Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 5 พระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับสวัสดิภาพ และสุขภาพของประชาชน -…
บทที่ 5 พระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับสวัสดิภาพ และสุขภาพของประชาชน
5.9 พระราชบัญญัติสุขภาพจิต พ.ศ.๒๕๕๑
มาตรา๑ พระราชบัญญัติสุขภาพจิตพ.ศ.๒๕๕๑
มาตรา๒ พระราชบัญญัติใช้บังคับจากวันประกาศ
มาตรา๓ ในพระราชบัญญัติให้ความหมาย แพทย์ จิตแพทย์ พยาบาล ผู้ป่วย ผู้ป่วยคดี ภาวะอันตราย ความจำเป็นต้องได้รับการบำบัดรักษา การบำบัดรักษา สถานบำบัดรักษา คุมขัง คณะกรรมการ คณะกรรมการสถานบำบัดรักษา พนักงานเจ้าหน้าที่ อธิบดี รัฐมนตรี
มาตรา๔ รัฐมนตรีกระทรวงรักษาตามบัญญัติและมีอำนาจแต่งตั้งพนักงาน ออกระเบียบ ประกาศ
หมวด๑ คณะกรรมการ ส่วนที่๑คณะกรรมการสุขภาพจิตแห่งชาติ
มาตรา๕ ให้มีคณะกรรมการสุขภาพจิตแห่งชาติ
มาตรา๖ กรรมการมาตรา๕(๔) (๕) ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม
มาตรา๗ กรรมการมาตรา๕(๔) (๕) มีวาระดำรงตำแหน่งคราวละสามปีและดำรงไม่เกินสองวาระติดต่อกัน
มาตรา๘ นอกจากพ้นตำแหน่งวาระ กรรมการมาตรา๕(๔)(๕) พ้นจากตำแหน่ง ตาย ลาออก บกพร่องหน้าที่ ขาดคุณสมบัติ
มาตรา๙ การประชุมคณะกรรมการต้องมีกรรมการประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของกรรมการทั้งหมด
มาตรา๑๐ คณะกรรมการมีอำนาจและหน้าที่
มาตรา๑๑ คณะกรรมการมีอำนาจแต่งตั้งที่ปรึกษาเพื่อปฏิบัติ
ส่วนที่๒ คณะกรรมการสถานบำบัดรักษา
มาตรา๑๒ สถานบำบัดรักษาให้มีคณะกรรมการสถานบำบัดรักษา
มาตรา๑๓ คณะกรรมการสถานบำบัดรักษามีบำนาจหน้าที่
มาตรา๑๔ นำความมาตรา๖ ๗ ๘ ๑๑ มาใช้บังคับกับคณะกรรมการสถานบำบัดรักษาโดยอนุโลม
หมวด๒ สิทธิผู้ป่วย
มาตรา๑๕ ผู้ป่วยมีสิทธิ
มาตรา๑๖ ห้ามไม่ให้ผู้เปิดเผยข้อมูลด้านสุขภาพที่ทำความเสียหายแก่ผู้ป่วย
มาตรา๑๗ การบำบัดรักษาการผูกมัดร่างกาย กักบริเวณ กระทำไม่ได้ เว้นแต่มีความจำเป็นเพื่อป้องกันอันตรายต่อผู้ป่วย
มาตรา๑๘ รักษาทางจิตเวชด้วยไฟฟ้า กระทำต่อสมอง เป็นผลไม่อาจกลับสู่สภาพเดิมถาวร (๑)ให้กระทำหนังสือยินยอม (๒)ให้เห็นชอบคณะกรรมการบำบัดรักษา
มาตรา๑๙ การทำหมันจะทำไม่ได้ เว้นแต่มาตรา๑๘(๑)
มาตรา๒๐ การวิจัยกระทำต่อผู้ป่วยต้องได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้ป่วยและผ่านความเห็นชอบกรรมการ
หมวด๓ การบำบัดรักษาทางสขภาพจิต
ส่วนที่๑ ผู้ป่วย
มาตรา๒๑ การบำบัดรักษาจะกระทำต่อเมื่อผู้ป่วยรับการอธิบายเหตุผลความจำเป็น ได้รับความยินยอมจากผู้ป่วย เว้นแต่มาตรา๒๒
มาตรา๒๒ บุคคลมีความผิดปกติทางจิตต้องรับการรักษา(๑)ภาวะอันตราย (๒)มีความจำเป็นบำบัดรักษา
มาตรา๒๓ พบเห็นบุคคลมาตรา๒๒ ให้แจ้งพนักงาน
มาตรา๒๔ เมื่อพนักงานได้รับแจ้งมาตรา๒๓ ให้ดำเนินการนำตัวบุคคลไปยังสถานพยาบาล
มาตรา๒๕ เมื่อผู้รับผิดชอบดูแลสถานที่คุมขัง พบบุคคลในความดูแลรับผิดชอบตามอำนาจหน้าที่ มาตรา๒๒ ให้ดำเนินการส่งตัวบุคคลนั้นไปยังสถานพยาบาล
มาตรา๒๖ กรณีฉุกเฉิน เมื่อพนักงานรับแจ้งมาตรา๒๓ มีอำนาจนำตัวบุคคลนำตัวส่งสถานบำบัดรักษา
มาตรา๒๗ ให้แพทย์หนึ่งคนและพยาบาลหนึ่งคนประจำสถานพยาบาล ตรวจวินิจฉัยและประเมินอาการเบื้องต้นให้เสร็จไม่เกินสี่สิบแปดชั่วโมง
มาตรา๒๘ แพทย์ตรวจพบมาตรา๒๒ ให้ส่งตัวพร้อมรายงานผลการตรวจวินิจฉัยและประเมินอาการเบื้องต้น
มาตรา๒๙ เมื่อสถานบำบัดรักษารับบุคคลพนักงานนำส่งมาตรา๒๗วรรคสาม ให้คณะกรรมการสถานบำบัดรักษาตรวจวินิจฉัยและประเมินอาการของบุคคลนั้นโดยละเอียด
มาตรา๓๐ คำสั่งรับผู้ป่วยรักษามาตรา๒๙(๑)ให้กำหนดวิธีการและระยะเวลาการบำบัดตามความรุนแรงผู้ป่วยทางจิต
มาตรา๓๑ ระหว่างบำบัดมาตรา๓๐วรรคหนึ่ง ผู้ป่วยทางจิตหาย ให้แพทย์จำหน่ายผู้ป่วยและรายงานผลการบำบัดรักษา
มาตรา๓๒ กรณีผู้ป่วยไม่ปฏิบัติตามมาตรา๒๙(๒) คณะกรรมการอาจแก้ไขเพิ่มเติม
ส่วนที่๒ ผู้ป่วยคดี
มาตรา๓๕ ภายใต้บังคับมาตรา๑๔วรรคหนึ่ง แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ให้พนักงานสวบสวนส่งผู้ต้องหาไปตรวจที่สถานบำบัดรักษา
มาตรา๓๖ ภายใต้บังคับมาตรา๑๔ วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาให้สถานบำบัดรับผู้ต้องหาไว้ควบคุมและบำบัดรักษาโดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากจำเลย จนกว่าจะหายและสามารถต่อสู้คดีได้
มาตรา๓๗ ศาลมีคำสั่งให้ส่งผู้ป่วยคดีไปคุมตัวไว้สถานพยาบาลมาตรา๔๘ ๔๙วรรคสอง ให้ศาลส่งสำเนาคำสั่งไปพร้อมผู้ป่วยคดี ให้สถานรับบำบัดรับไว้ควบคุมและรักษาโดยไม่ต้องรับความยินยอมผู้ป่วยคดี
มาตรา๓๙ ศาลกำหนดมาตรา๕๖วรรคสองให้ศาลส่งผู้ป่วยคดีพร้อมสำเนาคำพิพากษาไปยังสถานบำบัด
มาตรา๓๘ บำบัดมาตรา๓๗ จิตแพทย์เห็นผู้ป่วยคดีหาย ให้รายงานผลการบำบัดและความเห็นเพื่อจำหน่ายออก
ส่วนที่๓ การฟื้นฟูสมรรถภาพ
มาตรา๔๐ กรณีที่คณะกรรมการสถานบำบัดรักษามีคำสั่งมาตรา๒๙(๒) ให้หัวหน้าสถานบำบัดรักษามีหน้าที่่ (๑)แจ้งผู้รับดูแลผู้ป่วย (๒)ไม่มีผู้ดูแลแจ้งหน่วยงานสงเคราะห์ (๓)แจ้งพนักงานติดตามดูแล
มาตรา๔๑ เมื่อผู้ถูกคุมขังได้รับการบำบัดรักษาระหว่างถูกคุมขัง ถึงกำหนดปล่อยตัวให้หัวหน้าสถานที่คุมขังมีหน้าที่ดำเนินมาตรา๔๐
หมวด๔ การอุทธรณ์
มาตรา๔๒ กรณีมีคณะกรรมการสถานบำบัดรักษา มีคำสั่งมาตรา๒๙(๑) (๒) ๓๐ ให้ผู้ป่วยหรือคู่สมรส ผู้ปกครอง มีสิทธิอุทธรณ์เป็นหนังสือแจ้งคำสั่ง
มาตรา๔๓ ให้มีคณะกรรมการอุทธรณ์
มาตรา๔๔ คณะกรรมการอุทธรณ์มีอำนาจหน้าที่ (๑)พิจารณาอุทธรณ์มาตรา๔๒ (๒)รายงานผลดำเนินการ
มาตรา๔๕ ให้นำความมาตรา๖ ๗ ๘ ๙ ๑๑ มาใช้บังคับกับคณะกรรมการอุทธรณ์โดยอนุโลม
หมวด๕ พนักงานเจ้าหน้าที่
มาตรา๔๖ ในการปฏิบัติตามให้เจ้าหน้าที่มีอำนาจ
มาตรา๔๗ การปฏิบัติหน้าที่ เจ้าหน้าที่ต้องแสดงบัตรประจำตัวต่อบุคคลที่เกี่ยวข้อง
มาตรา๔๘ การปฏิบัติหน้าที่ เจ้าหน้าที่มาตรา๔๖ ให้บุคคลเกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกตามสมควร
มาตรา๔๙ ให้พนักงานเป็นพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา
หมวด๖ บทกำหนดโทษ
มาตรา๕๐ ผู้ฝ่าฝืนมาตรา๑๖ วางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี ปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๕๑ ผู้แจ้งข้อความเป็นเท็จต่อเจ้าหน้าที่ โดยเจตนากลั่นแกล้ง วางโทษจำคุกไม่เกินหึ่งปี ปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๕๒ ผู้ไม่ปฏิบัติตามหนังสือมาตรา๔๖(๓)วางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๕๓ ผู้ไม่อำนวยความสะดวกเจ้าหน้าที่มาตรา๔๘ วางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
บทเฉพาะกาล
มาตรา๕๔ วาระเริ่มแรก กรรมการมาตรา๕ และอธิบดี ให้ปฏิบัติหน้าที่กรรมการพลางก่อนจนมีกรรมการมาตรา๕(๔)(๕)ไม่เกินหนึ่งร้อยยี่สิบวัน
5.8 พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภคพ.ศ. ๒๕๕๒
มาตรา๑ พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภคพ.ศ.๒๕๒๒
มาตรา๒ ใช้บังคับตั้งแต่ประกาศ
มาตรา๓ ให้ความหมายของ ซื้อ ขาย สินค้า บริการ ผลิต ผู้บริโภค ผู้ประกอบธุรกิจ ข้อความ โฆษณา สื่อโฆษณา ฉลาก สัญญา คณะกรรมการ กรรมการ รัฐมนตรี
มาตรา๔ ผู้บริโภคมีสิทธิได้รับความคุ้มครอง
มาตรา๕ ในการปฏิบัติหน้าที่ให้เจ้าหน้าที่มีอำนาจ(๑)ชั่ง วัด ตวงสินค้า (๒)ยึดสินค้าสงสัยกระทำผิด (๓)เจ้าไปสถานที่ (๔)มีหนังสือเรียกบุคคล
มาตรา๖ เจ้าหน้าที่มาตรา๕(๓) ไม่เร่งด่วนให้พนักงานแจ้งเป็นหนังสือให้เจ้าของ
มาตรา๗ การปฏิบัติหน้าที่ พนักงานต้องแสดงบัตรประจำตัวเมื่อผู้เกี่ยวข้องร้องขา
มาตรา๘ ให้นายกรัฐมนตรีมีอำนาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่และออกกฎกระทรวง
หมวด๑ คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
มาตรา๙ มีคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
มาตรา๑๐ คณะกรรมการมีอำนาจและหน้าที่
มาตรา๑๑ ให้กรรมการคณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง อยู่ตำแหน่งคราวละสามปี กรรมการพ้นจากตำแหน่งอาจได้รับแต่งตั้งอีกได้
มาตรา๑๒ นอกจากพ้นจากตำแหน่งตามวาระมาตรา๑๑ ยังพ้นจาก(๑)ตาย(๒)ลาออก(๓)รัฐมนตรีให้ออก(๔)ล้มละลาย(๕)คนไร้ความสามารถ(๖)รับโทษจำคุก
มาตรา๑๓ ในการประชุม ถ้าประธานไม่มีประชุม ให้กรรมการมาประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานประชุม
มาตรา๑๔ ให้มีคณะกรรมการเฉพาะเรื่อง
มาตรา๑๕ คณะกรรมการเฉพาะเรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาตามคณะกรรมการเฉพาะเรื่องมอบหมายได้
มาตรา๑๖ การประชุมกรรมการเฉพาะเรื่องให้มาตรา๑๓บังคับใช้โดยอนุโลม
มาตรา๑๗ กรรมการเฉพาะเรื่องมีอำนาจสั่งบุคคลหนึ่งส่งเอกสารเกี่ยวกับเรื่องที่ผู้ร้องทุกข์เกี่ยวกับคุ้มครองสิทธิผูู้บริโภค เพื่อชี้แจ้งข้อเท็จจริงและแสดงความคิดเห็นตามควรเว้นจำเป็นและเร่งด่วน
มาตรา๑๘ การปฏิบัติหน้า กรรมการต้องให้โอกาสแก่ผู้ถูกกล่าวหา เพื่อชี้แจ้งข้อเท็จจริง
มาตรา๑๙ให้จัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคขึ้นในสำนักรัฐมนตรี
มาตรา๒๐ ให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคมีอำนาจและหน้าที่
หมวด๒ การคุ้มครองผู้บริโภค
มาตรา๒๑ กรณีกฎหมายบัญญัติเรื่องเฉพาะให้บังคับตาม และนำไปใช้บังคับเท่าที่ไม่ซ้ำหรือขัดต่อบัญญัติ
ส่วนที่๑ การคุ้มครองผู้บริโภคในด้านการโฆษณา
มาตรา๒๒ การโฆษณาต้องไม่ใช้ข้อความที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค
มาตรา๒๓ การโฆษณาต้องไม่ทำด้วยวิธีเป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกายหรือจิตใจ
มาตรา๒๔ กรรมการว่าด้วยการโฆษณาสินค้าเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภค ให้กรรมการการโฆษณามีอำนาจออกคำสั่ง
มาตรา๒๖ กรรมการเห็นว่าข้อความโฆษณา สมควรแจ้งผู้บริโภคทราบว่าข้อความนั้นมุ่งโฆษณา กรรมการจะกำหนดเงื่อนไขให้ต้องปฏิบัติตามด้วย
มาตรา๒๕ กรรมการเห็นว่าโฆษณา ผู้บริโภคต้องทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสภาพ ฐานะ รายละเอียด กรรมการมีอำนาจกำหนดให้การโฆษณาต้องให้ข้อเท็จจริง
มาตรา๒๗ กรณีกรรมการเห็นว่าโฆษณาฝ่าฝืนมาตรา๒๒ ๒๓ ๒๔(๑) ๒๕ ให้กรรมการมีอำนาจออกคำสั่ง
มาตรา๒๘ กรรมการมีสงสัยข้อความใช้โฆษณาเป็นเท็จเกินจริง มาตรา๒๒วรรคสอง มีอำนาจสั่งผู้กระทำการโฆษณาเพื่อพิสูจน์ความจริง
มาตรา๒๙ ผู้ประกอบธุรกิจสงสัยโฆษณาของตนฝ่าฝืนหรือไม่ อาจขอให้กรรมการพิจารณาความเห็นเรื่องนั้นก่อรทำการโฆษณาภายในสามสิบวัน
ส่วนที่๒ การคุ้มครองผู้บริโภคในด้านฉลาก
มาตรา๓๐ ให้สินค้าที่ผลิตเพื่อขายโดยโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานและสินค้าที่สั่งหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อขายเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก
มาตรา๓๑ ฉลากสินค้าที่ควบคุมฉลากต้องมีลักษณะ
มาตรา๓๒ การกำหนดจ้อความฉลากมาตรา๓๐ ต้องไม่บังคับให้ผู้ประกอบธุรกิจต้องเปิดเผยความลับทางการผลิต เว้นแต่ข้อความดังกล่าวเป็นสิ่งจำเป็นเกี่ยวกับสุขภาพอนามัยและความปลอดภัยผู้บริโภค
มาตรา๓๓ เมื่อคณะกรรมการเห็นว่าฉลากไม่เป็นตามมาตรา๓๑ มีอำนาจสั่งให้ผู้ประกอบธุรกิจเลิกใช้ฉลากดังกล่าว
มาตรา๓๔ ผู้ประกอบธุรกิจใดสงสัยว่าฉลากตนฝ่าฝืนหรือไม่ตามมาตรา๓๑ ผู้ประกอบธุรกิจขอให้กรรมการพิจารณาให้เห็นในฉลากนั้นก่อนได้ กรณีนำมาตรา๒๙ มาบังคับใช้โดยอนุโลม
มาตรา๓๕ เพื่อประโยชน์ในการควบคุมและการตรวจสอบการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าที่ควบคุมฉลาก รัฐมนตรีมีอำนาจประกาศในราชกิจจานุเบกษากำหนดผู้ประกอบธุรกิจในสินค้าต้องจัดทำและเก็บรักษาบัญชีเอกสาร และหลักฐานเพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบได้
ส่วนที่๒ ทวิ การคุ้มครองผู้บริโภคในด้านสัญญา
มาตรา๓๕ทวิ ในการประกอบธุรกิจขายสินค้าหรือบริการ ถ้าสัญญาซื้อขายมีกฎหมายกำหนดต้องทำหนังสือ
มาตรา๓๕ตรี เมื่อคณะกรรมการว่าด้วยสัญญากำหนดให้สัญญาประกอบธุรกิจที่ควบคุมสัญญาโดยมีเงื่อนไขใช้สัญญามาตรา๓๕ทวิ
มาตรา๓๕จัตวา เมื่อคณะกรรมการว่าด้วยสัญญากำหนดของการประกอบธุรกิจต้องไม่ใช้ข้อสัญญามาตรา๓๕ทวิแล้ว ถ้าสัญญาใช้ข้อสัญญา ถือว่าสัญญานั้นไม่มีข้อสัญญาแล้ว
มาตรา๓๕เบญจ คณะกรรมการว่าด้วยสัญญามีอำนาจกำหนดให้การประกอบธุรกิจขายสินค้า เป็นธุรกิจที่ควบคุมรายการในหลักฐานการรับเงินได้
มาตรา๓๕ฉ คณะกรรมการว่าด้วยสัญญากำหนดให้หลักฐาการรับเงินของประกอบธุรกิจที่ควบคุมรายการในหลักฐานการรับเงินต้องใช้ข้อความใดมีเงื่อนไขข้อความนั้นด้วย
มาตรา๓๕สัตต ในผู้ประกอบธุรกิจการขายสินค้าให้คำมั่นว่าจะทำสัญญารับประกันไว้แก่ผู้บริโภค สัญญาต้องทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อของผู้ประกอบธุรกิจ และต้องส่งมอบสัญญาแก่ผู้บริโภค
มาตรา๓๕ อัฏฐ ผู้ประกอบธุรกิจมีหน้าที่ส่งมอบสัญญามีข้อสัญญาและถูกต้องมาตรา๓๕เบญ ให้ผู้บริโภคภายในระยะเวลาเป็นทางปฏิบัติตามปกติสำหรับประกอบธุรกิจนั้นๆหรือภายในระยะเวลาที่กำหนด
มาตรา๓๕นว ผู้ประกอบธุรกิจสงสัยว่าแบบสัญญาของตนฝ่าฝืนหรือไม่ อาจขอคณะกรรมการให้ความเห็นชอบแบบสัญญาได้
ส่วนที่๓ การคุ้มครองผู้บริโภคโดยประการอื่น
มาตรา๓๖ มีเหตุสงสัยสินค้าเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภค กรรมการมีอำนาจออกคำสั่งให้ผู้ดำเนินธุรกิจทดสอบสินค้า ถ้าไม่ทำ กรรมการออกคำสั่งห้ามขายสินค้าชั่วคราวจนจะทราบผลการทดสอบสินค้านั้น
มาตรา๓๗ กรณีกรรมการสั่งมาตรา๓๖ วรรคสอง แต่ผู้ประกอบธุรกิจไม่ปฏิบัติตามสั่ง ให้มีอำนาจจัดการดำเนินการเป็นผู้เสียค่าใช้จ่าย
มาตรา๓๘ มีเหตุสงสัยว่าบริการเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภคให้กรรมการมีอำนาจออกสั่งให้ทดสอบ ถ้าไม่ดำเนินการทดสอบ อาจให้เสียค่าใช้จ่าย กรณีจำเป็นและเร่งด่วน ให้ออกคำสั่งห้ามบริการชั่วคราว จนกว่าจะได้รับผลการทดสอบ
มาตรา๓๙ กรรมการเห็นสมควรเข้าดำเนินคดีการละเมิดสิทธิผู้บริโภค กรรมการมีอำนาจแต่งตั้งพนักงานอัยการ เป็นเจ้าหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภคเพื่อหน้าที่ดำเนินคดีแพ่งและอาญาต่อผู้ละเมินสิทธิของผู้บริโภคในศาล
มาตรา๔๐ สมาคมและมูลนิธีมีวัตถุประสงค์คุ้มครองผู้บริโภค สมาคมและมูลนิธิอาจยื่นคำขอให้กรรมการรับรองให้มีสิทธิและอำนาจฟ้องตามมาตรา๔๑ ได้
มาตรา๔๑ การดำเนินคดีการละเมิดสิทธิผู้บริโภค ให้สมาคมมีสิทธิฟ้องคดีแพ่ง อาญา ดำเนินกระบวนการพิจารณาที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคโดยส่วนรวม
มาตรา๔๒ สมาคมและมูลนิธิต้องรองรับมาตรา๔๐ ต้องปฏิบัติตามระเบียบตั้งไว้
หมวด๓ การอุทธรณ์
มาตรา๔๓ กรณีผู้รับคำสั่งมาตรา๒๗ ๒๘วรรคสอง ไม่พอใจคำสั่ง มีสิทธิอุทธรณ์ต่อกรรมการได้
มาตรา๔๔ การอุทธรณ์มาตรา๔๓ ให้ยื่นต่อคณะกรรมการภายในสิบวัน
หมวด๔ บทกำหนดโทษ
มาตรา๔๕ ผู้ขัดขวาง ไม่ให้ถ้อยคำ ไม่ส่งเอกสารแก่เจ้าหน้าที่มาตรา๕ วางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๔๖ ผู้ไม่มาตรา๑๗ วางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๔๗ ผู้เจตนาเกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด สภาพสินค้า วางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน ปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๔๘ ผู้โฆษณามาตรา๒๒(๓)(๔)(๕) ๒๓ ๒๔ ๒๕ ๒๖ วางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน ปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๔๙ ผู้ไม่ปฏิบัติมาตรา๒๗ ๒๘วรรคสอง วางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน ปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๕๐ การกระทำมาตรา๔๗ ๔๘ ๔๙ วางโทษกึ่งหนึ่งของโทษบัญญัติไว้
มาตรา๕๑ กระทำผิดมาตรา ๔๗ ๔๘ ๔๙ ๕๐ วางโทษปรับวัลละไม่เกินหมื่นบาท ปรับไม่เกินสองเท่าของค่าใช้จ่ายในการโฆษณานั้น
มาตรา๕๒ ผู้ขายสินค้ามาตรา๓๐ โดยไม่มีฉลาก วางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน ปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๕๓ ผู้ประกอบธุรกิจไม่ปฏิบัติตามสั่งมาตรา๓๓ วางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน ปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๕๔ ผู้รับจ้างทำฉลากไม่ถูกต้อง วางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
มาตรา๕๕ ผู้ประกอบธุรกิจไม่ปฏิบัติมาตรา๓๕ วางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
มาตรา๕๖ ผู้ฝ่าฝืนมาตรา๓๖วรรคหนึ่ง/วรรคสอง วางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี ปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๕๖/๑ ผู้ฝ่าฝืนมาตรา๓๘วรรคหนึ่ง/วรรคสอง วางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี ปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๕๗ ผู้ไม่ปฏิบัติมาตรา๓๕ทวิ ๓๕เบญจ ๓๕อัฏฐ วางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๕๗ทวิ ผู้ฝ่าฝืนมาตรา๓๕สัตต วางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๕๘ ผู้กระทำผิดภายในสถานที่ประกอบธุรกิจของผู้ประกิบธุรกิจ ให้สันนิษฐานว่าผู้ประกอบธุรกิจเป็นผู้กระทำผิดร่วมด้วย
มาตรา๕๙ ผู้กระทำผิดเป็นนิติบุคคล ถ้าเกิดจากการสั่งการของกรรมการ ผู้นั้นต้องรับโทษตามบัญญัติ
มาตรา๖๐ ผู้เจตนาทุจริต ใช้จ้าง วาน ยุยง ให้สมาคมรับรองมาตรา๔๐ ฟ้องร้องผู้ประกอบธุรกิจเพื่อกลั่นแกล้ง วางโทษจำคุกไม่เกินสามปี ปรับไม่เกินสามแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๖๑ ผู้ใดเปิดเผยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกิจการผู้ประกอบธุรกิจเป็นข้อเท็จตามปกติวิสัยผู้ประกอบธุรกิจพึงสงวนไม่เปิดเผย วางโทษไม่เกินหนึ่งปี ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๖๒ บรรดาผิดตามพระราชบัญญัติ คณะกรรมการมีอำนาจเปรียบเทียบได้ โดยกำหนดหลักเกณฑ์ในการเปรียบเทียบ
พระราชบัญญัติการแก้ไข
พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค(ฉบับที่๒) พ.ศ.๒๕๔๑
พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค(ฉบับที่๓) พ.ศ.๒๕๕๖
5.6 พระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.๒๕๕๙
มาตรา๑ พระราบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทพ.ศ.๒๕๕๙
มาตรา๒ ใช้บังคับเทื้อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันประกาศ
มาตรา๓ ให้ยกเลิกพ.ศ.๑๕๑๘ ๒๕๒๘ ๒๕๓๕ ๒๕๔๓
มาตรา๔ กล่าวถึงความหมายวัตถุออกฤทธิ์ วัตถุตำรับ วัตถุตำรับยกเว้น ฉลาก เอกสารกำกับวัตถุออกฤทธิ์ ผลิต นำเข้า ส่งออก นำผ่าน เสพ ติดวัตถุออกฤทธิ์ สถานพยาบาล สถานที่ เภสัชกร ข้อความ โฆษณา หน่วยงานรัฐ ผู้รับอนุญาต ผู้อนุญาต คณะกรรมการ เลขาธิการ รัฐมนตรี
มาตรา๕ พระราชบัญญัตินี้ไม่ใช้บังคับสำนักงานอาหารและยา ให้รายงานการับ จ่าย การเก็บรักษา วิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการควบคุมวัตถุทุกหกเดือนของปฏิทิน
มาตรา๖ ให้รัฐมนตรีรักษาตามบัญญัติและมีอำนาจแต่งตั้งพนักงาน ออกกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมไม่เกินอัตราท้ายพระราชบัญญัตินี้
มาตรา๗ ให้รัฐมนตรีมีอำนาจประกาศกำหนดเรื่องต่างๆ
หมวด๑ คณะกรรมการวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท
มาตรา๘ ให้มีคณะกรรมการวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท
มาตรา๙ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระดำรงตำแหน่งคราวละสามปี
มาตรา๑๐ นอกจากพ้นตำแหน่งตามวาระ พ้นจาก ตาย ลาออก รัฐมนตรีให้ออก คนไร้ความสามารถ จำคุก ถูกสั่งพัก
มาตรา๑๑ การประชุมกรรมการ ต้องมีกรรมการไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของกรรมการทั้งหมด
มาตรา๑๒ ให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ต่างๆ
มาตรา๑๓ ให้กรรมการมีอำนาจแต่งตั้งอนุกรรมการเพื่อพิจารณา ศึกษา วิจัยเรื่องอยู่ในอำนาจหน้าที่ แลำนำมาตรา๑๑ มาใช้บังคับแก่การประชุม
หมวด๒ การขออนุญาตและการออกใบอนุญาตเกี่ยวกับวัตถุออกฤทธิ์
มาตรา๑๔ ห้ามผู้ผลิต ขาย นำเข้าวัตถุออกฤทธิ์ประเภท๑ เว้นแต่รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาตเฉพาะกรณีทางราชการ
มาตรา๑๕ ห้ามผู้ผลิต นำเข้าวัตถุประเภท๒ เว้นแต่ได้รับใบอนุญาตเฉพาะกรณี
มาตรา๑๖ ห้ามผู้ขายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท๒ เว้นแต่รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาต
มาตรา๑๗ ผู้อนุญาตอาจอนุญาตให้ยานพาหนะใช้ขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศที่จดทะเบียนในประเทศ นำเข้าวัตถุออกฤทธิ์ประเภท๒ ๓ ๔ ปริมาณที่จำเป็นในการปฐมพยาบาลกรณีฉุกเฉิน
มาตรา๑๘ ซึ่งมาตรา๑๕ ใช้บังคับไม่ได้ในบางกรณี
มาตรา๑๙ ผู้อนุญาตจะออกใบอนุญาตขายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท๒เมื่อผู้อนุญาตเป็นหน่วยงานรัฐ ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม
มาตรา๒๐ ห้ามผู้ผลิต ขาย นำเข้า ส่งออกวุตถุออกฤทธิ์ประเภท๓ ๔ เว้นแต่รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาต
มาตรา๒๑ บทบัญญัติมาตรา๒๐ ไม่บังคับใช้บางกรณี
มาตรา๒๒ ผู้อนุญาตออกใบอนุญาตให้ผลิต ขาย วัตถุออกฤทธิ์ประเภท๓ ๔ เมื่อผู้ขออนุญาต รับใบอนุญาต มีเภสัชกรอยู่
มาตรา๒๓ ใบอนุญาตมาตรา๑๔ ๑๕ ๑๖ ๒๐ ๘๘ ๑๐๐ ให้คุ้มกันลูกจ้างของผู้รับอนุญาตด้วย
มาตรา๒๔ ใบอนุญาตมาตรา๑๖ ๒๐ ๒๘(๑) ๘๘ ใช้ได้ถึง๓๑ ธ.ค.ของปีที่ออกใบอนุญาต ถ้าผู้รับใบอนุญาตขอต่อายุต้องยื่นคำขาก่อนใบอนุยาตสิ้นอายุ
มาตรา๒๕ ผู้อนุญาตไม่ออกใบอนุญาตให้ต่อใบอายุ ให้ผู้ขออนุญาตมีสิทธิอุทธรณ์เป็นหนังสือต่อรัฐมนตรีภายในสามสิบวัน
มาตรา๒๖ ให้ผู้รับอนุญาตได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยยาอีก
หมวด๓ หน้าที่ของผู้รับอนุญาต
มาตรา๒๗ ห้ามผู้รับอนุญาตผลิต ขาย นำเข้า เก็บวัตถุออกฤทธิ์ทุกประเภทนอกสถานที่ที่ระบุไว้
มาตรา๒๘ ผู้อนุญาตออกใบอนุญาตให้ผู้รับอนุญาตขายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท๓ ๔ นอกสถานที่ที่ระบุได้บางกรณี
มาตรา๒๙ ผู้รับอนุญาตขายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท๒ ขายโดยมีเงื่อนไขตามกรณีต่างๆ
มาตรา๓๐ ผู้รับอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออกวัตถุออกฤทธิ์ประเภท๒ มาตรา๑๕ ผู้รับอนุญาตขายวัตถุตามมาตรา๑๙(๓) และผู้รับอนุญาตผลิตขาย นำเข้า ส่งออกประเภท๓ ๔ ตามมาตรา๒๐ ต้องจัดมีเภสัชอยู่ประจำ
มาตรา๓๑ ให้ผู้รับอนุญาตผลิตวัตถุออกฤทธิ์ประเภท๒ ปฏิบัติตามกฎต่างๆ
มาตรา๓๒ ให้ผู้รับอนุญาตผลิตวัตถุออกฤทธิ์ประเภท๓ ๔ ปฏิบัติตามกฎต่างๆ
มาตรา๓๓ ให้ผู้รับอนุญาตขายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท๒ปฏิบัติตามกฎต่างๆ
มาตรา๓๔ ให้ผู้รับอนุญาตขายวัตถุประเภท๓ ๔ ปฏิบัติตามกฎต่างๆ
มาตรา๓๕ ให้ผู้รับอนุญาตนำเข้าวัตถุออกฤทธิ์ประเภท๒ ปฏิบัติตามกฎต่างๆ
มาตรา๓๖ ให้ผู้รับอนุญาตนำเข้าวัตถุออกฤทธิ์ประเภท๓ ๔ ปฏิบัติตามกฎต่างๆ
มาตรา๓๗ ให้ผู้รับอนุญาตส่งออกวัตถุออกฤทธิ์ประเภท๒ปฏิบัติตามกฎต่างๆ
มาตรา๓๘ ให้ผู้รับอนุญาตส่งออกวัตถุออกฤทธิ์ประเภท๓ ๔ ปฏิบัติตามกฎต่างๆ
มาตรา๓๙ บัญญัติมาตรา๓๐วรรคหนึ่ง ๓๑ ๓๒ ๓๕ ๓๖ ๓๗ ๓๘ ไม่ใช้บังคับผู้รับอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออกเพื่อการศึกษาวิจัยเพื่อประโยชน์ราชการตามเลขธิการประกาศ
มาตรา๔๐ ใบอนุญาตสูยหาย ผู้รับอนุญาตยื่นคำขอใบแทนใบอนุญาตภายในสิบห้าวัน
มาตรา๔๑ ผู้รับอนุญาตต้องแสดงใบอนุญาตตนไว้เปิดเผยและเห็นง่าย ณ สถานที่ระบุไว้
มาตรา๔๒ ห้ามผู้รับอนุญาตย้าย เปลี่ยนแปลง เพิ่มสถานที่ผลิต เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากผู้อนุญาต
มาตรา๔๓ ภายใต้มาตรา๔๒ การเปลี่ยนแปลงใบอนุญาตมาตรา๑๔ ๑๕ ๑๖ ๒๐ ๒๘ ๘๘ ให้ผู้รับอนุญาตยื่นคำขอต่อผู้อนุญาตเพื่อแก้ไขใบอนุญาตภายในสามสิบวัน
มาตรา๔๔ ผู้รับอนุญาตเลิกกิจการให้แจ้งการเลิกเป็นหนังสือให้ผู้อนุญาตทราบล่วงหน้า
มาตรา๔๕ ให้ผู้รับอนุญาตแจ้งเลิกกิจการ ไม่ต่ออายุ ให้ทำลายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท๒ ๓ ๔ ของตนที่เหลืออยู่
มาตรา๔๖ ผู้รับอนุญาตตาย และทายาทได้รับยินยอมแสดงความจำนงต่อผู้อนุญาตเพื่อขอประกอบกิจการภายในสามสิบวัน
มาตรา๔๗ ผู้รับอนุญาตมาตรา๑๔ ๑๕ ๑๖ ๒๐ ๘๘ มีวัตถุออกฤทธิ์ครอบครองปริมาณไม่เกินรัฐมนตรีกำหนดมาตรา๙
หมวด๔ หน้าที่ของเภสัชกร
มาตรา๔๘ ให้เภสัชกรมีหน้าที่ควบคุมการผลิตวัตถออกฤทธิ์ประเภท๒ ปฏิบัติตามกฎต่างๆ
มาตรา๔๙ ให้เภสัชกรมีหน้าที่ควบคุมการผลิตวัตถุออกฤทธิ์ประเภท๓ ๔ ปฏิบัติตามมาตราต่างๆ
มาตรา๕๐ ให้เภสัชกรมีหน้าที่ควบคุมการขายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท๒ ปฏิบัติตามกฎต่างๆ
มาตรา๕๑ ให้เภสัชกรมีหน้าที่ขายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท๓ ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎต่างๆ
มาตรา๕๒ ให้เภสัชกรมีหน้าที่ควบคุมนำเข้าวัตถุออกฤทธิ์ประเภท๒ ปฏิบัติตามกฎต่างๆ
มาตรา๕๓ ให้เภสัชกรมีหน้าที่ควบคุมการนำเข้าประเภท๓ ๔ ปฏิบัติตามกฎต่างๆ
มาตรา๕๔ ให้เภสัชกรมีหน้าที่ควบคุมการส่งออกประเภท๒ปฏิบัติตามกฎต่างๆ
มาตรา๕๕ ให้เภสัชกรมีหน้าที่ควบคุมส่งออกประเภท๓ ๔ ปฏิบัติตามกฎต่างๆ
หมวด๕ วัตถุออกฤทธิ์ที่ห้ามผลิต ขา นำเข้า ส่งออก
มาตรา๕๗ ห้ามผู้ผลิต ขาย นำเข้า ส่งออกเมื่อ ปลอม ผิดมาตรฐาน เสื่อมคุณภาพ ต้องขึ้นทะเบียน รัฐมนตรีสั่งเพิกถอน
มาตรา๕๘ วัตถุออกฤทธิ์ ถือว่าเป็นของปลอม
มาตรา๕๙ วัตถุออกฤทธิ์ต่างๆถือผิดมาตรฐาน
มาตรา๖๐ วัตถุออกฤทธิ์ถือเสื่อมคุณภาพ
มาตรา๖๑ ห้ามผู้ใดขายวัตถุออกฤทธิ์ตั้งแต่สองชนิดขึ้นไปและยารวมหลายขนาน โดยจัดชุดไว้ล่วงหน้า เพื่อประโยชน์การค้า
หมวด๖ การขึ้นทะเบียนวัตถุตำรับ
มาตรา๖๒ ผู้รับอนุญาตผลิต นำเข้า ประเภท๓ ๔ จะผลิต นำเข้า ต้องขอขึ้นทะเบียนวัตถุตำรับนั้น
มาตรา๖๓ การขอขึ้นทะเบียนตำรับมาตรา๖๒ ต้องแจ้งรายการต่างๆ
มาตรา๖๔ การแก้ไขรายการทะเบียนที่ขึ้นไว้แล้ว ต้องรับการอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้อนุญาต
มาตรา๖๕ ผู้อนุญาตมีอำนาจไม่รับขึ้นทะเบียนเท่อไม่เป็นตามมาตราที่กำหนด
มาตรา๖๖ บัญญัติมาตรา๖๕ ใช้บังคับแก้ไขรายละเอียดทะเบียนวัตถุโดยอนุโลม
มาตรา๖๗ ใบสำคัญขึ้นทะเบียนให้มีอายุห้าปี ถ้าผู้รับใบอนุยาตขอต่อ จะต้องยื่นใบสำคัญสิ้นอายุ
มาตรา๖๘ กรรมการเห็นว่าวัตถุตำรับลงทะเบียนแล้ว ต่อมาพาไม่มีสรรพคุณตามที่ขึ้นทะเบียน ให้กรรมการเสนอต่อรัฐมนตรี และให้รัฐมนตรีมีอำนาจสั่งเพิกถอนทะเบียน
มาตรา๖๙ กรณีใบสำคัญสูญหาย ให้ผู้รับอนุญาตยื่นคำขอใบแทนใบสำคัญภายในสิบห้าวัน
หมวด๗ การโฆษณา
มาตรา๗๐ ห้ามผู้ใดโฆษณาวัตถุออกฤทธิ์เว้นแต่บางกรณี
มาตรา๗๑ ผู้อนุญาตเห็นว่าโฆษณาฝ่าฝืนมาตรา๗๐วรรคสอง ให้ผู้อนุญาตมีอำนาจออกคำสั่งได้
มาตรา๗๒ กรณีผู้รับคำสั่งของผู้อนุยาตมาตรา๗๑ ไม่เห็นด้วยให้มีสิทธิอุทธรณ์ต่อกรรมการได้
มาตรา๗๓ การอุทธรณ์มาตรา๗๒ ให้ยื่นต่อกรรมการภายในสิบสี่วัน
หมวด๘ พนักงานเจ้าหน้าที่
มาตรา๗๔ การปฏิบัติให้พนักงานมีอำนาจหน้าที่ต่างๆ ตามกรณี
มาตรา๗๕ การปฏิบัติหน้าที่พนักงานมาตรา๗๔(๑)(๒) ให้พนักงานมีอำนาจนำวัตถุจากสถานที่นั้นในปริมาณพอควรเพื่อเป็นตัวอย่างในการตรวจสอบ วิเคราะห์ ถ้าไม่ปลอดภัยให้ประกาศผลการตรวจสอบ โดยรับความเห็นชอบจากเลขาธิการ
มาตรา๗๖ การปฏิบัติหน้าที่ พนักงานต้องแสดงบัตรประจำตัวต่อผู้รับอนุญาต
มาตรา๗๗ การปฏิบัติหน้าที่พนักงานมาตรา๗๔ ๗๕ ๗๙วรรคสาม ให้ผู้รับอนุญาตอำนวยความสะดวก
มาตรา๗๘ การปฏิบัติหน้าที่ พนักงานเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา
หมวด๙ การพักใช้ใบอนุญาตและการเพิกถอนใบอนุญาต
มาตรา๗๙ ผู้รับอนุญาตฝ่าฝืน ผู้อนุญาตมีอำนาจสั่งพักใช้ใบอนุญาตโดยมีกำหนดไม่เกินหนึ่งร้อยแปดสิบวัน
มาตรา๘๐ ผู้รับอนุญาตขาดคุณสมบัติมาตรา๑๙(๔) ๒๒(๑) ๓๐วรรคหนึ่ง ผู้อนุญาตมีอำนาจสั่งเพิกถอนใบอนุญาตได้
มาตรา๘๑ คำสั่งพักใช้ใบอนุญาตให้ทำเป็นหนังสือแจ้งผู้รับอนุญาตทราบ
มาตรา๘๒ ผู้อนุยาตมีอำนาจสั่งยกเลิกคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตก่อนกำหนดเวลาได้
มาตรา๘๓ ผู้รับอนุญาตถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตมีสิทธิอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีภายในสามสิบวัน
มาตรา๘๔ ผู้ถูกสั่งเพิกถอนใบอนุญาตต้องทำลายวุตถุของตนที่เหลืออยู่ในส่วนที่เกินกว่ากฎหมายมีไว้ให้ครอบครอง ภายในหกสิบวัน
หมวด๑๐ มาตรการควบคุมพิเศษ
มาตรา๘๕ ให้ถือว่าวัตถุตำรับมีวัตถุประเภทใดมาปรุงผสมถืออยู่วัตถุออกฤทธิ์ประเภทนั้นด้วย
มาตรา๘๖ วัตถุระบุอยู่ประเภทต่างกันมากกว่าหนึ่งประเภทผสมอยู่ ให้ถือว่าวัตถุที่มีการคุมเข้มงวดที่สุด
มาตรา๘๗ รัฐมนตรีประกาศกำหนดวัตถุมีลักษณะต่างๆเป็นวัตถุตำรับยกเว้นได้
มาตรา๘๘ ห้ามผู้ใดมีไว้ครอบครองวัตถุออกฤทธิ์ทุกประเภท เว้นได้รับอนุญาต
มาตรา๘๙ บทบัญญัติมาตรา๘๘วรรคหนึ่ง ไม่ใช้บังคับบางกลุ่ม
มาตรา๙๐ กรณีเห็นสมควรรัฐมนตรีประกาศกำหนดวัตถุออกฤทธิ์ประเภท๓ ๔ รัฐมนตรีกำหนดไม่ต้องขออนุญาติได้
มาตรา๙๑ ห้ามผู้ใดเสพประเภท๑
มาตรา๙๒ ห้ามผู้ใดเสพประเภท๒ เว้นแต่เสพตามคำสั่งผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม เพื่อประโยชน์รักษาพยาบาล
มาตรา๙๓ ห้ามไม่ให้ผู้ใดจูงใจ ชักนำ ยุยง หลอกลวง ใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรม
มาตรา๙๔ กรณีจำเป็น มีเหตุอันควรเสพประเภท๑ ๒ ให้พนักงานฝ่ายปกครอง สั่งรับการตรวจร่างกาย
มาตรา๙๕ ผู้รับอนุญาตผลิต ขาย นำเข้า ส่งออก จัดให้มีการป้องกันตามสมควรเพื่อไม่ให้สูญหาย
มาตรา๙๖ ห้ามผู้ใดไม่ใช่เภสัชกรประจำอยู่ เว้นแต่อยู่ในควบคุมดูแลใกล้ชิดของเภสัชกรประจำ
มาตรา๙๗ ภายใต้มาตรา๙๘ เภสัชกรขายประเภท๓ ๔ เฉพาะแก่กระทรวง กรม สภากาชาด หน่วยงานรัฐ ต้องจัดการลงบัญชีรายละเอียดการขายทุกครั้ง
มาตรา๙๘ กรณีไม่มีสถานพยาบาล ให้การรักษาพยาบาลในปริมณฑลห้ากิโลนับจากสถานที่ที่มีใบอนุญาตขาย เภสัชกรที่อยู่ประจำควบคุมกิจการของสถานที่ขายประเภท๓ ๔ สำหรับผู้ป่วยได้จำนวนไม่เกินสามวันต่อเดือน
มาตรา๙๙ การส่งมอบวัตถุออกฤทธิ์มาตรา๙๗ ๙๘ เภสัชกรมอบคำเตือนตามประกาศมตรา๗(๖) แก่ผู้ซื้อ
หมวด๑๑ การค้าระหว่างประเทศ
มาตรา๑๐๐ การนำเข้า ส่งออก ผู้รับอนุญาตมาตรา๑๔ ๑๕ ๒๐ ต้องได้รับใบอนุญาต กรณีส่งออกไม่ส่งออกตามปริมาณที่ระบุไว้ต้องแจ้งเลขาธิการเพื่อแก้ไขใบอนุญาตเฉพาะคราว
มาตรา๑๐๑ การนำเข้าประเภท๑ ๒ ๓ ให้ผู้รับอนุญาตจัดให้มีสำเนาใบอนุญาตส่งออก
มาตรา๑๐๒ ในการส่งออกประเภท๑ ๒ ให้ผู้รับอนุญาตนำใบอนุญาตนำเข้าของเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจประเทศนั้นมอบให้สำนักงานกรรมการอาหารและยาก่อนจึงได้รับพิจารณาออกใบอนุญาตเฉพาะคราวเพื่อส่งออก
มาตรา๑๐๓ การนำผ่านประเภท๑ ๒ ผู้รับอนุญาตต้องมีใบอนุญาตส่งออกของเจ้าหน้าที่ประเทศส่งออกนั้นพร้อมกับวัตถุและแจ้งผู้ควบคุมยานพาหนะใช้บรรทุกก่อนผ่านเข้าประเทศซึ่งต้องจัดมีการป้องกัน
มาตรา๑๐๔ ผู้รับอนุญาตนำเข้า ส่งออก ต้องนำวัตถุที่ตนนำเข้า ส่งออก มาให้พนักงานเจ้าหน้าที่ ณ ด่านตรวจสอบ
มาตรา๑๐๕ ในการนำผ่านวัตถุ ห้ามผู้ใดเปลี่ยนแปลงการส่งวัตถุไปยังจุดหมายอื่น เว้นแต่รับอนุญาตเป็นหนังสือจากเจ้าหน้าที่
มาตรา๑๐๖ กรณีมีการเปลี่ยนแปลงการส่งวัตถุไปจุดหมายอื่นมาตรา๑๐๕ ถือว่าวัตถุนั้นส่งออกจากประเทศที่ออกใบอนุญาตในประเทศและเจ้าหน้าที่ได้รับมอบหมายจากเลขาธิการสลักหลังสำเนาโดยแจ้งวันเดือนปีและปริมาณที่แท้จริงวัตถที่นำผ่าน
มาตรา๑๐๗ ระหว่างนำผ่านวัตถุประเภท๑ ๒ หรือมาตรา๑๐๓วรรคสอง ห้ามผู้ใดแปรรูป
มาตรา๑๐๘ กรณีฉุกเฉิน เลขาธิการมีอำนาจผ่อนผันการใช้บังคับมาตรา๑๐๓ ๑๐๔ ๑๐๖ ๑๐๗ เกี่ยวกับการนำผ่านวัตถุที่เห็นสมควร
มาตรา๑๐๙ ในการนำเข้าวัตถุ ห้ามผู้ใดส่งวัตถุออกฤทธิ์ไปยังบุคคลอื่นนอกเหนือไปจากบุคคลที่ระบุไว้
มาตรา๑๑๐ การส่งออกแต่ละครั้งวัตถุประเภท๓ ๔ ให้ผู้รับอนุญาตแนบสำเนาใบอนุญาตเฉพาะคราวเพื่อส่งออกไปพร้อมกับวัตถุ
มาตรา๑๑๑ กระทรวงสาธารณสุขรับแจ้งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภทหนึ่งที่ต่างประเทศแจ้งผ่านเลขาธิการระบุห้ามนำเข้ายังประเทศนั้น ให้รัฐมนตรีประกาศกำหนดห้ามนำเข้าประเทศนั้น
มาตรา๑๑๒ ห้ามผู้ใดส่งออกไปยังประเทศที่ระบุห้ามนำเข้ามาตรา๑๑๑ เว้นแต่มีใบอนุญาตพิเศษเฉพาะคราว
มาตรา๑๑๓ มีวัตถุประเภท๒ ๓ ๔ ในปริมาณพอควรเท่าที่จำเป็นต้องใช้ประจำในการปฐมพยาบาลในยานพาหนะที่ใช้ขนส่ง ให้ได้รับการยกเว้นจากมาตรการควบคุมสำหรับนำเข้า ส่งออก
มาตรา๑๑๔ ผู้ควบคุมยานพาหนะมาตรา๑๑๓ จัดให้มีการป้องกันตามสมควร
หมวด๑๒ บทกำหนดโทษ
มาตรา๑๑๕ ผู้ใดผลิต นำเข้า ส่งออกวัตถุประเภท๑ ฝ่าฝืนมาตรา๑๔วรรคหนึ่ง วางโทษจำคุกห้าปีถึงยี่สิบปี ปรับห้าแสนถึงสองล้านบาท
มาตรา๑๑๖ ผู้ใดขายวัตถุประเภท๑ ฝ่าฝืนมาตรา๑๔วรรคหนึ่ง วางโทษจำคุกสี่ปีถึงยี่สิบปี ปรับสี่แสนถึงสองล้านบาท
มาตรา๑๑๗ ผู้ใดผลิต นำเข้า ส่งออกวัตถุประเภท๒ ฝ่าฝืนมตรา๑๕วรรคหนึ่ง วางโทษจำคุกห้าปีถึงยี่สิบปี ปรับห้าแสนถึงสองล้านบาท
มาตรา๑๑๘ ผู้ใดขายวัตถุประเภท๒ ฝ่าฝืนมาตรา๑๖วรรคหนึ่ง วางโทษจำคุกสี่ปีถึงยี่สิบปี ปรับสี่แสนถึงสองล้านบาท
มาตรา๑๑๙ ผู้ใดผลิต นำเข้า ส่งออกวัตถุประเภท ๓ ๔ ฝ่าฝืนมาตรา๒๐วรรคหนึ่ง วางโทษจำคุกสองปีถึงสิบปี ปรับสองแสนถึงหนึ่งล้านบาท
มาตรา๑๒๐ ผู้ใดขายวัตถุประเภท๓ ๔ ฝ่าฝืนมาตรา๒๐วรรคหนึ่ง วางโทษจำคุกสองปีถึงสิบปี ปรับสองแสนถึงหนึ่งล้านบาท
มาตรา๑๒๑ ผู้รับอนุญาตมาตรา๑๖ ๒๐ ๒๘(๑) ๘๘ ผู้ใดดำเนินภายหลังใบอนุญาตสิ้นอายุ โดยไม่ได้ยื่นขอต่อ วางโทษปรับวันละห้าร้อยบาท นับสิ้นอายุจนวันที่ยื่นขำขอผ่อนผันมาตรา๒๔วรรคสอง
มาตรา๑๒๒ ผู้รับอนุญาตฝ่าฝืนมาตรา๒๗ ๔๒วรรคหนึ่ง วางโทษปรับสองหมื่นถึงห้าหมื่นบาท
มาตรา๑๒๓ ผู้รับอนุญาตขายวัตถุประเภท๒ ฝ่าฝืนมาตรา๒๙ วางโทษจำคุกหนึ่งปีถึงห้าปี ปรับสองหมื่นถึงหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๑๒๔ ผู้รับอนุญาตไม่ปฏิบัติมาตรา๓๐วรรคหนึ่ง/สอง วางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี ปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๑๒๕ ผู้รับอนุญาตไม่ปฏิบัติมาตรา๓๑ ๓๒ ๓๓ ๓๔ ๓๕ ๓๖ ๓๗ ๓๘ วางโทษปรับสองหมื่นถึงหนึ่งแสนบาท
มาตรา๑๒๖ ผู้รับอนุญาตไม่ปฏิบัติมาตรา๔๐วรรคหนึ่ง ๔๑ ๖๙วรรคหนึ่ง วางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
มาตรา๑๒๗ ผู้รับอนุญาตไม่ปฏิบัติมาตรา๔๓วรรคหนึ่ง วางโทษปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท
มาตรา๑๒๘ ผู้รับอนุญาตไม่ปฏิบัติมาตรา๔๗วรรคหนึ่ง วางโทษปรับหนึ่งหมื่นถึงสองหมื่นบาท
มาตรา๑๒๙ เภสัชกรหน้าที่ควบคุมกิจการทิ้งหน้าที่ในการควบคุมกิจการตามมาตรา๔๘ ๔๙ ๕๐ ๕๑ ๕๒ ๕๓ ๕๔ ๕๕ วางโทษปรับหนึ่งหมื่นถึงห้าหมื่นบาท
มาตรา๑๓๐ เภสัชกรมีหน้าที่ควบคุมกิจการไม่ปฏิบัติมาตรา๕๖ วางโทษปรับไม่เกินสามพันบาท
มาตรา๑๓๑ ผู้ใดผลิต นำเข้า ส่งออกฝ่าฝืนมาตรา๕๗(๑) วางโทษจำคุกห้าปีถึงสิบห้าปี ปรับห้าแสนถึงหนึ่งล้านบาท
มาตรา๑๓๒ ผู้ใดผลิต นำเข้า ส่งออกฝ่าฝืนมาตรา๕๗(๒) วางโทษจำคุกไม่เกินสามปี ปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๑๓๓ ผู้ใดขาย นำเข้า ส่งออกฝ่าฝืนมาตรา๕๗(๔) วางโทษจำคุกไม่เกินสามปี ปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๑๓๔ ผู้ใดผลิต ขาย ส่งออก รัฐมนตรีสั่งเพิกถอนฝ่าฝืนมาตรา๕๗(๕) วางโทษจำคุกหนึ่งปีถึงสิบปี ปรับหนึ่งแสนถึงหนึ่งล้านบาท
มาตรา๑๓๕ ผู้ใดผลิต นำเข้า ส่งออกวัตถุรัฐมนตรีสั่งเพิกถอนฝ่าฝืนมาตรา๕๗(๕) วางโทษจำคุกหนึ่งปีถึงยี่สิบปี ปรับหนึ่งแสนถึงหนึ่งล้านบาท
มาตรา๑๓๖ ผู้ใดขายวัตถุฝ่าฝืนมาตรา๖๑ วางโทษจำคุกหนึ่งปีถึงห้าปี ปรับสองหมื่นถึงหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๑๓๗ ผู้ใดแก้ไขรายการทะเบียนฝ่าฝืนมาตรา๖๔วรรคหนึ่ง วางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
มาตรา๑๓๘ ผู้ใดโฆษณาวัตถุฝ่าฝืนมาตรา๗๐วรรคหนึ่ง/สอง ๗๑ วางโทษจำคุกไม่เกินสองปี ปรับสองหมื่นถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๑๓๙ ผู้รับอนุญาตขัดขวางปฏิบัติหน้าที่พนักงานมาตรา๗๔ ๗๕ ๗๙วรรคสาม วางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี ปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๑๔๐ ผู้ใดมีไว้ครอบครองวัตถุประเภท๑ ๒ ฝ่าฝืนมาตรา๘๘วรรคหนึ่ง วางโทษจำคุกหนึ่งปีถึงห้าปี ปรับสองหมื่นถึงหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๑๔๑ ผู้ใดเสพวัตถุประเภท๑ ฝ่าฝืนมาตรา๙๑ ประเภท๒ฝ่าฝืนมาตรา๙๒ วางโทษจำคุกไม่เกินสามปี ปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๑๔๒ ผู้ใดให้ผู้อื่นเสพวตถุฝ่าฝืนมาตรา๙๓ วางโทษจำคุกหนึ่งปีถึงห้าปี ปรับสองหมื่นถึงหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๑๔๓ ผู้ใดขัดขวางคำสั่งพนักงานมาตรา๙๔วรรคหนึ่ง วางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
มาตรา๑๔๔ ผู้รับอนุญาตผู้ใดไม่จัดการป้องกันเพื่อไมาให้วัตถุสูญหายไม่ปฏิบัติมาตรา๙๕ วางโทษปรับหนึ่งหมื่นถึงห้าหมื่นบาท
มาตรา๑๔๕ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา๙๖ วางโทษปรับหนึ่งหมื่นถึงห้าหมื่นบาท
มาตรา๑๔๖ เภสัชกรใดขายวัตถุฝ่าฝืนมาตรา๙๗วรรคหนึ่ง ๙๘ วางโทษปรับหนึ่งหมื่นถึงห้าหมื่นบาท
มาตรา๑๔๗ เภสัชกรใดไม่จัดลงบัญชีขายยามาตรา๙๗วรรคหนึ่ง ๙๘ ๙๙วางโทษปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท
มาตรา๑๔๘ ผู้รับอนุญาตนำเข้า ส่งออกวัตถุมาตรา๑๔ ๑๕ ๒๐ ฝ่าฝืนมาตรา๑๐๐วรรคหนึ่ง วางโทษปรับครั้งละไม่เกินห้าพันบาท
มาตรา๑๔๙ ผู้รับอนุญาตไม่ปฏิบัติมาตรา๑๐๑วรรคหนึ่ง ๑๐๒วรรคหนึ่ง ๑๐๓วรรคหนึ่ง ๑๐๖วรรคสอง ๑๑๐วรรคหนึ่ง วางโทษปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท
มาตรา๑๕๐ ผู้ควบคุมยานพาหนะไม่ปฏิบัติมาตรา๑๐๓ วางโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท
มาตรา๑๕๑ ผู้รับอนุญาตนำเข้า ส่งออก ไม่ปฏิบัติมาตรา๑๐๔ วางโทษปรับหนึ่งหมื่นถึงห้าหมื่นบาท
มาตรา๑๕๒ ผู้ฝ่าฝืนมาตรา ๑๐๕ ๑๐๗ ๑๑๒วรรคหนึ่ง วางโทษจำคุกไม่เกินสามปี ปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๑๕๓ ผู้ฝ่าฝืนมาตรา๑๐๙ วางโทษจำคุกไม่เกินสองปี ปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา๑๕๔ ผู้ควบคุมยานพาหนะมาตรา๑๑๓ ไม่ปฏิบัติมาตรา๑๑๔ วางโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท
มาตรา๑๕๕ ผู้ใดเสพ มีไว้ครอบครองเพื่อขายและได้สมัครใจขอรักษาบำบัดก่อนความผิดจะปรากฏ และได้ปฏิบัติครบถ้วนตามข้อบังคับจนรับการรับรองเป็นหนังสือ ให้พ้นจากความผิด
มาตรา๑๕๖ ผู้ใดกระทำบำบัดรักษาผู้ติดวัตถุไม่ได้กระทำในสถานพยาบาล วางโทษจำคุกหกเดือนถึงสามปี ปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นถึงสามแสนบาท
มาตรา๑๕๗ บรรดาวัตถุ เครื่องมือ ยานพาหนะ บุคคลใช้กระทำผิด ให้ริบหมด
มาตรา๑๕๘ วตถุ ภาชนะ เอกสารที่ยึดมาตรา๗๔ ไม่มีการฟ้องคดีต่อศาล ถ้าไม่มีผู้อ้างเป็นเจ้าของภายในเก้าสิบวัน ให้ตกเป็นของกระทรวงสาธารณสุข
มาตรา๑๕๙ มีการฟ้องคดีความผิดเกี่ยวกับวัตถุต่อศาล ถ้าศาลชั้นต้นสั่งให้ริบมาตรา๑๕๗ ถ้าผู้เป็นเจ้าของไม่ได้รู้เห็นเป็นใจภายในสามสิบวัน ให้กระทรวงสาธารณสุขทำลายวัตถุนั้น
มาตรา๑๖๐ ความผิดมีโทษปรับสถานเดียว
มาตรา๑๖๑ กรรมการ เจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทำผิด วางโทษเป็นสามเท่าที่กำหนดไว้ในความผิดนั้น
มาตรา๑๖๒ ความผิดจำคุก ปรับให้ศาลลงโทษจำคุกและปรับด้วยเสมอ คำนึงถึงการลงโทษในทางทรัพย์สิน
มาตรา๑๖๓ ศาลเห็นการกระทำผิดผู้ใด เมื่อวิเคราะห์ความร้ายแรงการกระทำผิด พฤติกรรม มีเหตุอันควรเฉพาะราย ตามเห็นสมควร
มาตรา๑๖๔ ถ้าศาลเห็นว่าผู้กระทำผิดใดให้ข้อมูลสำคัญในชั้นจับกุม เป็นการเปิดเผยความผิด ศาลจะลงโทษน้อยกว่าอัตรากำหนดความผิดนั้น
บทเฉพาะกาล
มาตรา๑๕๖ คำขอใดยื่นไว้ตามบัญญัติวัตถุต่อจิตและประสาทพ.ศ.๒๕๑๘ กรณีคำขามีข้อแตกต่าง ให้ผู้อนุญาตมีคำสั่งให้ผู้ขออนุญาตแก้ไขเพิ่มเติมความจำเป็น
มาตรา๑๖๖ ให้ผู้รับอนุญาตผลิต ขาย นำเข้า ส่งออกในวันก่อนพระราชบัญญัติใช้บังคับคงดำเนินกิจการต่อจนใบอนุญาตสิ้นอายุ ถ้าประสงค์ดำเนินกิจการต่อให้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตก่อนสิ้นอายุ
มาตรา๑๖๗ ให้กรรมการดำรงตำแหน่งอยู่วันก่อนใช้บังคับไปจนกว่าจะมีคณะกรรมการวัตถุมา ภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวัน
มาตรา๑๖๘ กฎกระทรวง ระเบียบ ประกาศ ที่ใช้ก่อนการบังคับใช้ ให้คงใช้บังคับต่อไปเพียงเท่าที่ไม่ขัดแย้งตามบัญญัติ จนกว่าจะมีการประกาศใช้