Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

Planning, กลุ่มที่ 1 นางสาวเนตรนภา แก้วระย้า เลขที่ 41 รหัสนักศึกษา…

- - - - 2.1) งดอาหารเค็ม ของหมักดอง ของตากแห้ง
      - 2.2) รับประทานผัก ผลไม้ทุกมื้อ หลีกเลี่ยงอาหารที่ให้พลังงานสูง เช่น อาหารทอด อาหารที่มีไขมัน เป็นต้น
      - 2.3) รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
      - 2.4) ฝึกการผ่อนคลาย โดยการบริหารจิต การมีเมตตาการเจริญสติ สมาธิ เพื่อลดความเครียดที่มีผลต่อความดันโลหิต
      - เพื่อให้ผู้ป่วยมีความรู้และสามารถรับประทานอาหารให้เหมาะสมกับโรคความดันโลหิตสูงได้
    - - ไต อาจเกิดภาวะไตวายเรื้อรัง เนื่องจากหลอดเลือดแดงแข็งตัว เลือดไปเลี้ยงไตไม่พอ
      - สมอง อาจเกิดภาวะหลอดเลือดสมองตีบหรือแตกกลายเป็นโรคอัมพาตครึ่งซีก
      - หัวใจ จะทำให้หัวใจห้องล่างซ้ายโต ซึ่งทำให้เกิดภาวะแทรกซ้องร้ายแรงอื่นๆ เช่น โรคหัวใจขาดเลือด โรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย เป็นต้น
      - ตา เกิดภาวะเสื่อมของหลอดเลือดแดงภายในลูกตาอย่างช้าๆ จนทำให้ประสาทตาเสื่อม ตามัว ถึงขั้นตาบอด
      - เพื่อให้ผู้ป่วยตระหนักถึงความสำคัญของโรคความดันโลหิตสูงนำไปสู่การดูแลตนเองให้ดี
- - - - 2.1) ดื่มน้ำหลังตื่นนอนในตอนเช้า (1-2 แก้ว)
      - 2.2) เพิ่มการรับประทานอาหารที่มีกากใยอาหารเพิ่ม มากขึ้น เช่น ผัก ผลไม้ เป็นต้นและดื่มน้ำอย่างน้อย 2 ลิตรหรือประมาณ 8-10 แก้ว เพราะเพื่อช่วยให้ใยอาหารดูดซับน้ำทำให้อุจจาระพองตัว ถ่ายได้ง่ายขึ้น
    - - 3.1) ฝึกการนั่งขับถ่ายให้เป็นเวลา อาจจะเป็นช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง
      - 3.2) เข้าห้องน้ำทันทีเมื่อรู้สึกอยากขับถ่าย
        เพื่อสร้างสุขลักษณะนิสัยในการขับถ่ายให้เป็นประจำและจะทำให้เกิดการขับถ่ายง่ายขึ้น
    - - 4.1) เดินออกกำลังกายช้า ๆในตอนเช้าประมาณ 3-5 นาที
      - 4.2) ยืนแยกปลายเท้าให้ห่างเท่าความกว้างของช่วงไหล่
        ถือขวดน้ำพลาสติกที่ใส่น้ำไว้ที่มือทั้งสองข้าง แล้วหมุนตัวไปทางซ้าย-ขวาสลับกัน เพื่อให้มีการเคลื่อนไหวของลำไส้ได้ดีขึ้น
- - - - 2.1) ควบคุมอาหารการรับประทานอาหารที่ถูกหลักตามโภชนาการ เพราะสามารถควบคุมระดับไขมันให้ใกล้เคียงเกณฑ์ปกติได้
        
        2.1.1 หลีกเลี่ยงอาหารพวกเนื้อสัตว์ที่ติดมัน เครื่องในสัตว์ หนังเป็ด หนังไก่ ไข่แดง เป็นต้น ผลิตภัณฑ์จากนม เช่น เนย ครีม เนยแข็ง เป็นต้น ขนมหวานที่มีส่วนประกอบของน้ำตาล และกะทิหรือมะพร้าว ขนมที่มีไขมันแฝงอยู่ เช่น ขนมขบเคี้ยว ขนมเบเกอรี่ เช่น โดนัท คุกกี้ ไอศกรีม เป็นต้น
        
        2.1.2 หลีกเลี่ยงอาหารที่ปรุงด้วยน้ำมัน อาหารทอด เช่น ไก่ชุปแป้งทอด กล้วยทอด ปาท่องโก๋ อาหารพวกแกงกะทิ หลนกะทิต่าง ๆ
        
        2.1.3 หลีกเลี่ยงน้ำมันที่มีกรดไขมันอิ่มตัวสูง เช่น น้ำมันมะพร้าว และไขมันที่ได้จากสัตว์ เช่น เนย มันหมู มันไก่ เพราะน้ำมันเหล่านี้มีกรดไขมันอิ่มตัวสูง ให้เลือกใช้น้ำมันพืชปรุงอาหารแทนน้ำมันสัตว์
        
        2.1.4 พยายามปรุงอาหารโดยใช้ต้ม นึ่ง ย่าง อบ แทนการทอด หรือผัด เลือกอาหารประเภทต้ม ต้มยำ แกงส้ม ยำ (ต้องไม่มีกะทิเป็นส่วนประกอบ) ใช้ไขมันจากพืชในการประกอบอาหาร เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันมะกอก น้ำมันรำ ประกอบอาหาร น้ำมันดอกทานตะวัน ซึ่งเป็นน้ำมันที่จะช่วยลดโคเลสเตอรอลและไตรกลีเซอร์ไรด์ได้
        
        2.1.5 เลือกดื่มนมพร่องมันเนยหรือนมขาดมันเนย
        
        2.1.6 เลือกรับประทานเนื้อปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน โดยแยกเอาไขมันและหนังออกให้หมด ข้าวที่ไม่ขัดสีมาก ผักสดหลากหลายสีชนิดต่างๆ พืชสมุนไพร เครื่องเทศ ธัญพืชไม่ขัดสี ผลไม้ไม่หวานขนาดกลางหลายชนิด เช่น ฝรั่ง ส้ม แอปเปิ้ล ชมพู่ ฯลฯ
        
        2.1.7 บริโภคปลาทะเล สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อลดเนื้อสัตว์ใหญ่ ซึ่งมีกรดไขมันอิ่มตัวสูง ปลาทะเลมักมีกรดโอเมก้า 3 ช่วยลดการจับตัวของเกล็ดเลือด ลดความดันโลหิต และลดไตรกลีเซอร์ไรด์ได้ ข้อแนะนำในการกินปลาคือ ไม่ควรทอด เพราะจะสูญเสียน้ำมันปลาไปกับการทอด
        ปลาทะเลที่มีโอเมก้า3เช่น ปลาทู ปลาโอ ปลากะพง เป็นต้น
        
        เพื่อให้ผู้ป่วยมีความรู้และสามารถรับประทานอาหารให้เหมาะสมกับโรคได้
- - - - คะแนน 0 ไม่มีอาการปวด, ขยับตัวก็ไม่ปวด
        คะแนน 1-3 ปวดเล็กน้อย พอทนได้ นอนเฉยๆไม่ปวด ขยับแล้วปวดเล็กน้อย
        คะแนน 4-6 ปวดปานกลาง นอนเฉยๆก็ปวด ขยับก็ปวด
        คะแนน 7-10 ปวดมากที่สุด ทนไม่ได้แม้จะนอนนิ่ง ๆ
      - เพื่อให้ทราบระดับของอาการปวดและนำมาวางแผน หาวิธีการดูแลที่เหมาะสมต่อไป
    - - 3.1) หนุนเท้าให้สูงขึ้นขณะนอนหลับเพื่อให้ระบบไหลเวียนเลือดกลับสู่หัวใจได้ดีขึ้น
      - 3.2) ยืดเหยียดขาอยู่เสมอเพื่อให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น
- - - - 1.1 ปรับชนิดของอาหารให้เหมาะสม เช่น อาหารอ่อนที่ย่อยง่ายและมีรสจืด โดยรับประทานปริมาณน้อยแต่บ่อยครั้ง
      - 1.2 ควรเลือกใช้ช้อนที่มีขนาดเล็กลงและหลุมไม่ลึกทำให้ปริมาณรับประทานอาหารต่อคำลดลง
      - 1.3 ควรเคี้ยวอาหารให้ละเอียด ดื่มน้ำช้าๆ ตั้งใจกลืน
      - 1.4 ไม่ดูทีวีหรือพูดคุยกันระหว่างรับประทานอาหาร