาพร่ามัวซึม อาจหมดสติมีอาการชักกระตุกได้ต้องปฏิบัติโดย

1.ถ้าอาการไม่มากควรรีบรับประทานทันที เช่น ข้าว ขนมปัง นม น้ำหวานและผลไม้รสหวานก่อน

2.กรณีที่มีอาการค่อนข้างมาก แต่ยังรู้สึกตัว
ให้ดื่มน้ำหวาน1/ 2 - 1 แก้วหรืออมลูกอม 1 - 2 เม็ด
ถ้ายังไม่ดีขึ้นสามารถดื่มน้ำหวานซ้ำอีก 1 แก้วได้

3.ถ้ามีอาการรุนแรงถึงขั้นหมดสติ
รีบนำส่งโรงพยาบาลทันที

ดื่มน้ำให้มากๆเพื่อช่วยเจือจางน้ำตาลในเลือด (ถ้ามีเครื่องวัดระดับน้ำตาลในเลือดลองตรวจเลือดเพื่อวัดระดับน้ำตาลให้แน่ใจว่าสุดจริงแล้วค่อยฉีดอินซูลินหรือทานยา) หากหมดสติให้รีบพาไปพบแพทย์โดยด่วน

เเนะนำให้รับประทานยา MIXTARD 70:30 INJ (ED), ยาFOLIC ACID (ED) 5 MG, ยาAspilets-Aspirin (ED) 81 MG, ยาSIMVASTAIN 20 MG เเละ ยาLOSEC-Omeprazole CAP (ED)ตามเเผนการรักษาของเเพทย์

ให้ความรู้ด้านโภชนาการอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานพร้อมบอกประโยชน์ของการรับประทานอาหาร
ที่เหมาะสมกับโรคเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เช่น

  1. อาหารที่สามารถรับประทานทานได้ไม่จำกัดปริมาณ
  1. อาหารที่สามารถอาหารที่สามารถรับประทาน
    ได้แต่ต้องจำกัดปริมาณ ได้แก่

อาหารประเภทแป้ง เช่น ข้าว ก๋วยเตี๋ยว ขนมปังขาว เผือกมัน เพราะมีคาร์โบไฮเดรตน้อยกว่าน้ำตาล โดยแป้งจะถูกย่อยเปลี่ยนไปเป็นน้ำตาลได้เร็ว แต่อาหารเหล่านี้ก็ยังมีโปรตีน วิตามิน แร่ธาตุและเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญของร่างกายจึงไม่ควรลดหรือจำกัดเกินไป

ผลไม้บางชนิดที่มีรสหวานและมีปริมาณน้ำตาลค่อนข้างสูง เช่น มะม่วงสุกทุเรียน ขนุน

เช่น ผัดก้าน ผักใบเขียวทุกชนิด ทำให้การดูดซึมน้ำตาลช้าลงอีกทั้งใยอาหารช่วยดูดซับน้ำตาลไม่ให้เข้าสู่กระแสเลือดเร็วเกินไปทำให้ร่างกายสามารถดึงน้ำตาลไปใช้ได้พอดี

แนะนำญาติและผู้ป่วยให้ปรับเปลี่ยนอาหารว่างในการรับประทานแต่ละครั้ง เช่น รับประทานส้ม 1 ผลมะม่วงสุก1/2 ผล มะละกอสุก 8 ชิ้นแต่ไม่ควรรับประทานบ่อยเนื่องจากเเป็นผลไม้ที่มีรสหวาน ปรับจากการดื่มเครื่องดื่มไมโลทุกวันเป็นนานๆวันดื่มครั้งหรือดื่มวันละน้อยๆเป็นต้น

ให้แนะนำญาติให้จัดอาหารตามหลักโภชนาการการของผู้ป่วยโรคเบาหวานและจำกัดปริมาณแป้ง น้ำตาลและผลไม้รสหวานที่ผู้ป่วยชอบรับประทาน

ประเมินความรู้ความเข้าใจของผู้ป่วยที่มีต่อโรคเบาหวานและภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้น เพื่อนำมาวางแผนและหาวิธีการที่เหมาะสมในการให้ข้อมูลและให้ความรู้แก่ผู้ป่วย

สังเกตอาการผิดปกติได้แก่ อาการบวมปัสสาวะออกน้อยจากโรคไต ตาพร่ามัว มองเห็นไม่ชัดเจนจากเบาหวานขึ้นตา ปัสสาวะบ่อยๆจากการคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดี การตรวจดูแผลที่เท้า เพื่อตรวจอาการผิดปกติและจะได้ทำการรักษาได้ทัน ลดความรุนแรงของโรค

ให้ความรู้เเละความเข้าใจเกี่ยวกับภาวะเเทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน ได้เเก่ ทำให้เกิดโรคไตเรื้องรัง โรคตา อาการชาปลายมือปลายเท้า และปัสสาวะบ่อยในตอนกลางคืน ให้คำเเนะนำในการปฎิบัติตนเพื่อป้องกันการเกิดภาวะเเทรกซ้อนของโรคเบาหวาน

แนะนำให้สังเกตและตรวจเท้าทุกวัน เพื่อป้องกันการเป็นแผลและสาธิตวิธีการดูแลตนเองเมื่อเป็นแผล การทำความสะอาดบาดแผล เพื่อป้องกันการติดเชื้อที่เสี่ยงต่อการเกิดแผลเรื้อรัง

แนะนำให้ได้รับการตรวจตา

แนะนำให้ไปตรวจตามนัดอย่างต่อเนื่อง

แนะนำให้รับประทานยาตามแผนการรักษาของแพทย์และให้คำแนะนำเกี่ยวกับผลข้างเคียงของยา เพื่อลดอาการเจ็บป่วยและความเข้าใจในการรับประทานยา
ยาที่รับประทานเช่น

ยาโรคไตได้เเก่ FERROSUS FUMARATE (ED), ยาGabapentin (ED) 100 MG, ยาPARACETAMOL 500 MG เเละยาTolperisone Hydrochloride 50 MG

ยาโรคเบาหวาน ได้เเก่ ยาMIXTARD 70:30 INJ (ED), ยาFOLIC ACID (ED) 5 MG, ยาAspilets-Aspirin(ED) 81 MG, ยาSIMVASTAIN 20 MG เเละยาLOSEC - Omeprazole CAP (ED)

ยาโรคตา ได้เเก่ ยาHISTA-OPH (ED) 0.05% ขวด เเละยาNATEAR EYE DROPS (ED) 10 ML

ให้ความรู้ในการหลีกเลี่ยงรับประทานอาหารรสหวาน เค็มและมัน เพื่อควบคุมความรุนแรงของโรค

แนะนำวิธีการออกกำลังกายโดยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดเช่น การกระดกส้นเท้า ปลายเท้า การยกและกางแขนขาออกวันละประมาณ 30 นาที
เพื่อลดอาการชาของปลายมือปลายเท้า

สังเกตอาการผิดปกติของร่างกาย ได้แก่ อาการบวม ปัสสาวะออกน้อย มีอาการชา กระตุก มือจีบ ปวดหน้าอก หายใจหอบเหนื่อย หายใจลำบากจากภาวะเเทรกซ้อนจากโรคไตเรื้อรัง เพื่อตรวจอาการที่ผิดปกติ จะได้ทำการรักษาได้ทัน ลดความรุนเเรงของโรค

ให้ความรู้เกี่ยวกับภาวะแทรกซ้อนทางไต ที่เกิดจากโรคเบาหวาน
เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนใหม่ และลดความรุนแรงของโรค

แนะนำผู้ป่วยและญาติผู้ดูแลให้จัดอาหารที่เหมาะสมกับโรคไตของผู้ป่วยเพื่อป้องกันภาวะไตวายเฉียบพลัน ดังนี้

เเนะนำให้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงการซื้อยาแก้ปวดหรือยาสมุนไพรประธานเองเนื่องจากอาจมีสารตกค้างสะสมในร่างกายหรือทำให้เกิดอันตรายต่อไตในผู้ป่วยเป็นโรคไตเรื้อรังได้เพื่อรักษาสภาพของไตไม่ให้แย่ไปกว่านี้

หลีกเลี่ยงอาหารรสเคม ลดการเติมเกลือ น้ำปลา ซอส เพิ่มในอาหาร

หลีกเลี่ยงอาหารที่มีโครเลสเตอรอลเช่น ไข่แดง ไข่ปลา เนย

รับประทานผลไม้ ที่มีปริมาณโพแทสเซียมต่ำ เช่น แอปเปิ้ล ชมพู่

รับประทานเนื้อปลา มื้อละ 3-4 ช้อนกินข้าว ไข่ดาว 2 - 3 ฟอง

แนะนำให้ญาติผู้ดูแลจัดอาหารที่เหมาะสมกับผู้ป่วยให้แก่ผู้ป่วย โดย

เเนะนำให้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงอาหารบางชนิด
เพื่อรักษาฟันที่มีอยู่เพียงหนึ่งซี่เท่านั้น โดย

หั่นหรือสับอาหารที่เเข็งเเละเหนียว เป็นชิ้นลูกเต๋าเล็กๆ เเละบางๆ

นำวัตถุดิบมาผ่านวิธีการต้ม ตุ๋น ลวก นึ่ง เพื่อให้มีความอ่อนนุ่มเเละสะดวกในการเคี้ยว

เน้นใช้เครื่องเทศหรือสมุนไพรต่างๆ มาปรุงเป็นเมนู เพราเครื่องเทศจะกระตุ้นความอยากอาหารได้ดี

เน้นจัดอาหารที่มีสีสันน่ารับประทาน หลากหลาย เเละเป็นอาหารอ่อน ชิ้นเล็ก เคี้ยวง่าย

หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสหวาน ขนมหวาน ซึ่งทำให้ฟันพุ

หลีกเลี่ยงน้ำหวาน น้ำอัดลม เเละน้ำผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เพราะเป็นตัวทำลายสารเคบือบฟัน เเละทำให้ฟันสึกกร่อน

หลีกเลี่ยงอาหารชิ้นใหญ่หรืออาหารที่มีความเเข็งเเละเหนียว เนื่องจากอาจทำให้เกิดการติดคอได้

ให้คำเเนะนำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกิจกรรมโดยให้ผู้ป่วยปฎิบัติตัว ดังนี้

สาธิตการออกกำลังกายที่ไม่หนักจนเกินไป เพื่อความเหมาะสมกับโรค เช่น

ดูเเลตนเองไม่ให้เกิดภาวะอ้วนลงพุง

ควบคุมน้ำตาลในเลือด ความดันโลหิต เเละระดับไขมันในเลือด ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ รสไม่จัด ไขมันต่ำเเละเหมาะสมกับโรค

พักผ่อนให้เพียงพอ

ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 3-5 วัน

ท่าเขย่งฝ่าเท้า

ท่าเหยียดเข่า

ท่างอเข่า

ท่างอสะโพก

ท่าเเกว่งเเขนสูงกำมือ-เเบมือ

ท่ากางศอก-หุบศอก

ตรวจประเมินอาการ บริเวณเข่า ว่ามีอาการอักเสบปวดบวมเเดงร้อนหรือไม่ เพื่อตรวจหาอาการที่ผิดปกติ เเละจะได้ทำการรักษาได้ทัน ลดความรุนเเรงของโรค

ให้ความรู้เกี่ยวกับอาการเเละวิธีป้องกันโรคข้อเข่าเสื่อม โดยอาการเริ่มเเรกจะรู้สึกเจ็บปวด ป้องกันโดยหลีกเลี่ยงการนั่งกับพื้น ถ้ามีอาการปวดบ่อยๆ ไม่ทุเลาควรปรึกษาเเพทย์ เพื่อป้องกันการเกิดโรคเข่าเสื่อมเเละลดความเจ็บปวดบริเวณหัวเข่า

ประเมินรูปร่างเเละน้ำหนักของผู้ป่วย เพื่อจัดกิจกรรมการออกกำลังกายที่เหมาะสม เนื่องจากน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น จะเพิ่มเเรงที่กระทำต่อข้อเข่า

เเนะนำวิธีการควบคุมน้ำหนักในวัยผู้สูงอายุเพื่อควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เเละลดเเรงที่กระทำต่อข้อเข่า

เเนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้ใช้ขาให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในขณะที่มีอาการปวดเเละบวม เพื่อลดอาการของหัวเข่า

เเนะนำญาติในการจัดสิ่งเเวดล้อมที่บ้านให้เป็นระเบียบไม่วางของระเกะระกะ เพื่อป้องกันการเดินหกล้ม

ให้ความรู้เเละสาธิตวิธีการออกกำลังกายเพื่อบริหารเข่า โดย

ถ้าเดินเจ็บเสียวมาก

ให้ใส่ปลอกเข้า

ถือไม้เท้าด้านซ้ายกับเข่าที่เจ็บ

ใช้ความร้อนประคบ

ถ้าอาการปวดบวมลดลง

ออกกำลังกายบริหารอยู่กับที่

ออกกำลังกายบริหารเเบบเคลื่อนไหวที่เข่า

นอนหงาย เกร็งกล้ามเนื้อหน้าขา

ท่านั่งเก้าอี้ เหยียดเข่าตรง

ท่าเหยียดเข่า นอนหงายเกร็งกล้ามเนื้อหน้าเเละขายกขาขึ้น

ถ้ามีอาการเข่าเสื่อมมากเเนะนำให้ไปพบเเพทย์ เพื่อให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไป

เเนะนำเรื่องการจัดสภาพภายในห้องน้ำ การใช้ส้วมเเบบชักโครก เพื่อลดอาการปวดเเละบวมของหัวเข่า จากการนั่งยองๆในเวลานานๆ

เเนะนำญาติให้ดูเเลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด ระมัดระวังการเกิดอุบัติเหตุในการเดินในบ้านที่เป็นทางต่างระดับ

ผู้ป่วยมีภาวะระดับน้ำตาลในเลือดสูง เนื่องจากมีความรู้ด้านโภชนาการเกี่ยวกับชนิดของอาหารที่ควรรับประทานไม่เพียงพอ

ผู้ป่วยมีภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน ได้เเก่ โรคไตเรื้อรัง โรคตา(ต้อ) ภาวะอาการปลายมือปลายเท้าชา เเละปัสสาวะบ่อยในตอนกลางคืน เนื่องจากมีความรู้ไม่เพียงพอเกี่ยวกับการปฏิบัติตนให้ถูกต้องต่อโรคเบาหวาน

ผู้ป่วยอาจเกิดภาวะเเทรกซ้อนจากโรคไตเรื้อรัง เนื่องจากมีความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติตนให้ถูกต้องเกี่ยวกับโรคไตเรื้อรังระยะที่ 4 ไม่เพียงพอ

อาจเป็นโรคข้อเขาเสื่อมและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ได้แก่ การหกล้มเนื่องจากมีการทรงตัวไม่ดี มีอาการบวมและปวดบริเวณหัวเข่าข้างขวาร่วมกับการอยู่ในวัยผู้สูงอายุเเละมีภาวะน้ำหนักเกิน

ความคงทนในการทำกิจกรรมลดลง เนื่องจากมีปัญหาเป็นโรคหัวใจทำให้เหนื่อยง่ายเวลาทำกิจกรรม

ผู้ป่วยอาจได้รับสารอาหารไม่ครบ 5 หมู่ เนื่องจากมีความบกพร่องในการเคี้ยวอาหารเพราะมีฟังเพียงซี่เดียว

S: ผู้ป่วยบอกว่า “มีการเคี้ยวอาหารยากลำบาก”

O : ผู้ป่วยไม่สามารถรับประทานอาหารบางประเภทได้ เช่นเนื้อสัตว์ (เนื้อหมู เนื้อไก่ ปลาหมึก กุ้ง) และผักที่มีความแข็งจำพวก แตงกวา คะน้า ทำให้ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

S: ผู้ป่วยบอกว่า “อายุ 72 ปี เเละมีฟันเพียง 1 ซี่”

S: ผู้ป่วยบอกว่า “ป่วยเป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ(หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ)มาแล้ว 40 ปีปัจจุบันควบคุมอาการได้ดีไม่มีอาการปรากฎ”

ข้อมูลสนับสนุน

อายุ 72 ปี เเละมีฟันเพียง 1 ซี่

ผู้ป่วยไม่สามารถรับประทานอาหารบางประเภทได้

เนื้อสั เช่น เนื้อหมู เนื้อไก่ ปลาหมึก กุ้ง

ผักที่มีความเเข็ง เช่น เเตงกวา คะน้า

ข้อมูลสนับสนุน

ป่วยเป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ(หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ)

มีอาการหอบเหนื่อยในบางครั้งที่ทำกิจกรรมหนักๆ

มีอาการออกกำลังกาย ครั้งละ 5-10 นาที ถ้ามีรู้สึกว่าเหนื่อยก็จะหยุดพัก

ข้อมูลสนับสนุน

มีอาการเข่าบวมเเละปวดบริเวณหัวเข่าข้างขวา

ยืดเหยียดขาได้ไม่นานเเละ เวลาลุกยืนต้องใข้ไม้เท้าช่วยพยุง

เวลาเดินจะทิ้งน้ำหนักที่ขาสองข้างไม่เท่ากัน

อายุ 72 อายุ

ดัชนีมวลกายเท่ากับ 25.7 เเปลผลเป็นรูปร่างอ้วน

ข้อมูลสนับสนุน

ผู้ป่วยรับประทานผลไม้ที่มีรสหวาน

มะม่วงสุก

เเตงโม

ในช่วงเช้าผู้ป่วยมีการดื่มไมโล(ซอง)เป็นประจำ

มีอาการป่วยเป็นโรคเบาหวานมาเเล้ว 30 ปี เเต่ยังมีภาวะระดับน้ำตาลในเลือดสูง

ผลตรวจระดับ Glucose จากห้องปฏิบัติการโรงพยาบาล อยู่ในเกณฑ์สูงกว่าปกติ

ข้อมูลสนับสนุน

ตอนกลางคืนจะลุกมาปัสสาวะ 3-4 ครั้ง

มีปัญหาในการมองเห็นที่ตาข้างขวา

ผู้ป่วยไม่รู้วิธีดูเเลเมื่อเป็นเเผลเเต่จะไปพบเเพทย์เพื่อรับฟังคำเเนะนำ

ข้อมูลสนับสนุน

ไม่เข้าใจเหตุผลว่าทำไมหมอถึงห้ามรับประทานอาหารเค็ม อาหารมันเเละไข่เเดง

ควบคุมระดับน้ำตาลไม่ได้ มีภาวะระดับน้ำตาลในเลือดสูง

ผู้รับบริการ หญิงไทย หญิง อายุ 72 ปี สถานสมรส สมรส

เชื้อชาติ ไทย สัญชาติ ไทย ศาสนา พุทธ

ไม่เคยได้รับการศึกษา

ปัจจุบันไม่ได้ประกอบอาชีพ

มีรายได้ครอบครัว/เดือน 10,500 บาท

รายได้มาจาก

ลูกสาวที่ดูเเละ (ลูกสาวคนที่ 3)

เบี้ยผู้สูงอายุของผู้ป่วย

เบี้ยผู้สูงอายุของสามีผู้ป่วย

สิทธิการรักษา สิทธิผู้สูงอายุ

สัญญาญชีพ

อุณหภูมิ 37.1 องศาเซลเซียส

ชีพจร 72 ครั้ง/นาที

อัตราการหายใจ 20 ครั้ง/นาที

ความดันโลหิต 128/76 mmHg

น้ำหนัก 58 กิโลกรัม

ดัชนีมวลกาย (BMI) 25.7

เเปลผล อ้วน

ส่วนสูง 150 เซนติเมตร

S : ผู้ป่วยบอกว่า “มีอาการป่วยเป็นโรคเบาหวานมาเเล้ว 30 ปี รักษาโดยการรับประทานยาตามเเพทย์สั่ง เเต่การควบคุมระดับน้ำตาลทำได้ดีไม่ดี”

S : ผู้ป่วยบอกว่า “อาหารเสริมจะเป็นพวกรังนก นมงาดำ อาหารระหว่างมื้อเป็น ผลไม้ เช่น มะละกอสุก เเตงโม กล้วยน้ำหว้า ส้มเขียวหวาน เเละส้มสายน้ำผึ้ง ขนมปังขาว”

S : ผู้ป่วยบอกว่า “อาหารทีไม่ควรรับประทาน เช่น หน่อไม้ ขนุน ชะอม ผลไม้รสหวาน อาหารที่มีกะทิเป็นส่วนประกอบ”

O : จาการสังเกตบางวันผู้ป่วยจะรับประทานผลไม้ที่มีรสหวาน เช่น มะม่วงสุก เเตงโม ในช่วงเช้าผู้ป่วยมีการดื่มไมโล(ซอง)เป็นประจำ

O : ผลการตรวจระดับ Glucose จากห้องปฏิบัติการโรงพยาบาลเท่ากับ 108 mg/dL อยู่ในเกณฑ์สูงกว่าปกติ

S : ผู้ป่วยบอกว่า “เมื่อ 5 ปีที่เเล้ว มีอาการปัสสาวะบ่อย ชาตามปลายมือปลายเท้าเป็นเวลานานๆ ไม่มีอาการบวม เบื่ออาหาร เเพทย์ให้การรักษาโดยการรับประทานยาตามเเพทย์ เเละพบเเพทย์ตามนัด”

S : ผู้ป่วยบอกว่า “ตอนกลางคืนจะลุกมาปัสสาวะ 3-4 ครั้ง”

S : ผู้ป่วยบอกว่า “มีปัญหาในการมองเห็นที่ตาข้างขวา”

S : ผู้ป่วยบอกว่า “ไม่รู้วิธีดูเเลเมื่อเป็นเเผลเเต่จะไปพบเเพทย์เพื่อรับฟังคำเเนะนำ”

O: เเพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคไตวายเรื้อรัง ระยะที่ 4

O : เเพทย์วินิจฉัยว่าเป็นต้อกระจกที่ตาข้างขวา ได้รับการผ่าตัด เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2563

S : ผู้ป่วยบอกว่า “เป็นโรคไตเนื่องจากการรับประทานยามากเกินไป คิดว่าสาเหตุบางส่วนน่าจะมาจากโรคเบาหวานด้วยเเต่ไม่รู้สาเหตุที่เเน่ชัด”

S : ผู้ป่วยบอกว่า “หมอห้ามรับประทานอาหารเค็ม อาหารมันเเละไข่เเดง เพราะมีผลต่อโรคที่เป็น เเต่ไม่เข้าใจเหตุผลว่าทำไมต้องห้าม”

S: ผู้ป่วยบอกว่า “ควบคุมระดับน้ำตาลไม่ได้ มีภาวะระดับน้ำตาลในเลือดสูง”

O: ผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานมาเเล้ว 30 ปี

S:ผู้ป่วยบอกว่า “มีอาการเข่าบวมเเละปวดบริเวณหัวเข่าข้างขวา หัวเข่าข้างซ้ายปกติดี เเต่ไม่ได้ไปพบเเพทย์เพื่อวินิจฉัย”

S:ผู้ป่วยบอกว่า “ยืดเหยียดขาได้ไม่นานเเละมีอาการปวดที่หัวเข่าข้างขวา เวลาลุกยืนต้องใช้ไม้เท้าช่วยพยุง”

O:จากการสังเกตผู้ป่วยทรงตัวได้ไม่ดีหัวเข่าข้างขวามีอาการบวม เวลาเดินจะทิ้งน้ำหนักที่ขาสองข้างไม่เท่ากัน

O:มีดัชนีมวลกายเท่ากับ 25.7 เเปลผลเป็นรูปร่างอ้วน

S:ผู้ป่วยบอกว่า “อายุ 72 ปี”

S: ผู้ป่วยบอกว่า “มีการออกกำลังกายเเบบยืดเหยียดกล้ามเนื้อ เช่น การยกเเขน ยกขา บิดขี้เกียจ ทำสัปดาห์ละ 6-7 วัน ครั้งละ 5-10 นาที ถ้ามีรู้สึกว่าเหนื่อยจะหยุดพัก”

S : ผู้ป่วยบอกว่า “มีอาการหอบเหนื่อยในบางครั้ง”

กลุ่มที่ 1

นางสาว กัญญาณัฐ สมประสงค์ 622001005
นางสาว คีตภัทร บุญขำ 622001010
นางสาว ชุตินันท์ วงค์ตาผา 622001020
นางสาว ปิยาภรณ์ บุญยะเพ็ญ 622001052
นางสาว อมรรัตน์ ชุ่มสูงเนิน 622001105