Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ทารกแรกเกิดติดเชื้อ - Coggle Diagram
ทารกแรกเกิดติดเชื้อ
Syphilis
- เกิดจากเชื้อ Treponema pallidum
- ช่วงอายุครรภ์ก่อน 16 wks. กลไกการทำงานของ Langhan’s epithelial layer ของ cytotrophoblast ของรกจะช่วยป้องกันการติดเชื้อในทารกได้
- ติดเชื้อภายหลัง
16 wks. Langhan’s epithelial layer จะหายไป
แนวทางการรักษา
- สังเกตภาวะ congenital syphilis
- ส่ง cord blood for VDRL ติดตามผลเลือด
- แยกทารกออกจากทารกคนอื่นๆ
- ดูแลให้ยาตามแผนการรักษา
ยา Aqueous penicillin G 50,000 ยูนิต/กก.
ยา Benzathine penicillin G 50,000 ยูนิต/กก.
-
Rubella
- เกิดจากเชื้อ rubella virus
- การติดเชื้อจากมารดาสู่ทารก
ติดต่อได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ผ่านทางรก
- การติดเชื้อในช่วงไตรมาสแรกมีโอกาสติดเชื้อถึงร้อยละ 80
-
แนวทางการรักษา
- ทารกควรได้รับการแยกจากทารกคนอื่น เพื่อสังเกตอาการและประเมินความผิดปกติ
- เก็บเลือดทารกส่งตรวจเพื่อยืนยันการติดเชื้อ
- ตรวจร่างกายทารกอย่างละเอียด
Chickenpox
- การติดเชื้อจากมารดาสู่ทารกเกิดขึ้นโดยผ่านทางรก
- การติดเชื้อไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ ทำให้ทารกมีความผิดปกติในหลายๆ ระบบ
- ช่วงอายุครรภ์6-12 สัปดาห์เกิดความผิดปกติของแขน ขา มากที่สุด เช่น แขนขาลีบ
- อายุครรภ์16-20 สัปดาห์จะมีผลต่อการพัฒนาการทางสมอง และตา
- มารดามีการติดเชื้อในช่วงใกล้คลอด จะทำให้เกิด congenital varicella รติดต่อโดยผ่านช่องคลอดขณะคลอด
แนวทางการรักษา
- มารดาและทารกควรได้รับการแยกกันดูแลจนกระทั่งมารดามีการตกสะเก็ดของตุ่มสุกใสจนหมด
- ควรได้รับการแยกจากทารกที่คลอดจากมารดาปกติ
- ทารกที่คลอดจากมารดาที่ติดเชื้อสุกใสภายใน 5 วันก่อนคลอดหรือ 2 วันหลัง
คลอด ควรได้รับ varicella-zoster immunoglobulin (VZIG) ทันทีที่คลอด
- หากมารดาติดเชื้อนานกว่า 5 วันไม่จำเป็นต้องให้ VZIG แก่ทารก
- ควรให้ยา Acyclovir ร่วมกับ VZIG ในทารกแรกคลอด เนื่องจากได้ผลการรักษาดีกว่าการให้ VZIG เพียงตัวเดียว
Gonorrhea
- เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Neisseria gonorrhea
- ได้รับเชื้อโดยตรงหลังจากมีถุงน้ำคร่ำแตก หรือผ่านช่องทางคลอดที่ติดเชื้อ
- เชื้อจะเข้าสู่ตาทารกเป็นส่วนใหญ่
- ทำให้เยื่อบุตาอักเสบ มีอาการจะพบว่ามีขี้ตามาก
- หนังตาบวม การติดเชื้อบริเวณตาของทารก ทำให้ทารกมีอาการตาบอดได้
- สามารถป้องกันได้โดยการป้ายตาภายหลังทารกคลอดทันที
แนวทางการรักษา
- นอกจากการป้ายตาด้วยยาปฏิชีวนะ ต้องได้รับยา Cefixin 1 mg/kg วันละ 1 ครั้งติดต่อกัน 7 วัน
- ต้องเช็ดตาของทารกด้วย NSS หรือล้างตาทุก 1 ชั่วโมงจนกว่าหนองจะแห้ง
Herpes
- เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex virus
- มีไข้อ่อนเพลีย การดูดนมไม่ดีตัวเหลือง
ตับ ม้ามโต ชัก หรือบางรายพบมีตุ่มน้ำพอง
ใสเล็ก ๆ ที่ผิวหนังตามร่างกาย
แนวทางการรักษา
- ต้องถูกแยกจากทารกคนอื่นๆ และดูแล
อย่างใกล้ชิด เพื่อดูอาการของการติดเชื้อเริม อย่างน้อย 7-10 วัน
- การติดเชื้อเริมจากการคลอดทางช่องคลอด ดูแลให้ได้รับยา Acyclovir
AIDS
- เกิดจากเชื้อไวรัส HIV
- ติดต่อได้โดยผ่านทางรก การสัมผัสเลือดและสารคัดหลั่ง การเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดา
แนวทางการรักษา
- หลีกเลี่ยงการใส่สายยางสวนอาหารใน
กระเพาะ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดบาดแผล
- การรักษาด้วยยา ยา NVP ชนิดน้ำขนาด
6 mg. ทันทีหรือภายใน 8 -12 hr. หลังคลอดร่วมกับ AZT 2 mg/kg. หลังจากนั้นจะให้ยา AZT ต่อทุก 2 hr.
- ทารกจะต้องได้รับการตรวจหาการติดเชื้อ HIV โดยการตรวจ เพื่อหา viral load ด้วยวิธี real time PCR assay
ถ้าพบเชื้อ HIV-RNA ใน 48 hr.แรกหลังคลอด แสดงว่าทารกติดเชื้อตั้งแต่ในครรภ์ ถ้าตรวจพบใน 6 wks. แสดงว่าติดเชื้อในระยะคลอด
- ทารกครบ 12 เดือน ควรตรวจหาภูมิต้านทานชนิด IgG และ IgM ควรตรวจอีกครั้งเมื่อ 18 เดือน ถ้าระดับ CD4 มากกกว่าร้อยละ 20 แพทย์จะให้ยา AZT และให้ตรวจหา CD4 ซ้ำทุก 6 เดือน
Hepatitis B virus
- เกิดจากการติดเชื้อ HBV
- ถ่ายทอดผ่านทางเลือด น้ำลาย อสุจิ สิ่งคัดหลั่งทางช่องคลอด น้ำนม และผ่านทางรก
- หญิงตั้งครรภ์ที่มีผล HBeAg positive จะมีอัตราการถ่ายทอดเชื้อไปสู่ทารกสูงถึงร้อยละ 90
- หญิงตั้งครรภ์ที่มีผล HBeAg negative จะมีอัตราการถ่ายทอดเชื้อไปสู่ทารกเพียงร้อยละ 10-20
แนวทางการรักษา
- ทารกแรกคลอดต้องดูดมูกและเลือดออกจากปากและจมูกของทารกออกมาให้มากที่สุด
- ทำความสะอาดทารกทันทีที่คลอด
- ทารกสามารถดูดนมมารดาได้ทันทีหลังคลอด
- หากมารดามีหัวนมแตกให้งดให้บุตรดูดนมเพราะอาจแพร่การกระจายเชื้อสู่ทารกได้
- ดูแลให้ทารกแรกเกิดได้รับ HBIG โดยเร็วที่สุด
- HBV เข็มที่ 1 เข้ากล้ามเนื้อโดยเร็วที่สุด ภายใน 12 ชั่วโมงหลังคลอด
- นัดให้มารับวัคซีน HBV ตามกำหนดเข็มที่ 2 ตอนอายุ 1 เดือน และให้วัคซีน DTP-HB ตอนอายุ 2, 4, 6 เดือน
- แนะนำให้มารดาพาทารกมาตรวจเลือดตามนัดเมื่ออายุ 9-12 เดือน
-