Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 5 การพยาบาลผู้ป่วยวิกฤตที่ใช้เทคโนโลยี และยาที่ใช้บ่อยใน ICU,…
บทที่ 5 การพยาบาลผู้ป่วยวิกฤตที่ใช้เทคโนโลยี และยาที่ใช้บ่อยใน ICU
ข้อบ่งชี้การใช้เครื่องช่วยหายใจ
ความล้มเหลวของการระบายอากาศ (Ventilation failure)
กล้ามเนื้อกะบังลมไม่มีแรง (Diaphragm fatigue)
ภาวะพร่องออกซิเจน (Oxygenation failure)
ระบบไหลเวียนโลหิตในร่างกายผิดปกติในภาวะช็อก
ยาที่ใช้บ่อยในผู้ป่วยวิกฤต (Common drugs used in ICU)
ยาที่ใช้ในภาวะ Bradyarrhythmia
Atropine
ใช้แก้ไขภาวะหัวใจเต้นช้าผิดปกติและ AV block
ผลข้างเคียง ทําให้เกิดอาการหัวใจเต้นเร็ว (tachycardia)
ยาที่ใช้ในภาวะ Tachyarrhythmia
Adenosine
เป็น First line drug ในภาวะ Stable narrow complex tachycardia (reentry SVT)
ผลข้างเคียง อาการหน้าแดง (flushing) เหนื่อยและแน่นหน้าอก
Digoxin (Lanoxin ®)
รักษา Heart failure และ หัวใจเต้นผิดจังหวะแบบ atrial fibrillation (AF), atrial flutter และ Supraventricular Tachycardia (SVT)
ผลข้างเคียง
หัวใจเต้นช้าชนิด Sinus bradycardia, S-A arrest
หัวใจเต้นผิดจังหวะ AV block, Atrial fibrillation
ยาที่ใช้ในภาวะ Pulseless Arrest
Amiodarone (Cordarone®)
ยารักษาหัวใจห้องบนเต้นผิดจังหวะชนิด Atrial fibrillation และ Atrial flutter
รักษาหัวใจห้องล่างเต้นผิดจังหวะชนิด Ventricular fibrillation (VF) และ Ventricular tachycardia (VT)
ผลข้างเคียง : อาจทําให้เกิด vasodilatation และ hypotension ได้
Epinephrine หรือ Adrenaline
เพิ่มความสามารถในการบีบตัวของหัวใจ (positive
inotropic effect) และอัตราการเต้นของหัวใจ
ผลข้างเคียง Tachycardia, Arrhythmias, Hypertension
ยากระตุ้นความดันโลหิต (Vasopressor)
Dopamine (Inopin®)
เพิ่มการบีบตัวของหัวใจ เพิ่ม Cardiac out put และ เพิ่มความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจใช้รักษาผู้ป่วยที่มีภาวะ shock จากการติดเชื้อในกระแสเลือด
ผลข้างเคียง
การรั่วของยาออกนอกหลอดเลือดทําให้เนื้อเยื่อตายได้
ผลข้างเคียงเกิดจากการกระตุ้นระบบประสาท sympathetic ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน หัวใจเต้นเร็ว
Dobutamine
เพิ่ม cardiac output ในผู้ป่วยหัวใจวาย หรือ cardiogenic shock
ผลข้างเคียง ยาอาจทําให้เกิดความดันโลหิตสูงหัวใจเต้นเร็วและเต้นผิดจังหวะได้
Norepinephrine (Levophed®) กลุ่ม Adrenergic agonist
ผลข้างเคียง
กระวนกระวาย หายใจลําบาก
การรั่วของยาออกนอกหลอดเลือดทําให้เนื้อเยื่อตาย
หัวใจเต้นผิดจังหวะ ปวดศีรษะ ความดันโลหิตสูง
การนําไปใช้รักษาผู้ป่วยที่มีภาวะ septic shock และ cardiogenic shock ระดับรุนแรง
ยาขยายหลอดเลือด (Vasodilators)
Nicardipine
ในผู้ป่วยที่มีภาวะ Hypertensive crisis
ผลข้างเคียง
ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ หน้าแดง
ใจสั่น หัวใจเต้นช้า ความดันโลหิตต่ํา
การรั่วออกของยาออกนอกเสนเลือด เพราะอาจทําใหหลอดเลือดอักเสบ
Sodium Nitroprusside
ผลข้างเคียง
หากลดความดันโลหิตเร็วเกินไป อาจทําให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน ปวดศีรษะ เหงื่อออกมาก
เกิดพิษจาก cyanide มักพบในผู้ป่วยที่ได้รับยาในขนาดสูง นานกว่า 1 ชม.
ลด afterload ในภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน
ใช้ในการลดความดันโลหิตในผู้ป่วย hypertensive emergency
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีสายสวนหลอดเลือด (Central line monitor)
การพยาบาลผู้ป่วยที่ใส่สายหลอดเลือดแดง (arterial line)
ดูแลระบบของ Arterial line ให้มีประสิทธิภาพ
ป้องกันภาวะแทรกซ้อน
การติดเชื้อ (infection)
การเกิดเนื้อตาย (Skin necrosis)
Air embolization จาก air ที่ใช้หลุดเข้าไปในระบบจากการ flush โดยจะเกิด Cerebral embolization
ภาวะที่มีเลือดออกในเนื้อเยื่อ (Hematoma)
การไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงอวัยวะส่วนปลายลดลง (Limb ischemia)
ตรวจสอบความแม่นยําของการปรับเทียบค่า (Accuracy)
เมื่อมีการเก็บตัวอย่างเลือดส่งตรวจทาง arterial line ต้อง flush สาย ไม่ให้มีเลือดหรือฟองอากาศค้างในสาย
ตรวจดูคลื่นที่แสดงการอุดตัน (damped waveform)
การป้องกันการเลื่อนหลุด ควร immobilized arm โดยใช้ arm broad ที่เหมาะสม
จดบันทึกค่า Arterial blood pressure ที่ได้ทุก 15-60 นาที
การวัดการไหลเวียนเลือดและความดันโลหิตในผู้ป่วยวิกฤต
การวัดความดันในหลอดเลือดแดง (Intra-arterial monitoring)
และนํามาต่อกับเครื่องวัด (Manometer) เป็นการวัดความดันของหลอดเลือดแดงโดยตรง
วิธีนี้มีความเชื่อถือได้มาก
สอดใส่สายยางเข้าไปในเส้นเลือดแดง (Arterial line; A-line)
ข้อบ่งชี้ในการวัดความดันโลหิตทางหลอดเลือดแดง
ผู้ป่วยที่ใช้ Inotropic drugs และ Vasoactive drug
ผู้ป่วยที่ผ่าตัดหัวใจและหลอดเลือด ผ่าตัดสมอง
ผู้ป่วยในภาวะช็อก ผู้ป่วยประสบอุบัติเหตุขั้นรุนแรงหลายระบบ
การวัดค่าความดันในหลอดเลือดดําส่วนกลาง (Central venous pressures; CVP)
ตําแหน่งเส้นเลือดที่ใช้สําหรับ monitor CVP
โดยตําแหน่งที่แทงบ่อย มี 3 ตําแหน่ง
ตำแหน่ง Internal jugular vein
ตําแหน่ง Femoral vein
Subclavian vein เป็นตําแหน่งเหมาะสมที่สุด
ข้อบ่งชี้ในการติดตามค่า CVP
ในผู้ป่วยที่มีภาวะน้ําเกิน
ในกรณีที่ต้องการประเมินการทํางานของหัวใจและหลอดเลือด
ในผู้ป่วยที่สูญเสียเลือดจากอุบัติเหตุหรือจากการผ่าตัด ภาวะ shock และกรณีอื่นที่ทําให้ปริมาณเลือดและน้ําในร่างกายลดลง
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีสายสวนหลอดเลือดดําส่วนกลาง (Central venous pressures; CVP)
ป้องกันการเลื่อนหลุดของสายสวน
ป้องกันการติดเชื้อในกระแสเลือดจากการใส่สายสวนหลอดเลือดดําส่วนกลาง
พิจารณาความจําเป็นในการคาสายสวนหลอดเลือดดํา
ประเมินแผลบริเวณรอบ ๆที่คาสายสวนหลอดเลือดดําทุกเวร
ทําความสะอาดแผลด้วย 2% Chlorhexidine in 70% Alcohol
สวมปิดบริเวณข้อต่อด้วย needleless connector หรือจุกปิด (stopcock)
เฝ้าระวังและดูแลระบบการให้สารน้ําต้องเป็นระบบปิดตลอดเวลา
ความแม่นยําของการเปรียบเทียบค่า Levelling the transducer และ Zero the transducer
ป้องกันการอุดตันของสายสวน คือ ตรวจสอบตําแหน่งสายและทดสอบสายก่อนใช้งานทุกครั้ง
ป้องกันฟองอากาศเข้าหลอดเลือดโดยดูแลให้เป็นระบบปิด
การพยาบาลผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจและการหย่าเครื่องช่วยหายใจ
การดูแลด้านร่างกาย
ดูแลท่อหลอดลมและความสุขสบายในช่องปากของผู้ป่วย
การป้องกันไม่ให้เกิดการอุดกั้นของทางเดินหายใจ
ประเมินสภาพผู้ป่วยและภาวะแทรกซ้อน
ดูแลให้เครื่องช่วยหายใจทํางานอย่างมีประสิทธิภาพ
การติดตามผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการที่สําคัญ
เช่น Electrolyte imbalance
การป้องกันภาวะปอดแฟบ
การดูแลด้านจิตใจ
ประคับประคองด้านจิตใจโดยอธิบายเกี่ยวกับการเจ็บป่วย
อธิบายวิธีการรักษาอย่างมีเหตุผล
จัดสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมให้แก่ผู้ป่วย
ชนิดของเครื่องช่วยหายใจ
Non-invasive positive ventilator; NPPV
แก้ไขภาวะกรดจากการหายใจ
ไม่เหมาะสําหรับผู้ป่วยที่มีพยาธิสภาพของปอดที่รุนแรง
เครื่องช่วยหายใจประเภทความดันบวกที่ไม่ใส่ท่อช่วยหายใจ
แบ่งเป็น 2 แบบคือ
Bilevel Positive Airway Pressure (BiPAP)
Continuous positive airway pressure (CPAP)
เหมาะสําหรับผู้ป่วยหายใจล้มเหลวแบบเรื้อรัง
Invasive positive ventilator; IPPV
เครื่องช่วยหายใจประเภทความดันบวกที่ใส่ท่อช่วยหายใจ
ใช้มากที่สุดในภาวะวิกฤต
อัดอากาศเข้าไปในปอดผ่านทาง Endotracheal tube หรือ Tracheostomy tube
ภาวะแทรกซ้อนจากการใช้เครื่องช่วยหายใจ
ปอดบาดเจ็บจากการใช้ปริมาตรการหายใจที่สูงเกินไป (Pulmonary volutrauma)
ภาวะถุงลมปอดแตก (Pulmonary barotrauma)
ทําให้เลือดดําไหลกลับหัวใจลดลง ส่งผลให้ปริมาตรเลือดแดงที่ส่งออกจากหัวใจ (cardiac output)ลดลง
กล่องเสียงและเยื่อบุหลอดลมบาดเจ็บ พบในผู้ป่วยที่ใส่ท่อหลอดลมคอเป็นเวลานาน
ภาวะปอดแฟบ (Atelectasis)
การเกิดปอดอักเสบจากการใช้เครื่องช่วยหายใจเกิน 48 ชม. (Ventilator Associated Pneumonia; VAP)
การเกิดแผลหรือภาวะเลือดออกในทางเดินอาหาร
นางสาวชุติมณฑน์ ชื่นจิตร 6001210606 เลขที่ 28 Section A