Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ - Coggle Diagram
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
วิวัฒนาการของกฎหมายวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
การประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ในประเทศไทยได้มีพัฒนาการมากกว่า100 ปี และมีกฎหมายที่มีความสัมพันธ์กันหลายฉบับ ซึ่งเดิมอยู่ในความควบคุมของแพทย์ ภายใต้ “พระราชบัญญัติการแพทย์ พ.ศ. 2466” โดยในสมัยรัชกาลที่ 6 ได้มีการออกกฎหมายขึ้นควบคุมการให้บริการด้านการดูแลสุขภาพแก่ประชาชน โดยกฎหมายฉบับนี้ได้กาหนดความหมายของโรคศิลปะไว้ว่า “การบาบัดโรคทางยาและทางผ่าตัด รวมทั้งการผดุงครรภ์ การช่างฟัน การสัตวแพทย์ การปรุงยา การพยาบาล การนวดหรือการรักษาคนเจ็บป่วยไข้โดยประการใดๆ”
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์สำหรับพยาบาล และการกระทำความผิดที่พบบ่อย
ความสามารถของบุคคลในการให้การยินยอมรักษาพยาบาล
ความสามารถของบุคคล (Capacity)
สภาพที่กฎหมายกาหนดขอบเขตให้บุคคลมีสิทธิหรือใช้สิทธิ ความสามารถของบุคคลเป็นสิ่งสาคัญต่อการพิจารณาความรับผิดทางกฎหมาย กล่าวคือ ถ้าบุคคลบรรลุนิติภาวะ
บุคคล
สิ่งซึ่งสามารถมีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย ทั้งนี้กฎหมายไม่จากัดเฉพาะมนุษย์เท่านั้นที่เป็นบุคคล แต่รวมไปถึงสิ่งต่างๆ ที่กฎหมายบัญญัติรับรองการเป็นบุคคล
บุคคลธรรมดา
มนุษย์ที่มีชีวิตรอดภายหลังการคลอดจากครรภ์มารดา ในทางกฎหมายกำหนดให้สภาพบุคคลเริ่มตั้งแต่เมื่อคลอดและอยู่รอดเป็นทารก และสิ้นสุดลงเมื่อตาย
การตายตามกฎหมายมี 2 กรณี
การตายโดยธรรมชาติ
การป่วยตาย แก่ตาย หรือถูกฆ่าตายของบุคคล ทำให้สภาพบุคคลสิ้นสุด ก่อให้เกิดผลทางกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญา โดยในทางแพ่งบรรดาสิทธิหน้าที่ ความรับผิดและทรัพย์สินของผู้ตาย ย่อมตกทอดไปยังทายาท
การสาบสูญ
การที่บุคคลได้ไปจากภูมิลาเนาหรือถิ่นที่อยู่ และไม่มีใครรู้แน่ว่า บุคคลนั้นยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ เป็นเวลาติดต่อกัน 5 ปี ในเหตุการณ์ปกติ หรือเป็นเวลา 2 ปี ในกรณีที่มีเหตุอันตรายจากการรบ การสงคราม หรือยานพาหนะอับปาง
นิติบุคคล
สิ่งซึ่งกฎหมายสมมติให้เป็นบุคคล เพื่อให้มีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย และภายในวัตถุประสงค์ที่จดทะเบียน
บุคคลบางประเภทที่กฎหมายจำกัดสิทธิในการทำนิติกรรม
คนเสมือนไร้ความสามารถ (Quasi – incompetence)
จิตฟั่นเฟือน
ประพฤติสุรุ่ยสุร่าย เสเพลเป็นอาจิณ
กายพิการ
ติดสุรายาเมา
ลูกหนี้ที่ถูกศาลสั่งเป็นบุคคลล้มละลาย
ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้แล้ว เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เป็นผู้มีอำนาจในการจัดการ จำหน่ายทรัพย์ของลูกหนี้ และกระทำการอื่นๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้
การฟ้องร้อง การประนีประนอม
คนไร้ความสามารถ (Incompetence)
คนวิกลจริต (Unsound mind) หรือ อยู่ในภาวะผัก (Vegetative state) ที่คู่สมรส ผู้สืบสันดาน (ลูก หลาน เหลน ลื้อ) บุพการี (บิดา มารดา ปู่ ย่า ตา ยาย ทวด) ผู้อนุบาล หรือพนักงานอัยการยื่นเรื่องต่อศาล และศาลมีคาสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ
สามีภริยา
เป็นผู้จัดการสินสมรสร่วมกัน จึงต้องให้ความยินยอมซึ่งกันและกันเป็นการทำนิติกรรมบางประเภท
การซื้อขาย แลก เปลี่ยน การเช่าอสังหาริมทรัพย์เกิน 3 ปี การประนีประนอมยอมความ การกู้ยืมเงิน การให้โดยเสน่หาเกินฐานะ
ผู้เยาว์ (Minor)
นิติกรรมที่ผู้เยาว์ต้องกระทำเองเฉพาะตัว
การจดทะเบียนรับรองบุตรนอกสมรสการทำพินัยกรรมเมื่อมีอายุ 15 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
นิติกรรมที่สมควรแก่ฐานะและจำเป็นแก่การดำรงชีพ
การซื้ออาหาร เครื่องดื่มและของใช้ในชีวิตประจำวัน การว่าจ้างรถไปโรงเรียน
นิติกรรมที่ทำให้ผู้เยาว์ได้ประโยชน์ สิทธิ หรือหลุดพ้นจากหน้าที่
นิติกรรมการจำหน่ายทรัพย์สิน
ประกอบธุรกิจการค้า หรือสัญญาจ้างแรงงานที่ผู้แทนโดยชอบธรรมอนุญาตหรือยินยอม ผู้เยาว์สามารถกระทาต่อเนื่องได้
สภาพบังคับทางแพ่ง
โมฆียกรรม
ความสามารถของบุคคล
การแสดงเจตนาโดยวิปริต
การแสดงเจตนาโดยสำคัญผิดในคุณสมบัติของบุคคลหรือทรัพย์สิน
การแสดงเจตนาโดยการฉ้อฉล
การแสดงเจตนาโดยการข่มขู่
การบังคับชำระหนี้
เป็นการชำระเงิน ส่งมอบทรัพย์สิน กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อใช้หนี้ หรืองดกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อใช้หนี้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพหนี้
โมฆะกรรม
นิติกรรมที่ไม่ได้ทำให้ถูกต้องตามแบบที่กฎหมายกำหนด
การแสดงเจตนาโดยสำคัญผิดในสาระสำคัญแห่งนิติกรรม
นิติกรรมที่มีวัตถุประสงค์ต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย
การชดใช้ค่าเสียหายหรือค่าสินไหมทดแทน
การที่กฎหมายรับรองและคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายให้กลับคืนสู่ฐานะเดิมมากที่สุด โดยการคืนทรัพย์สิน การใช้ราคาทรัพย์สิน หรือค่าเสียหาย เพื่อความเสียหายที่ก่อขึ้น ถ้าตกลงกันไม่ได้ ต้องดำเนินการฟ้องร้องต่อศาล
ความเสียหายที่คำนวณราคาเป็นเงินได้
ความเสียหายที่ไม่อาจคำนวณราคาเป็นตัวเงินได้
่ค่าสินไหมทดแทนที่ผู้เสียหายจะเรียกร้องได้ตามกฎหมายกำหนด
กรณีผู้เสียหายเสียชีวิต ผู้กระทำผิดต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน
กรณีเสียหายแก่ร่างกายหรืออนามัย ผู้กระทำผิดต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน
ประเภทของนิติกรรม
นิติกรรมที่พิจารณาแบ่งตามการมีผลของนิติกรรม
นิติกรรมที่มีผลขณะผู้แสดงเจตนายังมีชีวิต
นิติกรรมที่มีผลขณะผู้แสดงเจตนาไม่มีชีวิต
นิติกรรมที่พิจารณาแบ่งตามค่าตอบแทน
นิติกรรมที่มีค่าตอบแทน
นิติกรรมที่ไม่มีค่าตอบแทน
นิติกรรมที่พิจารณาแบ่งตามจำนวนคู่กรณี
นิติกรรมฝ่ายเดียว
นิติกรรมหลายฝ่าย
ความรับผิดทางแพ่งที่เกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
ความรับผิดจากการละเมิด
การกระทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมาย
การกระทำโดยจงใจหรือประมาท
การกระทำโดยจงใจ
การกระทำโดยประมาทเลินเล่อ
ทำให้บุคคลอื่นเสียหาย
ความเสียหายแก่ชีวิต
ความเสียหายแก่ร่างกาย
ความเสียหายแก่อนามัย
ความเสียหายแก่เสรีภาพ
ความเสียหายแก่ทรัพย์สินและสิทธิต่างๆ
สัญญา
การกระทำของบุคคลตั้งแต่สองฝ่ายขึ้นไป ที่แสดงเจตนาด้วยใจสมัครถูกต้องตรงกันที่จะกระทำหรืองดเว้นการกระทำ และตกลงกันทุกข้อโดยไม่มีข้อสงสัย โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะก่อให้เกิดผลผูกพันโดยชอบตามกฎหมาย
องค์ประกอบของนิติกรรม
การกระทำโดยเจตนา
การแสดงเจตนาโดยชัดแจ้ง
การแสดงเจตนาโดยปริยาย
การกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย
ผู้กระทำต้องแสดงออกในฐานะที่เป็นเอกชน
ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวสิทธิ
บุคคลต้องร่วมรับผิดกับผู้กระทำ
ตัวการต้องรับผิดชอบผลแห่งการละเมิดของตัวแทนที่ได้กระทำไปภายในของเขตอำนาจของตัวแทน ซึ่งกระทำตามที่ตัวการมอบหมาย
บิดามารดาของผู้เยาว์หรือผู้อนุบาลของผู้วิกลจริต ต้องร่วมรับผิดในผลแห่งการละเมิดที่ผู้เยาว์หรือผู้วิกลจริตกระทำ เว้นแต่พิสูจน์ได้ว่า ได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรในหน้าที่การดูแล
นายจ้างต้องร่วมรับผิดกับลูกจ้างในผลแห่งการละเมิด ซึ่งลูกจ้างได้กระทำไปตามที่ว่าจ้าง
ครูบาอาจารย์ นายจ้างหรือบุคคลอื่น ซึ่งรับดูแลผู้ไร้ความสามารถอยู่เป็นนิตย์ หรือชั่วครั้งคราว จะต้องร่วมรับผิดกับผู้ไร้ความสามารถในการละเมิด ซึ่งได้กระทำระหว่างอยู่ในความดูแลของตน หากพิสูจน์ได้ว่า ครูบาอาจารย์ นายจ้าง หรือบุคคลอื่นมิได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควร
นิติกรรม
นิติกรรม
การกระทำของบุคคลด้วยใจสมัครและถูกต้องตามกฎหมาย มุ่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลง โอน สงวนหรือระงับสิทธิระหว่างบุคคล
สัญญาจ้างพยาบาลพิเศษ เป็นสัญญาต่างตอบแทน โดยพยาบาลมีสิทธิได้รับค่าตอบแทนการเฝ้าไข้ แต่มีหน้าที่ที่ต้องให้การพยาบาลผู้ป่วยซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างอย่างมีมาตรฐาน
ปพพ. มาตรา 149
การใดๆ อันทำลงโดยชอบด้วยกฎหมายและด้วยใจสมัคร มุ่งโดยตรงต่อการผูกนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคล เพื่อจะก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือระงับซึ่งสิทธิ”
อายุความ
ระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดให้บุคคลมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ถ้าผู้เสียหายใช้สิทธินั้นร้องเรียนต่อศาลเกินระยะเวลาที่กำหนด ศาลจะมีคาสั่งยกฟ้องได้ เนื่องจากคดีขาดอายุความ
ความหมายและ
ลักษณะของกฎหมายแพ่ง
กฎหมายพาณิชย์
เป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการค้าขายหรือกิจการใดๆ ที่ได้กระทำในเรื่องหุ้นส่วนบริษัท ประกันภัย ตั๋วเงิน
กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
เป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับวิธีการดาเนินพิจารณาพิพากษาคดีในกรณีที่เกิดข้อพิพาทในทางแพ่งขึ้น
วิธีฟ้อง ศาลที่ฟ้อง วิธีพิจารณาของศาลตลอดจนการบังคับให้ฝ่ายที่ผิดปฏิบัติตามคำพิพากษา
กฎหมายแพ่ง
เป็นส่วนหนึ่งในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ปพพ.) ที่กาหนดสิทธิ หน้าที่ และความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ระหว่างเอกชนกับเอกชนโดยทุกฝ่ายมีฐานะเท่าเทียมกัน และสามารถต่อรองเพื่อตกลงกระทาการใดๆ ภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย
กฎหมายอาญาสำหรับพยาบาล และการกระทำความผิดที่พบบ่อย
โทษทางอาญา
โทษกักขัง
โทษปรับ
โทษจำคุก
โทษริบทรัพย์สิน
โทษประหารชีวิต
ลหุโทษ
ความผิดที่ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกิน 1 เดือนหรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หลักเกณฑ์ความรับผิด
กระทำโดยเจตนา ประมาท หรือไม่เจตนา
การกระทำโดยประมาท (Negligence)
พฤติการณ์
การกระทำโดยไม่เจตนา
วิสัย
การกระทำโดยเจตนา
เหตุยกเว้นความรับผิดทางอาญา
เหตุยกเว้นโทษ
การกระทำผิดเพราะความบกพร่องทางจิต
การกระทำตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน
กระทำด้วยความจำเป็น
การกระทำของเด็กอายุไม่เกิน 10 ปี
การกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์
เหตุลดหย่อนโทษ
การกระทำโดยบันดาลโทสะ
เหตุอื่นๆ ในการลดหย่อนหรือบรรเทาโทษ
การกระทำความผิดโดยไม่รู้ว่ากฎหมายบัญญัติว่าเป็นความผิด
เหตุยกเว้นความรับผิด
การป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย
ผู้เสียหายยินยอมให้กระทำ
กฎหมายบัญญัติว่าการกระทำนั้นเป็นความผิดและกำหนดโทษ
อายุความ
อายุความฟ้องคดีความผิดอันยอมความได้
อายุความฟ้องคดีทั่วไป
การกระทำ
การทำงานเพื่อบริการสังคม
การทำงานเพื่อบริการสังคมเป็นโทษทางอาญาประเภทหนึ่ง ซึ่งบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา
ลักษณะสำคัญของความรับผิด
ต้องตีความเคร่งครัดตามตัวอักษร
การถอดความหมายของข้อความหรือศัพท์ต่างๆ ในบทบัญญัติออกมา เพื่อให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น โดยใช้ภาษาที่คนทั่วไปเข้าใจ
ไม่มีผลย้อนหลังที่เป็นโทษ
จะไม่มีผลในการเพิ่มโทษแก่บุคคล หากขณะกระทำยังไม่มีกฏหมายบัญญัติว่าการกระทำนั้นเป็นความผิด
ต้องมีบทบัญญัติความผิด และกำหนดโทษไว้โดยชัดแจ้ง
ในขณะที่กระทำผิด ต้องมีกฎหมายบัญญัติความผิดและโทษเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจน
ความรับผิดทางอาญาที่เกี่ยวกับการปฏิบัติการพยาบาล
ความประมาทในการประกอบวิชาชีพ (Malpractice / Professional negligence / Professional misconduct)
1) ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานวิชาชีพ (Failure to follow standard of care)
2) ใช้เครื่องมือ/อุปกรณ์การแพทย์ไม่ถูกต้อง (Failure to use equipment in a responsible manner)
3) ความบกพร่องด้านการสื่อสาร (Failure to communication)
4) ความบกพร่องด้านการบันทึก (Failure to document)
5) ความบกพร่องด้านการประเมินและเฝ้าระวังอาการ (Failure to assess and monitor)
6) ความบกพร่องด้านการไม่พิทักษ์สิทธิของผู้ป่วย (Failure to act as patient advocate)
ความประมาทในการประกอบวิชาชีพกับการปฏิเสธการรักษา
1) ประมาททำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายเล็กน้อยแก่ร่างกายหรือจิตใจ
2) ประมาททำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส
ตาบอด หูหนวก ลิ้นขาด หรือเสียฆานประสาท
เสียอวัยวะสืบพันธุ์ หรือความสามารถสืบพันธุ์
เสียแขน ขา มือ เท้า นิ้ว หรืออวัยวะอื่นใด
หน้าเสียโฉมอย่างติดตัว
แท้งลูก
จิตพิการอย่างเต็มตัว
ทุพพลภาพหรือเจ็บป่วยเรื้อรัง
ทุพพลภาพหรือเจ็บป่วยด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่า 20 วัน
3) ประมาททำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายถึงแก่ความตาย
การทอดทิ้งหรือละเลยผู้ป่วย
การเปิดเผยความลับของผู้ป่วย (Confidential disclosure)
การปฏิเสธความช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในอันตรายต่อชีวิต
ความผิดเกี่ยวกับเอกสาร: การปลอมเอกสารและการทำหรือรับรองเอกสารเท็จ
ความผิดฐานทำหรือรับรองเอกสารเท็จ
ความผิดฐานปลอมเอกสาร
การทำให้หญิงแท้งลูก (Induced abortion)
การทำให้หญิงแท้งลูกโดยผู้เสียหายไม่ยินยอม
การพยายามทำให้หญิงแท้งลูก
การทำให้หญิงแท้งลูกโดยผู้เสียหายยินยอม
การทำให้หญิงแท้งที่ถูกกฎหมาย
การทำให้ตนเองแท้งลูก
ประเภทของความรับผิด
ความผิดต่อแผ่นดิน
เป็นความผิดที่สำคัญและร้ายแรง มีผลกระทบต่อผู้เสียหายและ สังคมส่วนรวม
ความผิดต่อส่วนตัว
เป็นความผิดที่ไม่ร้ายแรง มีผลกระทบต่อผู้เสียหายฝ่ายเดียว และกฎหมายบัญญัติประเภทไว้ชัดเจน
ความหมายและวัตถุประสงค์
การกระทำใดเป็นความผิด และกำหนดโทษอาญาแก่ผู้ฝ่าฝืน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมความประพฤติของบุคคลให้อยู่ในสังคมด้วยความสงบเรียบร้อย รักษาโครงสร้างของสังคมให้มั่นคง คุ้มครองความปลอดภัย รักษาความสงบสุขให้แก่สมาชิกในชุมชน และป้องกันความเสียหายต่อสังคม โดยรัฐดำเนินการป้องกันและปราบปราม ซึ่งผู้เสียหายไม่ต้องร้องทุกข์หรือกล่าวหา ยกเว้นความผิดที่ยอมความได้